》》ADA PART《《
@London
“เอด้าเก็บของเรียบร้อยแล้วค่ะแม่ ตอนนี้ก็รอเวลารถมารับไปสนามบินอย่างเดียว ไม่ต้องห่วงนะคะแม่ ค่ะๆ แล้วเจอกันค่ะ”
ฉันวางสายโทรศัพท์จากคุณแม่แล้วหันมาเก็บของที่เหลือ เพื่อเตรียมไปแอร์พอร์ต
ได้กลับบ้านซักทีหลังจากที่อดทนเรียนมาตลอด4ปีถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับไปใช้วิชาที่เรียนมาเพื่อรักษาผู้คนที่เจ็บป่วย
@สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศ ไทย
ตึก!! ตึก!!
ฉันเดินลากกระเป๋าเดินออกมาจากทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
“อยู่ไหนนะ”ฉันหยุดเดินแล้วถอดแว่นราคาแพงออกเพื่อมองหาคนที่มารอรับ
“เอด้า!!”
“เจ๊ชลลี่!!”ฉันวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเจ๊ชลลี่ลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง
“สวยขึ้นหรือเปล่าเนี่ยหืมม!!”เจ๊ชลลี่จับฉันหมุนซ้ายหมุนขวา
“เหมือนเดิมแหละค่ะเจ๊”
ฉันยิ้มให้เจ๊ แล้วเราก็เดินพูดคุยอัปเดตชีวิตกันมาจนถึงรถ
“เจ๊คิดออกแล้วไหนๆเอด้าน้องสาวสุดที่รักของเ**กลับมาทั้งที งานนี้ต้องมีฉลอง!!!”เจ๊ชลลี่พูดออกมาหลังจากทำท่าคิดอยู่นาน
“ฉลองเลยหรอเจ๊”
“ฉลองสิ!! เดี๋ยวเจ๊เนี่ยนะเหมาโซนวีไอพีทั้งหมดเพื่อเอด้าคนเดียวเลย แล้วแกก็ห้ามปฏิเสธด้วย”เจ๊ชลลี่พูดอย่างรู้ทัน เพราะฉันไม่ค่อยชอบไปที่แบบนั้นเท่าไหร่
“ก็ได้ค่ะเอด้าไปก็ได้ แต่อาทิตย์นี้ขอบายนะคะเพราะเอด้าต้องไปจัดการเอกสารที่โรงพยาบาล”
“เคๆ”
“กลับบ้านกันได้แล้วเจ๊ เอด้าคิดถึงทุกๆคนจะแย่แล้”"ฉันรีบขึ้นไปนั่งบนรถ อยากกอดคุณแม่และทุกๆคนในบ้านจะแย่แล้ว!!
@บ้านเอด้า
ทันทีที่รถของเจ๊ชลลี่ขับเข้ามาในบริเวณบ้านฉันก็มองเห็นคุณแม่น้องชายและญาติๆของฉันยืนรอรับอยู่ที่หน้าบ้าน
“สวัสดีค่ะทุกๆคน”ฉันยกมือไหว้ทุกๆคนก่อนจะวิ่งเข้าไปสวมกอดคุณแม่
“เอด้า!! ลูกแม่”คุณแม่กอดฉันแน่นแล้วร้องไห้ออกมา
“คุณแม่เอด้ากลับมาแล้วนะ คะ”ฉันผล่ะออกแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเลอะข้างแก้มให้ท่าน
“แม่ครับเจ่ก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ร้องสิครับ”อเดลน้องชายฉันเข้ามากอดแม่จากทางด้านหลัง ตั้งแต่คุณพ่อจากไปคุณแม่ก็กลายเป็นคนอ่อนไหวง่ายอะไรนิดหน่อยก็พาลน้ำตาไหล
หลังจากปลอบคุณแม่เสร็จฉันก็เข้าไปทักทายทุกคนก่อนจะขอตัวขึ้นมาบนห้องนอน เพื่อมารายงานตัวกับคนสำคัญอีกคนนึง
“เอด้ากลับมาแล้วนะคะคุณพ่อ”ฉันพูดกัรูปของท่านที่วางอยู่ข้างๆเตียง คุณพ่อของฉันจากไปด้วยโรคร้ายโดยที่ฉันช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย ภาพในวันที่คุณพ่อจากไปยังย้ำอยู่ในความทรงจำฉันเสมอว่าฉันจะเป็นหมอและต้องเป็นหมอ และต้องเป็นหมอที่เก่งที่สุดเพื่อรักษาคนไข้
@วันต่อมา
จุ๊ปปป ??
“เอด้าไปก่อนนะคะแม่”ฉันวิ่งเข้ามาหอมแก้มแม่แบบเร็วๆหนึ่งทีก่อนออกจากบ้าน
“เดี๋ยวๆ...ไม่ทานอาหารเช้าก่อนหรอลูก”
“ไม่ทันแล้วคะเอด้าสายแล้ว”เพราะยังปรับเวลาไม่ได้ทำให้ฉันเบลอไปหมด นัดกับทางโรงพยาบาลไว้ตอนแปดโมงครึ่งแต่ตอนนี้ก็เกือบจะแปดโมงแล้วจะทันไหมเนี่ยเอด้า
“เจ่เดี๋ยว!!!”น้องชายวิ่งเข้ามาห้ามตอนฉันกำลังจะขึ้นรถ
“อะไร??อเดลเจ่สายแล้ว”ฉันมองนาฬิกาอย่างรนๆ
“เจ่พึ่งกลับมาจะขับรถได้หรอ ถนนที่นี่กับลอนดอนมันไม่เหมือนกันนะ ให้เดลขับให้ไหม”ฉันมองอเดลตั้งแต่หัวจรดเท้า มันยังไม่ได้อาบน้ำ!!
“เจ่ขับเองๆไม่มีเวลาแล้วไปนะ”ฉันรีบเข้ามานั่งแล้วสตาร์ทออกจากบ้านทันที
ทางที่ไหนก็เหมือนกันนั้นแหละ ว่าแต่ไอ้จีพีเอสนี่มันจะไม่พาฉันหลงหรืออ้อมโลกใช่ไหม
แปดโมงครึ่งแล้วหรอ!!สายตั้งแต่วันยืนเอกสารเลยหรอเอด้าาาา ?รถก็ดันมาติดไฟแดงอีก เฮ้ออออ!!
ฉันพ่นลมหายใจออกมา เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันแรกแล้วเขาจะรับฉันเข้าทำงานไหมเนี่ย ฉันถือโอกาสระหว่างที่รถติดไฟแดงสำรวจเส้นทางรอบๆข้าง
“โอ๊ะ!!!อี๋!!!ทุเรศที่สุด”ฉันรีบหันหน้ากับมามองไฟแดงตรงหน้า เพราะทนไม่ได้กับรถคันข้างๆที่ไม่รู้จักอายฟ้าดินทำเมคเลิฟกันในรถ ไม่รู้หรือไงกันนะว่าตัวเองติดฟิมล์ใส และทันทีที่สัญญาณไฟเขียวขึ้นฉันก็รีบเหยียบคันเร่งออกมาจากตรงนั้นทันที
@โรงพยาบาล BNS Hospital
10 โมง 1 นาทีฉันพึ่งขับรถมาถึงโรงพยาบาลไม่รู้ว่าเพราะรถติดหรือเพราะจีพีเอสพาฉันหลงหรืออาจจะเพราะทั้งสองอย่าง ฉันรับหาที่จอดรถแล้วขึ้นมาที่ชั้นผู้อำนวยการเพื่อรายงานตัว
“ดิฉันมาพบท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ะ”ฉันแจ้งความจำนงกับเลขาหน้าห้อง
“คุณไอลดาใช่ไหมคะ”
“ใช่ ค่ะ”
“เชิญเข้าไปได้เลยค่ะ ท่านรออยู่แล้ว”ผู้หญิงคนนั้นเดินมาเปิดประตูให้ฉันเข้ามาในห้อง
.....
“เห้อ!!!เสร็จซักที”ฉันเดินกลับออกมาจากห้องผ.อหลังจากรายงานตัวเสร็จ โชคดีที่ท่านเข้าใจว่าฉันพึ่งกลับมาจากต่างประเทศและไม่ชินกับเส้นทางในเมืองไทยเลยมาสาย
และตอนนี้ฉันคือ แพทย์หญิง เอด้า ไอลดา หาญสกุล แพทย์ชำนาญการพิเศษแผนกศัลยกรรมของ โรงพยาบาล BNS Hospital ...