“กลับเดี๋ยวนี้วาริช” แขนของวาริชถูกกระชากอย่างแรงจากชายที่มาใหม่ จนคนที่นั่งเก้าอี้ข้างๆเธอ สะดุ้งตกใจหันไปมอง ส่วนวาริชที่ได้ยินเสียง ทำเพียงแค่กรอกตาอย่างเบื่อหน่าย
“เอากันกับอีนั่นเสร็จแล้วเหรอ” น้ำเสียงราบเรียบถูกวาริชกดให้มันต่ำยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมความโกรธของตัวเองไว้ แขนที่ถูกกระชากไปแรงๆ ก็ไม่สนใจจะร้องขอความปราณี จากผู้ชายที่กระทำกับเธอเลยสักนิด
“วาเข้าใจผิด” ภัทรสร ลดเสียงลง เพื่อตอบคำถามของคนที่เป็นแฟนเขา
“กูเห็นกับตาว่ามึงเอากับมันอยู่ ปล่อยกูเลย” วาริชตะคอกออกไปเสียงดัง ไม่แคร์หรอกว่าใครจะมอง เบื่อเต็มทีกับผู้ชายคนนี้ ไม่คิดจะพูดดีด้วย ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าแฟน เพิ่งไปเอากับคนอื่นมา ต้องพูดดีด้วยไหมละ ก็ไม่
“วาครับ คนนั้นพี่แค่ซื้อมา ก็วาไม่ยอมพี่เลย” ภัทรสร จึงต้องนั่งลงคุกเข่าลงข้างๆ เมื่อคนสวยตรงหน้าเอาจริงจนดูหน้ากลัว ต่างจากวาริชคนเดิม
“กูจำเป็นต้องยอมมึงไหม ไอ้สำส่อนเอ้ย ไปไกลๆเลย รำคาญ” วาริชสะบัดมือออกแรงๆ เมื่อภัทรสรเลื่อนมือขึ้นมากุมมือเธอไว้แน่น แต่แรงเธอเหรอจะสู้แรงควาย
“แต่พี่รักวานะครับ”
“รักเงินกูสิไม่ว่า ออกไป ของในห้องกู มึงไม่ต้องกลับไปเก็บนะ กูโยนทิ้งหมดแล้ว ยังไงก็มีแต่ของที่กูซื้อทั้งนั้น”
พูดจบร่างของวาริช ก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เธอแทบจะถีบคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะเดินตึงตังกลับมาหาเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะเดิม
“ว้าย! ทำไมอิวาเกรี้ยวกราด” แซวมันไปอย่างงั้นแหละ ปกติวาริชไม่ใช่คนแบบนี้ แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำมันก็สมควร ที่อีวาเพื่อนเธอจะโกรธ แค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ
“พูดมาก เลี้ยงเหล้าหน่อยสิ ม๊าขา” วาริชเกาะแขนออดอ้อน อยากเมาให้ลืมความบัดซบที่ไอ้บ้านั่นทำกับเธอที่สุด
“หืม?? คนอย่างอิวา ต้องให้คนอื่นเลี้ยงเหล้าด้วยเหรอ” มาดามแค่หยอกเล่นแหละ ให้เลี้ยงเพื่อนคนนี้มากกว่าเหล้าเธอก็เลี้ยงได้ แม้ฐานะเธอกับเพื่อนจะต่างกันมาก แต่ก็ใช่ว่าอีวาของเธอมันจนซะที่ไหน มันก็แค่หาเรื่องกินฟรีนั่นแหละ
“น้องวอสก้าสองขวด” วาริชไม่สนใจหรอก มาดามไม่เลี้ยงก็จ่ายเองได้ ตอนนี้เธออยากเมา และเหล้าเพรียวๆ คือสิ่งที่เธอต้องการ เมาเร็วก็ลืมเร็ว เมาช้าก็ลืมช้า
“กูต้องแบกใช่ไหมอิวา” มาดาม ถามคนที่ลุกไปนั่งรอเหล้าอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม
เพื่อนเธอไม่เคยร้องไห้เสียใจเรื่องผู้ชาย ทำเหมือนตัวเองไม่รู้สึกอะไรกับใครทั้งนั้น แต่เพื่อนที่คบกันมามากกว่า10 ปี แบบมาดามคนนี้รู้ดี ว่าอีวาริชเพื่อนเธอมันก็เสียใจเป็น
เพียงแต่มันไม่เคยร้องไห้เท่านั้นเอง คนพวกนั้นไม่มีค่าพอให้มันหลั่งน้ำตา นั่นคือคำพูดที่มันติดปากอีวาไปแล้ว
คชาที่กำลังจะออกไปต่อ กับนางแบบหุ่นสะบึ้มถึงกับต้องนั่งลงสั่งเหล้า แล้วดื่มมันเงียบๆ กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ที่เกิดขึ้นข้างๆโต๊ะของเขากับรุ่งฤดี
5 ปีที่ไม่ได้เจอกัน ยัยนั่นนมโตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยอะ เซ็กซี่ขึ้นด้วยมั้ง เพราะดูจากชุดที่มันแหวกจนเห็นขาอ่อนนั่น
แม้ข้างบนชุดของวาจะเรียบร้อย เพราะเป็นเดรสแขนยาวสีแดงปิดหน้าอกอวบอิ่ม แต่ชุดมันสั้นหรือผ้ามันไม่พอ ทำไมมันปิดกางเกงในยัยนั่นไม่มิดเลย และวาริชขยับแต่ละที เขาต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดเสียว เพราะว่าเห็นของดีของอดีตคนที่เขาเคยจีบ
“มองอะไรของแกคชา” วาริชนั่งหันหน้าไปทางโต๊ะของคชา เห็นตลอดแหละว่ามันมองใต้ชุดเดรสของเธอ แถมยังกลืนน้ำลายตลอดเวลา ไอ้โรตจิตเอ้ย
“มันจะได้ยินไหม เพลงดังขนาดนี้” มาดามถึงกับส่ายหน้า ถ้าสนใจมันขนาดนั้นก็เดินไปหามันสิ จะมานั่งจ้องตากันทำไมก็ไม่รู้
“ม๊า มึงเคยเอากับใครรึยัง”
พรวดดดดดดดด
มาดามรีบยกมือปิดปากแล้วนะ แต่มันไม่ทัน เหล้าที่เธอเพิ่งดื่มไปจึงกลายเป็นละอองไปเต็มโต๊ะ แหม๋!! เสียดายที่มันไม่โดนหน้าอีคนที่กล้าถามเธอเรื่องแบบนี้
“เคยสิ”
“เลิกลั่กอย่างเห็นได้ชัด”
“มึงเคยเห็นกูมีแฟนเหรอวา” เมื่อโดนจับได้ก็ต้องตอบออกไปตามตรงนั่นแหละ ถามเรื่องอื่นเถอะ อย่ามาถามเรื่องนี้มาดามตอบไม่ได้นะเพื่อน
“ก็เผื่อซื้อกิน”
มันก็มีเยอะแยะ ถ้าจะหาใครสักคนมานอนด้วย และความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวมันก็ดี มันไม่ต้องมาผูกความรู้สึกไว้กับใครด้วย
“เดี๋ยวอิวา กูเป็นผู้หญิง แม่กูบอก ต้องรักนวลสงวนตัว”
“ก็เลยนั่งเหงาอยู่บนคานใช่ไหม”
“ก็แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่เว้ย”
ไม่ใช่แค่มาดามหรอก เธอก็เหมือนกัน ทุกคนที่ผ่านมาไม่ใช่สักคน จนตอนนี้วาริชเริ่มอยากเปลี่ยนความคิดแล้ว ว่าอยากจะใช้ชีวิตอยู่บนคานเหมือนมาดาม
สองสาวนั่งกินเหล้าเงียบๆ ไอ้คนที่ใช่ของพวกเธอมันไปมุดอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาสักที นี่รอมาจนอายุ 25 ปีแล้ว แต่ไม่เคยเจอกันเลย หรือไอ้คนที่ใช่ของพวกเธอ มันโดนใครฉุดไปแล้ววะ
หรือเพราะมาตรฐานสูงอย่างที่เพื่อนคนอื่นๆว่าเหรอ ก็ไม่นะ คนธรรมดาพวกเธอก็เคยคบ แต่พอรู้ว่าพวกเธอรวยหน่อย นิสัยปอกลอกก็มาแระ ส่วนคนที่รวยกว่าก็ชอบอวดว่าตัวเองรวย ไม่มีความพอดีสักคน
