@ บ้านอัครเดชาชัย
"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆสบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆอย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว
"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว
"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว"
"มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด
"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา
"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย ยังไงก็อยู่ได้สบายๆอยู่แล้ว ขาเรียวเตรียมจะก้าวออกจากบ้านไปอีกครั้ง
"นอกจากไม่ได้สมบัติ ฉันจะปลดแกออกจากตำแหน่งรองประธานด้วย ดูสิจะมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเอาแกทำผัวอีกไหม"และได้ผล ครั้งนี้เขาไม่ก้าวต่อ จะบ้าหรือไง ตัดขากันขนาดนี้จะใช้ชีวิตอยู่ยังไง
"พ่อทำเกินไปหรือเปล่า?"ตลอดเวลาถึงแม้เขาจะติดเที่ยวติดเล่นแต่งานเขาก็ตั้งใจทำไม่ใช่น้อย แล้วมาทำกันแบบนี้ บังคับกันชัดๆ
"ไม่เกินไปหรอก แกต้องแต่งงานกับลูกสาวคุณหญิงพัชรินทร์ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะพาแกไปเจอเจ้าสาว"พูดจบประมุขของบ้านก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารทันที
"ซัน เชื่อพ่อเถอะลูก พ่อหวังดีกับลูกนะ พ่อไม่อยากให้ลูกทำตัวเหลวไหล"คุณหญิงวินทร์รวีกล่าวกับลูกชายหลังจากที่เงียบอยู่นาน
"แต่แม่ ซันอยากเลือกคนรักของซันเอง แล้วแม่ก็รู้ว่าซันคบกับฉัตรอยู่ แม่จะให้ซันเลิกกับเธอได้ยังไง ซันคบมาตั้ง4-5ปี"ลูกชายเถียงผู้เป็นแม่ด้วยความหงุดหงิด
"งั้นซันก็ลองเหลือแต่ตัวดูไหม แม่ก็อยากรู้ว่าผู้หญิงของซันจะยังรักซันอยู่หรือเปล่า"ก็เพราะผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นไงถึงได้ทำให้ผู้เป็นพ่อหาสิ่งที่ดีให้ลูก ตลอด5ปีที่ผ่านมายัยปาริฉัตรอะไรนั่นผลาญเงินของลูกได้ไปกี่สิบล้านแล้ว เห็นทีต้องงัดสัญญาที่เคยให้ไว้กับเพื่อนรักสมัยเรียนต้องมาช่วยกำราบคนเสเพลอย่างอัครวินท์ให้อยู่หมัด
"แม่ฉัตรไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วอีกอย่างผมซื้อให้ฉัตรเองเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมเลย แม่เชื่อผมเถอะว่าฉัตรเป็นคนดี"อัครวินท์ยังคงออกโลงปกป้องแฟนสาวอย่างปาริฉัตร
"งั้น ถ้าซันยอมแต่งงานกับเพื่อนแม่แล้วถ้าแต่งไปแล้วเจ้าสาวทนลูกไม่ได้ขอหย่า แม่จะยอมปล่อยลูกให้ไปอยู่กับแม่นั่น"
"ได้! ผมตกลง"ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้ามารดาพร้อมกับกระตุกยิ้มร้าย คอยดูฉันจะป่วนจนขอหย่าไปเองเลย ยัยเจ้าสาวหน้าโง่!!
"แล้วอย่าคิดทำอะไรแผลงๆด้วยนะ ไม่งั้นแม่เอาแกตายแน่"ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเขาจะเอ็นดูยัยนั่นเกินเบอร์ไปหรือเปล่า แค่คิดก็หงุดหงิดแล้ว
อีกด้าน...
