ตอนที่ 4 อาหารว่าง

2277 Words
อาหารว่าง ☆☆☆>>>>>♡ ตลอดทั้งคืนเดม่อนก็ไม่ได้มาหาอย่างที่เขาบอกไว้ ถึงจะรู้ว่าเดม่อนไปไหนและกำลังทำอะไรอยู่ ยิมก็พร้อมที่จะรอเดม่อนอยู่ดี มีน้ำตาที่คอยอยู่เป็นเพื่อนจนยิมหลับไปตอนไหนไม่รู้ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ยิมต้องหอบร่างกายที่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะเดิน แต่งานก็สำคัญยิมไม่เคยให้เรื่องส่วนตัวมามีผลกระทบต่องานของเขา ถึงจะเจ็บปวดหนักหนาสาหัสแค่ไหน งานเลขาท่านประธานบริษัทไม่ใช่จะได้เข้ามาทำกันง่าย ๆ และมันเป็นงานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อคืนไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ตอนเช้าแทบจะลืมตาไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ ยิมที่ออกมาแต่เช้าแวะร้านกาแฟข้างบริษัท ถ้าได้กินกาแฟเย็นตอนเช้า ๆ แบบนี้คงจะสดชื่นขึ้นเยอะกว่าที่เป็นอยู่แน่ >>>>> ร้าน Chill Chill Cafe “ลาเต้ปั่นเติมนมข้น ขอแบบหวาน ๆ เลยนะครับ” เมื่อมาถึงร้านยิมก็สั่งกาแฟปั่นที่เคาน์เตอร์ชนิดหวานมาก ปกติยิมจะกินแต่ประเภทหวานน้อยเขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากกินของหวาน ทั้งที่เขากลัวจะมีพุงมากที่สุดเพราะยิมเป็นคนตัวเล็ก ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ด้วยภาระงานที่ค่อนข้างยุ่ง ถ้ามีพุงน้อย ๆ ยื่นออกมาคงจะดูแปลก ๆ ยิมก็มานั่งรอกาแฟที่โต๊ะสำหรับลูกค้า “เอ้าคุณ เจอกันอีกแล้วนะครับ” เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูทักยิมมาจากหน้าร้าน “เอ่อ” ยิมที่กำลังเบลอ ๆ กับการที่พักผ่อนไม่เพียงพอ มองหน้าคนที่เข้ามาทักพร้อมกำลังประมวลผลอยู่ การนอนน้อยทำให้สมองทำงานช้าลงไปมากเหมือนกัน ตอนนี้ในหัวของยิมยังคงคิดแต่เรื่องของเดม่อน “ที่คุณเดินชนผมเมื่อวานไงครับ” เขาพูดขึ้นเพื่อให้คนงงพอจะระลึกชาติได้ “คะ...ครับจำได้” ยิมเอามือเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความเขิน กว่าจะจำได้ นิ่งไป 10 วินาที ไม่ใช่เรื่องที่น่าจำเลยนะมันน่าอายเสียด้วยซ้ำ “คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ ทำงานแถวนี้เหรอ” หนุ่มหล่อถามยิมที่ตอนนี้เขานั่งอยู่ตรงข้ามกับยิมรอกาแฟเหมือนกัน “ครับผมทำงานอยู่แถวนี้ คุณล่ะไม่ไปเรียนรึไง” ยิมสงสัยเหมือนกันใส่ชุดนักศึกษามานั่งทำอะไรที่นี่เพราะแถวนี้ไม่ได้มีมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาเลยซักแห่ง “ผมนัดพี่ชายไว้นะครับ คุณแม่ให้มาฝึกงานที่บริษัทคุณลุง” “กาแฟปั่นได้แล้วค่ะ”เสียงขัดจังหวะการสนทนาของสองหนุ่มดังขึ้น “วันนี้ผมรีบ เจอกันคราวหน้าผมเลี้ยงกาแฟไถ่โทษนะครับ” ยิมที่มองนาฬิกาก็กำลังจะถึงเวลางานเต็มทีเลยรีบขอตัวออกไป “ยินดีที่จะได้กินกาแฟฟรีนะครับ” ไม้กล้ายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ “ยินดีที่จะได้เลี้ยงกาแฟเช่นกันครับ ผมขอตัวนะวันนี้รีบจริง ๆ ” ยิมย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากร้านกาแฟไปจริง ๆ “มาเช้าจังนะ มาแอบหลีสาวหน้าบริษัทพี่รึเปล่าไอ้ตัวแสบ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเลม่อนเห็นน้องชายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “ทำไมไม่คิดว่าผมมีความตั้งใจที่จะหาประสบการณ์บ้างหละครับ” คนถูกทักทำเสียงท่าทางดูจะน้อยใจ ดูยังไงก็คือการแสดงมากกว่าความจริง “ฮึ เอาความจริง” เลม่อนพูดอย่างรู้จักน้องชายของเขาดีเพราะเขาพักอยู่ไม่ไกลกันมากอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน “คุณแม่ปลุกตั้งแต่เช้าเลยครับ เมื่อคืนก็ให้ไปนอนบ้านกลัวไม้ตื่นสาย” ไม้กล้าบอกกับเลม่อนพร้อมทำท่าหาวนอนโชว์เดี๋ยวพี่ไม่เชื่อว่าตื่นเช้าจริง ๆ “เมื่อกี้ไม้เจอคนคนหนึ่งน่ารักมากเลยพี่เลม่อน ชอบอ่ะอยากได้” ไม้กล้าพูดบอกเลม่อนด้วยสายตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด “เอ้ย !!! ใจเย็นไอ้ตัวแสบ เพิ่งเจอครั้งแรกอยากได้เลยเหรอ ลูกเขามีพ่อมีแม่นะไม่เบาจริง ๆ เลยนะเราน่ะ” เลม่อนยิ้มให้ท่าทางของไม้กล้าอย่างเอ็นดู “มีก็จะไปขอเลยครับ เจอสองครั้งแล้วพรหมลิขิตชัด ๆ เพิ่งเจอเมื่อวานเอง วันนี้เจออีกแล้ว เขาเดินชนผมเมื่อวาน เขาบอกว่าถ้าเจอกันอีกทีเขาจะเลี้ยงกาแฟไถ่โทษด้วยนะ พี่เลม่อนว่าเขามีใจให้ไม้ไหมครับ” ไม้กล้าก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนตัวเล็กอาจจะมีใจให้เขาก็เป็นได้ “เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว เขาชื่ออะไรล่ะเจอแถวนี้ใช่ไหมเผื่อพี่รู้จัก” เลม่อนถามเพราะคนที่มากินกาแฟร้านนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่บริษัท “นั่งไงล่ะ มัวแต่ดีใจไม่ได้ถามชื่อเลย พลาดมากเลยไม้กล้า” ไม้กล้าเอามือลูบหัวตัวเองอย่างคนหัวเสีย “ชื่อก็ไม่รู้ ไลน์ก็ไม่ได้ เบอร์ก็ไม่ได้ขอ เสียลุคคาสโนวาตัวพ่อหมดเลยไม้กล้าเอ๊ย” ไม้กล้าแอบบ่นให้ตัวเอง เขาพลาดเรื่องง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน “พอเจอน่ารักเข้าหน่อย ถึงกับไปไม่เป็นเลยรึไง” เลม่อนแซวน้องชายที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นไม้เลื้อย จะมาเสียท่าให้กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งได้ยังไง “ก็คนมันใช่นี่ครับเลยคีพลุคไปหน่อย ฮ่า ฮ่า” “แล้วเราจะเข้าไปบริษัทพี่เมื่อไหร่ล่ะไหน ๆ วันนี้ก็มาใกล้แล้วเข้าไปดูหน่อยไหม” เลม่อนชวนไม้กล้าเข้าไปด้านใน “ไม่เอาครับกลัวคนมองว่าเป็นเด็กเส้น วันนี้จะเข้าไปเอาใบส่งตัวนักศึกษาฝึกงานที่มหาวิทยาลัยก่อนครับ” พ่อกับแม่ให้ฝึกที่บริษัทของตัวเองแต่เขาไม่อยากได้ชื่อว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เลยให้มาฝึกกับเลม่อนเพราะจะได้เรียนรู้ไปกับงานบริหารไปด้วย เลม่อนเป็นถึงประธานบริษัทและเป็นคนที่ไม้กล้ารักและเคารพมาตั้งแต่เด็ก ๆ >>>>> 10.00 น. “ขอน้ำเปล่าให้พี่ด้วยนะยิมกาแฟพี่ดื่มมาแล้ว” “ได้ครับ” ยิมรับคำเจ้านายและกำลังจะเดินไปที่มุมกาแฟ เสียงลิฟท์ชั้นผู้ บริหารเปิดออกไม่บอกก็พอรู้ว่าเป็นใครที่มาเอาป่านนี้ “อย่าซิคะคุณเดม่อน อ๊ะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะเดี๋ยวก็ถึงห้องแล้วค่ะ” เสียงหวานจากผู้หญิงที่พูดชื่อคนที่อยู่ในใจของยิมดังออกมาเมื่อลิฟท์เปิดออก พาใจคนฟังหล่นไปที่ตาตุ่ม คงจะฟัดกันมาตั้งแต่อยู่ในลิฟท์ ดูจากเสื้อผ้าที่ดูไม่เรียบร้อยของทั้งสองคน เป็นภาพที่คุ้นตาของพนักงานที่นี่ ตั้งแต่ท่านรองเข้ารับตำแหน่งก็มีสาว ๆ แวะเวียนมามากหน้าหลายตาไม่ขาดสายจนนับไม่ถ้วน แต่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ยิมพยายามจะยอม รับมันให้ได้ แต่ก็ไม่เลยไม่เคยจะไม่เจ็บปวดกับภาพที่เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาไม่มีอะไรจะไปเทียบกับผู้หญิงเหล่านั้นได้เลย มันไม่มีเลยจริง ๆ “อยากไปให้ถึงห้องเร็ว ๆ แล้วครับ” ฟอด เหมือนเจ้าของเสียงพูดพยายามให้ยิมได้ยินและได้เห็น เพราะตอนที่ก้มลงไปหอมผู้หญิงคนนั้น เขาจงใจหันมาทางที่ยิมอยู่และยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับท่าทางทำหน้าไม่ถูกของเลขาท่านประธาน “คุณเดม่อนคะ” ท่าทางเหนียมอายดูก็รู้ว่าเป็นจริตและมารยาหญิงชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งขัดใจ ยิมพยายามเก็บความรู้สึกทุกอย่างลงไป พยายามไม่ใส่ใจ พยายามทำตัวให้ชิน ถึงในใจจะเจ็บปวดมากมายแค่ไหน ยิมจะไม่มีวันให้น้ำตามันไหลออกมาต่อหน้าผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด เขาไม่ได้แพ้เขายังไม่ได้แพ้ซักหน่อย เมื่อวานเดม่อนยังซื้อน้ำหอมมาฝากเขาอยู่เลย ผู้หญิงคนนี้ก็คงจะเหมือนกับทุกคนที่เดม่อนเคยควงแค่นั้น แค่นั้นจริง ๆ ยิมได้แต่พูดบอกตัวเองในใจ เดม่อนยัง คงควงสาวทรงโตที่กอดแขนของคนที่เขารัก เอาหน้าอกที่มันแทบจะล้นออกมานอกเสื้อโชว์ทรวดทรงของเธอบดเบียดเข้าที่แขนของเดม่อน ตอนนี้กำลังจะเดินมาทางยิม ‘อย่าเข้ามานะ จะมาทำให้เจ็บเพิ่มขึ้นอีกทำไม แค่นี้ยังไม่พอรึไงกัน’ “ขอกาแฟกับน้ำผลไม้ให้ฉันด้วยนะ เลขาฉันไม่มาเลยต้องเป็นหน้าที่ของนายแทน รีบจัดการให้เรียบร้อยเร็ว ๆ ด้วยล่ะ” เขาเดินมาเพื่อพูดแค่นี้นะเหรอ แม่บ้านไม่มีแล้วหรือยังไงกัน ทำไม ทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ต้องเข้าไปในนั้น เมื่อเดม่อนพูดจบเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของยิม ตอนนี้มันกำลังจะแตกละเอียด เขาต้องอด ทนแค่ไหนเหรอที่จะทนอยู่ตรงนี้ได้ กับภาพที่เห็นชัดทุกการเคลื่อนไหว ยิมเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อกลืนก้อนน้ำตาที่มันจุกอยู่ที่อกลงไป ที่ไม่พูดที่ไม่แสดงออกใช่ว่าจะไม่รู้สึก แต่ยิมรู้ดีที่สุดว่าเขาไม่มีสิทธิ์ สิทธิ์ที่มีอยู่คือยอมรับความเจ็บปวด ที่ยิมไม่ได้ อยากได้สิทธิ์นี้เลยแม้แต่นิดเดียว ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก !! ยิมไม่รอให้คนในห้องเอ่ยคำใดออกมา เขาเปิดประตูออกเพื่อเอาสิ่งที่เดม่อนสั่งเข้ามาให้ มันต้องรีบขนาดไหนกันถึงได้ไม่รอเวลาซักนิด