เขาว่ากันว่ามีนางร้ายคนหนึ่งแสดงได้สมบทบาทสุด ๆ แต่ข่าววงในดันบอกว่าเธอไม่ได้แสดงเก่งเพราะชีวิตจริงผู้หญิงคนนี้ก็ร้ายเหลือแสน ถึงจะอยู่ในวงการมานานแต่กลับไม่เป็นที่พูดถึง ไม่ดังแต่ไม่หายจากวงการเพราะเส้นสายใหญ่กว่าที่พวกผู้จัดจะปลดออกได้ ข่าวลือหนาหูว่าหญิงสาวทั้งเย่อหยิ่ง อีโก้สูง ลืมกำพืดตัวเอง ไหนจะการกระทำที่ไม่น่าอยู่ใกล้นั่นอีก ชอบทำร้ายผู้ช่วยตัวเองเพียงเพราะทำงานไม่ได้ดั่งใจ
เพล้ง! สายตาคนทั้งห้องแต่งหน้าหันไปมองที่จุดเดียวกัน ผู้ช่วยเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรังเพราะนางร้ายสาวสวยอยากได้อะไรก็ต้องนำออกมาทันที กระเป๋าห้อยบนบ่าเลยไม่ต่ำกว่าห้าใบอย่างต่ำต่อการออกกองหนึ่งวัน บรรดาช่างแต่งหน้าช่างทำผมต่างขนลุกขนชัน ใครก็รู้ว่าเวลาที่นางร้ายสาวสวยคนนี้ปิดเปลือกตาเพื่อพักผ่อนอย่าได้มีเสียงรบกวนเด็ดขาด ความหายนะกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
“ขะ...ขอโทษนะคะคุณเพียงแสน หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเพียงแสนตื่นค่ะ” ผู้ช่วยสาวคลานเข่าไปมอบต่ำต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังทำหน้าเหมือนโลกใกล้แตกอยู่ตลอดเวลา
“ขอโทษ?”
‘เพียงแสน’ เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งจิกตามองคนที่กล้ารบกวนเวลาพักผ่อนของตัวเอง เธอไม่เคยปล่อยให้มันลอยนวลไปได้สักครั้ง
“ขะ...ขอโทษค่ะ อย่าตบตีหนูเลยนะคะ”
เหล่าช่างทำสวยไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวเพราะรู้ดีว่าคุณเพียงแสนคนนี้อารมณ์ร้ายแค่ไหน อย่าได้ทำอะไรไม่เข้าตาไม่ถูกใจเชียว ไม่อย่างนั้นโดนกินหัวอย่างไม่ต้องสงสัย
“ขอโทษแล้วเวลาพักผ่อนที่เสียไปของฉันกลับมาไหมหา!” ร่างอรชรลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปกระชากผมคนมอบต่ำอยู่แทบเท้าขึ้นมาประจันหน้า และแน่นอนว่าคนที่ไม่เกี่ยวต่างถอยกรูดไม่กล้าเข้าใกล้และไม่กล้าเข้าไปช่วยเด็กสาวคนที่ร้อยแปดได้หรือเปล่าที่มาสมัครเป็นผู้ช่วย
ประสบการณ์ตรงผู้ช่วยสามคนถูกเปลี่ยนในหนึ่งชั่วโมงก็มีแล้ว เพราะไม่มีใครทนความร้ายของคุณเพียงแสนได้ แต่คนนี้อยู่มาได้หนึ่งเดือนถือว่ามีความอดทนสูงมากจริง ๆ ทั้งโดนด่าด้วยถ้วยคำแรง ๆ โดนจิกหัวทุกครั้งที่ทำไม่ถูกใจ รวมไปถึงโดนตบเมื่อเข้ามาตอนที่คุณเพียงแสนอารมณ์ไม่ดีอยู่ ถามว่าเคยเห็นคุณเพียงแสนอารมณ์ดีไหมก็ตอบได้เลยว่า ไม่!
คงจะมีแค่คนเดียวในโลกที่ทำให้คุณเพียงแสนสามารถอ่อนข้อและยอมให้ได้ทุกอย่าง นั่นก็คือสามีของคุณเพียงแสน แต่พวกหล่อนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แต่ว่าเวลาที่คุณเพียงแสนโทรไปหามักจะอารมณ์ดีพูดด้วยเสียงแปดเสียงเก้า
“วันนี้หล่อนไม่ต้องกินข้าว สำนึกให้ได้ว่าไม่ควรรบกวนเวลาพักผ่อนของฉัน!” ผลักร่างผู้ช่วยออกจนกระเด็นไปไกล ไม่เคยสนใจน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม อาการกลัวจนตัวสั่น ถ้าไม่อยากโดนกระทำก็ต้องหัดเข้มแข็งให้ได้สิ หึ!
ร่างโฉมสะคราญเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่มีเนื้อที่นับพันไร่ ถูกสร้างอยู่บนเนินเขาลูกหนึ่งซึ่งบริเวณนี้ล้วนเป็นอาณาจักรของตระกูลอภิมหาเศรษฐี หนึ่งในนั้นคือตระกูลเก่าแก่ทางฮ่องกงได้มาสร้างธุรกิจที่ประเทศไทยเมื่อหลายสิบปีก่อนจนตอนนี้ธุรกิจงอกเงยได้อย่างงดงาม สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับเจ้าของ ตระกูลนี้คือตระกูล ‘หวัง’ อาณาจักรแห่งนี้บริหารด้วยลูกชายของเจ้าของคนก่อน
“นายไม่ให้คุณเพียงแสนเข้าไปด้านในครับ” บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่พูดออกมาหน้านิ่ง ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวผู้หญิงตรงหน้าสักนิด เพราะมีคนที่น่ากลัวกว่าคุณเพียงแสนยังไงล่ะ
“กล้าดีขนาดมาสั่นฉัน?” ใบหน้าสวยเชิดขึ้นแววตาเอาเรื่องจ้องมองคนตรงหน้าอย่าคาดโทษ
“ครับ ท่าขัดคำสั่งคงต้องลากออกไป”
“กล้า?”
“ลากผู้หญิงคนนี้ออกไป” เพียงแค่แตะที่หูตัวเองผ่านการสื่อสารแบบทันสมัยเพียงอึดใจเดียวชายร่างสูงสวมชุดดำเหมือนกันก็เดินเข้ามาถึงสองคน
“กล้ามากนะ!” เพียงแสนกัดฟันพูดข่มความโกรธเอาไว้ กวาดสายตามองเข้าไปด้านในสถานที่ต้องห้ามสำหรับเธอก็อยากกรีดร้องออกมาให้หนำใจ “บอกเขาว่าฉันต้องการเจอเฮยหลงตอนนี้”
“...”
“หูตึงหรือไง!” ตวาดลั่นคล้ายคนเสียสติไปทุกที และแน่นอนว่าบุคคลที่ทำงานที่นี่มานานต่างชินชากับการอาละวาดของแม่นางร้ายคนนี้
“กลับไปเถอะครับ ก่อนนายจะเป็นคนสั่งให้ลากคุณเพียงแสนไปทิ้งเอง”
“ฉันไม่ใช่หมูใช่หมาไม่ใช่เศษขยะ ฉันเป็นเมียเจ้านายพวกแก อยากโดนไล่ออกใช่ไหมถึงกล้าขัดคำสั่ง!”
“ครับนาย ได้ครับ”
เพียงแสนนิ่งลุ้นว่าเขาสื่อสารกับลูกน้องถึงเธอว่ายังไง มุมปากแต้มยิ้มอย่างคนเหนือกว่า เขาไม่มีทางไม่ต้องการเธออย่างแน่นอน ยกมือกอดอกเชิดหน้าอย่างคนชนะ ถ้าเข้าไปเจอเขาได้เธอจะออดอ้อนให้คุณสามีสุดหล่อของเธอไล่พวกกากเดนพวกนี้ทิ้งให้หมด กล้านักมาขัดคำสั่งเธอ ให้รู้ว่าใครเป็นเมียเป็นลูกน้อง หึ!
“ลากออกไป มัดปากด้วยรำคาญเสียงแวด ๆ เหมือนผีเปรต!”
คนเดินออกมาจากด้านในเรียกความสนใจของเพียงแสนได้เป็นอย่างดี เขาคงสั่งให้มือซ้ายของเขาอย่าง ‘จังก้า’ ออกมารับเธอ แต่กลับไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนั้นออกจากปากของมือขวาเขา ควันก็เริ่มออกหู
“จังก้า นายประสาทหรือไงทำไมต้องเอาความแค้นส่วนตัวมาพ่นวาจาหมา ๆ แถวนี้ ฉันจะเข้าไปหาสามีฉัน!”
“พวกมึงรออะไร ใครนายมึง” จังก้าตวัดสายตาเย็น ๆ ไปมองลูกน้องของตัวเอง “เอาไปทิ้งไกล ๆ นายบอกว่าได้ยินเสียงแล้วเสนียดหู สงบสติอารมณ์ได้ค่อยไปรับกลับมา”
“ทิ้ง ทิ้งฉันนี่น่ะหรือ พวกนายประสาทกลับกันหมดแล้วใช่ไหม!”
“ถ้าไม่กล้าก็ไปเซ็นลาออกกันให้หมด”
“ไอ้บ้าจังก้า ฉันก็เป็นเจ้านายแกเหมือนกันคอยดูนะ ปล่อยนะ กรี้ดด กรี้ดด ปล่อยสิวะ!”
จังก้ายืนมองคนโดนลากออกไปพร้อมกับยัดผ้าปิดปากไว้ พอเห็นรถออกไปแล้วเขาจึงหมุนตัวกลับเข้าไปด้านใน สาวงามนุ่งสั้นมากมายกำลังดื่มด่ำกับเสียงเพลงปลุกความฮึกเฮิมในตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างส่งสายตาเชื้อเชิญคนนั่งจิบไวน์อยู่มุมหนึ่ง
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย” จังก้าเดินมารายงานเจ้านายเสียงเรียบนิ่ง
“อืม กลับมาคงมาเซ็นใบหย่าให้กู”
“ขอให้นายสมดังปรารถนาครับ”
“อย่าไปนึกถึงยายนั่นให้เปลืองพื้นที่สมองเลย ปล่อยให้เสือคาบกินเถอะ ต้องโดนดัดนิสัยหยาบ ๆ บ้างจะได้รู้ว่าคนอื่นก็มีความรู้สึก ไม่อยากหย่าก็เชิญทนให้ได้ก็แล้วกัน”
“ครั้งนี้คงทนไม่ไหวแน่ครับ” ถ้าทนไหวก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วโดนลากไปปล่อยกลางป่ากลางดึกขนาดนั้น
“คนนั้นใคร?”
จังก้าลากสายตามองตามพร้อมกับจุดยิ้มที่มุมปาก สเปกนายก็ยังเป็นหญิงสาวตัวเล็กแต่ไม่มีส่วนสำคัญไหนเล็กเลย
“ดีกรีนางเอกครับ”
“แต่ยอมมางานนี้?”
“ใครจะไม่อยากขึ้นเตียงกับนายครับ ยิ่งกว่าตกถังทองคำอีก”
“มึงด้วย?” ใบหน้าคมคายหันไปมองมือซ้ายตัวเอง
“หรือนายจะลองครับ?”
“ไปลาออกซะ!”
จังก้าขยับยิ้ม ที่พูดแซวเล่นกันได้แบบนี้ก็เพราะเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ผ่านทุกข์ผ่านสุขกันมาจนไม่ได้คิดว่าเป็นเจ้านายกับลูกน้องแล้ว และมีเพียงจังก้ากับพี่ชายอย่างจาร์กัวตำแหน่งมือขวาเท่านั้นที่พูดหยอกเย้าคนอย่างเจ้านายพวกเขาได้ แม้แต่เมียยังไม่สามารถทำได้เลยด้วยซ้ำ
“ผมจะส่งไปให้คืนนี้นะครับ”
“อืม ถึงเวลาเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่แล้ว”
“ครับ”
จังก้าค้อมศีรษะให้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมาเพราะต้องไปดีลนางเอกสาวตัวน้อยร่างบาง แต่พออยู่ในชุดว่ายน้ำแล้วไม่มีอะไร ‘น้อย’ เลยสักอย่าง ตรงสเปกนายเขาแบบนี้อนาคตยังอีกยาวไกล
แต่เขาเดาได้เลยว่าผ่านไปอีกไม่กี่นาทีนายโทรมายกเลิกแน่นอน สาวสวยอะไร มีเมียเหมือนมารขนาดนั้นอย่างริควงมาให้เห็นไม่งั้นแม่ทุบแม่ฟาดหมดแน่ และมันก็เป็นอย่างนั้นเขายังไม่ทันได้เดินออกจากบ้านก็ได้รับคำสั่งยกเลิกการพาสาวงามไปส่งที่ห้อง
นายมันไม่ใจอะครับ!