‘ถ้าเหงาก็ทักมานะ หรือโทรมาก็ได้’
ห้าเดือนมาแล้วที่เฌอเคยได้ยินคำพูดนี้จากผู้ชายคนนั้นแต่เธอก็ยังไม่เคยทำอย่างที่เขาบอก อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้เหงาหรือเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนที่เธอสมควรทักทายกันไปอีก ตั้งมั่นกับตัวเองว่าชาตินี้ก็ไม่มีวันจะส่งข้อความไปหาเขาอีกแน่ ใครมันจะกล้า ก็ผู้ชายคนนั้นคือคนที่เธอเคยเสียตัวให้เพราะความเหลวไหลชั่ววูบ
จำได้แม่นว่าเธอเจอเขาตอนเมาแอ๋ สะดุดตาต้องใจกันในวันที่แอบพ่อและแม่เลี้ยงไปฉลองหลังเรียนจบกับเพื่อนสนิท พอเมาได้ที่ไม่รู้ทำยังไงถึงได้ตามไปนอนกับผู้ชายถึงห้อง ไม่ยอมกลับไปนอนบ้านเพื่อนอย่างที่ตั้งใจ
ความผิดพลาดในคืนนั้นเป็นบทเรียนที่เตือนเธอตลอดระยะเวลาห้าเดือนที่ผ่านมาว่าเธอไม่ควรทำตัวแบบนั้นอีก ไม่คิดจะแตะเครื่องดื่มมึนเมาให้เสียคนอีกต่อไป จะตั้งใจเรียนให้จบแล้วออกไปใช้ชีวิตอิสระนอกบ้าน
ไม่ต้องทนเป็นซินเดอเรลลาอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้ายและน้องสาวต่างแม่อีกต่อไป
ทว่าตอนนี้มันกลับไม่เป็นอย่างใจคิดเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเติบโตขึ้นในร่างกายของเธอ สาวมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่งหมาดๆ เข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยได้เกือบเทอมต้องมาเผชิญกับปัญหาอันแสนหนักหนา
“สวัสดีค่ะ ใช่พี่บูมไหม”
เธอต่อสายถึงใครคนนั้น คนที่บอกว่าถ้าเหงาให้ทักไปแต่วันนี้ไม่ได้เหงา เพียงอยากให้เขาช่วยเหลือ ‘ปัญหา’ ที่เขาและเธอต่างก่อขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
(ครับ แล้วนั่นใคร)
เขาตอบมาด้วยน้ำเสียงงุนงงปนงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นหรือเธอคงไปปลุกเขาตื่น น้ำเสียงจากปลายสายจะว่าพูดดีก็ใช่ จะว่าหงุดหงิดก็ได้
เบอร์ที่เขาให้เมื่อหลายเดือนก่อนพร้อมกับแลกไลน์กันเสร็จสรรพแล้วแยกย้าย เธอเองก็รู้ดีว่าระหว่างตัวเองกับผู้ชายที่รู้จักแค่ชื่อคนนี้คงไม่ได้ติดต่อกันอีก คงไม่เลื่อน วันไนท์สแตนไปเป็นคู่นอนแน่
และที่เธอโทรมาวันนี้ก็ไม่ได้ต้องการอย่างนั้น เพียงแต่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
“ไม่รู้พี่จะจำเฌอได้ไหม เราเจอกันตอนนั้น เฌอเพื่อนของป็อป”
ป็อปคือชื่อเพื่อนสนิทของเธอที่ไปเที่ยวด้วยกันคืนนั้น เขาน่าจะรู้จักเพื่อนของเธอในฐานะน้องสาวของเพื่อน เฌอจำได้ว่าพี่ชายของป็อปเป็นคนพาเขามาให้รู้จัก แต่คืนนั้นมีแค่เพื่อนที่รู้ความสัมพันธ์ข้ามคืนของเธอกับเขา
(ออ น้องชื่ออะไรนะ)
เขาย่นคิ้วเข้มนั้นเข้าหากันเพื่อนึกชื่อของอีกฝ่าย จำได้แค่ว่าเป็นเพื่อนของน้องสาวเพื่อนที่ไม่สนิทอีกทีแต่ไม่ได้จำชื่อของเธอด้วยซ้ำ แล้วเดือนหนึ่งเขาไปเที่ยวไม่ต่ำกว่าสิบวัน เจอผู้หญิงไม่ต่ำกว่ายี่สิบ หิ้วกลับไปนอนด้วยไม่ต่ำกว่าห้าคน ในหนึ่งเดือน
กูจำได้ก็บ้าแล้ว
บูม บริภัทร ศิวดลมณี เป็นนักศึกษาชั้นปีสอง เรียนอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ‘ศิวดลมณี’ ครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยด้วยการประกอบธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงการส่งออกไปยับประเทศเพื่อนบ้าน มีบริษัทลูกเปิดใหม่อีกหลายสาขาในประเทศ
ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเล็ก มีพี่ชายคนโตหนึ่งคน พี่สาวคนรองอีกสอง อายุห่างกันห้าปีสิบปี ทำให้เขาใช้ชีวิตที่ถูกเอาใจมาตั้งแตเด็ก อยากได้อะไรก็มีคนหามาให้ ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งใดมากกว่าเป็นตัวเองสำคัญที่สุด
นอกจากหล่อ รวย กรวยใหญ่ ก็ยังหาข้อดีไม่เจอเขาเองก็ไม่เคยหาเพราะเป็นอย่างนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่เป็นลำบากต้องไปค้นหาตัวเอง เรียนบ้างเที่ยวบ้าง ใช้ชีวิตไปวันต่อวัน นอนรอเงินเดือนจากแม่
สบายจะตายห่า
“เฌอ…” เธอเอ่ยชื่อตัวเองเสียงสั่นๆ เหมือนจะมีอะไรพูดต่อจากนั้นแต่ก็เงียบไป
มือเล็กตอนนี้กำลังสั่นเทา เธอนั่งอยู่ภายในห้องนอนคับแคบของตัวเอง เป็นห้องเก็บของที่ถูกดัดแปลงให้เป็นห้องนอน ภายในห้องมีเตียงขนาดสามฟุต ชั้นวางของที่ถูกจัดอย่างมีระเบียบ ตู้ไม้เก่าที่ใช้แขวนเสื้อผ้าเธอใช้มันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม
(น้องเฌอ แล้วโทรหาพี่ทำไม)
บูมเออออไปอย่างนั้น นึกภาพหน้าตาของอีกฝ่ายแต่ก็จำได้ไม่แม่น ถ้าเจอกันอีกคงร้องอ๋อ แต่โทรมาอย่างนี้ น้องเขาติดใจกูหรือเปล่าวะ เจออีกรอบก็ไม่เสียหาย คุ้นๆ ว่าเพื่อนน้องสาวไอ้ปืนน่ารักไม่เบา แถมยังได้เปิดซิงหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด
ต้องใช่แหละไม่อย่างนั้นจะให้เบอร์ไปเพื่ออะไร ปกติก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่น่าสนใจถึงขั้นต้องแลกเบอร์หลังจบกิจกรรมนั้น
สรุปกูหรือเขาที่ติดใจ
“พี่บูม หนูท้อง” น้ำเสียงของเธอสั่นน้อยๆ ในประโยคหลัง
(หา! ท้องกับใคร!)
เขาเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงเหมือนถูกไฟเผาแล้วเส้นเอ็นมันหด ตาคมเบิกกว้างแล้วถามย้ำอีกครั้ง อาการง่วงงันเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น ใครโทรมาอำเล่นหรือเปล่าวะ
วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดกูนี่หว่า