"ปี4แล้ว ต่อไปเราจะได้มานั่งเมาท์มอยกันแบบนี้อยู่ไหม" มิเกลหญิงสาวตัวเล็กจิ้มลิ้มใบหน้าทะเล้น กล่าวอย่างเศร้าสร้อย
"มิเกล แกก็เว่อร์ เรียนจบแล้วก็นัดกันมาเม้าท์ได้ ทำอย่างกับแกจะไม่ได้ทำงานแถวนี้งั้นแหละ"เอวารินทร์เอ่ยบอกเพื่อนรัก ก็เพื่อนเธอคนนี้มันเว่อร์ ชอบตีซึ้งอยู่เรื่อยเลย
"เออ จริงด้วย จบไปแกจะไปทำงานอะไรเอวาชวนฉันไปทำด้วยสินะๆฉันอยากทำงานใกล้แก ฉันไม่อยากเริ่มรู้จักเพื่อนใหม่อ่า"มิเกล หรือเกวรีกล่าวอย่างออดอ้อน นี่เพื่อนของเธออายุเท่าไหร่แล้วเนี่ยทำไมถึงยังคอยอ้อนเหมือนเด็กสามขวบอยู่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเอ็นดูเพื่อนรักคนนี้เสมอ
"ทำงานที่บริษัทเพื่อนพ่อน่ะ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ แต้ถ้าแกอยากไปทำด้วยเดี๋ยวฉันบอกคุณลุงให้นะ"เอวารินทร์เอ่ยตอบเพื่อนพร้อมกับระบายยิ้มให้หนึ่งที
"น่ารักที่สุดเลยเพื่อนฉันเนี่ย"เกวรีกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาหยิกแก้มเพื่อนรักอย่างหมั่นเขี้ยว
ทั้งคู่สนิทสนมกันแถมยังชอบทำตัวมุ้งมิ้งจนใครๆก็คนว่าเธอสองคนเป็นเลสเบี้ยนกัน
หลังเลิกเรียน...
"มิเกลฉันกลับบ้านก่อนนะ แม่ให้คนมารับแล้ว"ว่าแล้วเธอก็รีบโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักที่ตอนนี้นั่งหน้างออยู่ป้ายรถเมล์อยู่คนเดียว "ให้ไปส่งไหม?"แต่เศร้าได้ไม่นานเกวรีก็เงยหน้าขึ้นด้วยความหวัง
"ขึ้นมาเลยจ่ะสาวน้อยของพี่"เอวารินทร์แซวเพื่อนจนเกวรียิ้มแก้มแทบแตก
"เอวาแกก็บ้า เดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าเราเป็นเลสกันจริงๆหรอก"เกวรีดุเพื่อน
"พี่สมชาย ไปคอนโดxxxนะคะ"จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปทันทีและไปส่งเพื่อนรักเธอจนถึงปลายทาง ปกติเธอจะต้องนอนคอนโดเพราะเธอและเพื่อนเช่าคอนโดเดียวกันแต่คนละห้อง แต่วันนี้เห็นว่าพ่อกับแม่เธอมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วยเธอเลยต้องกลับบ้าน
"เจอกันแก"เอวารินทร์โบกมือลาเพื่อนอีกครั้งจากนั้นไม่นานรถก็มาจอดเทียบที่หน้าคฤหาสน์หลังหรู
"เอวา...แม่รออยู่ข้างในน่ะ"พิรัชต์ หรือเอพริลพีาชายของเธอวารินทร์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวคนสวยกำลังย่างกายเข้าบ้าน
"รู้แล้วค่ะ"
"นั่งก่อนสิลูก"คุณหญิงพัชรินทร์ผู้เป็นแม่บอกลูกสาว
"หน้าตาเคร่งเครียดกันเขียว มีอะไรหรือเปล่าคะ"เอวารินทร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับหย่อยก้นนั่งลงบนโซฟาตัวแพง พร้อมกับหันไปมองหน้าของทุกคนที่เอาแต่จับจ้องเธอเป็นตาเดียวอย่างกดดัน
"เอ่อ...พ่อมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะจ่ะ"พัชรินทร์ปัดไปให้ผู้เป็นสามีรับกรรมแทน
"เอ้าคุณ ทำไมเป็นผมล่ะ"วรินทรเอ็ดภรรยาที่โยนงานมาให้
"แม่ก็รีบพูดไปเลยว่าแม่จะจับลูกสาวแม่แต่งงานกับคุณชายเอาแต่ใจชอบเที่ยว เพราะพ่อแม่ใั่งนั้นอยากให้ไปช่วยกำราบนิสัยเสียๆของคุณชายนั่นน่ะ"แต่อยู่พิรัชต์ก็เป็นคนทำรายความลำบากใจของทุกคน
"อะไรนะ?"
"จ่ะ คือเพื่อนแม่อยากให้ช่วยน่ะลูก นะๆเอวาช่วยแม่หน่อย"
"แต่แม่คะแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะคะ"เอวารินทร์ไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น
"งั้นรถรุ่นใหม่ หนูอยากได้ใช่ไหม ช่วงนี้ใกล้เรียนจบแล้วด้วยถือว่าเป็นของขวัญแล้วกันนะ"ผู้เป็นแม่เอาสิ่งที่ลูกสาวอยากได้มาเป็นตัวล่อ ฮึ่บไว้นะเอวา เธอกล่าวในใจพร้อมกับกำหมัดอย่างสะกดจิตตัวเองไม่ให้ลุ่มหลงกับสิ่งยั่วยุนี้
"พ่อแถมคอนโดฯให้ด้วยเลย เอาแบบขับรถขึ้นไปจอดหน้าห้องได้ด้วย"
"ตกลงค่ะ!"อ๊ายปากพาซวย หลุดปากออกไปแล้ว
"เยส!"พ่อกับแม่ของเธอแท็กทีมกันด้วยความดีใจสุดพลังที่แผนยั่วยุสำเร็จ
"บอกแผนมาเลยค่ะว่าหนูต้องทำยังไง"ในเมื่อได้รับปากไปแล้วเธอก็เลี่ยงไม่ได้ คงต้องยอมสินะ เพื่อสิ่งที่กำลังจะได้มา พร่ำขออยู่ตั้งนานพอจะได้กลับมาพร้อมภาระอันหนักหนาสาหัส
"ไม่ต้องทำอะไรเลยจ่ะ แค่จัดการพี่ซันให้เลิกยุ่งกับยัยปาริฉัตรให้เขาเลิกกันให้ได้โดยต้องใช้เสน่ห์มัดใจชายของหนู แม่เชื่อว่าหนูทำได้"ผู้เป็นแม่เริ่มอธิบาย
"ทำไมหนูต้องทำแบบนั้นด้วยคะ หนูจะไม่บาปหรอไปพรากคนรักเขาออกจากกัน"เอวารินทร์รู้สึกผิด ก็เธอไม่ชอบไปทำรายความรักใคร
"ไม่บาปหรอกจ่ะ ก็เห็นบอกว่ายัยนั่นมาจับลูกชายเพื่อนแม่ สูบเลือดสูบเนื้อโหดมาก คุณหญิงวินทร์รวีเลยอยากจะกำจัดหล่อนออกไป แล้วดึงลูกชายอย่างซันให้กลับมาตั้งใจทำงานไม่เถลไถลน่ะจ่ะ"เห้อนี่เธอต้องทำจริงๆใช่ไหมเนี้ย เอาวะ เพื่อคอนโดและรถรุ่นใหม่
"ได้ค่ะ แต่มัดจำรถก่อนคันนึงนะคะ จบงานคอนโดต้องตามมาห้ามเบี้ยว โอเค้!"ปลายประโยคจ้องตาเขม็งเพราะกลัวว่าพ่อกับแม่เธอจะเล่นตุกติก
หึหึ ยัยหนูติดกับดักเราแล้วล่ะพ่อ สายตาของพัชรินทร์หันไปมองผู้เป็นสามีอย่างรู้กันเมื่อลูกสาวเดินออกไปแล้ว เดี๋ยวก็รู้ว่าคู่แท้ที่กำลังเตรียมให้เนี้ยจะได้จบงานจริงๆหรือเปล่า สายตาเจ้าเล่ห์ของทั้งคู่มองกันไปมองกันมาอย่างพึงพอใจโดยที่ไม่มีใครเอ่ยคำใดๆออกมาก็รู้กัน
"พ่อกับแม่เป็นอะไรครับ"พิรัชต์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดๆนั่น ท่าทางจะเป็นเอามาก จากนั้นเขาก็เดินออกไปทันที เหนื่อยมากนะเกิดในครอบครัวที่ใช้โทรจิตคุยกันเนี้ย ลูกงง!!