ยายคนชอบหาเรื่อง

1325 Words
“พี่มองหาอะไรอีกคะ จะให้คิดเงินเลยไหมคะ” ดาด้าวิ่งกลับเข้าไปหลัง เคาน์เตอร์ พายทำตัวเองให้ลีบเล็กที่สุด เพราะว่ากลัวเขาจะเห็น เธอก้ม ๆ เงย ๆ มองลอดฝ่ามือที่ปิดใบหน้า ส่งสายตาไปยังร่างใหญ่ที่กำลังมองหาตัวเอง แต่เขาไม่เห็นหรอกว่าเธอหลบอยู่ตรงนี้ ลายไม้เดินเข้ามาที่แคชเชียร์ ก่อนจะถามดาด้า “เธออยู่คนเดียวเหรอ” เขาถาม ปวีนุชรีบกระตุกขากางเกงของเพื่อนทันที ท่าทางเป็นกังวล เธอยกมือของตัวเองขึ้นปิดปากส่งสัญญาณบอกเพื่อนให้พยักหน้ารับว่าอยู่คนเดียว ดาด้าสบสายตากับปวีนุช “บอกไปสิว่าอยู่คนเดียว” เธอทำปากขมุบขมิบ และเพื่อนสาวก็ฉลาดพอ สงสัยอยู่ในใจอยู่แล้วว่ายายพายไปสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้กับผู้ชายคนนี้แน่ ๆ “เอ่อ... ค่ะ” เธอตอบออกไปทันควัน “บอกเพื่อนของคุณด้วยนะว่าระวังตัวเอาไว้ให้ดี อย่าให้เจอ หึ...” เขาพูดเสียงดัง กะว่าจะให้ใครสักคนได้ยิน และสายตายังไม่หยุดมองหาคนต้นเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด ก่อนจะมาหยุดสบตากับดาด้า “หื้อ...เพื่อนของด้าคนไหนคะ มันมีหลายคนในที่ทำงานที่นี่” มธุรดารู้อยู่เต็มหัวใจแต่ก็แกล้งถาม ดาด้าก้มลงไปมองที่ข้าง ๆ ขา ปวีนุชยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากอีกครั้ง และทำไม้ทำมือให้ไล่เขาไปไว ๆ “แกจะไปพูดคุยกับเขาทำไม” เธอทำปากขมุบขมิบ “แปดสิบห้าบาทค่ะ” ดาด้าบอกราคากับเขา เขายื่นแบงก์ร้อยให้ และรอรับเงินทอน “คนที่ตัวขาว ๆ เล็ก ๆ หน้าเรียว ๆ สูงประมาณนี้ ฝากบอกเอาไว้เลยนะว่าอย่าให้เจอ เที่ยวหน้าจะเอาคืนให้เข็ด ฝากเอาไว้ก่อนเหอะ” เขาพูดทิ้งท้ายแล้วก้าวขาเดินเขย่ง ๆ ออกจากร้านไป มธุรดาแกล้งทำสีหน้างง ๆ ยกมือเกาหัวแกรก มองตามชายหนุ่มที่ยังมองในร้านแบบเหลียวหลัง ใบหน้าของเขาเกือบชนประตู ท่าทางลายไม้หัวเสียอย่างหนัก  ปวีนุชทรุดนั่งลงไปกับพื้นพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “อะไรกันยายพาย เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วแกไปทำอะไรเขา” มธุรดาดึงตัวเพื่อนให้ลุกขึ้นมา แล้วตั้งหน้าซักไซ้ พายเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง “โอ๊ะ...ยายบ้า หลังเท้าเขาเขียวบวมมากแหละ แกทำเกินไปไหมนะ” “ก็คนมันตกใจนี่นา อีกอย่างมาหาว่าฉันเป็นขโมย จะไปขโมยรถ หรือทรัพย์สินภายในรถ ไอ้คนบ้า” “แกนั่นแหละ หาเรื่องชัด ๆ โดดงานไปยังไม่พอ ยังไปก่อเรื่องขึ้นอีก เดี๋ยวเขาเอามาฟ้องพี่หนึ่ง คราวนี้แหละแกจะซวย....” เพื่อนสาวชี้หน้า “แล้วจริง ๆ ก็เหมือนที่เขาพูด หน้าตาท่าทางของแกมันก็เหมือนโจรเข้าไปทุกทีแล้วนะ ไปด้อม ๆ มอง ๆ แบบนั้น ฉันว่าแกชักจะเป็นเอามากแล้วนะ หยุดเป็น   สตอล์กเกอร์ได้แล้ว” มธุรดาจ้องสบตาของเพื่อน “ก็ความสุขของฉัน” ปวีนุชไม่ยี่หระ ดูรูปในมือถืออย่างชื่นชม “ย่ะ แล้วไหนเมื่อกี้จะเล่าอะไร ข่าวดีอะไรของแก ฮึ.... เล่ามา ๆ” ปวีนุชยิ้มกว้าง ขยับเข้าไปใกล้ ๆ “แจน แจ้น...ฉันรู้ชื่อของพี่ชายแล้วนะ” เธอดีใจมาก ๆ แววตามีความฉ่ำวาว เพ้อฝัน “ชื่ออะไรคะคุณปวีนุช” ดาด้าพลอยยิ้มไปกับเพื่อนด้วย “ชื่อเล่นของพี่เขาน่ารักมาก ชื่อพี่ปาปูน ชื่อจริงก็แปลกแต่ดูดี ชื่อว่า นายลายไทย บริบูรณ์รักษ์ อือ...ชื่อก็ยังเพราะเลยอะ สมกับหน้าตาที่หล่อเหลา” “เพราะตรงไหน ชื่อประหลาด ๆ นะสิ ชื่อปาปูน ลายไทย ตรงไหนที่แกว่าเพราะ” “เอาะ...