ข่าวร้ายจากโรงพยาบาล

1881 Words
“โห หน้าบวมฉึ่งขนาดนี้โดนมึงรุมกระทืบมาเหรอวะ” คำถามที่มาพร้อมภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ เอ่ยขึ้นทันทีที่แมทธิวเดินเข้ามาในห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักจากมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่ ดวงตาเรียวคมกริบมองไปยังใบหน้าบวมช้ำของมิณทร์ สภาพของเพื่อนเขานั้นดูไม่จืดเลยสักนิด ดวงตาข้างซ้ายบวมปูด สันจมูกช้ำม่วง มุมปากแตกเลือดยังไหลซึมพลาสเตอร์ให้เห็น ส่วนโหนกแก้มด้านขวานั้นหนักสุดเพราะมันทั้งช้ำทั้งบวมเหมือนโดนรุมต่อยซ้ำๆ สภาพยับเยินเหมือนโดนรุมกระทืบมาจริงๆ เหมือนที่เขาบอกไม่มีผิด จนพาลให้แมทธิวรู้สึกเลือดขึ้นหน้าเล็กน้อยที่เห็นว่าเพื่อนเจ็บหนักขนาดนี้ “คนเดียว” ทว่าในยามที่กำลังสำรวจใบหน้าของมิณทร์อย่างเคร่งเครียดเดโคที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็พูดขึ้น แถมท่าทางจริงจังจนต่อให้เขาจะไม่อยากจะเชื่อจก็ต้องเชื่อ “กูเห็นว่าเป็นลูกพี่เขาหรอกกูถึงต่อยกลับไปแค่นั้น พวกแม่งเล่นเปิดไม่ให้ตั้งตัวเลย มาถึงใส่เอาๆ ไม่ให้ตั้งตัวเลย" ดูเหมือนมิณทร์จะเจ็บใจมากกว่าเจ็บตัว แต่นั่นเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้เพราะสภาพเพื่อนเขามันก็น่าโกรธอยู่ หน้าหมดหล่อไปอีกเป็นอาทิตย์แต่กลับทำอะไรไม่ได้มากเพราะเห็นแก่พี่ผู้หญิงคนนั้น เพื่อนเขามันคงอัดอั้นตันใจน่าดู แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่แมทธิวสงสัยเป็นอย่างยิ่ง หากคนที่ทำมิณทร์เป็นลูกของพี่เขา มันจะต้องโกรธถึงขนาดเอาซะหน้ายับแบบนี้เลยเชียวเหรอ มากไปหรือเปล่า “มึงแน่ใจนะว่าลูกไม่ใช่ผัวเขา” “มึงพูดเหมือนไอ้เหรินเลย โอ้ยแม่ง!” มิณทร์หน้าหงิกขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดที่เผลออ้าพูดปากกว้างเกินไปจนแผลปริ ท่าทางเจ็บใจมากจนเขาจำต้องหันไปหาเดโคที่เป็นคนโทรไปแจ้งข่าวนี้กับเจนทัต “ไอ้เหรินก็ถามแบบนี้เหรอวะเดค” “เออ แต่เป็นลูกไม่ใช่ผัวแน่ กูเห็นมาแล้ว” พอถามจบชายหนุ่มลูกครึ่งสเปนก็พยักหน้ายิ้มๆ ดูมีลับลมคมในชอบกลพาให้แมทธิวขมวดคิ้ว “แต่ถ้าลูกเขาเป็นหนุ่มถึงขั้นมากระทืบมึงจนเข้าโรง’ บาลแบบนี้ได้ มึงไปวันไนท์กับรุ่นไหนมาวะ” เมื่อกระจ่างเรื่องนั้นแล้วก็ยังมีอีกเรื่องที่เขายังไม่คลายสงสัย พอจะรู้อยู่ว่ามิณทร์ชอบผู้หญิงอายุเยอะกว่าแต่ครั้งนี้ดูจะเยอะมากกว่าทุกครั้ง อันที่จริงเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกเพราะพวกผู้ชายที่ชอบ Milf แบบนี้ที่ชิคาโก้บ้านเกิดของเขาก็มีให้เห็นถมเถ ที่ถามก็แค่อยากรู้อยากเห็นก็เท่านั้น “รุ่นไม่ใหญ่มาก แล้วเด็กที่กระทืบมันก็เด็กมัธยมปลาย” แต่คำตอบของเดโคทำให้เขาอึ้งแล้วอึ้งอีกจนได้แต่หันขวับไปมองเพื่อนที่กำลังนอนยับเยินแถมแขนเคล็ดอยู่ทันควัน ยิ่งได้เห็นใบหน้าหงิกงอของคนเจ็บตัวเขาก็พาลยกมือขึ้นปิดปากทันควันเพราะกลัวจะเผลอหลุดขำออกมา หันไปที่เดโคฝ่ายนั้นก็เหมือนจะกำลังพยายามกลั้นหัวเราะเช่นกัน มิณทร์เห็นท่าทางเพื่อนทั้งสองคนเป็นแบบนั้น แขนข้างที่ไม่ได้เจ็บจึงยกมือขึ้นชี้หน้าทุกคนเป็นเชิงว่าห้ามขำเด็ดขาด ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มเล่นเอาแมทธิวยิ่งต้องกลั้นหัวเราะอย่างหนักจนหน้าแดงแปร๊ด “มึงไม่ต้องพูด” “กูรู้ๆ กูไม่ขำมิณทร์ กูไม่ขำ” ด้านเดโคนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะหันออกนอกหน้าต่างประหนึ่งวิญญาณหลุดไปเรียบร้อยแล้ว “แม่ง พวกมึงอ่ะ” มิณทร์ถอนหายใจเสียงดังก่อนจะทิ้งตัวกระแทกกับเตียงอย่างขัดใจ แล้วก็ต้องร้องโอดโอยเพราะลืมไปว่าตอนนี้บนลำตัวนั้นช้ำเป็นรอยอยู่หลายจุด ท่าทางแบบนั้นเล่นเอาแมทธิวกับเดโคมองหน้ากันอย่างขบขัน เป็นเพื่อนกันมานานก็แบบนี้ แต่ถึงต่อให้ขำพวกเขาก็ยังเป็นห่วงมันมากแหละนะ ไม่งั้นคงไม่รีบบึ่งมาเฝ้าที่โรงพยาบาลทันทีที่รู้เรื่องหรอก ถึงจะขำก่อนเป็นห่วงก็เถอะ “เออ กูก็ไม่ขำแล้วไง” “ไอ้เหรินขำมันตั้งแต่ตอนที่กูโทรไปบอกนั่นแหละ ไอ้มิณทร์มันถึงได้หน้าหงิกขนาดนี้” เดโคอธิบายเพิ่ม มองมิณทร์ฮึดฮัดแบบไม่เจียมสังขารอยู่บนเตียงทั้งที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ไม่มีใครในที่นี้แปลกใจแม้กระทั่งตัวคนเจ็บเอง เพราะเจนทัตกับมิณทร์นั้นสนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถม เป็นเพื่อนกันมานมนานตั้งแต่ก่อนเจอกับพวกเขาเสียอีก “เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ แล้วไอ้ที่รุ่นไม่ใหญ่ของมึงนี่รุ่นไหนวะ ลูกขึ้นมัธยมแล้วกูก็ว่าใหญ่อยู่นะ” แมทธิวยังคงสงสัยไม่คลาย เพราะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าไม่ใหญ่มากของเดโคมันคืออะไร ทว่าไม่ทันได้มีใครตอบประตูห้องพิเศษก็เปิดออก แทนที่ด้วยผู้หญิงที่มองจากราศีแล้วน่าจะอายุประมาณยี่สิบปลายหรือไม่ก็สามสิบต้นๆ เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกันกับเด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่มองดูแล้วคงอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปี บนใบหน้าของเด็กคนนั้นมีรอยช้ำเล็กน้อย แต่เทียบอะไรไม่ได้เลยกับเพื่อนของเขา นี่สินะที่มิณทร์บอกว่าไม่ได้สวนไปมาก วินาทีแรกที่เธอเดินเข้ามาในห้องแมทธิวถึงกับนิ่งค้างไปเสียกะทันหัน เพราะจู่ๆ ภาพของใครบางคนก็ซ้อนขึ้นมาบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ทั้งโครงหน้า ผิวพรรณ ส่วนสูงคล้ายกันกับพี่โมนา เจ้าของจูบหวานๆ ที่เขาเพิ่งจะไปชิมมาเมื่อคืนมากจนพาให้ใจสั่น ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากขณะที่ยังคงมองหน้าเธออยู่แบบนั้นโดยที่ลืมไปแล้วว่ามันดูเสียมารยาทมาก แม้ไม่ได้ถึงกับตัวแข็งทื่อแต่ท่าทางของเขาก็ยังพาให้เธอเลิกคิ้วมองมาอย่างฉงน “เอ่อ…สวัสดีค่ะ” กว่าที่แมทธิวจะได้สติยกมือไหว้หญิงสาวอย่างที่ควรจะทำ ก็เป็นตอนที่คนเจ็บกระแอมขึ้นอย่างตั้งใจ “อะแฮ่ม!” “ส้นตีนติดคอเหรอวะ” “เร็กซ์ แม่บอกว่ายังไง” ราวกับเกิดปฏิกิริยารีเฟลค ทันทีที่มิณทร์กระแอมขึ้นมาเด็กหนุ่มคนนั้นก็อ้าปากด่าทันควัน ตามด้วยเสียงของ…คุณแม่ยังสาวที่ห้ามขึ้นมาติดๆ เห็นท่าทางแบบนี้แล้วเขาก็ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมเพื่อนตัวเองถึงมีสภาพต้องมานอนหยอดน้ำข้าวต้มแบบนี้ ก็เด็กมันห้าวจัดแถมหวงแม่ขนาดนั้น “แม่…” “พอแล้วลูก” แต่ห้าวขนาดไหนสุดท้ายก็ยังแพ้แม่อยู่ดี เพราะยามที่พี่ผู้หญิงคนนั้นหันไปถลึงตาใส่ เด็กหนุ่มก็พลันเงียบไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกแม้ว่าจะยังมีความไม่พอใจอยู่บนใบหน้าก็ตาม