20:00 น.
แดนดินมีนัดไปคุยกับลูกค้าในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งเรื่องแผนโครงการที่จะก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ ต่อเนื่องมาจากบริษัทของแดนดินได้รับการว่าจ้างในโครงการนี้
ในสถานของแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลกแบบนี้จะไปคุยที่ไหนได้ก็ต้องเป็นสถานบันเทิงอยู่แล้วเพราะเป็นการเลี้ยงขอบคุณลูกค้าไปในตัวด้วย
ในทีมของแดนดินก็มีเหล่าวิศวกรต่างๆพนักงานในบริษัทส่วนหนึ่งก็มาด้วยประมานสามสี่คน ซึ่งแดนดินก็ตั้งใจพาพนักงานของเขามาเที่ยวพักผ่อนด้วย
ทั้งหมดมีแต่ผู้ชายฉันชนิตเลยขออนุญาตอู้งานด้วยการไม่ไปเข้าร่วมวงการสนทนาด้วย ซึ่ง ความจริงแล้วก็น่าจะไม่ได้คุยเรื่องงานกันเยอะเท่าไหร่หรอก นอกจากจะไปสนุกสนานกันมากกว่า
หญิงสาวออกมาเดินเล่นริมชายหาดคนเดียวเงียบๆ ในส่วนของมื้อค่ำนั้นแดนดินก็ได้พาเธอไปจัดเต็มอาหารทะเลมาแล้วหนึ่งมื้อ เมื่อเขาไปคุยเรื่องงานเธอเลยแอบหนีลงมาเดินรับลมทะเลสักหน่อย นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นทะเลยามค่ำคืนแบบนี้
"มาเดินคนเดียวแบบนี้ ไม่เหงาเหรอ?"
หญิงสาวหันไปตามเสียงทุ้มของผู้ชายตัวสูงที่มายืนอยู่ข้างๆเธอตอนไหนแล้วไม่รู้
"คุณ!"
"บังเอิญจริงเชียว มาถึงกระบี่ก็ยังมาเจอคุณ"เขาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้า
"เอ่อ นิต ขอตัวก่อนนะคะ"
ฉันชนิตขอปลีกตัวออกมา เพราะเรื่องวันก่อนเขายังทำให้เธอผวาอยู่เลย เมื่อเจอหน้ากันอีกครั้งเลยรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อต้องอยู่ใกล้ๆเขา
"เลิกเดินหนีผมเสียทีเถอะนิต ผมไม่ได้จะมาทำร้ายคุณ"เหมือนธันว์จะรู้ทันความคิดฉันชนิตเลยพูดดักออกมา
"แต่สถานะของเราไม่เหมาะสมที่จะมายืนคุยสนทนากันสองต่อสองแบบนี้"
"ครั้งนี้ผมตั้งใจเอาไว้ ว่าถ้าเจอคุณอีก ผมจะขอโทษคุณ"
ธันว์ปรายตาหันมามองเธอ ในขณะที่ตัวของเขาหันหน้าเข้าหาทะเล มืออีกข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ท่าทางของเขาดูโอนอ่อนมากขึ้น ไม่ได้ดูขาดสติดั่งเช่นวันก่อน
"นิตลืมมันไปหมดแล้ว และนิตก็ให้อภัยคุณแล้วด้วย"
ธันว์หันมาประชันหน้ากับเธอเต็มความสูง ในดวงตาคมคู่นั้นมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่
"ผมขอโทษที่ทำให้ต้องสูญเสียลูกของเราไป ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับคุณมากมาย"
เมื่อพูดถึงเรื่องลูกน้ำตาก็เอ่อล้นออกมาและหยดไหลลงบนแก้มอย่างไม่อาจที่จะสะกดกลั้น
"เรื่องมันผ่านมาเกือบปีแล้วค่ะ ถือซะว่าให้เขาได้ไปเจอพ่อแม่และครอบครัวที่อบอุ่น นิตกลับคิดว่าดีเสียอีกที่เขาไม่ได้เกิดมา เพราะเกิดมาก็มีแต่แม่"
"ถ้าผมรู้ ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ และจะไม่มีวันแต่งงานกับใคร"
ฉันชนิตไม่รู้ว่าสิ่งที่ธันว์พูดมานั้นมีความจริงแค่ไหน แต่สายตาและน้ำเสียงของเขานั้นมีแต่ความหมองเศร้า
ธันว์นั้นถึงแม้จะร้ายสักแค่ไหนแต่เขาเป็นคนที่รักเด็กมาก ยิ่งได้รู้ว่าฉันชนิตเคยท้องลูกของเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกับเธอที่ทำให้เสียลูกไป
ตอนนั้นเขาพร่ำบอกให้เธอคุมกำเนิดเพราะยังไม่พร้อม กลัวกระทบหลายอย่าง แต่เขาก็เคยบอกกับฉันชนิตเหมือนกันว่าถ้าพลาดห้ามทำแท้ง เขาจะรับผิดชอบเด็กเอง
แต่ในความหมายของเขาตอนนั้นก็คือรับผิดชอบแค่เด็ก แต่ฉันชนิตกลับเข้าใจว่าเขาจะรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ
หญิงสาวจึงไม่ได้เคร่งครัดหรือเครียดในการคุมกำเนิดเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นก็ต้องยอมรับว่ารักและหลงธันว์มากจริงๆ
"มันสายไปแล้วล่ะค่ะสำหรับเรื่องของเรา ตอนนี้คุณธันว์ควรกลับไปโฟกัสกับภรรยาของคุณ มันสายไปสำหรับคุณกับนิต แต่เรื่องระหว่างคุณกับคุณเขมมันเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากนี้นิตเพียงหวังว่าให้คุณกับคุณเขมมีความสุขมากๆนะคะ นิตขอตัวค่ะ"
ฉันชนิตเอี้ยวตัวกลับมา เพื่อจะเดินออกมาจากจุดนั้น
"ผมหย่ากับเขมจิราแล้ว"
หญิงสาวหยุดชะงักงันอย่างตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำนั้น เธอหันกลับมาหาธันว์อีกครั้ง
"ว่าอะไรนะคะ?"
"เมื่อต้องสูญเสียคุณให้กับแดนดินไป ผมจึงรู้ว่าเรื่องเดียวที่ผมพลาดมากที่สุดในชีวิต คือการที่เลิกกับคุณ"
น้ำตาไหลลงมาอีกหนึ่งหยดบนใบหน้าหล่อคมของธันว์ ดูออกว่าเขาเสียใจมากจริง ๆ ธันว์ก้าวเข้ามาหาฉันชนิตใกล้มากขึ้น
"มันจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้วใช่มั้ยเรื่องของเรา?"
ธันว์ก้มลงไปจับมือข้างซ้ายของฉันชนิตขึ้นมา
"นิต นิตรักคนอื่นแล้วค่ะ ไม่ได้รักคุณอีกแล้ว"
หญิงสาวชักมือของตัวเองกลับมา และเอี้ยวตัวกลับเพื่อจะเดินออกมาจากจุดนั้นอีกครั้ง เธอไม่อยากเห็นสภาพที่เศร้าหมองของธันว์
มันกลายเป็นตัวของเธอเองที่รู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวด ถึงแม้ว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นความผิดของธันว์ก็ตาม
"ผมขอกอดคุณอีกครั้งได้มั้ย?"
"คงไม่ได้..ขอโทษนะคะ"
ฉันชนิตเอ่ยออกมาโดยที่ไม่ได้หันไปมองเขาอีก น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะเดินผละออกมาทิ้งให้เขายืนอยู่เดียวดาย
ตอนนี้ธันว์คงจะได้รับกรรมในสิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ ยอมรับสภาพความเสียใจ ความเดียวดายอย่างที่เขาได้ทำเอาไว้กับผู้หญิงคนอื่นบ้าง
ภาพของทั้งคู่ที่ยืนคุยกัน อยู่ในสายตาของแดนดินทั้งหมด เพราะเขาขอปลีกตัวออกมาจากวงสนทนาก่อนเนื่องจากเป็นห่วงที่ต้องทิ้งให้ฉันชนิตต้องอยู่คนเดียว
แต่เดินหาเธออยู่นานก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอหญิงสาวยืนสนทนาอยู่กับคนรักเก่า ในภาพที่ยืนจับมือกันอยู่แบบนั้น เขากลัวเหลือเกินกลัวเธอจะใจอ่อนกลับไปคืนดีกับธันว์อีกครั้ง หัวใจดวงนี้อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้เลย
ฉันชนิตเดินมาจนถึงหน้าโรงแรมซึ่งอยู่ห่างกับชายหาดไม่มาก แต่ เธอถึงกับตกใจเล็กน้อยเมื่อเจอแดนดินยืนรออยู่ก่อนแล้ว สังเกตุจากสีหน้าของเขาคงจะเดาได้ไม่ยากว่าคงจะเห็นเธอยืนคุยกับธันว์แล้วแน่ๆ
"เจอกับเขามาเหรอ?"
"ค่ะ บังเอิญ"
"อืม..."
แดนดินพูดเสร็จก็เหมือนกับจะเดินขึ้นห้อง แต่ท่าทางเขาเหมือนงอนๆ เพราะไม่ได้เอ่ยชวนเธอเดินไปด้วยกัน ซึ่ง เธอกับแดนดินพักอยู่คนล่ะห้องเนื่องจากมีพนักงานของบริษัทมาด้วย ฉันชนิตเลยไม่อยากทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อโดยการใช้ห้องนอนเดียวกัน
'เป็นอะไรของเค้านี่ โกรธอะไรก็ไม่พูด'
ฉันชนิตถึงกับถอนหายใจออกมาเมื่อแดนดินเดินนำลิ่วเธอไปอย่างเร็ว อาการหมางเมิน น้ำเสียงห้วนๆ ไม่พอใจของเขาชัดเจนมากแต่เขากลับเงียบไม่เอ่ยอะไรออกมา
ทำเอาฉันชนิตถึงกับรู้สึกไม่สบายใจต้องรีบเดินตามแดนดินไปอย่างไวเพื่อปรับความเข้าใจกัน