ยายด้า แกก็เพราะที่ชื่อของพี่เขาแปลกและไม่มีใครเหมือนไงล่ะ” “เหรอ....” ดาด้าลากเสียงยาว รีบยื่นโพยกระดาษใส่ในมือของเพื่อนสาว “อะไร” พายถามกลับ พร้อมมองสบตากับเพื่อนสาว แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “ในฐานะที่แกอู้งานหายไปนานสองนาน ให้ฉันอยู่คนเดียว ฉันวุ่นวายมาก ตอนนี้คือว่า แกต้องไปจัดของขึ้นชั้น โอเค” ดาด้าทำหน้าทำตา “หมดรายการนี่นะ โอ้โห...ทำไมมันเยอะแบบนี้นะ” แค่เห็นรายการก็เหมือนลมจะใส่ แต่พอหันไปเจอสีหน้าและแววตาของเพื่อน ก็รีบพูด “เออ... รู้แล้ว ๆ ทำอยู่แล้วอย่ามาจ้องแบบนี้นะ อื้อ ^_^” หน้าตายิ้มแฉ่ง “แต่ยังไงวันนี้ก็คุ้มค่าม้วก...” ปากพูดแต่ใบหน้าระรื่น ยกกระดาษในมือขึ้นมาจุ๊บ ๆ ที่ทำภารกิจสำเร็จ ได้ถ่ายรูปคู่กับรถของเขา ได้รู้จักชื่อนามสกุล และที่ทำงานของเขา ปวีนุชเดินไปเพ้อพกไปกับความสุขเกิดขึ้นเต็มหัวใจ   สองอาทิตย์ผ่านไป  "เฮ้อ...ได้มาอยู่กลางวันสักที ไม่ค่อยชอบอยู่กะกลางคืนเลย" ปวีนุชบอกกับมธุรดา "โดนดัดสันดานอะดิ อู้งานดีนัก หนีงานดีนัก เป็นไงโดนจับได้ ดีนะที่พี่หนึ่งแค่ให้แกย้ายไปอยู่กะกลางคืนแค่สองอาทิตย์โดยที่ไม่ไล่แกออก" มธุรดาว่าให้ "ยายด้าปากแรงขึ้นทุกวันนะยะ"  "หัวหน้าฝากบอกมาแล้วนะ ถ้าแกทำผิดอีกครั้งเดียว คือแกโดนไล่ออกแน่ ๆ” ดาด้าชี้หน้าเพื่อน "แหม...พี่หนึ่งเขาไม่กล้าไล่ฉันหรอก ผิดนิด ๆ หน่อย ๆ เดี๋ยวนี้คนดี ๆ ขยันงาน หนักเบาเอาสู้แบบฉันเนี่ยหายาก" “เหรอ...” ดาด้าลากเสียงยาว  “หน้าอย่างแกเนี่ยนะ” “จ้ะ”   "นี่...ยายพาย เห็นท่าทีแบบนี้ของเธอแล้ว ฉันคิดผิดไหมที่ให้อภัยเธอ แล้วยอมให้เธอลงมาอยู่กะกลางวัน" เสียงพี่หนึ่งผู้จัดการร้านดังขึ้นข้างหลัง ปวีนุชสะดุ้งโหยง รีบหันหน้าไปในทันที  “อุบ...พี่หนึ่ง” เธอปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน ก่อนจะยกมือไหว้ปลก ๆ   "พี่หนึ่งขา หนูพายผิดไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หนูพายสำนึกผิดมากมาย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หนูพายจะตั้งใจทำงานค่ะ จะไม่เถลไถล จะปฏิบัติงานแข็งขัน และจะทำตามหน้าที่อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง" เธอขอความเห็นใจทั้งสีหน้าแววตาและท่าทาง "ฉันรู้ฉันเห็นทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรกันในนี้ อีกอย่างทำงานให้ดี เขาให้เงินเดือนนะ ไม่ใช่จ้างให้มาเดินเล่น หรือว่าเล่นขายของ"   "พี่หนึ่งมีตาทิพย์หรือคะ" ปวีนุชถามยอกย้อน  "นู้น...." นางชี้ให้ดูกล้องวงจรปิด ปวีนุชหน้าเสีย บางทีก็ลืมตัวไปจริง ๆ “เสียงแกที่โม้ เมาท์มอยเรื่องชาวบ้านกันนั่นนะ ฉันก็ได้ยินย่ะ อ้าว...แยกย้ายแยกย้าย ไปทำงานกันได้แล้ว พี่จะกลับสาขานู้นแล้ว" หนึ่งโบกมือไล่ "สวัสดีค่ะ" สองสาวประสานเสียงกันดังลั่น โค้งหัวแทบชนหน้าขา พอเห็นพี่หนึ่งพ้นไปจากสายตา ปวีนุชก็หันมาต่อว่าเพื่อนทันที  "ยายด้าทำไมแกไม่บอกฉันว่าพี่หนึ่งอยู่" "หล่อนผิด" มธุรดาชี้หน้าปวีนุช ก่อนจะใช้นิ้วทำท่าปาดคอตัวเอง  "จ้ะจ้ะจ้ะ ข้าน้อยสมควรตาย เอ่อ...ทำอะไรก็ดูไม่ดี ผิดไปหมดเลย คนน่าสงสารคือฉันนี่เอง" เธอแถไปได้อีก ก่อนจะเดินลิ่วเข้าห้องข้างหลังเพื่อตอกบัตร “รู้ตัวก็ดีแล้ว จะได้ทำตัวใหม่ สังคมให้อภัยแกนะ ยายปวีนุช” มธุรดาตะโกนตามหลัง แล้วหัวเราะเสียงดังแบบสนุกสนาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD