ฟาดมาฟาดกลับ

2641 Words
อาทิตย์ต่อมา วาริชยังคงมาทำงานตรงเวลาเหมือนเดิม แม้เธอจะทำงานดึกดื่นทุกวัน แต่เธอชินกับมันซะแล้วละ บางวันไม่ได้นอนยังต้องแบกสังขารมาทำงานต่อที่ร้าน ไม่ใช่ขยันหรอกนะ แต่เธอแอบอู้ ค้างงานไว้เยอะพอสมควร “มารับไปกินข้าวกับพ่อ” ร่างสูงในชุดสูทเปิดประตูเข้ามาในร้าน ย่อนสะโพกสอบลงโซฟาตัวเดิม ที่เขาชอบมานั่งรอเธอ เมื่อพูดบอกสิ่งที่ต้องการให้เธอรับรู้ ก็ทำเพียงแค่นั่งรอคำตอบจากเธอเงียบๆ “ไม่ว่าง แหกตาดูบ้างสิ งานเยอะจะตาย” ใบหน้าสวยหันมาบอก ผ้าที่ต้องเย็บกองเต็มโต๊ะ จนไม่รู้ว่าจะเสร็จทันนัดลูกค้าหรือเปล่า วาริชก็เป็นแบบนี้ ไม่ค่อยว่างหรอก และเธอไม่อยากจะว่าง การที่เธอว่าง แสดงว่างานเธอน้อย และเธอไม่ชอบเลยที่รายได้ของเธอจะลดลง “ทำหน้าที่แฟนหน่อยดิ” ใบหน้าคมย่นคิ้วใส่ จะว่างให้เขาสักวันไม่ได้เลยรึไง พ่อเขาโทรมาบังคับให้พาเธอไปพบ เพราะวันนั้นท่านยังไม่ได้คุยอะไรกับเธอเลย วันนี้เขาต้องพาเธอไปให้ได้ ไม่งั้นพ่อเขาได้จับแต่งงาน กับคนที่ท่านต้องการในเร็ววันแน่ๆ “อีกสองชั่วโมง รอไหวไหมละ”ใบหน้าหวานหันมาบอกแล้วลงมือทำงานต่อ น่าจะเสร็จหรือเปล่า แต่ก็จะพยายามทำให้มันเสร็จทันนั่นแหละ คชามองคนที่หยิบนู้นจับนี่อยู่ตลอด เพราะพื้นฐานเธอมันแย่มากสินะ เธอเลยต้องดิ้นรนหนักกว่าคนอื่น แต่สำหรับเขา คิดว่านั่นคือสิ่งดีๆ เพียงสิ่งเดียวที่เธอมี ที่เหลือติดลบ ผู้หญิงอะไร ห้าวซะไม่มีความหวานเลย วาริชทำงานเสร็จก่อนเวลาเกือบ 10 นาที เธอจึงใช้เวลาที่เหลือ แต่งหน้าด้วยความเร่งรีบ ชุดที่จะใส่ไปก็เลือกจากในร้านนั่นแหละ พวกชุดที่ตัดโชว์เธอไม่ขายให้ลูกค้าอยู่แล้ว และเธอคงไม่กล้าไปพบท่านรัฐมนตรี ด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่เมื่อครู่หรอก ใส่ไปมีหวังได้โดนเหน็บข้ามภพข้ามชาติแน่ๆ “ไปเลย วาว่างแค่สองชั่วโมงนะ ต้องกลับไปตัดชุดต่อ เหมยพี่วาฝากร้านด้วยนะ” วาริชเดินมาหยุดตรงหน้าคชาด้วยชุดพร้อมรบ และไม่วายตะโกนสั่งงานลั่นร้าน คชาถึงกับส่ายหน้า เธอจะวางตัวแบบไหนนะ ถ้าต้องเจอคนเจ้าระเบียบแบบพ่อกับแม่ของเขา นี่เขาคิดผิดหรือเปล่า ที่ใช้เธอเป็นเครื่องมือแหกกรงขังของคนเป็นพ่อ ทั้งที่ความจริงมันไม่จำเป็นต้องเป็นวาริชก็ได้ ร่างสูงของคชา เดินเคียงคู่มากับร่างแบบบางสูงโปร่งของวาริช ทั้งคู่เดินเข้ามาในโรงแรมหรูที่ท่านรัฐมนตรีเป็นคนนัดสถานที่เอง คงกะจะเอาเธอลงจากตำแหน่งคู่ควงของคชาให้ได้นั่นแหละ ถึงได้นัดเธอมาในสถานที่ๆมันแตกต่างกับชีวิตเธอแบบนี้ิ “ให้ผู้ใหญ่รอเกือบครึ่งชั่วโมง มันดูไม่ดีเลยนะลูก” คุณหญิงเอ่ยตำหนิลูกชาย