รอให้เขาเอากาแฟมาให้แค่แปบเดียวเขาก็จะออกไปแล้วทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ ยิมที่เข้ามาในห้องต้องมาเห็นสองคนเล่นบทรักอันร้อนแรงกันบนโต๊ะทำงานอย่างไม่เกรงใจสถานที่เลยว่าที่นี่คือที่ทำงานไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ ของบนโต๊ะถูกกวาดลงพื้นกระจัดกระจายเต็มไปหมด เดม่อนจงใจให้ยิมเข้ามาเจอบทรักอันร้อนแรงของเขากับผู้หญิงคนนั้น เพื่อเตือนให้เขารู้สถานะของตัวเอง นั่นหมายถึงเขาไม่ได้แคร์คนที่ยืนตัวสั่นอยู่ที่หน้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียว ยิมไม่ได้เดียงสาขนาดที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรในห้องนี้ ทุกภาพฉายชัดเข้ามาในดวงตาของเขา ผู้หญิงนอนราบไปกับโต๊ะทำงาน โดยมีเดม่อนกำลังซุกไซร้ที่ซอกคอ มือก็กอบกุมหน้าอกของเธอ ที่มันล้นมือของเดม่อนออกมา “ยืนบื้ออยู่ทำไมเอามาวางแล้วก็ออกไป ขัดจังหวะชะมัดอย่าให้ใครมารบ กวนล่ะ” จบคำของเดม่อนยิมเอาชุดกาแฟวางไว้ที่โต๊ะรับแขก เขาคงไม่ทนยืนมองผู้ชายที่เขารักทำอะไรกับร่างกายคนอื่นต่อหน้าต่อตาได้นานขนาดนั้นหรอก ยิมรีบออกไปจากห้องของท่านรองประธาน และไปที่ห้องน้ำเพื่อหลบสายตาของใคร ๆ เขาไม่ไหวแล้ว เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ น้ำตาที่พยายามบังคับไม่ให้มันไหลออกมา เขาเจ็บปวดไปหมดทั้งใจ ทำไมใจร้ายขนาดนี้ทำไมต้องอยากให้เขาเข้ามาเจอ ทำไม นี่เป็นครั้งแรกที่ยิมได้เห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ แค่เดินควงมาอวดใครต่อใครทั่วบริษัทมันก็มากเกินจะรับได้แล้ว นี่ถึงขั้นจะ......ฮึก ฮือออออ ไม่ไหวแล้ววววนะ “ฮือ ทำไมมันเป็นแบบนี้ ฮือ ๆ ทำไมเดม่อนต้องใจร้ายกับยิมแบบนี้ด้วย” ยิมใช้เวลากับตัวเองในห้องน้ำนานพอสมควร เพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองให้สงบลงก่อนจะตั้งสติได้แล้วออกมาโต๊ะทำงานของตัวเอง “พี่เลม่อนครับ ยิมขอลาครึ่งวันนะครับรู้สึกเหมือนไม่สบายว่าจะหาหมอ” นี่คือสิ่งที่ยิมบอกกับคนเป็นเจ้านาย ที่จริงเขาไม่อยากอยู่เจอผู้ชายใจร้ายคนนั้น ที่จะทำอะไรกันเสร็จแล้วก็ควงกันออกมาผ่านหน้าเขาไป เขาไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นหรอกเขาอ่อนไหวกับเรื่องของเดม่อนที่สุด “ไปตอนนี้ก็ได้นะยิม พี่เห็นอาการเราไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่มีงานแล้วตอนบ่าย พี่ไปพบลูกค้าคนเดียวก็ได้ไม่ต้องห่วงนะ ห่วงสุขภาพตัวเองก่อน” ท่านประธานของเขาก็ไม่ได้ใจร้าย เห็นอกเห็นใจลูกน้องของตนเองเสมอ และคอยช่วย เหลือยิมมาหลายต่อหลายเรื่อง “ครับพี่เลม่อน ขอบคุณนะครับ” เมื่อเจ้านายอนุญาต ยิมก็เก็บของบนโต๊ะพร้อมถือกระเป๋าเดินออกจากที่ทำงานไป โดยไม่ได้หันมามองที่ห้องฝั่งตรงข้ามอีกเลย แค่เขาพยายามพาตัวเองออกไปจากสถานที่ตรงนี้ให้ได้ก็แทบแย่ ร่างกายและหัวใจเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ♤♤♤♤♤♤♤♤♤♤
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD