ภายในห้องพักห้องหนึ่งของโรงเตี๊ยมอี้ฉางแห่งนี้กำลังมีหญิงสาวนางหนึ่งในอาภรณ์สีฟ้าครามนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมมุมห้องด้วยลักษณะท่าทางคล้ายใจร้อนคล้ายใจเย็นสลับไปมา โดยมีสตรีอีกนางหนึ่งในอาภรณ์สีม่วงเข้มนั่งจิบชาอยู่ตรงตั่งนั่งข้ามกัน
“ใจเย็นเถิด อวี้ถิง จะอย่างไรเสียคืนนี้ก็เป็นคืนของเจ้า”
เถ้าแก้เนี๊ยของโรงเตี๊ยมนามว่าเหมยลี่นั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์พลางเอื้อนเอ่ยคำส่งตรงไปยังสตรีในอาภรณ์สีฟ้านามว่าอวี้ถิง
“หึ! ข้าย่อมใจเย็น” อวี้ถิงเอ่ยขึ้น “ข้าจะรอจนกว่าเครื่องหอมทั้งภายในห้องและในอ่างอาบน้ำออกฤทธิ์อย่างเข้มข้น”
“ดียิ่ง” เหมยลี่ยกยิ้มมุมปากเอ่ยตอบ “โดยเฉพาะถุงเครื่องหอมใต้หมอนนะอันนั้นยิ่งเข้มข้นยิ่งนัก หากเจ้าใจร้อนด่วนได้เข้าไปในห้องนั้นก่อนที่ท่านแม่ทัพจะล้มตัวลงนอนให้ถุงหอมใต้หมอนได้ทำงาน ดีไม่ดี ฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดยังไม่ทันได้ออกฤทธิ์ ท่านแม่ทัพฟงเห็นใบหน้าเจ้าเข้าคงถีบเจ้ากระเด็นออกมาจากห้อง”
อวี้ถิงได้ยินพลันถลึงตาจิกกัดเหมยลี่
หญิงสาวในอาภรณ์สีม่วงเข้มยิ่งยกยิ้มชอบใจแล้วเอ่ยต่อ
“แต่หากเจ้ารอจนยาสำแดงฤทธิ์เดชเต็มที่แล้วเข้าไปปรากฏกายต่อหน้าท่านแม่ทัพฟง ขี้คร้านท่านแม่ทัพจะจับกระชากเจ้าเข้าไป จับกดจนจมเตียงนอนแล้วโยกโยนเจ้าจนหัวสั่นหัวคลอน หาได้ถีบเจ้าจนกระเด็นกระดอนออกมานอนนอกห้องไม่”
“เจ้า!” ครานี้อวี้ถิงยิ่งถลึงตาจ้องเหมยลี่พร้อมพวงแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อ “เจ้าเอ่ยสิ่งใดกัน?”
เหมยลี่เห็นอย่างนั้นจึงหลุดหัวเราะเสียงดัง
“ข้าจะบ้าตาย เจ้าจะทำเป็นอายไปเพื่ออันใด ในเมื่อเป็นเจ้าที่ต้องการ ข้าก็แค่สนองตามเงินงามที่ได้รับ เรื่องจับเสือให้กระต่าย จับบุรุษให้อยู่หมัดมิใช่เรื่องต้องคิดมากแต่อย่างใด”
เหมยลี่กล่าวคำหยาวเหยียดเสียดแทงตรงจุดทำเอา อวี้ถิงยิ่งหน้าแดงก่ำ ทั้งบุรุษและสตรีที่เป็นแขกของนางในค่ำคืนนี้มีแต่ได้กับได้ นางจึงไม่มีอันใดให้ต้องคิดมาก จรรยาบรรณอันใดนางหาได้มีไม่ มันกินไม่ได้!
อวี้ถิงได้ฟังคำของเหม่ยลี่เมื่อครู่จึงกระตุกยิ้มตรงมุมปาก
ถูกต้อง!
กับท่านแม่ทัพฟงชิงหยางผู้เกรียงไกร ผู้เป็นรักปักใจเมื่อแรกพบของนาง
นางแอบมองเขามานาน นางรักเขา นางจึงทำทุกอย่างเพื่อจะได้เขามาครอบครองโดยการให้เขาได้ครอบครองนาง
และแล้ววันนี้โอกาสก็มาถึง นางได้รับสิทธิติดตามเขามาจากชายแดนเพื่อเข้ารายงานตัวต่อหน้าพระพักตร์ นางว่าจ้างให้เหมยลี่แอบไปวางยาปลุกกำหนัดเอาไว้ในห้องพักประจำของเขาและนั่งรอให้เขาได้เข้าไปในห้องพักห้องนั้น
ในยามนี้นางเพียงรอเวลาตามคำของเหม่ยลี่ นางอยากเข้าไปหาเขาเต็มที แต่อาจจะจริงอย่างที่เหมยลี่ได้กล่าวไว้
นางไม่อยากถูกไล่ให้ออกมาหากเขายังคงมีสติครบถ้วน
หากนางอยากนอนอยู่ใต้ร่างของเขา หากนางอยากถูกเขาโยกกระชับปีนเกลียว นางต้องอดทน
อา...แค่คิดขนแขนก็ลุกขึ้นชูชันเสียแล้ว...
อวี้ถิงระลึกอย่างนั้นพร้อมฉายชัดทุกความคิดออกมาพาดผ่านใบหน้างามก่อนจะรีบปรับอารมณ์แล้วเอ่ย
“ว่าแต่ท่านเตรียมพยานเอาไว้แล้วหรือ?”
เหมยลี่ที่กำลังยิ้มกว้างพลันชะงักเล็กน้อย
อา...นางลืมไป หากไม่มีพยานมาช่วยกดดันหาความรับผิดชอบ แผนการคงยากสำเร็จ!
เมื่อคิดได้ดังนั้นเถ้าแก่เนี๊ยจึงรีบยิ้มกว้างอีกครั้งแล้วเอ่ยเสียงสูง “โอ้ย! พยานมีเยอะแยะ ไว้ใจข้าเถิด”
จบคำก็ลุกขึ้นแล้วรีบกระวีกระวาดเดินออกจากห้องไปอย่างเร็ว
อวี้ถิงเห็นอย่างนั้นพลันคิ้วกระตุกและเข้าใจได้ไม่ยาก
หึ! ลืมแล้วยังทำตีเนียน เป็นอย่างนี้นางจะได้เข้าห้องของท่านแม่ทัพยามใดกัน ป่านนี้คงปวดหนึบตัวเกร็งทั้งร่างแกร่งแล้วกระมัง!
บนเตียงนอนหนานุ่มภายในห้องพักด้านในสุดของโรงเตี๊ยมอี้ฉาง
เสียงครวญครางที่ร้องร่ำสอดประสานกับเสียงเตียงโยกโยนและเสียงของเนื้อกระทบเนื้อเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมาเงียบงันไปแล้วคงเหลือเพียงเสียงของลมหายใจหอบหนักหน่วงถี่ที่เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง
ชายหนุ่มร่างใหญ่ผู้อยู่เหนือเรือนร่างของสตรีบอบบางเพียงพลิกกายลงแล้วนอนเคียงข้างกันอย่างเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมสุดหฤหรรษ์ที่มิได้เตรียมตัวเตรียมใจ เขาเสร็จศึกอันแสนสาหัสแล้วเดินทางไกลมาหลายวัน ร่างกายต้องการพักผ่อนแต่กลับต้องมาใช้แรงพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่จากอารมณ์กำหนัดที่จู่ๆ ก็มีขึ้นมา
ฝ่ายหญิงสาวที่นอนเคียงข้างชายหนุ่มก็เช่นเดียวกัน นางแอบหนีออกจากจวนมาในเวลาย่ำเย็นโดยที่ข้าวปลายังมิได้กิน นางเดินทางด้วยเท้าเปล่าหลบมุมมาตามทางใช้พลังงานจากเรือนกายไปมิใช่น้อย นางต้องการพักผ่อนแต่กลับเจอกิจกรรมแปลกประหลาดจนเรี่ยวแรงไม่มีเหลือ
หนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรีจึงนอนเคียงข้างกันอย่างเหม่อลอยในสภาพเปล่าเปลือยสมองขาวโพลนภายใต้ผ้าห่มผืนหนาแล้วหลับใหลไป
อวี้ถิงที่ยืนอยู่ตรงขอบเตียงภายในห้องแห่งนี้พลันสมองขาวโพลนไปไม่แตกต่างจากบุคคลทั้งสองที่นอนยาวเหยียดอยู่บนเตียงนอนนั้น
นางสะเดาะกลอนแอบเข้ามายังห้องพักแห่งนี้แล้วได้ยินเสียงเตียงไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงครางต่ำของบุรุษและเสียงครางหวานใสของสตรี นางคิดว่าเข้าห้องผิดนางจึงรีบออกไปแล้วเดินเข้ามาใหม่ใช้เวลาอยู่เกือบสองก้านธูป
เมื่อนางแน่ใจว่าไม่ผิดห้องแน่นอนนางจึงเดินกลับเข้ามาอีก ทว่าเสียงครวญครางของบุรุษและสตรีที่สอดประสานก็ยังคงดังเฉกเช่นเดิม และเพียงครู่เสียงนั้นจึงเงียบไปแล้วถูกแทนที่ด้วยลมหายใจหอบหนักที่เริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง นางจึงตัดสินใจเดินเข้ามาเปิดผ้าม่านของเตียงนอน
และนางก็ได้เห็น
บุรุษเป็นแม่ทัพฟงชินหยางของนางจริงๆ แต่สตรีใต้ร่างของเขาเป็นใคร
สตรีนางนี้เป็นใคร!?
นางตัดสินใจมายังห้องพักห้องนี้ที่แม่ทัพฟงของนางเข้ามาพักและนางก็ให้เหมยลี่วางเครื่องหอมที่มีฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดเอาไว้ทั่วห้องกระทั่งใต้หมอนรวมถึงในน้ำสำหรับอาบ
นางแน่ใจว่าเขากำลังมีอารมณ์ต้องการปลดปล่อยขั้นสุด นางคำนวณเวลาแล้วจึงเข้ามาด้วยร่างกายที่พร้อมทอดให้เขา
แต่ภาพที่เห็นยามนี้คืออันใด!?
อวี้ถิงได้แต่ดวงตาเบิกโพลงจ้องมองหนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรีที่กำลังหลับใหลหมดแรงบนเตียงนอนอย่างคาดไม่ถึง
นางทำได้เพียงยืนจ้องตะลึงเงียบงันมิได้เปล่งเสียงอันใดออกมา นางยืนตัวชาดิกคล้ายกับวิญญาณล่องลอยไร้ซึ่งมีชีวิตปกติอีกต่อไป
นางยืนเงียบกริบแข็งทื่อเป็นหุ่นไม้นิ่งนานก่อนจะตัดสินใจหมุนตัววิ่งออกไปจากภาพบาดตาบาดใจอย่างคนโง่งม