ผัวเมียการละคร

1697 Words
สองพี่น้องเมิ่งหย่งชวนและเมิ่งลู่เจินที่ยังคับเกวียนเพื่อพากันไปบ้านลุงหกขอซื้อโม่หิน เสิ่นเยียนฟางให้เงินเขาไปยี่สิบตำลึง ไม่รู้ว่าโม่มีราคาแพงเพียงใด แต่ว่าให้นางมานั่งตำนั่งบดถั่วนางคงไม่ไหว พรุ่งนี้จะขึ้นเขาลองหาหินปูนมาเผาดู มีปูนขาวสุกติดในครัวไว้สักหน่อยก็ดี สองพี่น้องขับเกวียนมาถึงกลางหมู่บ้านก็เจอเข้ากับเมิ่งอี้ที่ยืนจับกลุ่มคุยกับอันธพาลและบุรุษในหมู่บ้านอยู่ห้าหกคน ทันทีที่เห็นเมิ่งหย่งชวน เมิ่งอี้ก็ตรงมาหาเรื่องทันที "หึ นี่ไอ้ขี้โรคเจ้ามาเสนอหน้าอันใดแถวนี้ ไอ้บัณฑิตขี้แพ้ ทั้งขี้แพ้ทั้งขี้โรคกลับอยากมีเมียสวย ข้าว่าเมียเจ้าน่ะมาให้ข้าช่วยดูแลคงจะดีกว่า ข้าจะทะนุถนอมนางอย่างดีเชียวล่ะ จริงไหมพวกเรา ฮ่าๆๆๆๆ" เมิ่งหย่งชวนไม่ตอบโต้ คนอย่างเมิ่งอี้ก็แค่สุนัขเฝ้าบ้าน นอกจากเห่าก็ไม่กล้าทำอันใด อีกอย่างเมิ่งอี้ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเพราะความประพฤติของตนเอง แต่เมิ่งลู่เจินไม่ยอมให้พี่ชายถูกคนหยามเกียรติจึงกล่าวตอบโต้เมิ่งอี้กลับไป "เหอะ พี่ใหญ่ข้าแค่ป่วยอีกสามปีก็ไปสอบได้แล้ว ไม่ใช่คนขี้แพ้สักหน่อย เมิ่งอี้เจ้าสอบซิ่วไฉให้ผ่านเสียก่อนค่อยมาคุยโวจะดีกว่า เรียนมาหกปีเพิ่งสอบถงเซิ่งได้ ลู่เจาบุตรชายแม่หม้ายลู่ทิศตะวันตกของหมู่ เพิ่งเรียนได้ไม่ถึงปีอายุเก้าขวบก็สอบผ่านถงเซิ่งแล้ว เจ้าอายุสิบแปดเพิ่งสอบผ่านช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก" "ไอ้สารเลวเมิ่งลู่เจิน อย่าคิดว่าเมิ่งหย่งชวนไอ้คนขี้โรคกลับมาแล้วจะปกป้องเจ้าได้นะ มานี่ข้าจะสั่งสอนเจ้าสองคนพี่น้องให้คลานกลับบ้านเลยทีเดียว" เมิ่งอี้ย่างสามขุมมาหาสองคนพี่น้องที่เกวียน เมิ่งหย่งชวนทำว่าร้อน สบัดแขนเสื้อเบาๆ เมิ่งอี้ก็ถูกหอบลอยไปกระแทกกับต้นไม้ตกลงมาทันที เหล่าอันธพาลในหมู่บ้านที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจ เมิ่งอี้ลอยไปกระแทกได้อย่างไร แต่เพื่อเงินสามร้อยอีแปะที่เมิ่งอี้จ้างวานมา พวกอันธพาลจึงกรูเข้ามาล้อมรถม้าเพื่อจะรุมทำร้ายสองพี่น้อง แต่ยังไม่ทันลงมือ เมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านก็มาทันทีก็มาถึงพอดี ไม้เท้าในมือของเขากระแทกจนพื้นดินแตก "พวกเจ้ากล้าหรือ?! หึ เมิ่งอี้อาชวนเป็นพี่ชายเจ้าอีกทั้งยังเป็นซิ่วไฉของหมู่บ้าน เจ้าไม่เพียงไม่เคารพพี่ชาย แต่เจ้ากลับเอ่ยวาจาหยาบคาย พาอันธพาลวันๆงานการไม่ทำมาก่อเรื่อง เจ้าเป็นผู้เรียนหนังสือแบบใดกัน การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่คนเรียนหนังสือควรกระทำหรือ" เมิ่งอี้ที่พยุงตนเองลุกขึ้น อยู่ๆเขาลอยมากระแทกได้อย่างไร หันเป็นทางเมิ่งหย่งชวนเห็นเขากำลังเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากไอหนักๆอยู่ "แค่กๆๆ ท่านปู่หลงอาอี้ยังอายุน้อย อาจเพราะคบเพื่อนไม่ดีเลยทำให้มีนิสัยก้าวร้าวไปบ้างท่านอย่าถือสาเลยขอรับ แค่กๆๆ" เมิ่งอี้คิดว่าเขาเสแสร้งจึงตวาดเมิ่งหย่งชวนกลับไป "หึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดจาดี ไอ้ขี้โรคเจ้าทำร้ายข้าท่านปู่หลงท่านต้องจัดการให้ข้านะขอรับ ดูเหมือนแขนข้าจะหัก" "เจ้านี่มัน หึเจ้ามันเกินเยียวยาแล้วเมิ่งอี้ เจ้าบอกว่าอาชวนทำร้ายเจ้าหรือ เขาไอจนแทบเอาตัวเองยังจะไม่ไหว จะเอาแรงที่ไหนมาจับเจ้าเหวี่ยงกันเล่า" เมิ่งอี้ทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่อยู่ๆก็ลอยหวือไปกระแทกอีกรอบ เสียงกังวาลไพเราะดังขึ้นท่ามกลางความตะลึงของชาวบ้าน "เจ้าคิดว่าสามีข้าเป็นอะไร อยากรังแกเขาใครให้ความกล้านั้น เมิ่งอี้กลับไปหยอดน้ำหยอดยาคนบ้านเจ้าซะ อย่าให้ข้าต้องลงมืออีกรอบ อ้อ อันธพาลอย่างพวกเจ้าใช่ไหมที่จะทำร้ายสามีข้า มาๆ เริ่มจากใครก่อนดี" ในมือเสิ่นเยี่ยนฟางถือท่อนไม้ขนาดใหญ่เท่าแขนเด็กห้าขวบฟาดสะเปะสะปะไปมาไม่รู้ทิศทาง จนคนเหล่านั้นถอยร่นคนละทิศละทาง ท่อนไม้ใหญ่เพียงนี้หากถูกฟาดรับรองว่าต่อให้ไม่ตายก็คงมีนอนติดเตียงไปหลายเดือน อันธพาลที่รับเงินเมิ่งอี้มาจึงถอยหลัง คนเหล่านี้เห็นนางลงมือกับบ้านใหญ่เมื่อเช้าแล้วนางน่ากล้วนัก จากนั้นก็พากันวิ่งหนีหายไปหมด เมิ่งอี้เจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ จึงค่อยๆพยุงตัวเองกลับบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นทุกคนไปแล้ว แต่ชาวบ้านที่เหลือมองมายังนาง เสิ่นเยี่ยนฟางจึงเดินมานั่งที่เกวียนซบไหล่เมิ่งหย่งชวน เอามือลูบหน้าอกตนเองทำท่าโล่งอก "โอยท่านพี่ ดีที่พวกมันวิ่งหนีไป ข้าหัวใจจะวาย หากพวกมันอยากทำร้านพวกเราจะทำเช่นไรกัน ช่างน่ากลัวจริงๆเลย แล้วท่านกับอาเจินพวกท่านบาดเจ็บหรือไม่ ไม่ได้ถูกพวกเขาทำอะไรนะเจ้าคะ" เมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าภรรยากำลังเล่นละครนางไม่ได้กลัวคนเหล่านั้นจริงๆ เรื่องที่นางทุบตีคนบ้านใหญ่เขารู้แล้ว สตรีคนนี้น่าค้นหายิ่งนัก ภายนอกนางดูอ่อนหวานแต่ก็เวลาดื้อคงปราบไม่ง่ายเท่าไหร่ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่านางมาทำอะไรที่นี่ " ภรรยา เจ้ามาทำอะไรหรือ ไหนบอกว่าให้ข้ากับอาเจินมาซื้อโม่หินไง แล้วเหตุใดต้องมาถูกลมเจ้าไม่สบายมีไข้อยู่นะ" "ท่านหมอจ้าวบอกว่าต่อให้ยาดีเพียงใดแต่หากไม่มีอาหารดีๆบำรุงก็ไร้ผล ที่ผ่านมาข้าวสารเอย เงินที่ทางการจ่ายให้ท่านในตำแหน่งซิ่วไฉก็ถูกบ้านใหญ่ยึดไปหมด" "ตั้งแต่กลับมาจากเมืองหลวงก็ถูกพวกเขากลั่นแกล้งไม่เคยได้กินอิ่มสักมื้อ ร่างกายขาดสารอาหารยาที่กินเข้าไปจะดูดซึมอย่างไรเจ้าคะ ข้าก็เลยจะไปซื้อไข่ไก่มาบำรุงท่านสักหน่อย" เสิ่นเยี่ยนฟางจงใจเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนเท่านั้น แต่ว่าวาจานางแต่ละคำทำให้เห็นว่าที่เมิ่งหย่งชวนป่วยเรื้อรังเช่นนี้เป็นเพราะพ่อเฒ่าเมิ่งกับแม่เฒ่าไม่ดูแลเขา แต่กับยึดเอาเงินที่ได้รับจากทางการองเขามาใช้สอย ข้าวสารที่ได้จากทางการเดือนละสิบชั่งไม่เคยได้กินสักเม็ด นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว เด็กสองคนนี่มิใช่ลูกหลานหรอกหรือ ชาวบ้านต่างเห็นใจผัวเมียคู่นี้จริงๆ "เมิ่งซิ่วไฉ ที่บ้านข้ามีไข่ไก่เดี๋ยวจะให้บุตรชายเอาไปให้นะ" "ที่บ้านข้าก็มีผักกาดอยู่ แม้จะไม่สวยเท่าไหร่แต่ก็ยังมีผักให้กินเดี๋ยวจะฝากบุตรชายป้าสี่เอาไปให้เจ้าเช่นกัน" ชาวบ้านต่างเอ่ยปากให้เสบียงพวกเขา เมิ่วหย่งขวนกล่าวขอบคุณ วันนี้เสิ่นเยี่ยนฟางซื้อของมามากมายแล้วจึงไม่อยากให้ชาวบ้านที่ลำบากอยู่แล้วต้องมาลำบากเพิ่มอีก "ขอบพระคุณขอรับ แต่ว่าอย่าเลยพวกท่านก็ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเช่นกัน" " แล้วนี่พวกเจ้าสองพี่น้องจะไปที่ใดกันหรือ" เมิ่งหลงเอ่ยถามเมื่อหย่งชวน ที่กำลังไปทิศใต้ของหมู่บ้าน "เอ่อ คือว่าข้าจะไปซื้อโม่หินขอรับ ภรรยาของข้านางอยากได้โม่หินน่ะขอรับ" "หืม เจ้าจะซื้อโม่หินหรือ ราคาแพงอยู่มากนักเห็นว่าอันนึงก็สิบสองตำลึงแล้ว จะเอาไปทำอะไรหรือภรรยาอาชวน เหตุใดไม่ยืมที่ลานหมู่บ้านไปใช้ก่อนเล่า" "พอดีมีเรื่องต้องใช้บ่อยๆเจ้าค่ะ ไม่อาจแย่งชาวบ้านได้ ว่าแต่ท่านปู่รู้จักถั่วงอกกับเต้าหู้หรือไม่เจ้าคะ" "อืม ถั่วงอกกับเต้าหู้หรือ ไม่รู้จักหรอกว่าแต่มันคือสิ่งใด เอาไว้ทำอันใดหรือ" เสิ่นยี่ยนฟางยิ้มหวานเลยเชียว แม้เต้าหู้กับถั่วงอกวิธีทำจะไม่ได้ยุ่งยาก แต่ตราบใดที่ไม่มีคนรู้จักก็ขอใช้พวกมันหาเงินก่อนแล้วกัน "เอ่อเป็นอาหารอย่างหนึ่งเจ้าค่ะ แค่กๆๆ อืมดูเหมือนข้าจะมีไข้จริงๆ ขอตัวไปซื้อไข่ให้ท่านพี่บำรุงก่อนนะเจ้าคะแค่ก" เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังจะไป เมิ่งหย่งชวนก็รั้งเอวนางไว้ มือเรียวสวยราวกับสตรีแตะที่หน้าผากของนาง ตัวร้อนจริงๆแล้วยังออกมาถูกลมอีก เด็กดื้อ ก่อนจะพูดอ่อนหวานจนชาวบานที่เป็นสตรียังมิออกเรือนถึงกับเขินอายหน้าแดง "เมียจ๋าเจ้าตัวร้อนแล้ว กลับบ้านก่อนเถอะ โม่หินเดี๋ยวข้าให้ท่านลุงหกมาส่งที่บ้านก็ได้ ไข่ไก่ก็ไม่ต้องแล้ว เจ้าหายก่อนค่อยว่ากันกลับกันเถอะลมแรงแล้ว" "เอาเข่นนี้ถอะ นี่อาชวนเดี๋ยวตามปูไปที่บ้านเอาข้าวสารกับไข่ไก่ไปกินเถอะ รีบกลับบ้านไปก่อน นางดูเหมือนว่าจะเป็นไข้ อย่าให้ถูกลมแรงๆ" เมิ่งหย่งชวนกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็เอ่ยลาชาวบ้านกับท่านปู่หลง เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่มมึนหัวเหมือนจะมีไข้จริงๆ ขอบตาร้อนๆน้ำตาคลอตลอดเวลาอาการเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD