“เบลล์จ๋า..”
นั่นไง! สงสัยชาติก่อนเธอทำบาปไว้เยอะ ชาตินี้เลยต้องมาใช้เวรใช้กรรม
“ให้พี่ช่วยถือนะ”
อธิวรรธน์รีบอาสาถือตะกร้าหมาก เอ๊ย! ถุงผ้าของนีรนารา ทว่าเจ้าของมันดูท่าจะไม่ยอม
“น่านะ.. เดี๋ยวพี่ถือไปส่งให้ที่รถ หรือจะให้พี่ขับรถไปส่งให้ถึงบ้านเลยก็ได้น้า พี่สปอร์ตใจดีแต่ไม่ขี้หลีชะนีคนไหน นอกจากเบลล์คนเดียว”
สโลแกนของอธิวรรธน์ทำให้คนฟังถึงกับเผลอกลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้
“ฉันถือเองได้ ไม่ได้เป็นง่อย”
นีรนาราไม่เข้าใจเลยว่าชายหนุ่มจะมาวอแวอะไรกับเธอนักหนา เลิกกันไปก็ตั้งนานแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมจบแล้วไปหาชะนีคนอื่นมา รับประทาน
“คุณหมอคะ ฉันถามคุณจริงๆ เถอะ หูคุณมันยังใช้การได้ดีอยู่หรือเปล่า ที่ฉันพูดเมื่อเช้าคุณไม่เข้าใจเลยหรือยังไงคะ”
คนสวยหน้าหวานหันมามองเขา สองแขนที่มีกระเป๋าคล้องอยู่ยกขึ้นเท้าสะเอว ตั้งท่าหาเรื่อง แต่ทำไมยิ่งมองมันยิ่งน่ารัก
“พี่บอกเบลล์แล้วไง เรื่องที่จบไปแล้วก็ให้จบไป แต่พี่จะจีบเบลล์ใหม่” เขาพูดพลางส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้ผู้หญิงตรงหน้า “พี่ถือว่าขออนุญาตแล้วนะครับ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็ถือโอกาสที่เจ้าหล่อนกำลังส่งสายตามาด่า แย่งเอากระเป๋าที่คุณเธอถือแล้ววิ่งทันที
“เฮ้ย! ไอ้โจรกระชากกระเป๋า เอาของฉันคืนมานะ”
นีรนารารีบวิ่งตามนายแพทย์ไป โชคดีที่เธอเปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงเป็นรองเท้าคัทชูสีสุภาพก่อนจะออกจากห้องทำงาน จึงทำให้สามารถวิ่งตามชายหนุ่มได้อย่างถนัด
ขายาวๆ วิ่งหนึ่งก้าวก็เท่ากับคนข้างหลังวิ่งสามก้าวแล้ว อธิวรรธน์แกล้งวิ่งช้าๆ ทิ้งระยะห่างจากนีรนาราไม่มาก ด้วยว่าไม่อยากให้เจ้าหล่อนเหนื่อยจนไม่มีแรงด่าเขา
“ไอ้หมอจี๊ป! เอากระเป๋าฉันคืนมานะ” เธอโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ก็ดูไอ้บ้านี่สิ! “คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง จู่ๆ ก็มากระชากกระเป๋าคนอื่นวิ่งแบบนี้ ฉันแจ้งตำรวจจับคุณได้นะไอ้หมอ”
อธิวรรธน์ทั้งสงสารทั้งขำ นีรนาราคงจะโกรธจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองวิ่งตามเขามาถึงหน้าห้องพักแพทย์ ชายหนุ่มคล้องหูกระเป๋าเข้าที่แขนของตน ก่อนจะดึงอดีตคนรักมาสวมกอด
นีรนาราตกใจแทบช็อก เจ้าหล่อนพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของอธิวรรธน์ ทว่ามันไม่ได้ผล แขนของเขากอดรัดเธอเอาไว้แน่นและใกล้ชิดจน..
..ได้ยินเสียงร้องไห้
เธอชะงัก แต่เพียงครู่แผลเก่าที่เขาฝังเอาไว้ที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย มันก็สะกิดเรียกสติ
อย่าสงสารคนที่เคยทำร้ายเราจนแทบปางตาย..
“มารยาของคุณหลอกฉันไม่ได้หรอกนะคะ” เธอกระซิบบอกเขา
ร่างกายที่โดนพันธนาการเอาไว้ เวลานี้เธอไม่ได้พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของอธิวรรธน์อีกต่อไป ยอมให้เขากอด.. กอดจนกว่าจะพอใจและยอมปล่อยเอง เพราะรู้ดีว่า.. ทำอะไรไปมันก็ไม่มีประโยชน์ “คุณตัวใหญ่ ฉันสู้แรงควายของผู้ชายไม่ไหว อยากกอดก็กอดไปเถอะค่ะ แต่คุณรู้ไว้นะ..ฉันขยะแขยง”
เธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ อ้อมกอดนี้มีผู้หญิงกี่คนก็ไม่รู้ที่ได้ครอบครองมัน แม้ความรักและความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีต่อผู้ชายที่ชื่ออธิวรรธน์จะเลือนหาย ทว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลบเลือนจากความทรงจำก็คือ.. ภาพในวันนั้น วันที่เขาทรยศเธอ วันที่เธอหอบหัวใจอันบอบช้ำฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาราวกับต้องการสมน้ำหน้าไปที่หอพัก ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงชัดเจน ภาพผู้หญิงอ่อนแอน่าสมเพชนอนร้องไห้น้ำตาไหลจนแทบจะกลายเป็นสายเลือด
มันไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลาเลย..
“ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งได้ไหม หนึ่งปีที่เราจากกัน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับชีวิตพี่ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากตามไปง้อเบลล์ แต่พี่มีเรื่องจำเป็น เบลล์ให้โอกาสพี่ได้อธิบายนะ”
อธิวรรธน์คลายอ้อมกอดจากหญิงสาว เขามองสบตาเจ้าหล่อนอย่างพยายามขอโอกาส น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลในวันนี้ มันมีทั้งความรู้สึกผิดและดีใจ ดีใจที่ได้มีโอกาสกอดผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง..
“ขอกระเป๋าฉันคืนเถอะค่ะ ฉันอยากอยู่ที่นี่แบบไม่มีปัญหา อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลยนะคะ กลับไปดูแลคนของคุณเถอะ”
อธิวรรธน์ไม่เข้าใจในสิ่งที่นีรนาราพยายามจะสื่อ คนของเขางั้นหรือ? ใครกัน..
“พี่ยังโสด”
เรียวปากอิ่มแสยะยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าพูด เธอมองผ่านเขาไปที่กาญจนาซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่ใกล้พอจะได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอกับชายหนุ่ม
“คุณพยาบาลคนสวยที่ยืนอยู่ตรงนู้น คุณรู้จักเขาไหมคะ เขายืนมองเราสองคนนานแล้วนะ ดูท่าว่าเขาคงจะมีอะไรหรืออยากคุยอะไรกับคุณหรือเปล่า” เธอพยักพเยิดไปทางด้านหลังของอธิวรรธน์