หลายวันต่อมา...
“เอิ๊กกกก!!!” ฉันเรอออกมาเมื่อกินข้าวอิ่มแล้วฉันอยู่ที่นี่มาอาทิตย์นึงและไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ด่ากัน ทะเลาะกัน ตีกัน ไม่มีเลยวันเวลาที่สงบสุข
“สภาพเนอะแดกแล้วก็เรอถามจริงนี่แม่เป็นผู้ดีจริงป่ะเนี่ย?” เขาเดินมาและถามฉันบอกเลยหลังจากวันนั้นเราทั้งคู่ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและอย่าคาดหวังว่ามันจะอ่อนโยนกับฉันมากขึ้นเพราะว่ามันไม่มีเลย!
“คุณแม่สอนมาอย่างดีแหละแต่ขี้เกลียดจำ” ความจริงฉันเห็นเขาเดินเลยเรอใส่
“เออดีเนอะ”
“เรอใครมันจะห้ามได้วะแล้ววันนี้นายไม่ไปเรียนเหรอ?” ฉันถามเขา
“บอกว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัว”
“ก็แค่ถามไหมวะจะเคร่งไปไหนเนี่ยไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ!!รำคาญหมนุษย์ชายแท้วะ” ครืนน! ฉันลุกจากเก้าอี้กินข้าวและเดินไปล้างจานวันนี้ฉันไม่มีเรียนหรอกแต่ว่ามีที่ที่ต้องไปหน่อย
“แล้วเธอจะไปไหน?”
“เสือก” ฉันยิ้มให้ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมกุญแจรถ ทีเขายังไม่บอกเลยแล้วทำไมฉันต้องตอบวะ?
“เอาคืนว่างั้น?”
“เออไง เพราะงั้นฉันจะไปไหนทำอะไรมันเรื่องของฉันย่ะนายอย่ายุ่งได้ป่ะละ ๆ เนอะ?”
“ผู้หญิงอะไรกวนตีนฉิบหาย”
“นายเริ่มก่อนเนอะ แบร่!!” ฉันแลบลิ้นปลิ้นตาเสร็จก็ออกมาเลยขี้เกลียดเถียงด้วยอะวันนี้วันดีไม่อยากกัดกับหมา
ปัง!
โฮ่ง!!
“ว้ายยย!” เมื่อประตูคอนโดปิดลงฉันก็ต้องร้องตกใจเมื่อมีเสียงหมาเห่า ฉันเลยหันไปมองเป็นมาไซบีเรียและเจ้าของอยู่ด้วย
“ฮันนี่อย่าเห่าเขา!” เจ้าของดุหมาตัวนั้น งั้นที่ธันเดอร์บอกว่าข้างห้องมีหมาก็จริงอะจริง? คิดว่าพูดเล่นไอ้เวรนี่!!
“ขอโทษแทนฮันนี่ด้วยนะครับพอดีว่ามันคงตกใจ” ฉันสวยขนาดนี้ตกใจเรื่องอะไร?
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ตกใจนิดหน่อยแค่นั้นเอง ^^” ฉันตอบและส่งยิ้มกว้างเพราะว่าเจ้าของหมาหล่อมาก!! หล่อแบบหวาน ๆ ไม่เถื่อนเหมือนไอ้ตัวในห้องอะ
“ครับ แล้วพึ่งมาอยู่ใหม่เหรอครับผมไม่เคยเจอเลย?” เขาถามอย่างสุภาพ
“ค่ะ พอดีว่าคอนโดของฉันไม่ค่อยดีเลยย้ายมาอยู่กับพี่ชายชั่วคราวน่ะค่ะ”
“อ่อ แบบนี้เอง ผมชื่อบีกันนะครับ เรียกว่ากันเฉย ๆ ก็ได้ครับ ^^” ยิ้มหวานมากพ่อคุณเอ๊ย!
“ค่ะ คุณกันเฉย ๆ ”
“เอ่อ..” ช๊อกไปแล้วนั่นมุกฉันเสี่ยวเกินไปเหรอ?
“ล้อเล่นค่ะ ฉันชื่อเทียนหอมนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ฉันแนะนำตัวเองบ้าง
“ครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อย ๆ นะครับเพราะว่าอยู่คอนโดเดียวกัน” ฉันก็คาดหวังอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ >.//เวลาต่อมา...
บ้านริมธาร
เอี๊ยด!
ฉันจอดรถที่หน้าบ้านริมธารมันเป็นบ้านเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ของฉันอุปถัมภ์เอาไว้หลายปีแล้ว และฉันก็มาที่นี่บ่อย ๆ เพื่อสอนเด็ก ๆ รำและสอนดนตรีไทยบ้างนิดหน่อย
“แม่สายสวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้แม่สายที่คอยดูแลเด็ก ๆ ที่นี่ เมื่อก่อนแม่สายดูแลเด็กที่นี่เพียงลำพังสุดท้ายก็ไม่รอดแต่พ่อแม่ของฉันมาเจอและช่วยเอาไว้ทันก่อนบ้านหลังนี้จะสลายหายไป
“หนูเทียนสวัสดีค่ะหายหน้าไปนานเลยนะคะ” แม่สายบอก
“เทียนวุ่นวายนิดหน่อยน่ะค่ะเลยไม่ได้มา ขอโทษด้วยนะคะ” เพราะว่าตีกับธันเดอร์อยู่
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ แม่เข้าใจแค่เป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“เทียนสบายดีค่ะยังไงให้คนไปเอาที่รถหน่อยนะคะ เทียนเอาขนมมาแจกเด็ก ๆ” ฉันบอกกับแม่สาย
“ได้เลยค่ะ ต้นไม้! ต้นไม้!” เสียงแม่สายเรียกต้นไม้เด็กที่อยู่ที่นี่แต่อีกไม่นานก็น่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว
“ครับ!!แม่ สวัสดีครับพี่เทียนหอม”
“สวัสดีจ้ะ^^” ฉันตอบกลับอย่างเป็นกันเองเพราะว่าสนิทกับเด็ก ๆ ที่นี่
“ไปยกของที่รถพี่เทียนหอมหน่อยไป”
“ได้ครับ” และหลังจากนั้นฉันก็คุยกับแม่สายนิดหน่อยก่อนจะไปหาเด็ก ๆ เพื่อแจกขนมและสอนเด็กรำด้วย
“สวัสดีค่ะพี่เทียนหอมมม!!”
“ไหนขอดูหน่อยสิว่าลืมที่พี่สอนไปหรือไง?” ฉันพูดกับเด็ก ๆ และเริ่มทบทวนท่ารำให้เด็ก ๆ สามารถเรียนได้ทั้งชายและหญิงแล้วก็ฉันไม่ได้บังคับใครอยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนเราก็มีอย่างอื่นให้ทำอย่างน้อยก่อนออกจากที่นี่เด็ก ๆ ก็ควรมีอะไรติดตัวออกไปบ้างไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรือว่าความรู้ก็ตาม
“ยังไม่ลืมค่ะ!!”
“ไหนไม่เชื่อหรอกมารำให้ดูหน่อยเร็วววว ตั้งแถว ๆ เลย” เด็ก ๆ กะตื้อรื้อร้นในการที่จะรำให้ฉันดูจากนั้นฉันก็เปิดเพลงและมองเด็ก ๆ รำไปตามที่ฉันเคยสอนมา ฉันเดินตรวจตราพร้อมสอนเพิ่มเติมบอกจุดบกพร่องของแต่ละคน
“เก่งมากกกก!!เก่งขนาดนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม?”
“ใช่ค่า!!!”
“โอเค! งั้นไปล้างมือแล้วทานขนมกันนนน”
“เย่!!” เด็กพากันวิ่งออกไปส่วนฉันก็มองพร้อมรอยยิ้ม น่ารักขนาดนี้ทำไมถึงทิ้งกันได้ลงนะ?
แต่ก็นั่นแหละไม่มีใครพร้อมจะเป็นพ่อแม่คนทุกคนหรอก...