บทที่ 2.2 เก็บไว้

978 Words
ป็อปอุทานลั่นรถด้วยความตกใจ เหยียบเบรกจนหัวแทบทิ่ม กระเป๋าสัมภาระและกล่องหลายใบท้ายรถไหลมากองรวมกันด้านหน้าเกือบหมด ตอนขนขึ้นรถก็เกือบตาย พ่อกับแม่เลี้ยงยืนมองไม่รั้งไว้สักคำ เวรกรรมแท้ๆ “แกพูดจริงเหรอยัยเฌอ” เธอถามย้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “ไม่ป้องกันเหรอวะ” “ถุงก็ใส่ ใส่ทุกรอบ” เธอตอบพลางหน้าร้อนวาบ จริงอยู่ว่าปกติกับเพื่อนก็พูดเรื่องแบบนี้กันบ้าง พูดเล่นกันขำๆ ไม่คิดว่าจะต้องมาพูดในสถานการณ์จริงแบบนี้ “หลายรอบ” เฌอครางตอบในลำคอเสียงเบาถึงจะเป็นเพื่อนสนิทแต่มันก็น่าอายอยู่ดี “ถุงแตกหรือเปล่า” “ไม่รู้” “แล้วแกติดต่อเขาไหม” “โทรไปแล้ว” เธอตอบเสร็จก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด เพิ่งจะเข้าเรียนปีหนึ่งได้สามเดือนกว่าตอนนี้มาท้องแถมยังโดนไล่ออกจากบ้าน มีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหม แต่ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเองทั้งนั้นจะโทษใครได้ ถ้าคืนนั้นไม่อยากรู้อยากลองคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น “เขาว่าไง” “ก็ไม่รับ บอกว่าไม่ใช่เขาแน่นอน” เธอตอบ รู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ เขามีสิทธิ์ที่จะไม่รับ เขาไม่ผิด ในเมื่อเธอง่ายเอง ตัวเขาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธออยู่แล้ว ปัญหาของเธอตอนนี้คือจะทำอย่างไรกับลูกในท้องต่างหาก “มันต้องรับผิดชอบร่วมกันไหมวะ อย่างนี้ก็หมาดิ” ป็อปพูดออกมาอย่างหัวเสีย ถ้าจะไม่รับผิดชอบก็ช่วยคิดแก้ปัญหาก็ยังดี ทำอย่างนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยสักนิดเดียว เธอคิดพลางหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเลื่อนหาเบอร์พี่ชายตัวเอง “แกจะทำอะไร อย่าบอกพี่แก อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ ฉันขอคิดแก้ปัญหาก่อนได้ไหม” เฌอริตารู้ว่าเพื่อนกำลังจะโทร.ไปโวยพี่ชายตัวเองเรื่องเพื่อนเขาแน่จึงรีบห้ามอย่างรู้ทัน เธอไม่อยากให้ใครรู้ มันน่าอาย โคตรจะขายขี้หน้าตัวเอง ไปนอนกับผู้ชายแล้วพลาดท้องยังจะมีหน้าไปขอให้เขารับผิดชอบ “แล้วแกจะทำยังไง” เพื่อนสนิทคิดไม่ออกเลยว่าต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ป็อปหัวหมุนจนต้องยกมือขึ้นมายีผมตัวเองอย่างหงุดหงิด ปัญหาของเพื่อนทำให้เธอกังวลจนเหมือนเป็นเรื่องของตัวเองแล้ว “ฉันเพิ่งรู้เมื่อเช้า มันช็อคจนคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง” เธอเอ่ยแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว พลันสมองก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนั้นเอาเรื่องเธอไปพูดให้ใครต่อใครฟังแล้วหรอกนะ Cherrita : เรื่องนั้นอย่าเอาไปพูดให้ใครฟัง เฌอไม่คิดจะไปรบกวนอะไรพี่อยู่แล้ว ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอ ขอแค่เรื่องเดียว ให้มันเป็นความลับ ส่งข้อความนั้นเสร็จเธอก็จัดการบล็อกเบอร์และไลน์ของเขาด้วยความใจร้อน ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอต้องติดต่อเขาอีก ต่อให้เก็บลูกในท้องไว้หรือเอาเขาออกไปจากชีวิต “ถ้าตั้งแต่ตอนนั้นแปลว่าก็ห้าเดือนแล้วดิ แกดูไม่เปลี่ยนเลยนะ แล้วทำไมแกเพิ่งมารู้วะเฌอ” “ปกติประจำเดือนมันก็ไม่ได้มาปกติอยู่แล้วเว่ย เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ไปหาหมอก็ได้ยาปรับฮอร์โมน พอหมอหยุดยามันก็เป็นแบบเดิม ฉันก็ไม่เอะใจอะไร “ ” แล้วแกรู้ได้ไงว่าท้อง “ ” ครั้งนี้มันนานไป แล้วรู้สึกแปลกๆ ช่วงท้อง ไหนจะอาการอื่นอีก ไม่คิดนะว่าจะท้องเพราะป้องกันไง” เธอเล่าพลางวางศอกกับที่จับตรงประตู วางศีรษะกับฝ่ามือแล้วเหม่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ห้าเดือนมันนานมากนะ นานพอที่จะทำให้อีกชีวิตในท้องของเธอสร้างสมอง สร้างหัวใจ สร้างร่างกายเป็นมนุษย์คนหนึ่งแล้ว ถ้าเธอเอาเขาออกไปจากชีวิตเท่ากับเธอกำลังจะคร่าชีวิตหนึ่งอย่างโหดร้าย ฝ่ามือเล็กลูบลงไปที่ท้องของตัวเอง เพิ่งรู้ตัวว่าอาการเหมือนมีฟองน้ำอยู่ในท้องคือการที่ลูกกำลังขยับตัวทักทายคุณแม่อย่างเธอ แม่อย่างนั้นหรือ เธอพร้อมที่จะเป็นแม่ใครหรือยัง ตอนนี้เธออายุย่างสิบเก้าปี มีความฝันอยากใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่า อยากทำงานและเรียนไปด้วย เก็บเงินให้ได้สิบล้านเพื่อซื้อบ้านสักหลังด้วยความสามารถของตัวเองและออกมาจากบ้านหลังนั้นเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เธอทำสำเร็จแค่เรื่องเดียวคือออกมากบ้านหลังนั้นได้แล้ว แต่แลกมากับความรู้สึกที่เสียไปมากมาย ถูกพ่อทำร้ายเพราะโกรธ ถูกเมินจากคนที่เธอรักมากที่สุด คนอย่างเธอนะหรือที่จะเป็นแม่ เป็นผู้หญิงที่มีใครคนหนึ่งเรียกว่าแม่ “จะเก็บหรือเอาออกวะแก” เพื่อนสนิทถามอย่างหนักใจ จริงอยู่ว่าช่วงนี้เพื่อนมีรายได้มากมายจากการขายของออนไลน์แบบที่เธอเองยังทำไม่ได้ ยังเป็นคนที่แบมือขอเงินพ่อแม่ไปวันๆ แต่เพื่อนมีเงินเก็บหลักแสนแล้วในตอนนี้ แต่การเป็นแม่คน การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ แค่ให้เธออยู่กับหลานวัยสามขวบทั้งวันยังเกือบตาย “เป็นคนแล้วนะป็อป” -------------- พี่บูมนอนสบายใจเฉิบ ไม่รู้ๆ ไม่ใช่ลูกผ้มมม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD