“กูไม่ได้หิวขนาดนั้น”
“หึๆๆ มึงไม่หิวแต่มึงเริ่มอาการหนักแล้วนะไอ้กัส เก็บอาการหน่อยเดี๋ยวไก่ตื่น”
“ถ้ากูหิวแล้วกูผิดเหรอวะ?”
“ไม่ผิด สวยแซบขนาดนั้นใครจะไม่หิว แต่จะผิดก็แค่คะนิ้งเป็นเพื่อนสนิทเจ้าขาและมึง...แค่อยากกินไม่ได้อยากจริงจังไอ้กัส”
ไอ้ซีเจย์พูดแล้วก็จ้องหน้าผมเหมือนอยากจะเตือนสติผม สายตาที่ไม่ได้กวนตีนเหมือนทุกครั้งของมันทำให้ผมเองก็นิ่งไป นิ่งพร้อมกับมองหน้ามันเหมือนกัน
“ทำไมถึงคิดว่ากูแค่อยากกินวะ”
“กูเพื่อนมึงไอ้กัส” มันตอบเท่านั้นก็มีเสียงของสุเมธเพื่อนของพัดลมแฟนไอ้ชัตเตอร์ดังทักทายพวกผมซะก่อน การสนทนาของผมกับไอ้ซีเจย์ก็เลยหยุดลง
“ฮาโหลสองสามีขา~”
“ฮ่าๆๆ ว่าไงครับเมีย” ผมหัวเราะกับสรรพนามที่สุเมธใช้เรียกพวกผมเสมอ ก็เเค่เรียกเอาสนุกไม่ได้จริงจังอะไรผมเลยไม่ได้ถือสา แต่ถ้าเป็นผู้หญิงผมไม่ให้ใครมาเรียกแบบนี้หรอกครับเรียกตอนที่มีอารมณ์บนเตียงก็ไม่ได้เพราะถ้าลองได้เรียกแล้วต่อให้เราตกลงกันว่ามันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคราวแต่ผู้หญิงบางคนก็เผลอคิดไปไกลหรือแอบมีความหวังอยู่ดี
“แหม~ เรียกอิมเมจเมียแต่สายตาวันนี้ไม่เคยมองเมียเลยะคะพี่กัส” สุเมธเดินมานั่งข้างๆ ผมแล้วก็ทำหน้างอนใส่จนผม
“หึๆๆ กูบอกแล้วว่ามึงออกอาการชัดเจนไอ้กัส” ไอ้ซีเจย์พูดขึ้นบ้างพร้อมกับมองเยาะเย้ยผม
“พี่มองนะ แต่แอบมองไงสุเมธ”
“เชอะ! แอบมองเมธหรือแอบมองลูกนิ้งของเมธกันแน่คะ นี่ขอเตือนเลยนะคะพี่กัสว่าคะนิ้งเป็นเด็กในสังกัดอีพัดลม เป็นลูกสาวอีกคนของเมธแล้วและที่สำคัญเป็นเพื่อนรักของเจ้าขาด้วย เพราะฉะนั้นความคิดที่จะกินจนฟินแล้วคายทิ้งช่วยล้มเลิกไปเลยค่ะ ถ้าอยากกินก็แค่อ่านกินพอนะคะ” สุเมธพูดเตือนผมแบบร่ายยาวแถมยังจ้องหน้าผมเขม็งอีก
“อยากกินคนใกล้ตัวนี่ดูลำบากดีเนอะ” ผมไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากทำเป็นพูดเล่นกลับไปด้วยหน้าที่ยิ้มนิดหน่อยของผม
“อยากกินได้ค่ะแต่ต้องมั่นใจว่าพร้อมให้เป็นคนใกล้ตัวที่ใกล้ใจ ปัญหาจะได้ไม่ตามมาแต่ถ้าไม่พร้อมก็หยุดดีกว่า ยังไงพี่กัสก็มีผู้หญิงเยอะอยู่แล้ว” คราวนี้สุเมธพูดแบบไม่ติดตลกส่วนผมก็รู้ดีครับว่าถ้าฟันแล้วทิ้งมันมีปัญหาทีหลังแน่ๆ ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ
“บางทีคะนิ้งอาจจะเป็นคนนั้นก็ได้” ผมบอกเสร็จก็นิ่งไป กำลังคิดถึงผู้หญิงสวยที่แอบมีบุคลิกแปลกๆ อย่างคะนิ้ง คนที่สวย แซบ เซ็กซี่ มีความมั่นใจในตัวเอง ดูหัวรั้น แล้วก็ดูเป็นผู้ใหญ่เพราะผมเคยได้ยินเจ้าขาเล่าเรื่องของเจ้าขาให้ฟังว่ามีเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือดูแลให้คำปรึกษาอยู่ แล้วเพื่อนของเธอก็มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มาก แต่ผมว่าคะนิ้งมีความโก๊ะซ่อนอยู่ ท่าทางจะโก๊ะมากซะด้วย ถ้าได้สัมผัสตัวตนนั้นของเธอก็คงมีความสุขไม่น้อยเลยนะผมว่า
“ไอ้กัส”
“อืม มีไร” ผมหันหน้าไปมองไอ้ซีเจย์ที่เรียกชื่อผมพร้อมกับมองหน้าผมแบบไม่เชื่อสายตา
“มึงจะบอกว่ามึงจริงจัง?”