พอเห็นว่าลูกชายยอมเงียบ เธอก็หันมาส่งสายตาและรอยยิ้มขอโทษขอโพยเขาและเดโค ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เตียงที่มิณทร์นอนอยู่ “เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงนุ่มที่เอ่ยถามมิณทร์นั้นเหมือนกับพี่โมนามากๆ ในความรู้สึก เล่นเอาก้อนเนื้อในอกของเขาสั่นขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ถึงอย่างนั้นแมทธิวก็ยังไม่คิดจะพูดอะไร แต่เลือกที่จะยืนฟังบทสนทนาเงียบๆ “ได้ยาแก้ปวดก็ดีขึ้นมากแล้วครับ เมื่อกี้หมอบอกว่านอนสักสองวันก็หาย” ประการหนึ่งคือมันคงฟังดูบ้าบอพอสมควร ที่เขาจะไปบอกเธอว่าหน้าเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาเพิ่งจะไปเมคเอ้าท์ในที่ลับตามาเมื่อคืนนี้ อีกอย่างเธอก็ลึกซึ้งกับเพื่อนของเขาไปแล้วด้วย ต่อให้จะเป็นวันไนท์แสตนแต่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นดูท่าจะได้ติดต่อกันอีกนาน แถมมิณทร์ก็มองพี่เขาตาเยิ้มจนลูกชายโมโหหน้าดำหน้าแดงขนาดนั้น “ค่ารักษาทั้งหมดพี่ออกเองนะมิณทร์ ยังไงลูกชายพี่ก็เป็นคนทำเธอ” แต่ถามว่าเขาแปลกใจไหมก็คงต้องบอกว่าไม่อีกนั่นแหละ ในเมื่อพี่เขาทั้งเซ็กซี่ทั้งสวยหยาดเยิ้ม แถมยังดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่หน้าเด็กแบบนั้น ขนาดตัวเขายังเผลอมองค้างตอนที่เธอเดินเข้ามา เดโคเองก็ยังมีมองอย่างชื่นชมเป็นครั้งคราว นับประสาอะไรกับมิณทร์ที่ได้ใกล้ชิดแนบเนื้อกับเธอไปแล้วกัน สวยมีเสน่ห์ขนาดนี้ไม่หลงสิแปลก “พี่มิลินครับ ไม่เป็น…” “เป็นสิมิณทร์เป็นมากด้วย ให้พี่จ่ายเถอะนะ ตอบแทนที่เธอไม่แจ้งความ” “...ครับ” “เร็กซ์ขอโทษพี่เขาสิลูก เราทำผิดต้องขอโทษนะ” “แม่ครับ ผมไม่…” “ถ้าไม่พูดแม่จะโกรธแล้วนะ” “...” “เร็กซ์” “...ขอโทษ” “ไม่เป็นไร” ท่ามกลางการถกเถียงของสองแม่ลูก และการเอ่ยขอโทษแบบอึดอัดและไม่เต็มใจที่สุดเท่าที่แมทธิวเคยเห็นมา ไหนจะคำว่าไม่เป็นไรที่ฝืนมากของเพื่อนตัวเองอีก แค่ยืนมองเขายังอดไม่ได้ที่จะทอดถอนลมหายใจ มองตาเดียวยังมองออกว่ามันปลื้มแม่เขามาก แต่ทั้งเกลียดทั้งโดนลูกเขาเกลียดขี้หน้าขนาดนี้ หนทางรักของเพื่อนเขามันจะไปรอดได้แค่ไหนกัน แกร็ก! ทว่าในยามที่เขากำลังคิดอย่างปลงตกอยู่นั้น จู่ๆ ประตูห้องพิเศษก็เปิดออกอีกครั้งโดยใครบางคนที่แมทธิวเพิ่งจะคิดถึงไปตอนที่เห็นหน้าของพี่มิลินครั้งแรก พี่โมนาคนสวย "พี่คะ หนูจัดการเรื่องค่ารักษาเรียบร้อยแล้วนะ อ่ะนี่ใบเสร็จ" เธอเดินพรวดพราดเข้ามาในห้องโดยไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลยสักนิด มือเล็กยื่นใบเสร็จให้พี่มิลินก่อนจะรื้อค้นบางอย่างในกระเป๋าต่ออย่างขะมักเขม้น กว่าที่เธอจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของคนในห้องเวลาก็ล่วงเลยไปพักใหญ่ ตราบจนเธอหาของเจอแล้วยื่นมันให้เด็กผู้ชายคนนั้น พี่โมนาถึงได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วสบตากับเขาอย่างไม่ตั้งใจ หมายถึงพี่โมนาที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่วนตัวเขาคือรอเธอหันมาเห็นตั้งนานแล้ว "...อ้าว แมทธิว ว่าแล้วเชียวว่าสองคนนี้หน้าตาคุ้นๆ เพื่อนเธอนี่เอง" "ครับเพื่อนผมเอง" และให้ตาย เสียงเธอตอนเรียกชื่อเขามันเพราะชะมัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD