ตึก ตึก !!! ฉันวิ่งด้วยรองเท้าส้นสูงไปที่จุดเกิดเหตุแล้วเห็นผู้ชายคนนึงนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น
“คุณๆ ได้ยินฉันไหม”ฉันวิ่งไปถึงตัวเขาก็รีบเขย่าเรียก ผู้ชายคนนั้นมองหน้าฉันก่อนจะสลบไป...
“เกิดอะไรขึ้น!!!เห้ย!!!ไอ้พีท”อยู่ๆก็มีผู้ชายหลายคนวิ่งเข้ามา แล้วเรียกชื่อพีทคงเป็นชื่อของผู้ชายคนนี้
“เขาโดนยิงหลายจุดเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้”ฉันหันไปสั่งแต่เขากลับมองหน้ากันแล้วทำหน้างงๆ
“โอ๊ย!!มัวแต่งงอยู่ได้เพื่อนคุณจะตายอยู่แล้ว”ฉันพูดขึ้นเสียงดังพร้อมทั้งจับชีพจรเขาไปด้วย ตอนนี้มันเริ่มเต้นอ่อนลงเรื่อยๆจนฉันต้องรีบทำCPRด่วน
“นี่คุณจะทำอะไร!!!ผมว่าคุณถอยออกมาดีกว่า ผมเรียกรถพยาบาลแล้วอีกไม่นานคงมา ผมไม่อยากให้อาการเพื่อนผมแย่ไปกว่านี้”ชายหนึ่งในนั้นพยายามดึงมือฉันออก
“ฉันเป็นหมอ!!”
“หมออะไรจะมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ผมว่าคุณถอยออกมาเถอะ”
“เอด้า!!!”
“เจ้ชลลี่”
“ชลลี่รู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยหรอ”
“น้องสาวชลลี่เองคะ ตะ...แต่เอด้าเป็นหมอจริงๆนะคะ”
“ทีนี่จะปล่อยมือฉันได้หรือยังหรืออยากให้เพื่อนคุณนอนตายตรงนี้”ผู้ชายคนนั้นปล่อยมือฉันทันที
ฉันจึงรีบเปิดไฟฉายส่องที่ตาทั้งสองข้างแล้วรีบทำCPR
“1..2..3..”ฉันนับขณะปั้มหัวใจแล้วรีบหยิบเครื่องฟังเสียงหัวใจที่ฉันพกติดตัวขึ้นมาฟัง
“เห้อ!!เขากลับมาแล้ว”ฉันถอนหายใจเพราะเมื่อกี้เขาหัวใจหยุดเต้น โชคดีที่ไม่กี่วินาที
“เอด้าพี่พีทจะรอดไหม”เจ๊ชลลี่น้ำหูน้ำไหลพรากเข้ามาถาม
“ก็ขึ้นอยู่ที่รถพยาบาลว่าจะมาเร็วแค่ไหน เขาโดนยิงหลายจุดและไม่รู้ว่าโดนจุดสำคัญบ้างหรือเปล่า”ฉันตอบอาการเจ๊ชลลี่พร้อมดูอาการเขาไปด้วย ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นรถพยาบาลก็มา..
@โรงพยาบาล BHS Hospital
ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลเขาก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที
“หมอเอด้าพึ่งออกเวรไปไม่ใช่หรอคะ”พยายาลทำหน้างง เพราะตอนนี้ตัวฉันมีแต่เลือด
“อย่าพึ่งถามเลยค่ะ ตอนนี้ช่วยพาคนไข้ไปเอกซเรส์ช่วงตัวด้านบนก่อนนะคะ แล้วก็เตรียมห้องผ่าตัดใหญ่ให้ด้วย”ฉันสั่งพยาบาลก่อนตัวเองจะรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พร้อมสำหรับห้องผ่าตัด
“ค่ะ คุณหมอ ไปๆรีบเข็นไปเร็ว”ห้องฉุกเฉินก็เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง
~5ชั่วโมงผ่านไป~
ฟู่วว!!~ฉันต้องเป่าลมออกจากปากอีกครั้ง นี่เป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งที่สองของวันนี้แล้วคนไข้ก็ดันโดนยิงมาเหมือนกัน แต่โชคดีที่ทั้งสองคนปลอดภัยทั้งคู่
“เอด้า!!พี่พีทเป็นไงบ้าง”เจ๊ชลลี่และคงจะเป็นเพื่อนๆของเขากรูกันเข้ามาหาฉันทันทีที่ฉันเปิดประตูออกมา
“ปลอดภัยแล้วค่ะ!!แต่ก็คงต้องนอนอยู่โรงพยาบาลอีกหลายอาทิตย์เพราะเขามีแผลจากการถูกยิงถึง9จุด”
“9จุด!!นี่มันกะเอาตายเลยหรอว่ะ”เพื่อนๆคนไข้พากันอุทานออกมาเสียงดัง
“และ9จุดที่ว่ามีกระสุนอยู่นัดนึงฝังอยู่ที่เข่าด้านซ้าย เอด้าผ่าเอากระสุนออกให้แล้วแต่ก็ต้องมาดูอีกทีตอนพอเขาฟื้นว่าเขาจะสามารถใช้งานได้ปกติไหมหรืออาจจะใช้งานไม่ได้เลย”
“หมอหมายความว่าไอ้พีทจะพิการหรอ”
“ยังให้คำตอบไม่ได้ค่ะ ต้องรอดูตอนคนไข้ฟื้นอีกที เดี๋ยวอีกซักพักพยาบาลคงจะพาคนไข้ไปที่ห้องผู้ป่วยญาติๆจะรอตรงนี้หรือไปรอที่ห้องเลยก็ได้นะคะ หมอขอตัวก่อน”ฉันเดินแยกตัวออกมาเพื่อกลับไปที่ห้องพักแพทย์
“ห๊ะ!!เจ็ดโมงเช้าแล้วหรอเนี่ย”ฉันเงยหน้ามองนาฬิกาเข็มสั้นชี้ที่เลขเจ็ดพอดีเป๊ะ ฉันรีบถอดเสื้อกราวน์พาดไว้ที่เก้าอี้ก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำเพื่อเข้าตรวจตอนเช้า
“หมอเอด้าไหวไหมคะ”คุณน้ำพยาบาลผู้ช่วยเข้ามาถามเป็นครั้งที่3เพราะฉันขอกาแฟดำเขาแก้วที่3แล้ว
“ไหวค่ะ!!เหลือคนไข้อีกเยอะไหมคะ”
“เหลืออีก2คนค่ะ ถ้าหมอเอด้าไม่ไหวโอนไปให้คุณหมอท่านอื่นก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะเอด้าไหว”ฉันพูดจบพยาบาลก็เชิญคนไข้คนต่อไปเข้ามา ฉันพยามตั้งสติแล้วตรวจคนไข้จนหมด
“คนไข้หมดแล้วคุณหมอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
"ค่ะ งั้นเอด้าขอตัวเลยนะคะ”ฉันลุกขึ้นถอดเสื้อกราวน์แล้วหยิบกระเป๋าเดินมาที่ลานจอดรถ
“คุณหมอเอด้า!!เดี๋ยวค่ะๆ”พยาบาลก็วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
“มีอะไรคะ”
“คุณหมอเอด้าลืมไปแล้วหรอคะว่าคุณหมอเป็นแพทย์เจ้าของไข้คุณพชร ญาติเขามารอคุณหมอนานแล้วนะคะแล้วตอนนี้ก็โวยวายจนวอร์ทแทบแตกแน่ะค่ะ”
“หมอลืมไปเลยขอโทษทีนะคะ เดี๋ยวหมอขอไปหยิบเสื้อกราวน์ก่อนแล้วจะตามขึ้นไปค่ะ”ฉันบอกพยาบาลแล้วเดินกลับมาที่ห้องทำงานเพื่อมาเอาเสื้อกราวน์แล้วลากสังขารขึ้นไปตรวจคนไข้
×วอร์ท วีไอพี×
//ก๊อกๆ//
“ขออนุญาติค่ะ”พยาบาลเปิดประตูแล้วเข็นรถอุปกรณ์เข้าไปในห้องโดยมีฉันเดินตามหลัง
“เขาฟื้นหรือยังคะ”ฉันตรวจม่านตาแล้วหันไปถามพยาบาล
“ยังเลยค่ะคุณหมอ”ฉันพยักหน้าก่อนจะตรวจที่อื่นต่อ
“คุณคือคุณหมอที่รักษาลูกดิฉันใช่ไหมคะ”ผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี คงเป็นห่วงลูกชายมาก
“สวัสดีค่ะดิฉันหมอไอลดาค่ะ”
ฉันยกมือไหวและแนะนำตัว
“คะ คุณหมอ...ลูกชายของดิฉันทำไมเขายังไม่ฟื้นซักทีละคะ”
“เอ่อ...จากที่หมอเช็คอาการเมื่อซักครู่รวมๆแล้วอาการเขาดีขึ้นมากแล้วนะคะ แต่อาจเพราะอาการบอบช้ำทางร่างกายอาจทำให้เขาฟื้นตัวช้า..มันต้องใช้เวลาค่ะ”ฉันอธิบาย
“คุณหมออย่ามาหลอกฉันเลยค่ะ...เขาจะไม่ฟื้นแล้วใช่ไหมคะ...ฮืออ”เธอยกมือขึ้นมาทาบอกแล้วร้องไห้ออกมา
“หมอไม่ได้หลอกนะคะ...คุณนั่งที่โซฟาก่อนดีกว่าค่ะ”ฉันประคองเธอมานั่งที่โซฟากลัวว่าจะเป็นลมล้มลงไป
“เขาจะฟื้นแน่ๆนะคะคุณหมอ...ฉันเสียเขาไปไม่ได้แล้วจริงๆ”
“ทางการแพทย์เราก็ต้องพูดกันตรงๆว่ามันไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์...แต่หมอสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดนะคะ”
“ฮึก!!ฮือออ”เธอโผเข้ากอดฉันไว้แน่น
ครืดดดด(เสียงประตู)
“คุณ!!!กลับได้แล้ว...ในเมื่อหมอก็ยืนยันแล้วว่ามันยังไม่ตายจะอยู่อีกทำไม”ผู้ชายร่างสูงเดินเข้ามาหยิบกระเป๋าของผู้หญิงแล้วเดินออกจากห้องไป
“ฮึก~ฉันคงต้องกลับแล้ว ฝากเขาด้วยนะคะคุณหมอ”ผู้หญิงคนนั้นจับมือฉันก่อนจะเดินไปห่มผ้าแลัวหอมที่หน้าผากของลูกชายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เอาไงดีคะคุณหมอ!!กลับกันหมดไม่มีใครอยู่เฝ้าไข้เลย”
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหมออยู่เอง”ฉันยิ้มให้พยาบาล ขับรถกลับบ้านตอนนี้กว่าจะถึงก็คงดึกนอนที่นี่เลยแล้วกัน
“จะดีหรอคะคุณหมอ”
“ดีสิคะ ยังไงถ้าเกิดอะไรขึ้นพยาบาลก็ต้องโทรตามหมออยู่ดี หมอนอนอยู่ตรงนี้แล้วจะได้ไม่ต้องลำบากพยาบาล”ฉันยิ้มให้หมอแล้วถอดชุดกราวน์ออกพาดไว้ที่โต๊ะแล้วมานั่งที่โซฟา
“งั้นดิฉันขอตัวนะคะ”หลังจากพยาบาลเดินออกไปฉันก็มาเช็คอาการเขาอีกนิดหน่อยก่อนจะมานั่งที่โซฟาแล้วล้มตัวลงนอน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว...
》》PEET PART《《
“อึก!!โอ๊ยย”
ความเจ็บแล่นไปทั่วร่างกายหลังจากผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา แสงสว่างเข้ามาในตาจนต้องหลับตาลงอีกครั้งผมพยายามปรับตาให้เข้ากับแสงแล้วมองว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน โรงพยาบาลนี่หน่าใช่สิผมถูกยิงจากไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ผมหิวน้ำมากมองไปรอบๆก็เจอผู้หญิงตัวเล็กๆนอนอยู่ที่โซฟาคงเป็นพยาบาลพิเศษที่แม่ผมจ้างมา
“คุณๆผมหิวน้ำ!!!”ผมพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะคอแห้งผาดไปหมด เธอค่อยๆขยับตัวช้าๆ
“ฟื้นแล้วหรอ”เธอเดินมาหาผมที่เตียงแล้วใช้ไฟฉายส่องที่ตาผม อย่างกับเป็นหมอ
“ผมหิวน้ำ”เธอวางไฟฉายลงแล้วรินน้ำให้
“แค่จิบๆพอนะคะคุณพึ่งผ่าตัดมาช่องท้องยังกลับมาทำงานได้ไม่เต็มที่”เธออธิบายแล้วยอมให้ผมดื่มไปแค่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆผมแทบไม่รู้สึกเลยว่ามีน้ำอยู่ในคอ
“คุณเป็นยังไงบ้างคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย นี่ผมเป็นยังไงบ้างเนี่ย”ผมถามอาการตัวเองเพราะผมจำอะไรไม่ได้เลย
“คุณโดนยิงค่ะ!!กระสุนฝังทั่วร่างกาย แต่ตอนนี้หมอผ่าออกให้หมดแล้ว”
“อ้อ!! โอ๊ยยย!!นี่คุณ”ผมพยักหน้า อยู่ๆพยาบาลคนนั้นก็เอามือไปตีที่ขา
“ยังรู้สึกแสดงว่าใช้งานได้”เธอพยักหน้าน้อยๆแล้วเดินไปหยิบเข็มฉีดยามาจิ้มที่สายน้ำเกลือ
“อะไรของคุณเนี่ยมาตีขาผมทำไม ผมเจ็บนะ”ผมโวยใส่หน้าเธอ
“ฉันแค่ทดสอบดูเฉยๆเพราะมีกระสุนหนึ่งนัดมันฝังอยู่ที่เขาของคุณ เพราะถ้าเมื่อกี้ฉันตีแล้วคุณไม่เจ็บก็แสดงว่าเอ็นมันขาดคุณก็จะไม่สามารถใช้งานขาข้างนี้ได้อีก”พยาบาลคนนั้นร่ายยาว ตอนแรกผมกะว่าจะต่อว่าเธอซักหน่อย แต่จู่ๆก็รู้สึกง่วงขึ้นมาและหลับไปในที่สุด...ตื่นมาเมื่อไหร่เจอกันแน่ยัยแม่มด