แต่สายตาหยุดลงที่วาริชเนินนาน ผู้ใหญ่นั่งอยู่ถึงสองคน แต่ยัยเด็กนั่นกลับยืนนิ่ง ไร้มารยาทที่สุด “ตอนแรกว่าจะไม่มาแล้วละคะ งานยุ่งมากเลย นี่ก็คงอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียว” วาริชตอบด้วยเสียงที่มั่นคง ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วยกมือไหว้ เมื่อท่านทั้งสองพร้อมใจกันมองมาที่เธอ “มารยาทไม่มีเลย”คุณหญิงที่นั่งมองการกระทำของเธออยู่ เอ่ยตำหนิ ท่านเคยเจอวาริชแล้วเมื่อ5 ปีก่อน เพราะคชาพาไปแนะนำตัวกับท่าน และคำแรกที่ท่านบอกคชาคือให้เลิกซะ โดนบอกมันตรงๆทั้งที่มีวาริชยืนอยู่ด้วยนั่นแหละ เธอทำแค่เพียงยักไหล่อย่างไม่แคร์ ถึงแม้ในเวลาต่อมา เธอกับคชาจะเลิกกันจริงๆก็เถอะ “ก็วาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปั่นหน้า วางตัวมีมารยาท ทั้งที่เรื่องแบบนั้นมันก็แค่ของปรุงแต่ง คนเราจะมองคนอื่นว่ามีมารยาทหรือเปล่า มันอยู่ที่จิตสำนึกค่ะ วามารยาทน้อย มันก็คงจะไม่ถูกใจคุณแม่ ที่มากไปด้วยมารยาทสักเท่าไหร่หรอกมั้งคะ” วาริชไม่ได้ก้าวร้าว แต่เธอรู้ว่าควรวางตัวแบบไหน กับคุณหญิงที่จ้องจะติเตียนคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ด้วยนิสัยผู้ดีจ๋าแบบนั้น วาริชไม่ชอบใจเลย คนเรามันก็มีมารยาทกันทุกคนนั่นแหละ แต่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุคคลที่เราเจอด้วยนะ ถ้าเจอคนไม่มีมารยาท เราจำเป็นต้องมีมารยาทไหม วาว่าไม่จำเป็นนะ “ถ้าแกจะเอาคนแบบนี้ ขึ้นมาเดินควงชั่วครั้งชั่วคราวฉันไม่ว่า แต่แต่งเข้าบ้านฉันไม่ยอมนะคชา” ท่านรัฐมนตรีเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม และคชาเป็นลูกทางกฎหมายเพียงคนเดียว จะให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไร้หัวนอนปลายเท้าแบบวาริช ชื่อเสียงของท่านได้พังยับเยินแน่ๆ “ตอนนี้วาไม่แต่งกับคชาหรอกค่ะ ถ้าให้ควงแค่ชั่วคราวก็พอไหว ถ้าให้แต่งวาก็ไม่แต่งเหมือนกัน” ยัยบ้านี่มาฉีกหน้าเขาชัดๆ มีแต่คนอยากแต่งกับเขาทั้งนั้น ยัยนี่เป็นใครถึงกล้าพูดแบบนี้ ต่อหน้าพ่เแม่เขา แต่ก็ดี เห็นชัดเลยว่าพ่อกับแม่เขาหน้าตึงหนักกว่าเดิม “งั้นก็เลิกตอนนี้เลยสิ ถ้าเธอไม่ได้อยากจะแต่ง มันเสียเวลา” ผู้หญิงสูงวัยแต่ดูภูมิฐาน มองเด็กสาวที่ปั้นหน้ายิ้มแย้มเ้วยแววตาเฉยชา “วามีเหตุผลของวาค่ะ ถ้าวาได้สิ่งที่วาต้องการแล้ววาจะไป แค่สามเดือนค่ะ ช่วงนี้ก็ลองให้อิสระเขา ได้มีชีวิตของตัวเองบ้าง ลูกไม่ใช่เครื่องมือสร้างฐานอำนาจของคนเป็นพ่อแม่ วาขอร้องนะคะ ถ้าท่านยอมปล่อยคชาให้มีอิสระ วาจะไป” วาริชไม่คิดจะมานั่งกินข้าว กับพ่อแม่ของคชาอยู่แล้ว อึดอัดจะแย่ ที่คนทั้งคู่ส่งคนไปจับตามองอยู่รอบร้านของเธอ คงกลัวเธอเข้าไปเกาะคชาสินะ แต่คนอย่างวาริชไม่หวังจะเกาะใครรวยอยู่แล้ว “อาหารมาแล้ว ทานข้าวกันเถอะครับ” ร่างสูงแอบขอบคุณบริกร ที่ยกอาหารมาเสริฟในช่วงเวลาที่ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยความอึดอัด “กินซะสิ อาหารที่นี่มีแต่ของดีๆทั้งนั้น คนอย่างเธอคงจะไม่เคย” คุณหญิงเป็นไก่รึไง จิกกัดอะไรเล็กๆน้อยๆได้ก็เอา “โรงแรมนี้วาเคยมาบ่อยแล้วค่ะ เพื่อนวาเขาบริหารอยู่ วาไม่ได้มาเกาะเพื่อนกินฟรีหรอกนะคะ แต่วาเคยจัดแฟชั่นโชว์ที่นี่บ่อยจะตาย” วาริชตอบด้วยเสียงราบเรียบ ตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ได้น่ากลัวเลยสำหรับเธอ ก็แค่คนแก่หวงสมบัติและลูกชาย ไม่สมควรที่วาจะฟาดฟันด้วยหรอก คชาเห็นคนเป็นแม่นิ่งไปเลย กับคำตอบของวาริช เขาก็อึ้งเหมือนกัน วาริชเคยมีงานแฟชั่นโชว์ด้วยเหรอ เขานึกว่าเธอแค่ตัดเย็บเท่านั้น ไม่นึกว่าจะดังถึงขั้นทำแฟชั่นโชว์ มื้ออาหารดำเนินต่อไปเงียบๆ เพราะไม่มีใครคิดจะพูดอะไรอีกเลย และเมื่อครบหนึ่งชั่วโมงวาริชก็วางช้อนส้อมลง ทั้งที่เธอทำเพียงแต่หยิบมันขึ้นมาตามมารยาทแค่นั้น “หมดเวลาแล้วค่ะ วาคงต้องเสียมารยาท เพราะว่าวามีงานรออยู่เยอะมากเลยค่ะ วาไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนแบบท่าน หวังว่าจะเข้าใจวานะคะ” วาริชยกมือไหว้ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกไป แล้วลุกขึ้นยืนนิ่งๆ เธอมากับคชา แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะไปกับเธอหรือจะอยู่ต่อ จึงยืนรอเพื่อให้เขาตัดสินใจ “ผมต้องไปส่งวา ขอตัวเลยนะครับ” ใบหน้าหวานระบายรอยยิ้มกว้าง เมื่อได้ยินคำพูดของคชา ส่วนท่านกับคุณหญิงต่างส่งสายตาตำหนิมาให้ลูกชาย แต่เธอเห็นว่าคชาไม่แคร์ เพราะเขาลุกขึ้นเดินมาจับมือเธอ พาออกไปจากโรงแรมสุดหรูนี่ทันที “กลับร้านหรือจะกลับคอนโด” คชาถามคนที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ข้างๆ มีอะไรให้ยัยนี่สะใจขนาดนั้นเหรอ “วาหิว เลี้ยงข้าววาเลย เมื่อกี้แทบจะไม่ได้กินเลย กินไม่ลง” วาส่งสายตาออดอ้อน มาให้คนขับรถคนใหม่ของเธอ บางทีคชามันก็ว่างเกินไปปะ นี่เขามารับ-ส่งเธอทั้งอาทิตย์ ไม่เห็นจะไปไหนเลย งานการก็คงไม่ทำละมั้ง ลูกคนรวยก็งี้ “ไหนบอกไม่ว่าง” “วาว่างแล้ว ลูกค้าไลน์มาเลื่อนวัน สองราย ตอนนี้วาหิว ทำหน้าที่แฟนที่ดีด้วย” ใบหน้าสวยหวานหันกลับไปทางเดิม เมื่อเห็นว่าคชาพยักหน้า เป็นอันตกลงว่าเขารับรู้ คนขับจำเป็นใช้เวลาขับรถไม่นาน ก็จอดรถสปอร์ตของตัวเองลงข้างทาง ที่จริงจะพาไปร้านหรูกว่านี้ก็ได้ แต่อยากแกล้งคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ มากกว่า “นี่เลือกแล้วใช่ไหม” ใบหน้าสวยเบ้ขึ้นนิดๆ เมื่อคชาพยักหน้าระรัว เออ ก็ได้ คนแบบวามันเหมาะกับร้านข้างทางใช่ไหม ได้เลยคชา วาจะเหมาร้านข้างทางเลี้ยงคนแถวนี้ให้หมด “พี่ค่ะ วันนี้เหมา” วาริชเดินเข้าไปบอกอย่างไม่รีรอ ร้านก๋วยเตี๋ยวแบบนี้เหมาทั้งร้านไม่เกิน 3-4 พัน ถ้าคชาไม่จ่าย วาก็จ่ายเองได้ คชาส่ายหน้าให้คนที่เหมาร้านก๋วยเตี๋ยว ส่วนเจ้าของร้านได้แต่ยืนงง ให้คนสวยที่อยู่ในชุดราตรี ชุดเธอเหมาะกับการไปออกงานหรูๆ มากกว่ามานั่งร้านก๋วยเตี๋ยวเท่ารังหนูของเขา “เอ่อ?? พูดผิดเหรอครับ” เจ้าของร้านหน้าตี๋ ถามวาริชที่นั่งอยู่คนเดียว ในขณะที่ผู้ชาย ที่มาด้วยกันกับเธอ กอดอกมองเธออยู่หน้ารถสปอร์ตคันสวย “ถูกแล้วค่ะ เหมาหมดนั่นแหละ ตอนนี้เอาเส้นเล็กน้ำตกมาสอง คชาเอาอะไร มานั่งสักทีสิ” วาริชตอบเจ้าของร้านที่ดูดีไม่น้อย แถมยังดูคุ้นหน้าคุ้นตาอีกตะหาก ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกคนที่ยืนเก็กหล่ออยู่หน้ารถ “กินแค่สองชามจะเหมาร้านเขาทำไม” ร่างสูงเดินมานั่งเก้าอี้ที่มันรองรับแค่ก้นเท่านั้น ที่เหลือไม่มีอะไรเลย ถ้าเผลอพิงหลังไป เขาได้หงายท้องแน่ๆ “ก็นึกว่าจะพาไปร้านอื่น ตั้งใจว่ามื้อนี้จะให้คชาจ่าย สักสองสามพัน เมื่อคชาเลือกร้านนี้ให้วา วาก็ต้องสั่งให้คุ้ม” ตรรกะอะไรของยัยนี่ ก็เคยเห็นกินแต่แบบนี้ตอนคบกัน เขาไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร ก็เลยจอดรถหน้าร้านนี้ เพราะที่จอดรถมันว่าง ส่วนร้านที่เขาจะพาเธอไปกิน คือร้านสเต็กที่ต้องเดินข้ามถนนไป ไม่คิดว่าวาริชจะเข้าใจไปแบบนี้จริงๆ ไม่ถึง 5 นาที ก๋วยเตี๋ยวสองชามที่วาริชสั่งไปก็มาเสริฟ เธอปรุงแค่นิดเดียวก็จัดการของในชามทันที ใช้เวลาไม่นานชามที่สองก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้า ยัยตระกะเอ้ย วาริชไม่สนใจคนที่มาด้วยหรอก คชาไม่กินของแบบนี้ ส่วนเธอนะเหรอ ถ้าหิวอะไรก็กินได้หมดแหละ ยกเว้นอาหารหรูๆ ที่มันแพงแสนแพง กินทีไรเสียดายเงินทุกที “คิดเงินเลยค่ะ” วาริชใช้เวลาไม่ถึง20 นาทีก็จัดการก๋วยเตี๋ยวในชามทั้งสองจนเกลี้ยง ก่อนจะเรียกพ่อค้าหน้าหล่อมาคิดเงิน “60บาทครับ” “ทั้งหมดสิคุณ ไม่เข้าใจคำว่าเหมาเหรอ” ใบหน้าสวยจ้องมองหน้าหล่อๆของพ่อค้า ก่อนจะย้ำอีกครั้ง เจ้ามือเธอจ่ายไหวอยู่แล้ว เรื่องอะไรวาริชจะให้คชาเลี้ยงแค่ 60 บาท “กินแค่นั้นก็จ่ายแค่นั้นแหละ” ริวจิ มองผู้หญิงที่จ้องหน้าเขานิ่งๆ กินแค่นั้นก็จ่ายแค่นั้นแหละ ร้านเขาไม่ต้องการคนเหมาหรอก ขายแป๊บเดียวก็หมดแล้ว “เฮียริว????” วาริชถามคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าเขาจะใช่คนที่เธอเคยรู้จักไหม แต่ชื่อที่ออกจากปากเธอทำให้ เฮียริวยิ้มกว้าง แต่คชาที่นั่งตรงข้ามเธอกลับทำหน้าตึง “วาริชใช่ไหม สวยจนจำไม่ได้” ริวจิยกยิ้มกว้างๆ เมื่อเธอพยักหน้ารับ “ไม่คิดว่าเดือนคณะจะมาขายก๋วยเตี๋ยว”ริวจิคือรุ่นพี่เดือนคณะแฟชั่นดีไซส์ ที่อายุมากกว่าเธอ 3 ปี “ร้านของป๊าอะ แค่มาช่วย คนนี้เหรอที่ลืมไม่ได้” ริวจิไม่สนใจคำถามของวาริช เขามองหน้าคชานิ่งๆ ผู้ชายคนนี้เหรอที่วาริชลืมไม่ลง จนถึงกับต้องปฎิเสธเขา ที่ตามจีบเธอตั้งหลายเดือน “ไม่ใช่เลย คนนี้แค่รู้จักเฉยๆ” ใบหน้าสวยส่ายระรัว แต่คชากลับไม่ชอบใจเลย เป็นคนที่เธอลืมไม่ได้ยังจะรู้สึกดีกว่า แค่คนรู้จักที่เธอเอ่ยแนะนำซะอีก “บอกเขาไปสิว่าตอนนี้เป็นแฟน” คชาหันไปบอกคนที่จ้องหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะเห็นสีหน้าไม่พอใจ จากไอ้หมอนั่นชัดเจน “ค่ะ ตอนนี้วากับคชาคบกันอยู่” วาริชมองคนที่เคยตามจีบเธอเมื่อหลายปีก่อน เฮียริวช่างแสนดี เธอมันไม่ดีเองที่รักเขาไม่ได้ เพราะใครบางคนที่ฝังแน่นตราตึงอยู่ในใจ แน่นซะยิ่งกว่ากาวตราช้างซะอีก และเธอไม่ชอบเลย ที่ตัวเองไปรัก คนที่ไม่ควรรัก “ครับ งั้นวันนี้เฮียเลี้ยงนะ” ถ้าเธอคบกับไอ้นั่น ไม่นานก็คงเลิก ผู้ชายแบบคชาใครๆก็รู้จัก เพราะเขาขยันควงคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย จนไม่รู้เลยว่าคนไหนตัวจริง ริวจิไม่ได้ยินดีเท่าไหร่ ที่คนอย่างวาริชจะคบกับคชา แต่ที่เขาเลี้ยงเธอในวันนี้ นั่นคือสิ่งที่เขาอาสาทำตอนตามจีบเธอ และเธอไม่เคยรับ หวังว่าครั้งนี้เธอจะรับน้ำใจจากเขาบ้าง “ไม่ค่ะเฮียริว เขาบอกว่าจะเลี้ยงวาแล้วอะ คชาจ่ายเลยนะ 60 บาทเอง” “ไม่มีแบงค์ย่อยหรอก โอนได้ไหมละ” คชาอยากจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้แล้ว และเขาจะไม่ยอมเสียเงิน ให้ไอ้คนที่ทำหน้ากวนตรีนเขา ไปมากกว่าค่าก๋วยเตี๋ยว 60 บาทแน่นอน “เรื่องมาก เฮียริววันนี้วาเหมา ใครมากินเฮียก็ทำให้กินได้เลย วาไปแล้วนะคะ” วาริชวางเงินที่มันมากกว่า 5000 ใส่มือของเฮียริวที่ยืนอึ้ง วาริชทำแบบนี้บ่อยๆ ตอนนี้เธอมีมากพอ ที่จะช่วยคนอื่นได้ เงินแค่นี้ตายไปก็ไม่ได้ใช้ แต่คนแถวนี้ที่ยังต้องดิ้นรนหาเงิน น่าจะใช้ก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้ต่อชีวิตได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD