วอน(อย่าลืม)รัก

5 สวยเกินต้าน

5 สวยเกินต้าน

@ ปารัณ

ผมส่ายหน้าให้คนอวดดี หน้าตาตอนนี้บอกว่าเจ็บมาก

ความสวยของเธอ ทำให้ผมโคตรมีอารมณ์เลย

ผิงสวยไปทั้งตัว ผิวเธอขาวผ่องนวลเนียน พอได้สัมผัสก็ละมุนลิ้นละมุนปาก ความหอมอ่อนๆ ของเนื้อแท้ติดปลายจมูก ยั่วให้ผมอยากจะจูบฟัดไปทั่วตัว

ทรวงอกอวบใหญ่ล้นมือ ปลายยอดสีชมพูอ่อนสวย เม็ดถันใหญ่ดูดติดปากดีเหลือเกิน หน้าท้องแบนเรียบ ไม่มีกล้ามแต่ไม่น่าเกลียด เนินนวลความเป็นหญิงเกลี้ยงเกลาไร้สิ่งปกปิด ผิวผ่องอวบอิ่มอมชมพูทำให้ผมแทบคลั่งตาย กระหน่ำกินเธออย่างที่ไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนมานานแล้ว แม้แต่กับคนเป็นแฟน

แค่คิด ความเป็นชายที่ยังซุกแทรกในกายเธอเต้นตุบๆ

“หรืออยากหยุดก็ได้นะ อ๊ะ ไพนต์!”

ผิงลืมไปหรือไงว่าผมเป็นใคร ก่อนมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ผมไม่ใช่ผู้ชายสงบเสงี่ยมนักหรอก

“นอกจากเธอจะทุบหัวฉันจนสลบเท่านั้นแหละผิง ถึงจะหยุดฉันได้”

ผมยังมีหน้าไปยักคิ้วกวนๆ ใส่เธอ เริ่มขยับขับเคลื่อน ผิงแน่นมาก ผมบดวนสะโพกเบาๆ เพื่อให้เธอคุ้นเคย ไม่นานเสียงครางสั่นๆ ก็ดังลอดลำคอเล็ก สองมือเธอปะป่ายขึ้นมาโอบกอดรอบบ่าผม ช่องทางรักเปียกชื้นลื่นไหลมากขึ้น

“เชื่อเถอะ” ผมลากถอนตัวเองออก เห็นสีแดงอาบไล้แก่นกาย เสียงพร่าลึกขึ้น ทอดสายตาสบตาปรือปรอย “เธอไม่อยากทำแบบนั้นหรอก”

สำนึกผิดชอบชั่วดีปลิวหนีจากสมองผมไปหมดสิ้นตั้งนานแล้ว เวลานี้ผิงไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นผู้หญิงสาวสวยน่าสนิทเสน่หาที่สุด

ผมเริ่มขับเคลื่อนเลื่อนลึก สอดเข้า ถอนออก เนิบช้าในตอนเริ่มเพราะอยากให้ผิงได้รับรสกระสันซ่านมากที่สุด ตั้งแต่ที่นัวเนียกัน ผมจับตามองเธอตลอด ผิงแดงก่ำตั้งแต่หน้า ลำคอ และเนินอก สีหน้าตอนมีอารมณ์เซ็กซี่ยั่วยวน ปากเผยอก่อพ่นเสียงครางสั่นๆ น่าขยี้ ผมไม่แค่คิด โน้มตัวลงไป ปิดปากจิ้มลิ้มบดขยี้อย่างใจนึก

“อืม...”

ผิงตอบรับ ตวัดเรียวลิ้นนุ่มหวานเข้ามาพันพัวกับลิ้นผม เกิดการรุกไล่ ดูดรูดดึงดันกันเกิดเสียงเร้าอารมณ์ ขณะที่กายส่วนล่างยังผลักดันเข้าหากันอย่างร้อนแรง

เล็บสั้นๆ กรีดข่วนไปทั่วแผ่นหลังผม มันกลับยิ่งเพิ่มเติมความกระสันอยากให้ลุกโชนดุจกองฟางไหม้ไฟ

“รู้สึกดีไหม”

ผมแนบหน้าผากกับเธอ กระซิบถามพลางเลียไล้ดูดเม้มปากหวานๆ เท้าศอกข้างหนึ่งข้างหัวผิง ใช้อีกมือบีบเคล้นพุ่มเต้าอวบอิ่ม โหมสะโพกบดอัดแกนรักกระชับกระชั้น

“ดะ...ดี ดีมากเลยไพนต์...”

ผิงเสียงสั่น เนื้อตัวสะท้านโยกคลอน สะโพกหยัดเด้งรับจังหวะตอกตรึงหนักหน่วงที่ผมโจนจ้วงเข้าหา ผลักดันอารมณ์ร้อนแรงให้พุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ผิงครางปนสะอื้น เชิดคางขึ้นเพื่อประกบจูบผมก่อน ผมบดขยี้กลับอย่างดูดดื่มดุดัน เพียงไม่นาน ช่องทางรักอบอุ่นก็บีบรัดแกนกายผมเป็นจังหวะถี่ๆ นาทีต่อมา ผิงผวาขึ้นกอดผมแน่น ตัวเกร็งสะท้าน ผมดูดกลีบปากนุ่มแน่น เสียงหวีดครางจึงดังแค่อู้อี้ รอจนเธอหายเกร็ง ถึงผ่อนจูบลงปลุกปลอบเอาใจ พร้อมขยับลงไปนอนแนบข้าง

เราจูบแลกลิ้นกันอยู่พักหนึ่ง ผิงเป็นฝ่ายดึงหน้าออก แก้มเธอแดงก่ำน่าฟัด ผมก็จูบฟัดโดยไม่ต้องคิดมาก จัดท่าทางใหม่ โดยเบียดเข้าประกบซ้อนกอดผิงไว้โดยไม่ถอดถอนแกนกายที่ยังแข็งจัด

“นาย”

“อืม...” ผมครางตอบเธออย่างรู้คำถาม บดเอวเบาๆ เร้ารูดแก่นกายกับช่องรักฉ่ำให้เธอสยิว “ฉันยังไม่เสร็จ”

ผิงตาโตหน่อยๆ หากน่ารักในสายตาผม เลยอดปล้ำจูบอีกครั้งไม่ไหว พร้อมๆ กับการสอดแทรกเข้าออกอีกครั้งอย่างไม่รอให้เธอพักเหนื่อย

“หื่นเกินไปไหมหมอไพนต์” เธอค้อนเสียงสั่น ทำท่าจะขยับหนี แต่ผมยึดเอวไว้ แกล้งกระชากเข้ามาเร็วๆ จนบั้นท้ายแน่นตึงกระแทกหน้าขา ลิ่มลำกระทบกระแทกด้านในเข้าไปจังๆ ผิงหลุดเสียงซี้ด

“อดอยากมานาน”

พูดออกไปแล้วก็รู้สึกว่าผมเห็นแก่ตัวฉิบหาย แต่มันเป็นเรื่องจริง ตั้งแต่ที่ห่างกับตอง จนเธอย้ายมาทำงานเชียงใหม่ ผมย้ายตามมาฝึกงาน ได้ทำเรื่องแบบนี้กันแค่ครั้งเดียว นั่นมันก็ผ่านมาเกือบสี่เดือนแล้ว

“เธอก็โคตรยั่วเลย”

เธอไม่ได้ยั่วผมหรอก แต่พอได้เห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเธอมันทำให้ผมตบะแตก

ผมสอดมือเข้าไปกอบกุมเต้าอวบ เบียดหน้าไปประกบจูบปาก ล่อลวงปรนเปรอให้เธอจูบตอบ ลิ้นเราเกี่ยวพันลิ้น แลกจูบกันนัวเนียอีกครั้ง

ช่องทางนุ่มอุ่นระอุและแสนคับแน่นยั่วเย้าใจ ผมจับโคนขาผิงข้างหนึ่งดันยก หวดสะโพกโยกร่างเข้าใส่ลึกเร็วมากขึ้น ลมหายใจสองเราต่างหอบสะท้าน ส่งเสียงครางประสานเสียงหน้าขากระแทกบั้นท้าย

“ไพนต์...” ผิงป่ายมือมาดันลอนหน้าท้องผม จะดันออกห่างหรือต้องการแตะต้องก็สุดรู้ได้ ร่างกายเธอแดงก่ำ เสียงหวานๆ ที่ครวญครางสะอื้นปลุกเร้าอารมณ์ให้โหมแรง

ผมเลื่อนมือจากโคนขาผิง เข้าประกบเนินเนียนอวบ เกี่ยวปลายนิ้วกับตูมเกสรเสียวบดเขี่ยขยี้

“ไม่ไหวแล้วว่ะผิง” ถามพลางหวดโหมโจนจ้วงหนักหน่วงขึ้น “จะเสร็จยัง”

“อะ อืม”

ผมดันคางผิงเข้ามารับจูบดุดัน นำพาเธอก้าวทะยานสู่จุดหมายปลายทางด้วยการบดกระหน่ำหนักหน่วง ร่างกายเราต่างอาบชื้นด้วยหยาดเหงื่อ สอดสานนิ้วกุมมือเธอแน่น

ที่สุด ผิงหวีดร้อง เนื้อตัวกระตุกเยือก ช่องทางรักแสนหวานก็บีบรัดตัวตนผมแน่น ผมกระแทกแก่นกายแรงลึกอีกไม่กี่ครั้ง กระแสซาบซ่านก็พล่านไปตามกระแสเลือด คลื่นความสุขสมถาโถมเข้าหา เนื้อตัวผมสั่นเทิ้มสะท้านในตอนปลดปล่อยกลางนุ่มเนื้ออุ่นฉ่ำอย่างรุนแรง

ผมกอดผิงแน่น ซุกหน้าแนบเรือนผมหมาดชื้นเหงื่อ จูบเคล้าเคลียด้วยความรู้สึกอ่อนหวานที่ซ่านแผ่ในหัวใจ

นานหลายนาที ผมซุกซบกกกอดเธอไว้อย่างนั้น กระทั่งเสียงหอบหายใจเบาบาง คำถามค้างคาในใจทำให้ผมตัดสินใจเอ่ยถามเข้าประเด็น

“ทำไมเธอ...ยังซิง”

ผิงผินหน้ามามอง แก้มเธอยังแดงก่ำดูน่ารัก ผลักหน้าผากผมออกห่าง ดึงผ้าห่มมาปิดอก เบือนหน้าหลบ ขยับออกจากอ้อมกอด ตอบเสียงไม่ยี่หระ

“พวกนั้นฝีมือไม่ถึง”

ผมหัวเราะเบาๆ จัดการถอดถุงยางอนามัยออกโยนทิ้งอย่างไม่ไยดีว่ามันจะตกตรงไหน หันมารวบตัวผิงเข้ามากอด จูบปลายจมูกเชิดรั้น ไถจมูกโด่งของตัวเองเสียดสีเธอ จู่ๆ รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ใช่ว่าพอรู้ว่าผิงบริสุทธิ์ ผมเป็นคนเปิดซิงเธอแล้วจะตกหลุมรักหรอกนะ

เราเป็นเพื่อนกันมานาน ผมรู้สึกดีกับเธอเท่าไหร่ มันก็แค่รู้สึกดีเพิ่มขึ้นบวกกับรู้สึกผิดที่ดึงเธอเข้ามายุ่งด้วย

“ขอโทษ...” ใจรู้สึกผิด แต่ส่วนล่างกลับยิ่งคึกคักขึงขัง

“ไม่จำเป็นหรอก นายก็รู้ว่าฉัน...เต็มใจ”

“ทำไม...”

“อายุขนาดนี้ คงอยากรู้มั้งว่าเซ็กซ์เป็นไง”

เธอทำท่าจะพลิกตัวนอนหันหลังให้เพื่อลงจากเตียง ผมกระตุกยิ้ม ขยับเข้าไปกอดจากข้างหลัง จูบพรมไหล่และบ่าเปลือย

ผิงลมหายใจสะดุด ดวงตาวาวไหว เสียงที่ดังไม่มั่นคงสักนิด ผมเบียดตัวตนที่เริ่มเหยียดขยายเสียดสีบั้นท้ายเต็มตึง

“อะไร...”

“เธออยากรู้ ฉันก็จะสอนให้ไง...”

ฉวยจังหวะที่เธอผินหน้ามามองประกบจูบปากหวานๆ เริ่มระรานเนื้อตัวนุ่มอีกครั้ง กว่าความปรารถนาจะมอดดับ ผิงได้เรียนรู้บทรักจนเนื้อตัวเปลี้ยอ่อนสมกับความปากดีของเธอ...