หลังจากวันที่ขึ้นรถวนอยู่หน้าร้านเหล้ากับคชา มันก็เหมือนวาริชจะบังเอิญเจอเขาบ่อยขึ้น แถมยังถี่มากอีกด้วย วันๆนึงเกือบจะ 3 รอบ เช้า กลางวัน เย็น
“โอ้ยคชา! ถ้ารีบก็ไปหาร้านอื่นไป มาเร่งอยู่ได้ กะอีแค่ชุดแฟนใหม่”
วาริชมองร่างสูง ที่นั่งหน้าตึงอยู่โซฟารับแขกในร้านตัดชุดราตรีของเธอ คชามาบอกให้เธอช่วยตัดชุด เพื่อเอาไปให้แฟนของเขา ใส่ไปงานเปิดตัวอะไรสักอย่างนี่แหละ วาไม่ได้ตั้งใจฟัง และตอนนี้คชาก็มาเร่งวา เช้า กลางวัน เย็น คือถ้ารีบก็ไปร้านอื่น วาทำไม่ทันจริงๆ
“เขาบังคับมาว่าต้องเป็นร้านนี้”
ตอนนี้แบรนด์เสื้อผ้าของวาริชกำลังมาแรง ด้วยราคาที่มันไม่ค่อยแพง แต่ชุดที่เธอทำออกมา กลับดูสวยหรูเพราะเนื้อผ้าที่ดูเหมาะสมกับราคานั่นแหละ
“แต่มาเร่งวาไม่ได้ไง งานคนอื่นวาก็ยังทำไม่เสร็จ รู้จักลำดับก่อนหลังไหมคะคุณคชา คุณมาทีหลังคุณก็ต้องรอ”
วาริชกำลังตัดแพทเทิร์นชุดอยู่ แต่สมองเธอทำงานได้ดี แม้ปากจะกำลังถกเถียงกับลูกค้าอย่างคชา แต่มือเธอกลับยังทำงานไม่หยุดหย่อน
“ก็ไม่ได้เร่งอะไรนี่ แค่มาดูว่าทำไปถึงไหนแล้ว”
คชามองดูร่างบางที่ไม่เคยเงยหน้ามาให้เห็นเลยสักครั้ง เธอเอาแต่ก้มหน้าทำงานตั้งแต่เขาเข้าร้านมา เธอรับรู้การมาถึงของเขาจากพนักงานในร้านนั่นแหละ แม้ปากจะตอบกลับเขาตลอด แต่ไม่เคยเงยหน้าขึ้นมามองกันเลย
“ถ้าเสร็จแล้วจะส่งไปให้ ไม่ต้องมารอทุกวัน เกะกะ”
วาริชวางผ้าที่เธอตัดแพทเทิร์นลง งานทุกอย่างที่เธอเตรียมเสร็จหมดแล้ว จึงได้เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกใกล้ๆ ก่อนจะเห็นว่าเขาส่งยิ้มมาให้นิดๆ คชาแม่งหล่อดีนะ แต่ปากหมาไปหน่อย
“อย่ามาทำเหมือนจีบ”
ไม่ชอบเลยไอ้สายตาจากใบหน้าหล่อเหลา ที่มองเธออยู่ตอนนี้ มันเหมือนหมาหยอกไก่ อ่อยเล่นๆแต่ไม่คิดจริงจัง
“หลงตัวเองจัง”
“ไม่จีบแล้วเรียกอะไรวะ มันจะมีใครทำเหมือนคชาบ้างละ มาเช้า กลางวัน เย็น แกมันบ้าคชา ชุดที่สั่งตัด วาก็บอกไปแล้วว่าอีกสองวัน สองวันคือเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับ ไม่ต้องมาบ่อยเข้าใจไหม ”
คชาเป็นลูกค้าใหม่ที่โคตรจะหน้ามึน เล่นมาทุกวัน 3 เวลา เธอต้องหมดค่าน้ำดื่มเพราะเขาคนเดียวไปเยอะโข ไหนจะค่าขนมที่เขาขอกินอีกนะ ทำอย่างกะคนอดอยาก มันเปลืองรู้ไหม
“อยากเจอ”
ร่างบางที่กำลังจะหันหลังไปเย็บชุดต่อ ต้องหันขวับกลับมาทันที กับคำพูดของคชา
“อยากเจอเด็กร้านวา เด็กร้านวาแม่งเด็ด”
คชายกยิ้ม ให้ใบหน้าสวยที่เบะปากใส่เขา ทันทีที่เขาพูดจบ จากนั้นวาริชก็หันไปเย็บชุดของลูกค้าเหมือนทุกวัน ขี้เกียจจะสนใจแล้ว เหม็นขี้หน้า