“เมายังวา” มาดามมองคนที่ก้มหน้าไปกับโต๊ะ เวลาที่วาริชมันเครียดมันจะกินเหล้าอย่างเดียว ก็ดีที่มันไม่ไปวุ่นวายโต๊ะอื่น เพราะเธอขี้เกียจตามล้างตามเช็ด
“ยัง แต่มึนหัวนิดหน่อย แกไม่ต้องคิดจะแบกฉันหรอกม๊า ตัวแกก็แค่นั้น” วาริช เงยหน้ามาบอกคนที่ตั้งใจจะแบกเธอกลับบ้าน
มาดามสูงแค่ 155 เองมั้ง ส่วนวาริชสูง 168 แต่อิม๊ามันสวยมากเลยไง ตัวเล็กเหมือนเด็กญี่ปุ่น หน้าก็สวย ตาก็โต จนวาริชแอบอิจฉา ถ้าวาเป็นผู้ชายวาจะจีบอีม๊านี่แหละ
“อะไร เคยแบกแกแล้วเถอะ” ก็คบกันมาตั้งหลายปี มันก็ต้องมีบ้างที่เธอได้แบกอิวากลับด้วยสภาพเมามาย แม้ส่วนมากอิวาจะแบกเธอกลับก็เถอะ
“วาไม่เมาหรอก เสียดายเหล้า” เวลาวาเมาทีไรมันไม่พ้นต้องอ้วกแตกทุกที วาจึงรู้ลิมิตตัวเอง ว่าควรพอตอนไหน
“แต่นั่นจะหมดขวดแล้วนะเว้ย เหล้าเพรียวนะมึง”
“เดี๋ยววามา”
ไม่รอให้อิม๊าบ่นหรอก วาริชเดินไปหยุดตัวเองลงที่โต๊ะของคชากับนางแบบที่เธอเคยเห็นผ่านๆ และตอนนี้ใบหน้าสวยของเธอ ก็ตั้งหน้าตั้งมองผู้ชายที่ถูกนางแบบสาวคล้องแขนอยู่ เพียงอย่างเดียว มองนิ่งๆเหมือนหาเรื่องนั่นแหละ
“ซวยแล้ว อิวากลับมา!!” มาดามตะโกนตามหลังมา แต่วาริชเลือกที่จะโบกมือบอกว่าไม่ต้องยุ่ง มาดามจึงต้องนั่งลงนิ่งๆ แล้วรอดูความชิบหายที่เพื่อนเธอกำลังจะทำ
“คชาคืนนี้วาว่าง ไปด้วยกันไหม”
คชามองหน้าคนที่ยืนรอคำตอบจากเขา เธอจะเล่นอะไรอีก เขาตามอารมณ์คนอย่างวาริชไม่ทันเลยสักครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่อ่านยาก แต่มันก็ดูน่าค้นหามากพอๆกัน
“ไม่เห็นเหรอว่าเขามีเจ้าของ ถ้าคันมากก็ไปหาคนอื่นสิ” รุ่งฤดีพูดเสียงนิ่ง ใบหน้าสวยของนางแบบสาวเชิ่ดขึ้นน้อยๆ เธอต้องรักษาภาพลักษณ์นางแบบของตัวเอง พยายามไม่แสดงตัวว่าหึงหวงเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่คชาไม่ชอบ
“ไปไหม ถ้าไม่ไป จะได้ไปหาคนอื่น”คนที่สองสบตากันนิ่ง คชาเป็นผู้ชายที่ดูเหมือนจะชอบควบคุมคนอื่น มากกกว่าถูกคนอื่นควบคุม
ตอนนี้เขาคงคิดว่า เธอกำลังเป็นคนเดินเกม ถ้าเขาไปกับเธอ ก็เท่ากับเดินไปเป็นเบี้ยให้เธอกิน วาริชรู้ดีว่าคำตอบของคชาคือไม่แน่นอน
“ไม่อะ หาคนอื่นเถอะ” ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าผู้หญิงอย่างวาริชตอนนี้นิสัยเป็นยังไงบ้าง
5 ปีที่ไม่ได้เจอ เขาแทบจะไม่รู้เลยว่าเธอเปลี่ยนไปแค่ไหน ก็ถ้าใจกล้ามาถามเขาขนาดนี้ ก็คงโดนมาไม่น้อยแล้วละ และเขาไม่ชอบของเหลือซะด้วยสิ
วาริชไม่สนใจคำพูดของคชา แต่เธอเลือกที่จะนั่งลงบนตักเขา จนโดนนางแบบอย่างรุ่งฤดีกระชากแขนอย่างแรง
“คชาเป็นแฟนฉัน”
“ก็แค่คนที่คชายังไม่ได้เอาอะ อย่าเข้าข้างตัวเองเลย สงสาร!”
วันนี้วาริชโดนกระชากแขนไปกี่รอบแล้วเนี้ย กระดูกหักหมดแล้วมั้ง แต่ละคนนี่กินควายเข้าไปรึไง ถึงไม่คิดจะออมแรงกับวาริชเลย
“แก!!”
รุ่งฤดีปล่อยมือที่กระชากแขนวาริชออก หวังจะใช้มือนั่น ฟาดหน้าคนที่ลอยหน้าลอยตาอยู่บนตักของคชาอย่างถือดี ยัยบ้านี่มันเป็นใคร ทำไมคชาถึงยอมให้มันนั่ง ทั้งที่เธอนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน
“จุ๊ๆ อย่าเกี้ยวกราดสิคะ เดี๋ยวคนได้แห่ขึ้นแฮชแท็กหรอก คราวนี้ได้ดังกว่าเกาะคชา ลูกหลานไฮโซแน่ๆ”
วาริชจุ๊ปากใส่คนที่เงื้อมือหวังฝากรอยนิ้วทั้งห้าบนหน้าเธอ ก่อนจะยิ้มเหยียดหยันเมื่อแม่นางแบบคนนั้น วางมือลงบนตักเพราะกลัวตัวเองเป็นข่าว
“จะเล่นอะไร”
ใบหน้าคมคายก้มลงไปถามคนที่นั่งอยู่บนตัก ตัวก็นุ่มนิ่มหนุบหนับน่าฟัดดี แถมยัยนี่ยังหันหน้าเข้าหาเขา จนหน้าอกเธอแอบโดนตัวเขาผ่่านเนื้อผ้าบางๆที่มันกางกั้น เขารับรู้ทุกไออุ่นของเธอ แต่ไม่รู้เธอจะรู้สึกอะไรไหม เพราะใบหน้าเธอไม่ต่างจากเดิมเลยสักนิดเดียว
“ช่วยหน่อยดิ ไอ้นั่นแฟนเก่า มันเพิ่งไปเอากับคนอื่นมา ตอนนี้มันไม่ยอมไปอะ”
วาริชมองไปทางอดีตแฟนที่ยังไม่ไปไหน เขาเอาแต่นั่งกินเหล้าอยู่อีกมุมของร้าน แต่สายตาจ้องมองที่เธออย่างน่ากลัว
“มาขอร้องให้แฟนเก่าอีกคนช่วยนี่นะ” คชาแอบสูดดมกลิ่มน้ำหอมที่มันลอยมาแตะจมูก ส่วนมือข้างที่ว่างก็จับมือคนที่เขาพามาด้วยแน่นๆ ไม่ได้จับปลาสองมือ แต่ไม่อยากให้รุ่งฤดียุงกับวาริชตอนนี้
ยัยนี่กำลังอยู่ในโหมดพร้อมทำลาย ถ้ารุ่งฤดีฟาดหน้าวาริชตอนนี้ คนที่พังไม่ใช่วาริช แต่จะเป็นตัวเธอเองนั่นแหละ
“ไม่มีคนกล้าเสี่ยงกับลูกรัฐมนตรีอย่างคชาหรอก ช่วยหน่อยสิ”
ใครๆต่างรู้จักคชาดี เพราะเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของรัฐมนตรี และภัทรสร ที่เป็นแฟนเก่าเธอก็น่าจะรู้จัก เพราะเขาทำงานในกระทรวง แม้จะอยากเข้ามาลากคอวาริชไปด้วย แต่คงไม่กล้าเสี่ยงมีเรื่องกับคชาแน่ๆ
“ไปคุยที่คอนโด เดี๋ยวปล่อยกลับ”
คชาไม่รอให้วาริชตัดสินใจหรอก เขาอุ้มเธอลงจากตักอย่างง่ายดาย ทั้งที่เธอก็ไม่ได้ตัวเล็กเลยสักนิด แต่ยังไม่ทันที่เท้าของวาริชจะแตะพื้น คชาก็ตวัดเธอขึ้นพาดบ่าทันที
“คชา วาจะอ้วก”
“นิ่งๆดิ มันหนัก”
คชาไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมวาริชถึงดูกลัวผู้ชายคนนั้น แต่เท่าที่คนลือ ไอ้นั่นชอบทำร้ายร่างกายแฟนด้วย เพิ่งรู้ว่าวาริชยอมคบกับคนแบบนั้น
“คชา! เรามาด้วยกันนะ” คชาออกเดินไปแล้ว แต่คนที่ไม่รู้จะทำยังไงอย่างรุ่งฤดี ได้แต่ตะโกนถามเสียงดัง พลางกุมมือที่โดนคชาบีบไว้แน่น เพราะเจ็บ
“เลิกคุยเถอะ”
เขาไม่สนใจหรอก ไม่ได้เป็นอะไรกัน ยังไม่ได้กันสักครั้ง ไม่ได้คบด้วยนะ แต่ให้เกียตริที่เธอมาหาบ่อยๆ เลยไม่อยากพูดให้เสียน้ำใจ แต่ตอนนี้เขาเบื่อ เพราะเขามีคนที่น่าสนใจกว่าอยู่บนบ่า
“มาร์ เพื่อนมาร์เมาแล้ว พาไปส่งดิ” คชาโยนวาริชลงที่โซฟาข้างๆมาดาม ก่อนจะได้สายตาโกรธเคืองมาจากคนที่เอื้อมมือมาดึงกระโปรงตัวเองลง
ไม่ทันหรอกวาริช คชาเห็นหมดแล้ว สีแดงเหมือนชุดที่ใส่นั่นแหละ
“ไหนบอกจะไปคุยที่คอนโด”
วาริชพูดเสียงเบา ไอ้นี่ผีเข้าผีออก กลับกรอกไปเรื่อย ภัสรสรยังไม่ไปไหนเลย เธอไม่อยากโดนไอ้นั่นลากไปทำอะไร ดูหน้ามันก็รู้ว่าไม่ยอมจบง่ายๆ คิดผิดจริงๆที่ยอมคบด้วย
“อีวา มึงแรดขนาดจะตามคชาไปที่คอนโดเลยรึไง” มาดามถึงกับรีบเบรค เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน ก่อนเธอจะโดนวาริช กระชากหน้าให้หันไปมองทางภัทรสรที่นั่งจ้องเธอ เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“เห็นยัง คนที่แกบอกว่าดีนักหนา ให้ลองคบไปก่อน เป็นไงละ มันจะฆ่าวารึเปล่าเนี้ย”
ภัทรสร คือรุ่นพี่ที่มหาลัยของมาดาม เธอเป็นคนแนะนำให้วาริชเอง เพราะเขาแสนดี แต่พอคบกับเพื่อนเธอไปเกือบปี สันดานก็เริ่มออก เกาะเพื่อนเธอกินไม่เท่าไหร่ เอาไม่เลือกนี่สิ เธอถึงได้โดนวาริชบ่นแวดๆอยู่ตลอด ว่าจะหาแฟนให้เพื่อนทั้งที ช่วยหาคนดีๆ ไม่ใช่หมา
“แต่พี่ภัทรเขาไม่น่าจะเป็นได้ขนาดนั้นนะ” ไม่ได้แก้ตัวแทนไอ้นั่นหรอก แต่เธอเสียหน้าที่แนะนำคนชั่วให้เพื่อน
“พอๆ ช่วยคิดดิ แบบนี้ยังแจ้งตำรวจไม่ได้นะม๊า ชีวิตวาแม่งไม่ปลอดภัยเลยวะ”
ไม่ได้โทษใครหรอก เธอผิดเองที่ยอมคบกับคนอื่นง่ายๆ เพราะอยากลืมใครบางคน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิดเดียว คนๆนั้นยังอยู่ในความทรงจำเสมอ
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
คชาที่ไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง เพราะเขาไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการช่วยวาริช แต่เท่าที่ฟังดู มันก็ไม่ควรปล่อยผ่านไปเฉยๆนั่นแหละ มันอันตรายเกินไป
“ถ้าไม่คิดจะช่วย ไม่ต้องเสือกเลยคชา”
คนกำลังใช้ความคิด ไม่อยากขอร้องไอ้คนที่โยนเธอลงกับโซฟาอย่างไร้ความปราณีเป็นรอบที่สองหรอก ไม่ช่วยก็ไม่ง้อ
“เอ้าอีนี่”
กับคนอื่นคชาพูดเพราะนะ แต่กับยัยคนที่เชิ่ดใบหน้าสวยๆอยู่ตอนนี้ พูดแล้วมันกระดากปาก เพราะปากเขากับวาริช มันหยาบพอๆกันนั่นแหละ
“เดี๋ยววาไปคุยอีกรอบ ไม่ชอบค้างคา แต่ถ้ายังไม่ยอม วาคงต้องแจ้งตำรวจ”
วาริชลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเดิน ก็ถูกคชาลากไปทางโต๊ะที่มีภัทรสรนั่งกินเหล้าอยู่
“เป็นแฟนเก่าอีนี่เหรอ เลิกกันแล้วนี่ ทำไมยังตามมาคุกคามไม่เลิก รู้รึเปล่าว่ามันแจ้งจับได้”
ภัทรสรมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านิ่งๆ เขาไม่ได้สนใจไอ้นี่เท่าไหร่ คนที่เขาสนใจคือวาริช ที่ถูกไอ้นี่จับมืออยู่ เขาพอจะรู้จักผู้ชายตรงหน้า แต่วาริชเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาจะไม่ยอมเลิก
“พี่ไม่เลิกครับ”
ภัทรสรถือคติที่ว่าด้านได้อายอด ถ้าเขาพลาดบ่อเงินตรงหน้า เขาก็หมาเต็มทน
“พี่ภัทรพอเถอะ วาไม่ชอบกินของเหลือใคร ถ้ายังตามไม่เลิก วาแจ้งตำรวจจริงด้วย”
เธอไม่สนใจว่าเขาจะฟังหรือทำตามไหม แต่อิวาจะแจ้งตำรวจไว้แน่ๆ ชีวิตวาริชมีค่า ถ้าเกิดต้องมาพังเพราะถูกแฟนเก่าตามระราน วาไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่
“อย่าให้ผมเห็นคุณเข้าไปวุ่นวายกับเธออีก เธอเป็นเพื่อนผม ตำแหน่งของคุณก็ดูดีนะ รักษามันไว้ให้ดีละ ผมไม่อยากใช้อำนาจบีบคุณออกสักเท่าไหร่” คชาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป
ภัทรสรไม่กล้าเอาหน้าที่การงานไปเสี่ยงกับการตามตัววาริชหรอก คนแบบนี้ดูก็รู้ว่าเข้าหาวาริชเพราะอะไร ตอนนี้วาริชดูค่อนข้างจะมีเงิน ต่างจากเมื่อก่อนเยอะ และมันก็เป็นตัวล่ออย่างดีสำหรับผู้ชายหิวเงินอย่างภัทรสร
น่าสงสารนะ แต่คชากลับอยากสมน้ำหน้า จะมีแฟนใหม่ทั้งทีเลือกที่ดีกว่าเขาหน่อยก็ไม่ได้