EP.7 HATE YOUR LOVE แค้นร้ายพ่ายรัก
PEACH'S PART
“กูอยากอยู่คนเดียวว่ะ” ผมบอกไอ้นาทีที่กำลังเดินเข้ามาหาอย่างเป็นห่วง หลังจากที่เราออกจากห้องเรียนพร้อม ๆ กัน
“โอเค” มันก็พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหยุดเดินตามผมทันที
ใช่ครับ และอาจารย์หนุ่มก็ทำตามที่เขาพูด ผมไม่ได้รับรุ่นใด ๆ แถมยังโดนหมดสิทธิ์ในวิชาพื้นฐานง่าย ๆ ที่เจ้าตัวเป็นคนดูแลอีกต่างหาก
ผมนั่งกุมขมับอยู่เพียงลำพังใต้ตึกคณะ
คนในคณะก็เหมือนเดิม ซุบซิบนิทาเรื่องผมไปทั่ว แต่ก็มันแน่ละ เรื่องฉาว ๆ ก็ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอยู่ดี ซึ่งชินแล้วแหละ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทุกคนว่ากล่าวถึงนิสัยและความร้ายกาจของแพร
ถ้าถามทำไมผมถึงรักแพรน่ะเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะมุมน่ารักของเธอมีผมคนเดียวเท่านั้นที่มองเห็น
ผมนั่งยีหัวตัวเองอย่างคิดไม่ตกเลย เรื่องที่ต้องดรอปเรียนวิชาง่าย ๆ แบบนี้
สองสามวันนี้ผมนั่งถอนหายใจมากกว่าล้านรอบแล้วละมั้ง
“ใครอะ” จากนั้นก็ตะโกนถามเพราะรู้สึกว่ามีคนแอบมองอยู่ตลอด ไม่แพร ก็คงเป็นไอ้นาที
“ซินเองค่ะ” สายรหัสของผมค่อย ๆ เดินออกมาจากมุมตึกด้วยใบหน้าตกใจ
ผมนิ่งไป แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ
เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยสีหน้าเกร็ง ๆ
“ช่วงนี้พี่พีทดูเครียด ๆ นะคะ” ก่อนนั่งลงข้าง ๆ และถามผม
“พี่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ” ผมพูดด้วยใบหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นและยิ้มให้ซินบาง ๆ แล้วปลีกตัวออกจากตรงนั้น แม้จะรู้ว่ามันคงดูแย่มาก ๆ ที่ทำแบบนี้ แต่ผมแค่อยากอยู่คนเดียวจริง ๆ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปที่ผมพยายามสะสางเรื่องของตัวเอง ทั้งการเรียน การสอบ และปัญหากับอาจารย์รวมถึงคนในคณะอีก
ตอนนี้จะเรียกว่าผมถูกคนทั้งคณะแบนก็ไม่ผิด เพราะตั้งแต่อาจารย์หนุ่มประกาศตัดชื่อออกจากรุ่นเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์ คนอื่น ๆ จึงไม่กล้ายุ่งเกี่ยวด้วยเท่าไหร่
มีก็แต่ไอ้นาทีที่ยังเป็นเพื่อนซี้ปึกอยู่เหมือนเดิม แต่เอาจริง ๆ พวกเรื่องรุ่นหรืออะไรต่าง ๆ มันไม่ได้มีความหมายกับผมเลย
ผมใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ในการเตรียมตัวสอบและพบปะอาจารย์เพื่อชี้แจงเรื่องในค่ายที่เกิดขึ้น กว่าจะเสร็จได้… เล่นเอาสมองมันล้าไปหมด แต่สุดท้ายก็จบลงค่อนข้างดี
“คืนนี้เอาไง วันเกิดมึงเลยนะ” ไอ้นาทีเดินชนไหล่ผมเบา ๆ
“ขี้เกียจอะ กินที่คอนโดกูก็ได้นะ” ผมตอบไปอย่างเบื่อ ๆ
“ไม่เอาดิ คืนนี้กูเลี้ยงเอง ไหน ๆ วันเกิดปีนี้มึงทะเลาะกับเมีย งั้นให้เพื่อนแสนดีแบบกูฉลองวันเกิดกับมึงแทนแล้วกัน” ไอ้นาทีแบะปากเบา ๆ
ผมก็มองมันอย่างขำ ๆ
“นี่ ๆๆๆ อย่าบอกนะ ว่ามึงจะใจอ่อนยอมไปง้อยายแพรปีศาจนั่นก่อนอีกแล้วอะ” ก่อนจะชี้หน้าผมอย่างจับผิด
เลยเหล่ตามองมันเล็กน้อย
“ก็คิด ๆ อยู่อะ กลัวว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ แพรอาจจะสติแตกพอดี” ผมพูดด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ
“ไอ้พีท มึงก็แบบเนี้ย แพรมันถึงไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดสักทีไง” เพื่อนเถียงอย่างไม่เห็นด้วย
“เออ เอาน่า” ผมได้แต่ยิ้มรับไว้
“เจอกันตอนดึกแล้วกัน คนอะไรใจอ่อนฉิบหาย” มันบ่นเสร็จจึงเดินออกไป
@ NY ผับ
“ไอ้โทนี่ น้องพลอย ไอ้ที” ผมเดินไปยังโต๊ะที่ไอ้นาทีจองเอาไว้
เสียงเพลงในผับจึงเปลี่ยนทำนองเพลง
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยูววว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยูววว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยูววว...” ทุกคนในโต๊ะเริ่มร้องเพลงให้ผม
โดยมีน้องซินถือเค้กและน้องแก้วถือลูกโป่งเข้ามาหา
“สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่พีท” น้องแก้วยิ้มแย้มก่อนจะเดินไปยืนข้าง ๆ น้องพลอย
“อธิษฐานแล้วเป่าเค้กสิคะ พี่พีท” ส่วนน้องซินวางเค้กลงตรงหน้า ผมก็พยักหน้าและเป่าทันที
เราสั่งเครื่องดื่มกับอาหารมาเล็กน้อย เพราะจำนวนคนไม่ได้เยอะเท่าไหร่
“นี่มึงไปชวนน้อง ๆ มาทำไม เกรงใจเขา” ผมหันไปตำหนิไอ้นาที
“ไม่ใช่กูเลย ไอ้โทนี่น่ะสิ ลากมาหมดเลย” ก่อนเพื่อนจะโบ้ยไปที่อีกคน
“ไม่รบกวนเลยพี่ ๆ หนูอยู่แต่หอก็เบื่อจะแย่” เสียงน้องพลอยตอบก่อนจะยกแก้วมาชนกับผม
“มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอให้แฟนใจดีขึ้น” ก่อนอวยพรติดตลกไป
“สาธุ” ผมก็ยิ้มตอบ
พวกเรานั่งดื่มกินกันสักพัก พอสนุกอยู่บ้างละ จริง ๆ ผม ไอ้นาทีและโทนี่เนี่ย เป็นขาประจำผับนี้ หลังจากมีเรื่องเครียดก็มักจะมานั่งดื่มที่นี่ เพราะใกล้มหาลัยดี
“ซินขอกลับก่อนนะคะ พอดีกระโปรงไปเกี่ยวกับประตูห้องน้ำเลยขาดนิดหนึ่งค่ะ” หลานรหัสผมเดินกลับมาที่โต๊ะแบบหน้าเสียเล็กน้อย
พวกเราทุกคนก็มองหน้ากัน... ผมจึงถอดแจ็กเก็ตตัวเองออกทันที
“ขาดเยอะไหม เอาเสื้อพี่ไปปิดก่อนสิ” ก่อนถามขึ้น เพราะไอ้นาทีกับไอ้โทนี่มีแค่เสื้อยืดตัวเดียว
“เอ่อ… ซิน…” น้องซินทำท่าจะไม่รับ
“แค่เสื้อเอง จะได้กลับพร้อมเพื่อน ๆ ด้วย ไปคนเดียวอันตราย” ผมพยักหน้าและยื่นให้น้องโดยไม่ได้คิดอะไร
ซินทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ผมและเหลือบมองเล็กน้อย เหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้า ทำให้นึกไปถึงวันที่เดินหนีน้องวันก่อน
“วันนั้นพี่มีเรื่องเครียดเยอะก็เลยไม่ค่อยสุภาพ” ผมพูดเสียงอ่อนลง
“เอ่อ... งั้น... ซินขอให้วันเกิดปีนี้ เป็นอีกปีที่ดีที่สุดของพี่นะคะ” พูดจบก็ยกแก้วขึ้นและชนกับผมเบา ๆ
ก่อนที่เราทั้งคู่จะดื่มพร้อมกัน
เวลา 02:00
เรานั่งดื่มชิว ๆ กันไป แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่มีใครเมาหรอก เพราะว่าไม่ได้เน้นดื่มเหล้า
ทว่าหลังจากที่ผมเดินพ้นออกจากประตูผับเป็นคนแรก... ทันใดนั้น...
“Happy birthday to you Happy birthday to you... Happy Birthday Happy Birthday Happy Birthday to you”
แพรยืนตัวสั่นน้ำตาคลอมองมาทางผมด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธ...
“ห่างสักพักเนี่ย คือแบบนี้เนี่ยนะ”
PARIS PART
“ห่างกันสักพัก... คือแบบนี้น่ะเหรอพีท” ฉันถามออกไปด้วยเสียงสั่น ๆ
“แพร...” พีทเรียกชื่อฉันเหมือนจะพยายามอธิบาย
“เพิ่งรู้ว่าวันสำคัญของพีท ไม่มีแพรแล้วก็ได้” ก่อนปาดน้ำตาและพยายามข่มความเสียใจเอาไว้
เขาพยายามจะเดินเข้ามาหาฉัน แต่...
ฟุ่บ! ฉันปล่อยเค้กทิ้งลงที่พื้น กั้นกลางระหว่างเราสองคน
พวกเราต่างยืนสบสายตากันนิ่ง ๆ
พีทค่อย ๆ ก้มลงเก็บถาดเค้กในส่วนที่เหลืออยู่บ้าง แม้ว่ามันจะเลอะเทอะไปหมด
“กลับไปคุยกันที่คอนโด” อีกฝ่ายเก็บเค้กนั่นให้เหมือนเดิม ทั้งที่มันไม่เหมือนเดิม
“ไม่” ฉันขึ้นเสียงใส่พีท แต่เขาก็ยังคงเก็บก้อนเค้กขยะนั่นอย่างตั้งใจ โดยไม่ได้สนใจในคำพูดของฉันเลย
ในตอนที่ฉันกำลังมีปัญหากับพีทอยู่ ก็มีกลุ่มคนอีกกลุ่มเดินออกมาจากผับนั้น... ทำให้ละสายตาไปมอง…
เสื้อแจ็กเก็ตแบรนด์หรูที่ฉันยอมเก็บเงินเพื่อซื้อให้พีทและมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นในไทย เพราะฉันฝากยายลิปดาซื้อตอนมันไปเยอรมันนี่ เสื้อที่ฉันตั้งใจให้กับแฟนเพียงแค่คนเดียว แต่ตอนนี้กลับผูกอยู่ตรงเอวของยายเด็กเมื่อวานซืน
“แพร... ฟังพีทก่อน...” พีทเองชะงักเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป
ฉันเดินตรงไปที่เสื้อแจ็กเก็ตของตัวเอง และหยุดตรงหน้ายายเด็กนั่นทันที
“แพร/แพรริส/พี่แพรริสใจเย็นนะ” เสียงจากเหล่าเพื่อน ๆ นางและพวกของพีทที่วิ่งตามมาทีหลังร้องเรียกชื่อฉันอย่างระแวง
ยายเด็กซินนั่นก้าวถอยหลังเล็กน้อย
“เธอนี่กลัวฉันจริง ๆ น่ะหรอ แต่ทุกอย่างที่ทำเหมือนตั้งใจจะแย่งแฟนฉันเลยนะ” ฉันเดินพุ่งเข้าไปถามแบบต่อหน้า
“หนูไม่ได้จะแย่งนะคะ” ยายเด็กนั่นส่ายหน้าและร้องไห้ออกมา
“ตอแหล” ฉันตวาดลั่น
“ถอดแจ็กเก็ตของฉันออกมา” ฉันชี้ไปที่สิ่งนั้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะข่มอารมณ์โกรธเอาไว้
ทว่ายายเด็กนั่นกลับยืนนิ่งตัวสั่นและสบสายตาฉันอย่างหวาดกลัว