คชาไม่ได้สนใจเด็กในร้านของวาริชหรอก แม้เด็กในร้านเธอจะเด็ดจริงๆ แต่เขาว่าเจ้าของร้านเด็ดกว่าเยอะเลย หุ่นดี อกใหญ่ หน้าสวย ขาวด้วย แต่ปากจัดไปหน่อย
“เหมย ชุดลูกค้าเสร็จแล้วจ้า ช่วยแพคแล้วส่งไปตามที่อยู่ในลิสต์รายชื่อด้วยนะ”
วาริชบรรจงพับชุดที่เธอตัดเย็บอย่างดี มาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ร่างบอบบางของพนักงานในร้านจึงเดินมาหยิบไปแพค และทำหน้าที่ต่อจากนี้เองทั้งหมด
วาริชเปิดร้านนี้มาตั้งแต่ยังเรียนแฟชั่นดีไซด์อยู่ มันส่อแววจะพังมาตั้งนาน แต่เธอได้เงินจากที่พนันกับเพื่อนเมื่อ 5 ปีก่อนมาค้ำจุน ไหนจะเงินที่คชายกให้อีก เธอจึงมีร้านที่กำลังเป็นกระแสดังอยู่ในตอนนี้ เป็นแหล่งทำรายได้หลักในชีวิตเธอ
อยากจะขอบคุณเขาเสมอ แต่เขากับเธอไม่เคยเจอกันอีกเลย มันนานมากกับความรู้สึกเมื่อตอนนั้น แม้ตอนนี้ยังอยากขอบคุณ แต่มันก็อายจนไม่กล้าบอก
“คชา ลูกค้าวาเยอะมากเลยอะ มันเกะกะ คชากลับไปก่อนได้ไหม”
วาริชเอ่ยปากไล่เหมือนทุกที คชาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ไม่เห็นมีใครอยู่ในร้านสักคน มีแต่เขากับพนักงานของเธอ ที่บอกว่าลูกค้าเยอะนี่โกหกชัดๆ
“พรุ่งนี้จะมาใหม่”
“คชา แกว่างมากรึไงห่ะ วารำคาญอะ มันทำงานไม่สะดวก ดูดิลูกค้าไลน์มาเร่งงานวาให้วุ่น แต่วาต้องมานั่งเถียงกับคชาอยู่ทุกวัน จนงานล่าช้า วาขอเถอะ ได้ชุดแล้วจะโทรหา”
ไม่ได้อยากจะไล่ แต่มันทำงานไม่สะดวกจริงๆ
“ไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อดิ แล้วจะหยุด”
มันเหมือนมีอะไรค้างคา เขาก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่เขามั่นใจคือเขาอยากมาเจอเธอทุกวัน
“วาว่างแค่คืนนี้นั่นแหละ หลังจากนี้งานแน่นมาก ว่างอีกที เดือนหน้าถ้ารอไหวค่อยนัดอีกที”
“พูดแล้วนะ ว่างก็โทรมา”
คชาวางโทรศัพท์ตัวเองลงบนโต๊ะ เขาไม่มีเบอร์เธอ เธอก็น่าจะไม่มีเช่นกันนั่นแหละ เขาไม่เคยขอเบอร์ใคร แต่ทำอย่างนี้เธอน่าจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร
“เบอร์มีแล้ว มันมีอยู่ตอนรับงานอะ เดี๋ยวโทรบอกละกัน”
เธอต้องมีเบอร์ติดต่อลูกค้าทุกคน เบอร์คชาจึงอยู่ในนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย วาริชมองคนที่จากไปด้วยสายตาเรียบเฉย ไอ้นี่ชอบมาป่วนให้คนเขาหวั่นไหวเล่นรึไงกัน
ผ่านไปสองวัน คชาไม่ยอมโผล่หน้ามาที่ร้านของเธอเลย มันก็ดี
ดีกับผีอะดิ ชุดที่เขาสั่งตัด เธอทำเสร็จแล้ว แต่เธอโทรติดต่อเจ้าของชุดอย่างคชาไม่ได้เลย เอาแล้วไง เธอกำลังโดนคชาปั่นหัวแน่ๆ
“คุณวาคะ สรุปจะให้ส่งชุดไปตามที่อยู่ หรือรอลูกค้ามารับเองคะ”
เหมยถือถุงกระดาษมาวางลงที่โต๊ะทำงานของวาริช ข้างในมีชุดที่วาริชอดหลับอดนอนทำให้มันเสร็จทันกำหนด แต่เจ้าของชุดกลับติดต่อไม่ได้ นี่ก็จะปิดร้านแล้วด้วย เธอเห็นคุณวาบ่นตั้งแต่เช้ายันจะปิดร้าน จนแอบสงสารว่าคุณวาของเธอจะคอแห้งเอา
“เหมยกลับเลยจ๊ะ เดี๋ยวพี่วาจัดการที่เหลือเอง หยิบขนมในตู้กลับไปฝากเด็กๆด้วยนะ”
วาริชโบกมือไล่เหมย ไม่วายบอกให้เธอหยิบขนมไปฝากหลานตัวเล็กๆที่บ้านของเธอด้วย เหมยที่อายุเพียง 18 ปี จึงยกมือไหว้ขอบคุณแล้วเดินไปหยิบขนมสองสามอัน ตามมารยาท แล้วออกไปจากร้านทันที
“เลขหมายที่ท่านเรียก”
เสียงผู้หญิงคนเดิม ดังมาจากโทรศัพท์ของวาริช เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ถ้าโทรอีกรอบไม่ติด วาจะโยนชุดทิ้งแล้วนะคชา
[โทษทีวา ประชุมเพิ่งจบ]
วาริชกดโทรอีกครั้ง คชาก็รับสายของเธอทันที แถมรู้ด้วยว่าเป็นวาริช เพราะวาริชยังใช้เบอร์เดิมมาตลอด 5 ปี เบอร์ลูกค้าเธออยู่ในนี้ทั้งหมด การเปลี่ยนเบอร์มันทำให้ลูกค้าหาย เธอจึงไม่เคยเปลี่ยนเลย
“จะเอาไหมชุด”
[เอามาส่งหน่อย เลิกงานแล้วนี่ ติดธุระ เอามาให้หน่อยนะ คอนโด x เจอกันหนึ่งทุ่มนะวา] ตูดๆๆ
เอ้า! วายังไม่ได้ตอบเลยว่าจะเอาไปให้ คชาก็กดวางไปแล้ว แถมโทรกลับก็ไม่ติดอีก เงินก็ยังไม่จ่ายเลยนะเห้ย โอ้ย! ต่อไปไม่รับงานคชาแล้ว เรื่องมาก
วาริชขับรถของตัวเองมาจอดลงที่คอนโด x ก่อนจะขับรถไปจอดหน้าคอนโดนั่นแหละ ไม่ได้จะมาอยู่นาน หวังว่ายามจะไม่มาล็อคล้อรถเธอนะ จอดแป๊บๆคงได้แหละมั้ง
ร่างแบบบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เดินเข้าไปในคอนโด ที่เหมือนจะเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าดูดีและหรูหรามาก แถมยังเหมือนว่าจะมีงานภายในคอนโดแห่งนี้ด้วยนะ คนเยอะมากเลยอะ แต่ละคนดูดี มีเงินกันทั้งนั้น แล้วดูอีวาตอนนี้สิ สภาพแย่สุดๆเพราะเพิ่งผ่านพ้นการปั่นงานให้ลูกค้ามาหมาดๆ
“อยู่ไหนวะ โทรก็ไม่ติด”
วาริชประสาทจะกิน คชาไม่บอกอะไรเลย แล้วเธอจะหาเจอได้ยังไง คนเยอะแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเอากับคนอื่นอยู่ห้องไหนสักห้องหรอกนะ
“วาริช”
ใบหน้าสวยหวานหันไปมองตามเสียงเรียก แต่เธอแทบจะมุดดินหนีทันทีที่หันไปเจอสายตาผู้คน
จะเรียกเสียงดังทำไม คนหันมามองกันทั้งงาน บางคนก็ทำหน้าสงสัย บางคนก็ยิ้มขำกับสภาพของเธอ ส่วนคนที่เรียกเธอยิ้มหน้าบานเลย เมื่อเห็นสภาพหน้าสดของอีวา
“คชา มาเอาชุดเร็วๆดิ อายจะตายอยู่แล้ว”
วาริชกวักมือเรียกอยู่ไกลๆ จนคชาเดินมาใกล้ เธอจึงได้เอ่ยเร่งอีกครั้ง ส่วนร่างสูงที่อยู่ในชุดสูท เอาแตายิ้มขำ กับชุดที่วาใส่เข้ามาในงานเปิดตัวคอนโดของเขา
“ตามมานี่แปปนึงสิ”
ร่างบางเดินตามคนที่สูงกว่าไปเงียบๆ อยากจบงานวันนี้เต็มทีแล้ว เหนื่อยมากๆ ถ้าไม่ตามไปเธอจะไม่ได้เงินค่าชุด และบวกค่าเซอร์วิส ที่ขับรถมาส่งถึงที่นี่อีก เธอจะเรียกราคาให้หนักเลยคอยดู
“ 3 หมื่น หมื่นห้าค่าชุด หมื่นห้าค่าจัดส่ง” ที่จริงไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก แต่พิเศษสำหรับคชา ต้องเรียกแพงๆไว้ เงินแค่นี้ไม่สะเทือนขนหน้าแข็ง ของคชาหรอกนะจะบอกให้
“ใส่ชุดนั่นไปเดินในงานเปิดตัวคอนโดด้วยกันแปปนึงดิ แล้วจะให้เพิ่ม”
คชามองหน้าวาริชนิ่งๆ ตอนแรกเขาตั้งใจจะเปิดตัวผู้หญิงของเขาในงาน แต่ยัยนั่นกลับเทซะได้ ตอนนี้ีคนถามตลอดทั้งงานว่าผู้หญิงของคชาไปไหน เอายัยวาแก้ขัดไปก่อนละกัน ไม่งั้นพ่อเขาได้ด่าข้ามปีแน่ๆ
“ขัดสนขนาดนั้นเลย”
“ก็ไม่ขนาดนั้นน่า แต่ถ้าวาไม่ช่วยวันนี้ คชาแย่แน่ พ่อบอกว่าถ้าไม่มีตัวจริง เขาจะให้แต่งงานกับคนอื่นอะ คชายังไม่อย่างมีห่วงผูกคอ ช่วยเล่นละครตบตา แค่คืนนี้คืนเดียวพอ นะวาริช”
ไม่รู้ว่าคชาเดินมาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้หน้าเขาอยู่ใกล้เธอนิดเดียว ใกล้จนเธอได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากลมหายใจของเขา
“คิดซะว่า วาทำเพื่อตอบแทนเงินสองแสน ที่คชาเคยยกให้วาละกัน รอแปปนึง วาขอแค่ 10 นาทีพอ”
วาริชพูดจบก็หายไปอีกห้อง ที่มันเป็นห้องน้ำนั่นแหละ เธอจัดการใส่ชุดราตรีที่ตัวเองเป็นคนตัด ไม่ต้องคิดเรื่องขนาดเลย เธอเป็นคนตัดเอง เธอรู้ดีว่าใส่ได้ ตอนตัดยังสงสัยเลยว่าชุดมันวัดจากขนาดตัวเธอหรือเปล่า ทำไมไซส์ที่คชาสั่งตัดมันถึงเหมือนไซส์เธอเปะๆขนาดนั้น
วาริชล้างหน้าอย่างรีบๆ จากนั้นก็หยิบเครื่องสำอางที่พกติดตัวไว้ตลอดเผื่อฉุกเฉิน หยิบมาจัดการแต่งหน้าด้วยความรีบร้อน เรื่องอะไรอีวาจะออกไปด้วยสภาพหน้าสดแบบนั้น ได้อายคนทั้งประเทศแน่ๆ
“พร้อมแล้ว ไปเลยไม่ต้องวิจารณ์ รู้ตัวดีว่าแต่งหน้าแล้วสวย”
ถ้าวาริชได้แต่งหน้าอะไรก็มาหยุดความมั่นหน้าของเธอไม่ได้หรอก มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเครื่องสำอางจะขายดิบขายดีหรือไง เดี๋ยวนี้ผู้ชายบางคนก็แต่งหน้านะเออ หรือวาริชจะทำแบรนด์เครื่องสำอางออกมาตีตลาดบ้าง คงจะขายดีมากแน่ๆ
“ไม่ต้องพูดอะไรมากนะ เดี๋ยวจัดการเอง”
เขาไม่ชอบถูกควบคุมเท่าไหร่ แค่คนที่เขาพาไปด้วยเงียบให้ได้มากที่สุดก็พอ ที่เหลือเขาจัดการเอง
