ปัง!! ช่วงดึกของวันเสียงปิดประตูห้องนอนภายในคอนโดดังลั่นด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ร่างสูงของชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซเข้ามาภายในห้องนอนที่มีจันทร์เจ้านอนอยู่บนเตียง
ไฟภายในห้องนอนถูกมือหนาเปิดสว่างจ้าทุกดวง ร่างบางของหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวตื่น เมื่อแสงไฟจากหลอดนีออนสะท้อนเข้าตา
“พี่จะเปิดไฟทำไม”
“เรื่องของฉัน”
“แต่พี่น่าจะเกรงใจฉันบ้าง” ร่างบางยันตัวลุกจากเตียงขึ้นมานั่ง มองร่างสูงที่ยืนนิ่งมองหน้าเธอกลับ ตาดุจ้องมอง ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางยากจะคาดเดา ภายในใจของชายหนุ่มเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างคละปนกันภายในจิตใจ
“ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของเธอ”
“หน้าที่อะไร?”
“หน้าที่เมีย!!” เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่นั่งทำหน้ามุ่ย เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับของตัวเอง ทั้งเสียงเปิดประตูและแสงไฟที่เปิดสว่างจ้า
“งั้นพี่คงจำผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เมียพี่”
“อย่ามากวนประสาท” โรมจ้องมองร่างบางด้วยแววตานิ่งน้ำเสียงเริ่มดุจนเย็นยะเยือก ทำให้จันทร์เจ้าเริ่มสัมผัสได้ถึงหายนะถ้าหากเธอไม่ทำตามที่เขาบอก
มือบางกระชากผ้าห่มผืนหนาออกจากช่วงเอว ร่างบางตวาดขาลงจากเตียงนุ่ม มุ่งตรงเดินเข้าไปหาโรมที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ยอมขยับไปไหนตั้งแต่เมื่อกี้
กลิ่นเหล้าคละคลุ้งเจือปนไปด้วยกลิ่นบุหรี่จาง ๆ จากชายหนุ่ม จนคนตัวเล็กต้องรีบยกมืออุดจมูกของตัวเอง
“พี่จะให้ฉันทำอะไร”
“ถอดเสื้อ”
“ไม่”
“จันทร์เจ้า!!” หญิงสาวถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ เมื่อเจอน้ำเสียงและสายตาที่ดุจนเธอต้องทำตาม เพราะไม่อยากเจ็บตัวหรือเสียตัวในคืนนี้
โรมยังคงยืนนิ่งปล่อยให้คนตัวเล็กจัดการถอดเสื้อผ้าออก ตาดุปรายตามองคนตัวเล็กที่กำลังงุ่มง่ามบนร่างกายของเขา เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่สามารถเข้าใกล้ชายหนุ่มได้โดยไม่ถูกผลักออก ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะโกรธเธอมากเพียงใดก็ตาม
“เสร็จแล้ว”
“อืม”
“นี่!!พี่ดื่มจนเมาขนาดนี้เลยเหรอ” หญิงสาวลืมตัวจนเผลอบ่นชายหนุ่มที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำ ร่างสูงของโรม ชะงักและหันมามองหน้าคนตัวเล็กด้วยแววตาเรียบเฉย จนทำให้จันทร์เจ้าต้องรีบเอ่ยขอโทษเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะโกรธ
“ขอโทษค่ะ” เมื่อได้ยินคำขอโทษจากหญิงสาว โรมหันกลับไปและเดินเข้าห้องน้ำเงียบ ๆ ทุกอย่างภายในห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ร่างบางเดินกลับขึ้นไปนอนบนเตียงและด้วยความง่วง ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงนิทราโดยไม่รอชายหนุ่มที่กำลังอยู่ในห้องน้ำ
“เป็นเชี้ยไรวะ?” ตาดุจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของตัวเองสะท้านผ่านกระจกใส มือหนากำขอบอ่างล้างหน้าเอาไว้แน่นจนแทบแหลกละเอียดคามือ เสียงพึมพำในลำคอพูดกับตัวเองผ่านกระจก
หลังจากเหตุการณ์ที่จันทร์เจ้าเข้าโรงพยาบาล บวกกับดวงตากลมใสยืนยันกับเขาว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทำแท้งโดยการกินยาขับเลือด ทำให้ภายในใจของเขาเริ่มสับสนและลังเลใจไม่น้อย ทุกอย่างเริ่มดูโอนเอียงไปกับคำพูดของคนตัวเล็ก
“จะไม่ได้ตั้งใจได้ยังไงวะ? แม่ง!!ยังไงก็ยังเป็นเธอที่เป็นคนทำ”
“แต่งตัวไปเรียนหรือไปขายตัวกันแน่” น้ำเสียงกระแทกกระทั้นจากชายหนุ่มที่ยืนพิงขอบประตูกอดอกมองคนตัวเล็กที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
จันทร์เจ้าอยู่ในชุดนักศึกษาเธอดูเป็นสาวสวยสะพรั่ง ผิวอมชมพูและใบหน้าที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบายิ่งเสริมให้เธอดูเป็นสาวเต็มตัว การกระทำของจันทร์เจ้าสามารถทำให้ใครบางคนหัวเสียไม่น้อย
“ขายก็ยังดีกว่าให้ฟรีนะคะ” ร่างบางเดินผ่านหน้าโรมทำเหมือนกับชายหนุ่มไร้ตัวตน แต่หญิงสาวไม่ลืมหันกลับมาตอบชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มและรีบเดินออกจากคอนโด ได้ยินแต่เสียงเรียกชื่อเธอจากโรมเสียงดังตามหลังมาติด ๆ
“จันทร์เจ้า!!”
“แกหายดีแล้วเหรอเจ้า” ร่างบางเดินตรงไปบริเวณโต๊ะหินอ่อนที่มีเพื่อนรักทั้งสามนั่งรออยู่ก่อนแล้ว น้ำเสียงทักทายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นแล้ว”
“ดีแล้ว พวกฉันเป็นห่วงแกมากนะยะ” ตั้งโอ๋เพื่อนสาวสองร่างเพรียวจีบปากจีบคอ เอ่ยถามจันทร์เจ้า
“พวกแกอยากรู้อะไรจากฉัน ถึงได้มองหน้าทำตาปริบ ๆ แบบนี้” ดวงตากลมโตกลอกตามองบน เมื่อเห็นใบหน้าอย่างรู้อยากเห็นจากกลุ่มเพื่อนรักที่เห็นเหตุการณ์ฉุดกระชากระหว่างเธอและโรมในรั้วมหาลัยไม่กี่วันก่อน
“งั้นฉันไม่อ้อมค้อมนะแก ฉันอยากรู้จนกินข้าวแทบไม่ลง นอนแทบไม่หลับ” ณิชาสาวหมวยประจำกลุ่ม ตาเรียวประกายเด่นชัดและรอฟังคำตอบจากจันทร์เจ้าใจจดใจจ่อ โดยมี มีนาและตั้งโอ๋นั่งนิ่งสงบเสงี่ยมและกำลังตั้งใจฟังเรื่องเล่าจากเธอ
“ฉันกับผู้ชายที่พวกแกเห็น จดทะเบียนกันแล้ว”
“ห๊ะ / เชี้ย / คุณพระ” เพื่อนรักทั้งสามอุทานขึ้นบวกกับท่าทางยกมือขึ้นทาบอกดั่งคนตกใจสุดขีด เมื่อได้ยินในสิ่งที่จันทร์เจ้าเฉลยออกมา
“ที่แกชอบรีบกลับคอนโดก็เพราะเรื่องนี้เหรอ”
“ใช่ ฉันต้องรีบกลับไปเตรียมอาหารเย็นให้กับเขา”
“ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ตั้งโอ๋ที่นั่งเงียบอยู่นานโพล่งถามขึ้นมา เพราะเธอกับจันทร์เจ้าจบจากโรงเรียนมัธยมมาด้วยกันและสนิทกันมาก แต่เหตุไหนทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องราวความรักของเพื่อน
“จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้จะปิดแกหรอกตั้งโอ๋ แต่ฉันรอให้มั่นใจจะได้พามาเปิดตัวกับแก”
“แล้วทำไมไม่เปิดหรือว่าตอนนี้แกยังไม่มั่นใจ”
“เมื่อก่อนมั่นใจ ก็เกือบจะเปิดตัวแต่เกิดเรื่องเสียก่อน” ใบหน้าสวยที่เล่าออกมาเริ่มนิ่ง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์แตกหักระหว่างเธอกับโรม
“ถ้าแกไม่สบายใจไม่ต้องเล่าก็ได้นะ มือไม้บางของหญิงสาวผู้เล่าเหตุการณ์ชีวิตรักของตัวเองเริ่มสั่นเทาจนมีนาสังเกตได้ มีนาพยายามใช้มือของตัวเองลูบแผ่นหลังบางเพื่อเป็นการปลอบประโลมให้จันทร์เจ้าใจเย็น
“ฉันไหว ฉันก็ไม่อยากปิดบังอะไรพวกแกแล้ว” จันทร์เจ้าพยายามรวบรวมสติของตัวเอง เธอรวบรวมเรื่องราวทั้งหมด ถ่ายทอดออกมาให้เพื่อนรักทั้งสามได้รับฟังจนหมด ภายในใจของหญิงสาวเริ่มเบาลงเมื่ออย่างน้อยเธอได้ระบายความรู้สึกให้กับคนที่ไว้ใจฟัง
“ผัวแกนี่!! ก็โง่เอาเรื่องเหมือนกันเนอะ”
“ณิชา” ไม่ใช่เสียงของจันทร์เจ้าที่เอ่ยชื่อของณิชาออกมา แต่เป็นมีนาที่เรียกสาวหมวยด้วยความตกใจกับประโยคที่เพื่อนรักผู้ออกมา
ซึ่งมีนาเองก็เคยได้ยินจากเฮียภูผาแฟนของเธอ ในเรื่องความโหดและดุของโรมและเธอเองก็เคยเจอโรมหลายครั้งจนสัมผัสได้ถึงความนิ่งที่แฝงด้วยรังสีอะไรบางอย่าง
“อย่าเรียกว่าโง่เลย ให้เรื่องว่าโคตรโง่ต่างหากย่ะ”
“แบบนี้แกจะเอายังไงต่อวะ” ตั้งโอ๋เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย นิสัยของจันทร์เจ้าที่ดูอ่อนหวานและนุ่มนวลแต่แท้จริงแล้วแฝงไปด้วยความแสบที่ใครหลายคนอาจยังไม่ทราบ
“ฉันยอมให้เขารังแกมาโดยตลอด เพราะหวังว่าเขาใจอ่อนและยอมรับฟังสิ่งที่ฉันอยากจะเล่าบ้าง ก็เหมือนกำลังหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่ต่อไปนี้ฉันจะสู้เพื่อตัวฉันเอง”