ตอนที่11

1303 Words
"กินข้าวเย็นด้วยกันมั้ย?" เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของคอนโดฉันชนิตเอ่ยปากชวนแดนดิน คนถูกชวนยิ้มและพยักงึกๆเป็นการตกลง แล้วเดินตามร่างเพรียวของเจ้าของห้องเข้าไป มือทั้งสองข้างของเขาหิ้วของพะรุงพะรัง "คุณนิตทำกับข้าวเองเหรอ ผมช่วยนะ" แดนดินวางของไว้บนโต๊ะในห้องรับแขกเขาเสนอตัวเป็นผู้ช่วยเชฟในการทำอาหารมื้อนี้ "ได้ค่ะ ว่าแต่อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย?" "อะไรก็ได้ ผมกินได้หมด" "งั้นลุยกันค่ะ" แดนดินเดินตามฉันชนิตเข้ามาในห้องครัวของคอนโด ห้องครัวของเธอสะอาดสะอ้านสิ่งของถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบทุกซอกทุกมุม ฉันชนิตเอื้อมหยิบผ้ากันเปื้อนอีกผืนที่ยังไม่ได้ใช้งานออกมาจากในตู้เก็บของติดผนังสีขาวของห้องครัว "สวมไว้ค่ะ" "อ่อ ครับ" ฉันชนิตเอาผ้ากันเปื้อนสวมให้เขา ความที่เธอเป็นคนตัวเตี้ยกว่าเขามากเลยต้องเขย่งเท้าเข้ามาแนบชิดแบบไม่ทันระวังตัว ทำให้แดนดินเผลอได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายของเธอ ฉันชนิตผูกผ้ากันเปื้อนข้างหลังให้เขาอย่างอ่อนโยนใบหน้าของเธอยิ้มอยู่ตลอดเวลา แดนดินอดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกหวั่นไหวตามแรงเต้นตึกตักของหัวใจ ยิ่งกลิ่นกายสาวที่ปะทะจมูกเข้ามาทำให้หัวใจของเขายิ่งเต้นโครมคราม "เสร็จแล้วค่ะ มื้อนี้เอาเป็นว่าทำง่ายๆก็แล้วกันนะคะ สเต็กเนื้อกับสลัดผัก" เธอวางมือจากผ้ากันเปื้อนบนตัวเขา แล้วหันไปเตรียมวัตถุดิบที่จะประกอบอาหารมื้อนี้ "นั่นง่ายแล้วเหรอครับ?" "ค่ะ" ฉันชนิตเปิดตู้เย็นหยิบวัตถุดิบออกมาวางบนโต๊ะอย่างชำนาญ ทั้งคู่ช่วยกันไปเล่นหยอกล้อกันไปอย่างมีความสุข "พูดไปพูดมานอกจากจะเป็นยัยเมย์แล้ว คุณแดนกลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของนิตอีกคนแล้วค่ะ เพราะนิตไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย" "เราไม่ใช่เป็นแฟนกันหรอกเหรอ?" แดนดินเอ่ยออกมาทำเอาคนฟังถึงกับนิ่งชะงักแก้มแดงปลั่งขึ้นมาอย่างเขินๆ "ก็วันนี้ไง สงสัยต่อไปคุณนิตคงต้องเล่นละครยาวๆแล้วล่ะ ผมประกาศออกไปแบบนั้นแล้ว ขอโทษนะครับ" "อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ แต่นิตกลัวคุณจะเสียชื่อเสียงมากกว่าที่มาคบกับผู้หญิงอย่างนิต" "ผู้หญิงอย่างคุณนิต ทำไมเหรอ ออกจะสวย นิสัยดี น่ารักแบบนี้ ทำไมผมจะคบไม่ได้ล่ะครับ?" "เอ่อ อดีตของนิต" "ผมบอกคุณนิตไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้" ฉันชนิตอึ้งอีกครั้งแววตาคู่นั้นของเขามีความหมายที่ยากจะหยั่งถึงอีกแล้ว 'ถ้าได้เป็นแฟนกันจริงๆก็ดีสิคะ' ฉันชนิตแอบพูดเบาๆในใจ แต่คงไม่กล้าอาจหาญพูดออกไป บางครั้งอยู่สถานะเพื่อนแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว "ค่ะ" "อยู่เฉยๆครับ " เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ จนฉันชนิตใจสั่นรัวเป็นกลองเพล "ผักติดผมน่ะ" "อ๋อ...ค่ะ" ฉันชนิตหายใจโล่งอกลูบปอยผมแก้เขินเบาๆ เพราะนึกว่าเขาจะจูบเธอเสียอีก โอ้ย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเองเลยยัยนิตเอ๋ย คิดได้แบบนี้แก้มของเธอก็แดงปลั่งเพราะเขินเขา เขินตัวเองด้วยที่แอบคิดอะไรไปไกล 'ใจเราเป็นอะไรไปนะ ทำไมเวลาอยู่ใกล้ฉันชนิตแล้วมันสั่นตลอดเวลา' ต่างคนต่างก็ได้แต่สงสัยถึงความรู้สึกของตัวเองอยู่ภายในใจ ความอบอุ่นความสุขแบบนี้แดนดินเองก็เพิ่งจะรู้สึกกับเธอเป็นคนแรก ต่อให้เคยมีแฟนมาก่อนก็ไม่เคยรู้สึกอุ่นใจสบายใจแบบนี้มาก่อนเลย ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง อาหารทุกอย่างก็ทะยอยมาวางอยู่บนโต๊ะ "น่ากินจัง" แดนดินสายตาเป็นประกายเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ "กินเลยสิคะ อาจจะไม่อร่อยเหมือนหน้าตาก็เป็นได้" "ไม่จริงหรอก แต่ว่าคุณไปหัดเรียนทำอาหารมาจากไหนครับนี่ วันหลังคงต้องมาฝากท้องบ่อยๆแล้ว" พูดพรางหยิบมีดกับช้อนส้อมหั่นสเต็กตรงหน้าเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย "เอ่อ นิดเสียคุณแม่ไปตอนห้าขวบและเสียคุณพ่อตอนเรียนจบมัธยมปลายพอดี เลยต้องหัดทำเองทุกอย่าง ถ้าถามว่าเรียนจากไหนก็คงจะเป็นอาจารย์ยูทูบแล้วค่ะ อิอิ" "คุณเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งที่สุดทั้งแต่ผมเจอมา ไม่แปลกเลยที่ดูคุณเข้มแข็งในทุกๆเรื่อง บางทีเรื่องของผมอาจจะดูเล็กน้อยไปเลยถ้าเทียบกับของคุณ" "มีเรื่องอะไรที่ทำให้ลูกคนรวยอย่างคุณต้องลำบากด้วยเหรอคะ?" "ผมเสียพ่อแม่พร้อมกันตอนยังเล็กมากๆน่ะครับ" ฉันชนิตสังเกตุเห็นหน้าของเขาเศร้าหมองลงไปเมื่อเอ่ยถามถึงเรื่องนี้ เธอเอื้อมมือไปแตะหลังมือของเขาเบาๆ ไม่ทันได้ตั้งตัวแดนดินพลิกมือกลับมาจับมือเธอไว้บ้างเป็นการปลอบประโลมซึ่งกันและกัน แต่การกระทำของเขาทำให้ฉันชนิตเกือบหยุดหายใจ มันสั่นไปหมด "ต่อไปนี้มีอะไรก็เล่าให้นิตฟังได้เสมอ คุณคือเพื่อนสนิทและก็แฟนจำเป็นของนิตแล้วนี่คะ" แดนดินที่ครั้งแรกนั้นใบหน้าของเขาหม่นเศร้าอยู่พอได้ยินฉันชนิตพูดแบบนั้นถึงกับหัวเราะเบาๆออกมา ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเศร้าและซึ้งใจ หัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน "คุณนิตก็เหมือนกันนะ มีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียว" ไม่พูดเปล่าแต่ส่งสายตาหวานซึ้งแปลกๆใส่อีกฝั่งรัวๆ ความจริงแล้วเขาไม่ตั้งใจจะส่งสายตาแบบนั้น แต่ความรู้สึกมันพาไปเองล้วนๆ ทำเอาอีกคนหลบสายตาแทบไม่ทันด้วยความเขิน แต่ก็ยังคงแสร้งทำเป็นนิ่งๆ แม้ว่าแก้มนั้นจะแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วก็ตาม หนึ่งอาทิตย์ต่อมา บ้านของธันว์ 22:00 น. "ฮะโหลกลับกี่โมงคะ?" (น่าจะดึกมาก นอนได้เลยไม่ต้องรอผมนะ) "ช่วงนี้คุณกลับดึกบ่อยนะคะ" (ก็ผมยุ่ง...แค่นี้นะ) ธันว์กดวางสายเขมจิราทันที หลังจากแต่งงานกันมาได้เกือบสองเดือน ธันว์ นั้นแทบจะยุ่งอยู่ตลอดเวลากลับมาบ้านก็ปาเข้าไปเกือบรุ่งสางทุกวัน แถมกลับมาก็มีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ทำไมเขมจิราจะไม่รู้ล่ะว่าธันว์กับหญิงสาวที่ชื่อฉันชนิตเป็นอะไรกัน เพียงแค่เธอแสร้งทำเป็นนิ่งๆไม่เอ่ยออกมาเท่านั้น อีกทั้งหลังจากวันที่เจอกันวันนั้น ธันว์ก็แปลกๆไป เมาหัวราน้ำทุกวัน นิสัยของเขาจากที่เคยเอาอกเอาใจเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ยิ่งทำให้เขมจิราอดที่จะรู้สึกไม่ได้ ว่าเธอคิดถูกหรือคิดผิดที่ทิ้งแดนดินมาแต่งงานกับธันว์ เขมจิรานั่งเอนกายอยู่บนเตียงนอนครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องนี้ทั้งคืนพาลให้นอนไม่หลับ ครั้งแรกนั้นเธอเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ชนะเสียอีกเพราะธันว์นั้นเลือกที่จะทิ้งฉันชนิตและมาแต่งงานกับเธอ แต่เหตุใดกันล่ะ ทำไมตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นกลับกลายเป็นผู้แพ้ แพ้ฉันชนิตอย่างราบคาบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD