[ห้องเสื้อหรู]
"ดะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะคุณป้า..เอ่อคุณแม่ ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าห้างนี้มีแต่ของราคาแพง ซึ่งหญิงสาวก็เคยมาเดิน แต่ก็ทำได้แค่มาเดินตากแอร์เล่น
"หนูไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้า เพราะสิ่งที่หนูช่วยแม่ มันเทียบไม่ได้กับสิ่งของพวกนี้เลย"
"....." ยิ่งป้าคนนี้พูดมันก็ยิ่งทำให้เธองงไปกันใหญ่ ตกลงใครช่วยใครกันแน่
"ช่วยจัดหาชุดที่เหมาะสมกับหนูคนนี้ให้ด้วยนะ เครื่องประดับทุกชิ้นให้เข้าชุดกัน" เงินของนางที่มีอยู่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ..ไม่ใช่ใช้แค่ชาตินี้สิ ใช้ไปถึงชาติหน้าก็ยังไม่หมดเลย
พอได้ชุดเครื่องประดับทุกอย่างที่ต้องการแล้ว อรชรก็พาวาดเดือนมาที่ร้านเสริมสวย ซึ่งอยู่ในห้างเดียวกัน
นางสั่งให้ทางร้านทำให้ครบวงจร รวมทั้งอาบน้ำแร่แช่น้ำนมชุบตัวเธอใหม่หมด
ส่วนอรชรก็ไม่ได้นั่งรออยู่เฉยๆ นางก็ทำเหมือนกัน เพราะร้านนี้เป็นร้านเจ้าประจำ
"หนูสวยมากเลยรู้ไหม" มองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับคนละคนกับตอนที่พาขึ้นรถมาเลย
[คฤหาสน์หรู]
พอได้ทุกอย่างครบ อรชรก็พาวาดเดือนกลับมาที่บ้านของนาง
"นะ..นี่บ้านคุณเหรอคะ" โอ้แม่เจ้า พ่อหมอไปหามาจากไหนเนี่ย หญิงสาวอุทานหาหมอดูไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
"ใช่จ้าลงมาเลย แม่ให้คนเตรียมห้องไว้ให้เราแล้วนะ"
"ตะ..เตรียมห้อง?" ออกมายังไม่บอกใครที่บ้านเลย และบ้านของเธอก็ไม่ได้อยู่ใกล้แถวนี้ด้วย
หญิงสาวรีบเดินตามเข้ามาในบ้าน ..จะเรียกว่าบ้านยังอายปาก เพราะมันหลังใหญ่มาก ใหญ่จริงๆ บ้านของเธอทั้งหลังคงเท่าห้องน้ำบ้านหลังนี้มั้ง
"เอาของคุณผู้หญิงขึ้นไปไว้บนห้องที่เตรียมไว้เลยนะ"
"ขะ..คุณผู้หญิง?!" คำนี้ไม่ได้อุทานแค่แม่บ้าน วาดเดือนก็พูดออกมาพร้อมกัน
ที่อรชรต้องรีบทำอะไรรวดเร็ว เพราะเคยผ่านการสูญเสียมาแล้ว กลัวว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นกับลูกชาย ถ้าเป็นแบบนั้นนางคงมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้
"อือ..ฮือ" เห็นห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่อุทานในลำคอ "ห้องนี้จริงเหรอคะ" วาดเดือนหันกลับไปถามแม่บ้านที่กำลังเอาของ พวกที่ซื้อมาใหม่ขึ้นมาเก็บบนห้อง
"ค่ะ" พอทำทุกอย่างเสร็จแม่บ้านก็ออกไปจากห้อง
"โอ้ย" นิ้วเรียวหยิกแขนตัวเองลองดูว่ามันคือความฝันหรือความจริง "เรื่องจริงเหรอเนี่ย?" ..หรือว่าลูกชายป้าจะไม่ปกติ ถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้.. อีกความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัว..ขออย่างเดียวอย่าเป็นพวกโรคจิตก็พอ
เย็นวันเดียวกันนั้น
"วาดขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ" หญิงสาวกล่าวยืมโทรศัพท์บ้าน จากแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ในห้องโถง
"เชิญได้เลยค่ะ"
พอรับสายของป้าคนนี้เสร็จเธอก็รีบออกมาจนลืมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาด้วย แต่ก็ดีแล้วที่ลืมเอามา เพราะแม่และน้องก็ไม่มีโทรศัพท์ใช้จะได้โทรเข้าเครื่องนั้น
"ทำไมไม่มีใครรับสาย เราก็เปิดเสียงไว้อยู่นี่" กดไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีใครรับสาย ในใจก็เริ่มเป็นห่วง ว่าจะมีใครเป็นอะไรอีกไหม
"หึ!! มึงจะเผาไล่ที่กูเลยเหรอ" ตอนนี้หมอโชติรู้แล้วว่าตัวเองจะถูกเผาไล่ที่ เพราะเขาไม่ใช่หมอผีกระจอกงอกง่อย พอมีวิชาอาคมติดตัวอยู่บ้าง
ทันใดนั้นหมอโชติ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา..
"ข้านั่งดูทางในแล้ว แค่ทำให้สองคนนั้นได้เสียกันลูกชายของเจ้าก็ยังไม่พ้นความตาย ให้พวกเขาแต่งงานกันไป มีลูกด้วยกันได้ยิ่งดี" ถ้าถึงขั้นแต่งงานผูกดวงกันแล้ว ความฉิบหายวายวอดได้เกิดแก่ตระกูลนี้แน่
อรชรวางโทรศัพท์ไปด้วยใจที่ห่อเหี่ยว นางจะทำยังไงดี ฝ่ายหญิงไม่เท่าไร..แต่ลูกชายของนางน่ะสิ