เขาอยากอยู่…2/1

1077 Words
วันจันทร์วันพรรษามาทำงานตามปกติ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในซึ่งมีเลปกรและเพื่อนอีกสองคนคือ พิฉัตรกับเอกนฤณร่วมหุ้นกันเปิด สีหน้าและแววตาของหญิงสาวไม่มีความผิดปกติใด เธอเก็บซ่อนปัญหาของตนเองไว้ได้อย่างมิดชิด ตัวบริษัทเป็นอาคารสองคูหาเชื่อมต่อกัน ชั้นบนเป็นห้องประชุมและห้องผู้บริหารซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของทั้งสามคนไม่ค่อยได้เข้าไปใช้งานนักเพราะนอกจากบริษัทนี้แล้วดูเหมือนผู้ร่วมหุ้นทั้งสามจะมีงานอย่างอื่นที่ดูแลอยู่ด้วยจึงไม่ได้นั่งทำงานที่นี่เป็นหลักซึ่งเจ้าหน้าที่ธุรการอย่างวันพรรษาไม่เคยคิดจะละลาบละล้วงถามรายละเอียด ออฟฟิศนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้ลูกค้ามาติดต่องานเท่านั้น เลปกรและเพื่อนทั้งสองจะสลับกันเข้ามาน้อยครั้งที่จะเข้ามาพร้อมกันทั้งสามคน เงินเดือนที่นี่สูงกว่าที่อื่นในตำแหน่งเดียวกันหนึ่งพันบาท แม้จะดูไม่มากเลยแต่สำหรับคนที่มีวุฒิแค่ปวส.อย่างวันพรรษามันช่วยค่าเช่าห้องของเธอได้ตั้งครึ่ง ก่อนหน้านี้หญิงสาวเป็นลูกจ้างรายวันของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งอยู่เกือบปีทำหน้าที่ถ่ายเอกสารและจัดเอกสารจนกระทั่งจบโพรเจกต์และไม่มีการจ้างงานต่อเธอจึงต้องหางานทำใหม่จนได้งานเป็นพนักงานขายของหน้าร้านของช็อปสินค้าระดับกลางในห้างใหญ่ไม่ไกลจากห้องเช่าเล็ก ๆ ของเธอนัก หลายเดือนต่อมาเธอถึงได้เห็นประกาศรับสมัครงานของบริษัทนี้ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ พนักงานในบริษัทนอกเหนือจากเจ้านายสามคนจึงมีเพียงแค่สี่คนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือวันพรรษา เธอเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการที่ทำทุกอย่างตั้งแต่งานเอกสาร จัดตารางนัดหมายให้เจ้านาย ต้อนรับลูกค้า รับโทรศัพท์ ดูแลอาคารสถานที่จนกระทั่งชงกาแฟให้เจ้านายหรือลูกค้าที่มาติดต่องาน เจ้าหน้าที่ประจำอีกคนก็คือป้าจันทรแม่บ้านรูปร่างท้วมที่มีหน้าที่ทำความสะอาด และรปภ. อีกสองคนที่เข้าเวรสลับกัน ป้าจันทรเปิดประตูเข้ามาด้านในก็เห็นวันพรรษานั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์อเนกประสงค์ซึ่งเป็นโต๊ะทำงานของเธอด้วย ใบหน้าหญิงสาวแต่งแต้มเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย ปากแดงจิ้มลิ้ม จมูกเล็ก ๆ โด่งเป็นสันตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน คิ้วเรียวเข้มได้รูป เธอสวมชุดติดกันเข้ารูปสีครีมสวมเสื้อสูทสีเข้มทับอย่างเรียบร้อย เพราะตอนเก้าโมงจะมีลูกค้าเข้ามาคุยงานกับเลปกร “มาแต่เช้าอีกแล้วหนูวัสสา” วันพรรษายิ้มรับ ยกมือไหว้แม่บ้านที่สูงวัยกว่า “สวัสดีค่ะป้าจัน วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาคุยงานค่ะ วัสสาเลยมาเตรียมเอกสารไว้ก่อน” “จ้ะ ป้าก็จะเข้าไปทำความสะอาดห้องประชุมพอดี ว่าแต่หนูวัสสามาเช้าขนาดนี้กินอะไรมารึยัง นี่ ป้าซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋ มีนมข้นหวานกับสังขยามาด้วย ก็ซื้อมาเผื่อหนูนั่นแหละ เลือกเอาแล้วกันว่าจะกินอะไร” ป้าจันทรใจดีและมีน้ำใจกับเธอเสมอขนาดทำงานได้เงินเดือนไม่มากก็ยังอุตส่าห์ซื้อของกินตอนเช้ามาเผื่อเธออยู่บ่อย ๆ บางครั้งหากรู้ว่าเจ้าของบริษัททั้งสามคนเข้าบริษัทพร้อมกันป้าแกก็ยิ่งซื้อของมาเยอะ “ขอบคุณค่ะป้า” วันพรรษารับถุงอาหารมาไว้ที่หลังเคาน์เตอร์ จัดเตรียมเอกสารเสร็จค่อยนำไปเก็บไว้ที่ห้องแพนทรีจะได้ไม่โดนตำหนิว่าพนักงานไม่มีระเบียบทำงานไปด้วยกินไปด้วยซึ่งเจ้าของบริษัทบางคนไม่ชอบเรื่องนี้และคนที่ว่านั่นก็คือเลปกรผู้เจ้าระเบียบที่สุด ในตอนที่วันพรรษาเข้ามาทำงานใหม่ ๆ เรื่องที่ทำให้เธอกับเลปกรได้สบตากันตรง ๆ จนก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างในคราวนั้นก็เพราะเธอนั่งทำงานไปและกินข้าวกล่องไปด้วยที่โต๊ะ แต่เพราะตอนนั้นเธอยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาลุกไปรับประทานอาหารในส่วนที่จัดเตรียมไว้จึงต้องวางข้าวกล่องไว้ข้าง ๆ ทำงานไปตักข้าวใส่ปากไปด้วย วันพรรษาจึงจดจำมาจนถึงวันนี้พร้อมกับได้เรียนรู้นิสัยใจคอเขาแบบใกล้ชิดสนิทสนมมาเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...คิดแล้วความเศร้าก็เข้าเกาะกุมหัวใจ แต่ก่อนที่วันพรรษาจะได้นำถุงอาหารเช้าที่ป้าจันทรซื้อมาเผื่อไปเก็บที่ห้องแพนทรีเจ้าของบริษัทคนที่อยู่ในความคิดของเธอก็เดินเข้ามาด้านในด้วยสีหน้าเข้มขรึมกว่าปกติ เพราะเรื่องนั้นทำให้เขาไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก วันพรรษาสบตากับดวงตาคมที่มองเธอด้วยความโกรธเพียงแวบเดียวก็ก้มหน้าลง แค่นี้ก็เหมือนหัวใจจะรับไม่ไหว เมื่อเธอมีสิ่งที่ทำให้เกิดเป็นปัญหาสำหรับเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มเดินหน้าตึงเข้ามาถามเสียงห้วน “เอกสารที่จะให้ลูกค้าดูเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” “วัสสากำลังเตรียมอยู่ค่ะ เรียบร้อยแน่นอน ไม่มีปัญหาค่ะ” “ดี” เสียงขรึมย้ำก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นถุงพลาสติกใสใส่อาหารวางอยู่ใกล้มือ แล้วมันก็เหมือนทำให้อารมณ์โกรธของเขาเพิ่มมากขึ้น “วัสสา ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าผมไม่ชอบให้คุณนำอาหารมากินที่โต๊ะทำงาน” “เอ่อ วัสสาไม่ได้จะเอามากินที่โต๊ะทำงานนะคะ ตั้งใจว่าเตรียมเอกสารเสร็จก็จะเอาไปเก็บไว้ในครัวค่ะ” เธอบอกความจริงแต่ชายหนุ่มก็ยังแสดงสีหน้าไม่พอใจ มองเธอด้วยแววตาขุ่นขวางก่อนจะสะบัดหน้าเดินขึ้นไปชั้นสองสวนกับป้าจันทรที่ลงมาจากทำความสะอาดห้องประชุม “สวัสดีค่ะคุณเล...อะ อ้าว คุณเลเป็นอะไรหน้าบอกบุญไม่รับเลย” ประโยคหลังป้าจันทรเดินมาพูดกับวันพรรษาเมื่อชายหนุ่มเดินขึ้นชั้นสองไปแล้ว หญิงสาวส่ายหน้าเบา ๆ รวบถุงอาหารทั้งหมด ฝืนยิ้มด้วยแววตาเศร้าบอกว่า “วัสสาเอาอาหารไปไว้ในห้องแพนทรีก่อนนะคะ” “จ้ะ จ้ะ” ^ ^ ^ ***จะจัดการยังไง โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD