จูบอ่อนหวานอ่อนโยนที่เขาส่งมอบมานั้นเนิ่นนาน จนเธอรู้สึกอยากจะหยุดเวลาเอาไว้เพียงเท่านี้ แดนดินถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย แต่ ตอนนี้อยากจะพูดคุยกับเธอมากกว่า อยากจะเคลียร์ใจเรื่องทั้งหมดไม่ให้ค้างคาอะไรอีก
แดนดินจูงมือของฉันชนิตมานั่งตรงโซฟาสีขาวในห้องรับแขก เขาโอบเอวเธอไว้ไม่ห่างช่างทนุถนอมอย่างที่ฉันชนิตไม่เคยพบเจอใครที่อ่อนโยนกับเธอได้ถึงขนาดนี้มาก่อน
"เชื่อใจผมได้มั้ย? เรื่องในอดีตทิ้งมันไปเถอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมไม่มีทางที่จะหลอกลวงคุณ"
แดนดินเอ่ยย้ำให้เธอมั่นใจอีกครั้ง เขายื่นมือมาเขี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของเธอออกไป สายตาคู่หวานจ้องมองมาอย่างล้ำลึก ไม่มีแววเจ้าเล่ห์หรือเห็นแก่ได้และมือไวใจเร็วกับร่างกายของเธอแม้แต่นิด ผิดกับธันว์คนรักเก่าของเธออย่างสิ้นเชิง
"ค่ะ นิตเชื่อใจคุณ นิตรู้ว่าคุณคือคุณ คุณไม่ใช่เขา"
ฉันชนิตจับมือของเขาที่แนบอยู่บนแก้มของเธอ สายตาของเธอตอบรับสายตาของเขาอย่างหวานซึ้งพอๆกัน
"อย่าร้องอีกนะ ผมไม่อาจจะทนเห็นน้ำตาของคุณได้ ผมไม่รู้ว่าคุณยังรู้สึกเจ็บปวด หรือว่า ยังรักเขาอยู่หรือเปล่า แต่ผมจะไม่เอาเปรียบคุณ จะรอ รอจนกว่าคุณจะพร้อม พร้อมที่จะรักผม พร้อมที่จะเป็นของผมอย่างเต็มใจ"
"ขอบคุณนะคะ"
เธอพยักหน้าน้ำตาก็ไหลลงมาอีกครั้ง แม้ว่าจะตั้งใจสักเท่าไหร่ที่จะห้ามมันไม่ให้ไหลรินลงมาก็ตาม
"ไม่ร้องแล้วนะ"
"ค่ะ ไม่ร้อง"
แดนดินโอบร่างของเธอให้อิงแอบลงบนไหล่กว้างของเขา โอบกอดเธออย่างแผ่วเบา รักใคร่ หวงแหน ไม่รู้สึกรังเกียจอะไรเธอเลยแม้เพียงนิด อดีตก็คืออดีต แต่ปัจจุบันเธอคือคนที่เขารัก แค่นั้น ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
หลายเดือนต่อมา
คฤหาสน์ปรีดาโสภณ
"แน่ใจนะ ว่าหลานฉันกำลังคบกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้นอยู่"
คุณกรองทองนั่งอยู่บนโซฟาหรูในห้องโถงของคฤหาสน์ โดยมีผู้ช่วยคือคุณสมศักดิ์ชายวัยกลางคน อายุประมานสี่สิบห้าปีสมศักดิ์เป็นผู้ช่วยและเลขาส่วนตัวของคุณกรองทองมาเนิ่นนาน ปัจจุบันก็ยังคงทำหน้าที่อยู่
"ครับ"
"ลูกเต้าเหล่าใครสืบมาครบมั้ย?"
"ไม่มีพ่อแม่ครับ เอ่อหมายถึงพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ปัจจุบันทำงานให้คุณแดนอยู่ครับ"
"อืม เรื่องงานก็ช่างเถอะอย่าไปก้าวก่าย แต่ว่าเรื่องนิสัยล่ะ เป็นอย่างไร?"
คุณกรองทองเอ่ยอย่างปลงใจ เพราะได้ตกลงกับแดนดินเอาไว้ว่าห้ามคุณย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงาน ตราบใดที่แดนดินยังบริหารอยู่เพราะผู้เป็นหลานไม่อยากพบเจอกับตนเท่าไหร่ก็พอจะเข้าใจข้อนี้ดี
"อันนี้สืบจากบริษัท ก็ดูเหมือนว่าเธอจะมีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานดีนะครับ ทำงานก็ดี คล่องแคล่วว่องไว สามารถไปคุยกับลูกค้าแทนท่านประธานได้สบายๆครับ"
"อืม โทรนัดให้ฉันหน่อย ฉันอยากคุยกับหล่อน"
คุณกรองทองนั่งฟังนิ่ง ยิ่งได้ยินชื่อเสียงของฉันชนิตเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากจะพบเจอรู้จักเจ้าหล่อนมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น
"ได้ครับ"
คุณสมศักดิ์พยักหน้ารับคำสั่งของผู้สูงอายุกว่า เสร็จแล้วก็เดินออกไป คุณกรองทองนั่งพินิจดูรูปถ่ายพร้อมประวัติส่วนตัวของฉันชนิตซ้ำอีกครั้ง
"หน้าตาก็สะสวยดี แต่เธอคงต้องผ่านด่านฉันไปก่อน ถึงจะมาเป็นสะใภ้ที่นี่ได้นะแม่หนู"
คุณกรองทองคุยกับรูปฉันชนิตด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพอๆกับสีหน้าที่เดาไม่ออกว่าท่านรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์หรือว่ารักใคร่เอ็นดู
วันถัดมา
ก๊อก ! ๆ ๆ
ฉันชนิตรีบวิ่งออกมาเปิดประตู วันหยุดแบบนี้เธอพอจะรู้ว่าใครมาหาเธอตอนเช้าแต่ว่าสภาพของเธอตอนนี้สิ หัวฟูแถมยังไม่ได้อาบน้ำ
เพราะเมื่อคืนมัวแต่นั่งคุยกับเขาจนเกือบรุ่งสางกว่าที่แดนดินจะยอมกลับห้อง เลยทำให้เช้านี้เธอตื่นสายกว่าปกติมาก
และช่วงนี้เขาก็ติดเธอมากๆ อยู่ใกล้ไม่ห่างแต่ก็ไม่เคยก้าวล้ำกับร่างกายของเธอมากกว่าการจูบ เขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ มากกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก
"morning!"
แดนดินชูถุงกระดาษบรรจุของกินอยู่ข้างในอวดเธอ สภาพที่ยังใส่กางเกงผ้ายืดขายาวเสื้อยืดคอวีและยังรัดรูปจนเห็นซิกแพคชัดเจน
"ใส่ชุดนี้ไปซื้อของมาเหรอคะ?"
"ครับ"
"มะ มันจะไม่โป๊ไปหน่อยเหรอคะ ?"
ฉันชนิตจ้องหุ่นน่าเคี้ยวของเขานิ่งแอบกลืนน้ำลายลงคอฮึก! แดนดินก้มลงสำรวจตัวเอง เขารีบออกไปแต่เช้าจนลืมว่าตัวเองค่อนข้างจะไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
"แต่ ผมก็ใส่กางเกงชั้นในแล้วนะครับ เอ่อ โป๊ตรงไหน?"
แดนดินเอามือลูบท้ายทอยเบาๆอย่างเก้อเขิน
"ช่างเถอะค่ะ จะยืนอีกนานมั้ยคะ?"
ฉันชนิตเลิกคิ้วถามเขา อดจะขำขันกับอาการเขินจนหน้าแดงของเขาไม่ได้ ซึ่งเธอก็อดที่จะแอบจ้องหุ่นเซ็กซี่ขาวผ่องซิกแพกแน่นของเขาภายใต้เสื้อผ้าที่พริ้วบางนั้นไม่ได้เลยเหมือนกัน
"โหว..อื้อ"
ฉันชนิตครางเบาๆในลำคอ ระหว่างเธอกับแดนดินยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเลยยังไม่ได้เห็นอะไรของเขา นอกจากจูบที่อ่อนหวานก็ทำเอาเธอนอนอิ่มเอมใจไปทั้งคืน เพ้อฝันเหม่อลอยจนไม่เป็นตัวของตัวอยู่แล้ว ถ้าเผลอทำอย่างอื่นไปด้วย วิญญาณของเธอต้องหลุดออกจากร่างแน่ๆ
"คุณนิตครับ คุณนิต!"
แดนดินเรียกย้ำหญิงสาวหลายครั้งที่เห็นเธอนั่งเอามือเท้าคางเหม่อลอย และไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเดินมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่ตอนไหน
"คุณ!นิต"
"อ๊า คะ คะ คุณแดน"
"เป็นอะไร ใจลอยไปอยู่กับใครน่ะ ผมหึงนะ"
แดนดินเข้ามานั่งเท้าคางจ้องเธอบ้าง
"หึงตัวเองเหรอคะ?"
ฉันชนิตเผลอหลุดพูดโต้เขาออกมา สายตาของเธอก็ยังคงแอบลวนลามเขาตอนเผลออยู่ทุกครั้ง
'กลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่นะเรา ใจร่มๆ เข้าไว้ยัยนิต ใจร่มๆ แต่ก็นะไม่รู้ตั้งใจมาอ่อยเราหรือเปล่า' หญิงสาวเถียงกับตัวเองในใจ
"อะไรนะครับ?"
"อ่ะ เปล่า ๆ ค่ะ ไหนซื้ออะไรมาคะ นิตหิวแล้ว"
แดนดินยิ้มอย่างพอใจปนเอ็นดูเมื่อรู้ว่าบุคคลที่ฉันชนิตใจลอยไปหาก็คือเขาเอง และก็รู้ว่าฉันชนิตแอบมองเขาบ่อยๆ
'แอบมองไปเถอะ ยินดีให้มองเต็มที่ครับ'
เหมือนต่างคนต่างตอบโต้กันอยู่ในใจไปมา เหมือนกับรู้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่
"รีบกินแล้วไปอาบน้ำนะ ไปเที่ยวกัน"
"เที่ยว เที่ยวไหนคะ?"
"ชอบที่ไหนทะเล หรือภูเขาดี"
"อืม ทะเลค่ะ นิตไม่ค่อยได้ไปเที่ยวทะเลนานแล้ว"ตาลุกวาวเมื่อพูดถึงทะเล
"พอดีเลย จำได้มั้ย โปรเจกต์ใหม่เราอยู่จังหวัดไหน?"
ฉันชนิตนึกอยู่ไม่ถึงห้านาทีก็ต้องทำตาโตยิ้มกว้างออกมา
"กระบี่!"
"อือ ฮึ ไปกระบี่กันครับ วันจันทร์นี้เรามีไปดูงานที่กระบี่สามวัน ลืมแล้วเหรอนี่"
"นิตไม่ใช่เลขาคุณนี่คะ ที่ต้องมาคอยนั่งจำว่าทำอะไรบ้าง แต่ในตารางงานนิตไม่มีไปต่างจังหวัดนะคะ"
"ผมเปลี่ยนใหม่เรียบร้อยแล้ว ว่างๆเข้าไลน์กรุ๊ปบ้างนะ ผมว่าแชทของผมค่อนข้างจะหนักขวามาก คุณไม่เปิดอ่านเลย"
"อ้อ เหรอคะ แฮ่ จริงด้วย นิตไม่ค่อยเปิดดูเลย ว่างๆนิตจะอ่านหนังสือฆ่าเวลาหรือไม่ก็ดูหนังมากกว่าค่ะ"
"สนใจกันบ้างสิครับ?"
แดนดินทำหน้าตาละห้อย เมื่อรู้สึกว่าฉันชนิตนั้นแทบจะไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไหร่
"สนสิคะ ในชีวิตจริงต้องสนใจอยู่แล้ว แต่ว่าโลกออนไลน์นิตไม่ค่อยเล่นโทรศัพท์จริงๆอย่างอนเลยนะ"
"งอนคุณแล้วผมจะคุยกับใครล่ะ ทั้งชีวิตผมมีแค่คุณ"
"นิตได้ยินมาว่า คุณยังมีคุณย่าอยู่นี่คะ"
"กินเถอะ เย็นหมดแล้ว"
แดนดินตัดบทไม่พูดถึงคุณกรองทอง และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่กลับคฤหาสน์ปรีดาโสภณอีกเลย และไม่เคยพูดถึงคุณกรองทองให้ฉันชนิตฟังด้วย ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าระหว่างคุณกรองทองกับแดนดินนั้นความสัมพันธ์เป็นอย่างไร แต่ว่า ก็ทำได้แค่สงสัยในเมื่อเขาไม่อยากเล่าเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ถาม
"ไปทะเลจริงๆใช่มั้ยคะ?"
"ครับ"
แดนดินหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูอีกครั้งที่เจ้าหล่อนตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กลัวผู้ใหญ่หลอกให้กินข้าวแล้วจะพาไปเที่ยว