วาริชยักไหล่นิดๆ ไม่ชอบคนบงการชีวิต เท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าจะทำตาม แต่ถ้าวาริชถูกใครก็ตาม คุกคามทางคำพูดวาริชฟาดกลับแน่ๆ ไม่เกรงจงเกรงใจใครทั้งนั้นแหละ
“ไปไหนมา เขารอให้เจ้าของกล่าวเปิดงานตั้งนาน มัวแต่ไปยุ่งอยู่กับผู้หญิงไร้ค่าอย่างนี่นะเหรอ”
วาริชมองคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีนิ่งๆ ไม่สนใจคำพูดดูถูกดูแคลนหรอก วาริชไม่เคยคิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่จำเป็นต้องดิ้นไปกับคนที่โตแต่ฐานะทางสังคม ส่วนความคิดที่มีไม่ได้โตตามฐานะเลย
“วาไม่ได้ไร้ค่า คนนี้อย่ายุ่ง”คชาจับมือวาริชเดินผ่านหน้าคนเป็นพ่อไปอย่างไม่สนใจใยดี
เขาไม่ใช่ลูกรักอยู่แล้ว ถึงจะเป็นลูกคนเดียวตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่ลูกรัก เหมือนพี่ชาย ที่เป็นลูกนอกสมรสของคนเป็นพ่อเท่าไหร่ เขามันลูกนอกคอกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“วาริช” ร่างเล็กๆของมาดาม เดินมาทางวาริชกับคชา ส่วนข้างๆเธอคือแมททิวพี่ชาย และกลุ่มเพื่อนของคชา ที่มางานเปิดตัวคอนโดใหม่ของเขา
“น้องวา/น้องวา/วา?”
วาริชยกมือไหว้แมททิว เอเดน และเบล เพื่อนของคชาที่เธอก็รู้จัก คนทั้งสามรับไหว้จากเธอก่อนจะยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ฝากวาด้วย เปิดงานก่อน” ร่างสูงที่แต่งตัวภูมิฐาน เดินไปขึ้นเวที แล้วกล่าวเปิดงานอย่างเร่งรีบ สายตาไม่ได้ละไปจากยัยวาริชที่ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มเพื่อนเขาสักนิด
ไม่รู้จะคุยอะไรกันนักหนา แล้วมันจำเป็นต้องจับมือ หรือโอบไหล่ด้วยเหรอวะ แล้วยัยวานั่น ไม่คิดจะรักนวลสงวนตัวเลยรึไงวะ ยืนให้เพื่อนเขาแทะโลมอยู่ได้
คชากล่าวเปิดงานยังไม่จบ เพราะมีคนถามเรื่องคอนโดเข้ามาไม่ขาดสาย มันเป็นสิ่งที่เขาต้องตอบ และกว่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อย รู้สึกตัวอีกที วาริชกับเพื่อนๆของเขาก็หายไปจากสายตาซะแล้ว
“ถ้ารู้ว่าวาจะมา จะไม่ใส่ชุดนี้มาเด็ดขาด ไม่เกิดเลยอะ”
ชุดวามันเด่นเกินหน้าเกิดตาจริงๆ เพราะสีแดงแปร๊ดของชุดที่วาริชใส่มันช่างแสบทรวง จนคนในงานมองตามตลอด และอาจจะเป็นเพราะเธอเดินคู่มากับคชาเจ้าของงาน ทุกอย่างจึงขับให้เธอโดนเด่นที่สุดในงาน
“วาไม่เหมาะกับงานแบบนี้หรอก ที่มาเพราะจำเป็น”
คนทั้งหมดที่นั่งอยู่กับเธอตอนนี้ รู้ดีว่าเธอแตกต่างจากพวกเขาแค่ไหน พวกเขาเป็นลูกหลานคนดังทั้งนั้น ต่างจากวาริชที่ใช้ชีวิตแบบพื้นๆ ไม่ได้เด่นดังอะไรในวงสังคม