“หึๆๆ กูบอกว่าบางที ไม่ได้ยินเหรอวะ” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ ผมบอกว่าไงนะ...บางทีคะนิ้งอาจจะเป็นคนนั้นก็ได้ ใช่ไหมครับ แค่บอกว่าบางทีเท่านั้นเอง
“ไอ้ห่า”
“เหมือนจะดีเลยค่ะพี่กัสขา แต่ทำไมดูแฝงความชั่วก็ไม่รู้ แหะๆๆ” ทั้งไอ้ซีเจย์แล้วก็สุเมธพากันคอมเม้นท์ผมหลังจากที่ผมพูดจบก็ไม่เป็นไรครับผมไม่ว่าเพราะมันก็จริงทั้งนั้น
“เอาเป็นว่าถ้าไม่มั่นใจว่าจะจริงจังจะไม่กินน้องเขาก็แล้วกัน” ผมตอบทั้งสองคนไปทำให้สองคนนี้มีสีหน้าดีขึ้น
ทีแรกก็อยากกินนั่นแหละ อยากมากหิวมากด้วยแต่เรื่องที่คะนิ้งเป็นคนใกล้ตัวก็ติดอยู่ในใจผมเหมือนกัน ยิ่งได้มาใกล้ชิดถึงจะแค่วันเดียวผมก็ทำไม่ลงแล้วครับ เอาเป็นว่าผมจะรอให้แน่ใจก่อนว่าคะนิ้งคือคนที่ผมอยากจริงใจด้วยไหม ถ้าใช่ผมจะเดินหน้า ถ้าไม่ใช่ผมจะหยุด
แต่...ถ้าน้องเขาเกิดอยากมีความสัมพันธ์แบบชั่วคราวกับผมไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อันนี้ก็มาว่าผมไม่ได้เหมือนกันนะครับถ้าผมจะกินทันทีโดยที่ไม่ต้องถามใจตัวเองให้ดี
“อ้าวหนูนิ้งลูก~” เราคุยกันเท่านั้นก่อนจะเงียบกันแค่แป๊บเดียวยังไม่ได้คุยต่อสุเมธก็หันไปเห็นคะนิ้งที่เปิดประตูเดินออกมาพอดี พอผมหันไปมองตามก็เห็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่เดินยิ้มอารมณ์ดีออกมา
“ค่าพี่สุเมธ นอนหลับสบายไหมคะ”
“หลับที่ไหนล่ะลูกสาวคุณแม่นอนส่องผู้ใน IG อยู่ อิอิ”
“อ้าว รู้งี้นิ้งไปชวนมาเล่นน้ำด้วยกันดีกวาค่ะ” คะนิ้งพูดไปยิ้มไป ยิ้มสวยจนผมมองเพลินเลยครับ
“หนูลงมาเล่นน้ำเหรอ คนเดียวนี่นะ”
“ค่ะ แต่มีพี่ซีมานั่งเล่นเป็นเพื่อนเลยไม่เหงา สนุกดีค่ะ” พอคะนิ้งพูดถึงตรงนี้ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบนหน้ามันกระตุกยังไงก็ไม่รู้ว่ะ ไม่เหงาแถมสนุกเพราะไอ้ซีเจย์นี่นะ
“หึ!” นอกจากจะหงุดหงิดในใจผมก็ยังเผลอแค่นเสียงใส่แบบไม่รู้ตัว เพิ่งมารู้ตัวก็ตอนที่สุเมธกับไอ้ซีเจย์หันมามองผมแบบพร้อมใจทั้งสองคนนั่นล่ะครับ ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ผมปรายตามองสุเมธด้วยสายตาขอร้องแกมบังคับให้หายไปจากที่นี่ สุเมธเป็นคนฉลาดครับเห็นสายตาผมแค่นิดเดียวก็อ่านออกแล้ว
“เอ่อ...พี่ซีเจย์ขา พอดีว่าเมธต้องไปซื้อ ไปซื้อเอ่อ...ซื้อยาคุมน่ะค่ะ!”
“ห้ะ! ซื้อยาคุม?” ไอ้ซีเจย์อ้าปากเหวอกับข้ออ้างของสุเมธ ผมเองก็เกือบหลุดแล้วครับแต่ดีที่ผมคีพลุคเก่ง
“คะ ค่า~ กระเทยต้องกินยาคุมค่ะสามีขา พาไปหน่อยได้ไหมคะ นะคะ” สุเมธมองซีเจย์ตาปริบๆ ไอ้ซีเจย์ก็เลยต้องจำยอมพาไป ดีนะครับที่เอารถสปอร์ตมากันทั้งนั้น ปัญหาที่ต้องชวนคะนิ้งไปด้วยตามมารยาทก็เลยถูกตัดไปง่ายๆ เพราะที่นั่งมันนั่งได้แค่สองคนอยู่แล้ว
“โอเคครับไปเลยไหม”
“ค่า หนูนิ้งลูกเดี๋ยวคุณแม่มานะคะเอาอะไรไหมถ้าเอาโทรบอกได้เลยนะ นั่งคุยกับพี่กัสไปก่อนพี่กัสใจดีมาก~ ส่วนที่เหลือน่าจะลงมาช้าเพราะกำลังพรีฮันนีมูนอิอิ” สุเมธพูดเสร็จก็โบกมือลาคะนิ้งแล้วก็ควงแขนไอ้ซ๊เจย์เดินออกไป ขอบคุณสองคนนั้นที่ถึงจะพูดขัดผมอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ขวางคอไปทั้งหมด
“หิวรึเปล่า” พอที่ตรงนี้ไม่มีใครนอกจากเราสองคนคะนิ้งก็เลยนั่งลงที่เตียงริมสระข้างๆ ผมก็เลยชวนคุยซะเลย
“นิดหน่อยค่ะ แต่รอมื้อเย็นดีกว่า” เสียงหวานเซ็กซี่ของเธอตอบกลับมาแบบสบายๆ ดูไม่แอบเกร็งเหมือนตอนอยู่บนรถกันสองคนแต่ทำไมกลายเป็นผมที่เกร็งแทนก็ไม่รู้
“อื้ม” ผมรู้สึกเกร็งเพราะเธอดูไม่สนใจผมนี่ล่ะครับ แม่งเกิดมาไม่เคยจีบผู้หญิงก่อน ไม่ใช่ว่าจีบไม่เป็นแต่ไม่เคยต้องจีบใครมันเลยรู้สึกขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้ที่ต้องทำ
“พี่เวกัสหิวเหรอคะ”
“เปล่าครับ ไปเดินเล่นกันไหมกว่าคนอื่นจะลงมาคงอีกนาน” อ่าส์~ เริ่มแล้วมุกจีบหญิงที่ผมไม่อยากใช้ แต่ก็คงต้องใช้เพราะผมเริ่มอยากรู้จักตัวตนของคะนิ้งมากขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ส่องรูปเธอใน IG แล้วอยากลากขึ้นเตียง ตอนนี้มันเริ่มอยากรู้จักตัวตนของเธอขึ้นมาแล้ว
“เดินเล่นเหรอคะ”
“อื้ม อากาศกำลังดีเลย” ผมตอบคนที่ถามย้ำพร้อมกับขมวดคิ้วนิดหน่อยใส่ผม
“อืม...อย่าดีกว่าค่ะ เดินเล่นริมหาดมันต้องเดินเล่นกับหนุ่มๆ มาเดินเล่นกับพี่ตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแบบนี้นิ้งว่ามันไม่อินเท่าไหร่” คะนิ้งยิ้มตอบผม ไม่ใช่รอยยิ้มเล่นตัวนะครับ เธอพูดจาฉะฉานมั่นใจเลยต่างหาก พูดไปยิ้มไปด้วยซ้ำ
“พี่ก็ไม่ได้จะชวนไปเดินเล่นในฐานะพี่น้องสักหน่อย แบบนั้นพี่ก็มองว่ามันแปลกๆ เหมือนกัน อีกอย่างพี่เดินกับคนสวยๆ แล้วคิดแค่น้องสาวไม่ลงหรอก”
“คะ? หมายความว่าไงคะ” คะนิ้งหน้าเหลอหลาขึ้นมาจนผมอดยิ้มไม่ได้
“ก็หมายความว่าพี่จะจีบเราไง ไปได้รึยังครับ ไปเดินจีบกันดีกว่า”