เผลอใจรักจนได้ #1 คำสั่งเสีย
“ผะ... ผมฝาก ละ... ลูกสาวด้วยนะครับ คะ... คุณหมอก”
น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงของชายวัยกลางคนเอ่ยขอกับเจ้าของไร่ชาก่อนที่ตนเองจะจากโลกนี้ไปเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีคนจงใจจัดฉากเพื่อฆ่าเขาโดยทำให้รถกระบะของนายสมบูรณ์ชนเข้ากับรถสิบล้อขณะขับไปส่งลำไยให้ลูกค้าจนเสียหลักไปชนกับต้นไม้ข้างทาง
สมบูรณ์เป็นเจ้าของสวนลำไยเล็ก ๆ ในจังหวัดเชียงรายซึ่งอยู่ติดกับไร่ชาของไอหมอก เขารู้จักกับชายหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะหมดลมหายใจจึงขอฝากลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนไว้กับเขา เพื่อที่เธอจะได้มีคนคุ้มครอง ไม่ถูกใครรังแกและต้องจบชีวิตลงอย่างตนเอง
“ผมรับปากครับลุงสมบูรณ์” ไอหมอก เจ้าของไร่สุดหล่อวัยสามสิบสามปีให้คำมั่นสัญญากับคนเจ็บที่กำลังจะหมดลมหายใจด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาไม่คิดเลยว่าคุณลุงที่เคารพนับถือจะมาจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของคนเลว ๆ แบบนี้
ไอหมอกจับมือของชายสูงวัยไว้แล้วบีบเบา ๆ เพื่อให้สมบูรณ์รู้ว่าตนเองจะทำตามคำสั่งเสียแน่นอน เมื่อช่วงสายของวันชายหนุ่มได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าเจ้าของสวนลำไยข้าง ๆ ไร่ของตนเองได้รับอุบัติเหตุอาการสาหัสและต้องการพบเขา ชายหนุ่มจึงรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันที
“พ่อ... พ่อจ๋า พ่อเป็นยังไงบ้าง ฮือ ๆ พ่อ... หนูมาแล้วนะจ๊ะ”
สายรุ้ง ลูกสาวคนเดียวของนายสมบูรณ์วิ่งเข้าไปในห้อง ICU ด้วยความตกใจแล้วเอ่ยถามบิดาพร้อมกับร้องไห้อย่างหนักเมื่อได้เห็นสภาพของพ่อหลังจากเกิดอุบัติเหตุ วันนี้หล่อนเดินทางไปทำธุระในเมืองคนเดียว ไม่ได้ขึ้นรถไปส่งลำไยกับบิดา ทำให้เธอรอดจากการถูกรถชน หญิงสาวได้รับโทรศัพท์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบิดาโดนรถชนอาการสาหัสจึงรีบเดินทางมาโรงพยาบาลทันทีด้วยสภาพน้ำตานองหน้าเพราะร้องไห้มาตลอดทาง
“ระ... รุ้ง พ่อรักลูกนะ นะ... หนูต้องไปอยู่กับคุณหมอก สะ... สัญญา”
“พ่อจ๋า ไม่นะจ๊ะ พ่อต้องไม่เป็นอะไร ฮือ ๆ ๆ ๆ พ่อจ๋า”
“สะ... สัญญาสิรุ้ง สัญญา... กับพ่อ”
“ฮือ ๆ ๆ ๆ จ้ะ ๆ รุ้งสัญญา”
“พะ... พ่อรัก ละ... ลูก” คนเจ็บบอกรักลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ลมหายใจจะสิ้นลงและแน่นิ่งท่ามกลางความตกใจของสองหนุ่มสาวโดยเฉพาะสายรุ้ง
“พ่อ! ฮือ ๆ ๆ ๆ พ่อจ๋า พ่ออย่าทิ้งรุ้งไป พ่อ!”
“สายรุ้ง! สายรุ้งฟื้นสิ สายรุ้ง” หญิงสาวเป็นลมหมดสติทันทีหลังจากที่รับรู้ว่าบิดาได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว โชคดีที่ไอหมอกยืนอยู่ข้าง ๆ จึงสามารถรับตัวของเธอไว้ได้ทันก่อนที่หล่อนจะล้มหัวฟาดพื้นแล้วเจ็บไปอีกคน ชายหนุ่มตะโกนลั่นเรียกพยาบาลให้เข้ามาดูแลคนเป็นลมด้วยความตกใจระคนเป็นห่วง
ภายในวัดมีผู้คนมากหน้าหลายตามาร่วมงานศพของนายสมบูรณ์ ซึ่งมีไอหมอกเป็นเจ้าภาพและคอยดูแลทุกอย่างแทนลูกสาวของคนตายที่ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าและทำใจไม่ได้กับการจากไปของพ่ออย่างกะทันหัน
หลังจากที่เธอฟื้นและรับรู้ว่าบิดาเสียชีวิตก็ร้องไห้หนักอย่างน่าเวทนาจนใคร ๆ ก็พากันสงสารและเห็นใจที่หล่อนต้องกำพร้าพ่อ เหลือตัวคนเดียว ไม่มีแม้ญาติพี่น้อง เนื่องจากพ่อแม่ได้แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก มารดาไปแต่งงานใหม่อยู่ที่กรุงเทพฯและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ส่วนตนเองก็อยู่กับบิดาที่นี่พร้อมกับปู่ย่า แต่พวกท่านได้เสียไปนานแล้ว หญิงสาวจึงเหลือบิดาเพียงคนเดียว
“ทำใจเถอะโยม เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต โยมสมบูรณ์ไปดีแล้ว” หลวงพ่อเอ่ยกับสายรุ้งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการเผาศพของนายสมบูรณ์ เรื่องตายเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตมนุษย์ อยู่ที่ใครจะไปก่อนกันก็เท่านั้นเอง
“...”
หญิงสาวไม่ตอบได้แต่พยักหน้าเบา ๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ยามมองไปยังกลุ่มควันที่กำลังลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่สุดท้ายก็กลั้นไม่ได้อยู่ดีจึงยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา
“อาตมาเข้าใจว่าโยมเสียใจ แต่อย่างไรเสียคนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ โยมต้องรีบเข้มแข็งเพื่อที่โยมสมบูรณ์จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” หลวงพ่อพูดเตือนสติอีกครั้ง หญิงสาวจึงยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณแล้วขอตัวไปส่งแขกที่เดินทางมางานศพของบิดา
สายรุ้งเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดี ผิวพรรณงดงาม เป็นคนมีน้ำมีนวล อายุเพิ่งจะยี่สิบสามปี เรียนจบทางด้านเกษตรที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อสองปีก่อน หลังเรียนจบก็กลับมาช่วยบิดาดูแลสวนลำไย
“ฉันเสียใจด้วยนะหนู ที่พ่อของหนูต้องมาจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุ” พ่อเลี้ยงดำเกิงผู้มีอิทธิพลของจังหวัดเชียงรายเอ่ยกับสายรุ้งก่อนที่จะเดินทางกลับ แม้จะได้รับถ้อยคำแสดงความเสียใจ แต่หญิงสาวกลับตวัดสายตามองด้วยความเคียดแค้น เธอได้ยินตำรวจพูดกับไอหมอกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้อาจจะมีคนอยู่เบื้องหลัง และเธอก็เชื่อว่าคนคนนั้นก็คือพ่อเลี้ยงดำเกิงซึ่งเคยมีปากเสียงกับพ่อของตนเองเกี่ยวกับที่ดินของสวนลำไยซึ่งอยู่ติดกับป่า แต่นายสมบูรณ์ไม่ยอมขาย
“ระวังนะคะ เดี๋ยวนี้กรรมมันติดจรวด” สายรุ้งเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัวในอิทธิพลของชายตรงหน้า
“หนูพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าฉันขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน”
“เชิญค่ะ” พ่อเลี้ยงดำเกิงต้องขอตัวกลับเมื่อเห็นไอหมอกกับตำรวจนายหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ เพราะเคยมีเรื่องกับเจ้าของไร่ชาก่อนหน้า เขาจึงไม่ค่อยอยากพบ แลเพราะไม่ค่อยถูกกับพวกตำรวจจึงต้องรีบไปทั้ง ๆ ที่ยังอยากคุยกับสายรุ้ง หญิงสาวที่เขาถูกตาต้องใจอยากเอามาทำเป็นเมียตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้าครั้งแรก โดยไม่สนใจเลยว่าตนเองกับสายรุ้งอายุห่างกันเป็นรอบขนาดเป็นพ่อลูกกันก็ยังได้
“พ่อเลี้ยงดำเกิงมาพูดอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ฮึ สายรุ้ง”
“เขาแค่มาบอกว่าจะกลับ ไม่มีอะไรค่ะ”
“ถ้าไม่มีก็ดี เดี๋ยวพี่ไปส่งพวกตำรวจก่อนแล้วเราค่อยกลับบ้านด้วยกัน”
“หนูกลับเองได้”
“ไม่ได้ คืนนี้พี่จะไปส่งเธอแล้วจะให้ป้าบัวกับสายใจนอนเป็นเพื่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ๆ พี่จะไปรับเธอมาอยู่ที่บ้านของพี่ เก็บของให้เรียบร้อย อยากขนอะไรไปก็ตามสบาย พี่ให้สายใจจัดห้องไว้แล้ว”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ หนูอยู่ที่บ้านคนเดียวได้”
“ไม่ได้ เธอลืมแล้วเหรอว่าสัญญากับลุงสมบูรณ์ยังไง”
“ไม่ลืม”
“ถ้าไม่ลืมก็ต้องทำตามที่ลุงสมบูรณ์ต้องการ เอาไว้อะไร ๆ เข้าที่แล้วเราค่อยมาว่ากันอีกที”
ไอหมอกบอกเสียงเรียบ กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของสายรุ้งไม่น้อย ตราบใดที่เสี่ยดำเกิงยังลอยนวลเหมือนคนไม่มีความผิดแบบนี้ รับรองได้ว่าสักวันเธอจะต้องตกอยู่ในอันตราย ยิ่งได้รับรู้ว่าไอ้เสี่ยเ*******ูนั่นไม่ได้ต้องการแค่ที่ดินแต่ต้องการตัวหญิงสาวด้วยก็ยิ่งกังวล
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับอย่างจำยอมเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามสัญญาที่ให้กับบิดาไว้
เอาไว้จัดการคนร้ายให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของตนเองก็ยังไม่สาย ตอนนี้ชีวิตของเธอยังไม่ปลอดภัยมากนัก ถ้าได้อยู่ในความดูแลของไอหมอกก็น่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ตัวคนเดียว แต่อาจจะไม่ปลอดภัยกับหัวใจก็เท่านั้นเอง หล่อนคิดก่อนจะขึ้นรถกลับบ้านพร้อมเจ้าของไร่ชาที่ตนเองแอบชอบมานานหลายปี
เธอรู้จักเขาเมื่อประมาณช่วงที่เรียนอยู่มัธยมปลายผ่านทางบิดา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าก็ตกหลุมรักทันที แอบสอดส่องพฤติกรรมของชายหนุ่มมาโดยตลอดและเก็บงำความรู้สึกนี้เอาไว้ลึกสุดหัวใจ ไม่เคยบอกใครแม้กระทั่งพ่อที่สนิทสนมกันมาก เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควรกับเขา แต่ใช่ว่าหล่อนจะยอมแพ้ หล่อนเพียงแค่ต้องการเวลา เอาไว้วันไหนที่รวบรวมความกล้าได้ หล่อนจะเดินเข้าไปสารภาพกับชายหนุ่มตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อมและหวังว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ หรือถ้าโดนปฏิเสธหล่อนก็จะจีบจนกว่าเขาจะรับรัก