3 | ภาขวัญ - โดนปฏิเสธ

1723 Words
3 [ภาขวัญ] โดนปฏิเสธ "ป๊าอนุญาต ถ้าพี่พายุไปด้วย" จบ พอ ไม่คุยแล้ว ฉันยกไวน์ดื่มแล้วเดินไปหามาม๊าแทน ใหญ่กว่าเจ้าพ่อมาเฟียคือเมียมาเฟีย ไม่แน่มาม๊าอาจจะอนุญาตให้ฉันไปก็ได้ "มาม๊า... หนูอยากไปดื่มกับเพื่อนๆที่ทองหล่อ" "ก็ไปสิ แต่พกอาวุธและบอดี้การ์ดไปด้วย" "ได้ค่ะ แต่... ปะป๊ากับพี่พายุไม่ให้ไป" มาม๊าหันขวับไปมองสามีตัวเอง ป๊าไม่ได้พูดว่าไม่ให้ไปแต่ฉันอยากใส่ร้ายข้อหาเออออตามพี่พายุ "พี่องศา" "ครับ?" "ปล่อยลูกไปเที่ยวเถอะค่ะ บอดี้การ์ดพอ อาวุธพร้อม ไม่มีปัญหาหรอก" ปะป๊ากับพี่พายุมองหน้าฉัน "ได้ แต่บอดี้การ์ดต้องอยู่ข้างในด้วย ภาขวัญห้ามไล่ออกมาเด็ดขาด" ฉันทำนิ้วโอเคก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณมาม๊า สตรีหมายเลขหนึ่งของภาขวัญรู้ใจกันทุกอย่าง "ขอบคุณนะคะมาม๊า น่ารักที่สุดเลย" "เดี๋ยววันหลังมาม๊าไปด้วยนะ วันนี้มาม๊ามีธุระ เอ้อชวนพี่เดนิสไปด้วยสิ" โอ้ ภาขวัญญาติเยอะจริงๆ ครอบครัวมาม๊ามีพี่น้องสามคน มาม๊าเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายเป็นลุงแทนคุณ และน้องชายเป็นน้าแทนทิว แล้วพี่เดนิสเนี่ยก็เป็นลูกสาวคนโตของลุงแทนคุณ คือพี่ใหญ่แห่ง LION ถึงแม้จะบริหารร่วมกันแต่อำนาจการตัดสินใจส่วนมากขึ้นอยู่ที่เจ๊แก ใช่ค่ะ หัวหน้ามาเฟียที่มีอำนาจสูงสุดในไลออนเป็นผู้หญิง! เท่มาก! "ไว้จะลองโทรชวนดูค่ะ แต่เจ๊แกจะว่างเหรอออ" "ว่างอยู่แล้ว" เมื่อครอบครัวอนุญาตฉันก็หอมแก้มมาม๊าแล้วเดินไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง อยากบอกข่าวดีผสมข่าวร้าย ไปได้แต่ขาดอิสระ "ไงวะ เป็นไง" พอลถาม "ยังไงต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วย" "เออๆ พามาเถอะอึดอัดหน่อยแต่ปลอดภัย สักสองทุ่มนะ" ฉันพยักหน้าแล้วหันมองรอบๆงาน อ้าวแล้วใยไหมไปไหนเนี่ย? "มองหาอะไร?" ซานิถามและหันมองตามฉัน "ใยไหมไปไหน" "อ๋อไปคุยโทรศัพท์ สงสัยจะนัดพี่ชายมาเจอ นางบอกว่าพี่ชายนางอยู่เมืองนอกด้วยนะ เรียนจบอาจจะไปทำงานที่นั่นด้วยกัน" ดีเลย ใยไหมจะได้มีชีวิตดีๆ ที่ผ่านมาเธอลำบากมาเยอะ เท่าที่จำได้มาม๊าเล่าให้ฟังว่าใยไหมเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คุณตาเป็นคนอุปการะตั้งแต่หกขวบ ที่มาที่ไปคือไลออนไปบูรณะอาคารเรียนให้ แต่เมื่อแล้วเสร็จใยไหมดันร้องไห้วิ่งตามรถบอดี้การ์ด จนคุณตาตัดสินใจอุปการะเลี้ยงไว้ แต่ไม่ใช่บุตรบุญธรรม เธอรับแค่ทุนจากไลออนจนเรียนจบเท่านั้น "ระวังไว้ก็ดีภาขวัญ" อยู่ๆพอลก็พูดขึ้นมา ก่อนจะยกไวน์ในแก้วดื่ม "แกก็เกินไป อคติเวอร์" "ฉันพูดจริงๆว่ะซานิ ใยไหมทำตัวแปลกๆ คล้ายจะพาใครสักคนมาให้เรารู้จักเพื่อให้เราตายใจ" "คิดมาก พี่นางน่าจะกลับมาจากเมืองนอกพอดีนั่นแหละ" แล้วซานิก็เงียบเมื่อใยไหมเดินยิ้มกลับมาหาพวกเรา "คุยอะไรกันเหรอ?" ไม่มีใครตอบ มีแค่ฉันที่ยิ้ม "เอ้อ สรุปภาขวัญไปดื่มต่อไหม ถ้าไม่ไปเราจะพาพี่ชายมาดื่มที่นี่จะได้มาไหว้ท่านด้วย" ท่านที่ใยไหมพูดถึงคือคุณตาของฉัน นั่นไงพอลน่ะคิดมาก ถ้าใยไหมไม่บริสุทธิ์ใจเธอไม่กล้าพามาเจอคุณตาหรอก เหมือนซานิจะคิดเหมือนฉัน เธอหันไปมองค้อนพอลแวบหนึ่งแล้วแตะแขนใยไหม "ภาขวัญไปได้ แต่บอดี้การ์ดไปแน่นๆเหมือนเดิม" "อ้อโอเค ดีแล้วปลอดภัยดี" หลังจากนั้นเราก็กลับไปฉลองกับครอบครัวตัวเอง ฉันดื่มกับปะป๊ามาม๊าเสร็จก็ไปชนแก้วกับพี่ภาคิณ และไปยืนดื่มกับพี่หมอภูมิริมน้ำ แต่ไม่ได้อยู่สองต่อสองหรอกบอดี้การ์ดยืนคุ้มกันด้านหลัง แถมพี่หมอภูมิก็ไม่ดื่มด้วย เขาต้องไปเข้าเวรต่อ "แป๊บเดียว ภาขวัญโตเป็นสาวเรียนจบแล้ว" "นั่นสิคะ แล้วพี่หมอภูมิ... วางแผนอะไรไว้ไหมคะ" ฉันถามอ้อมๆ และไล้นิ้วชี้กับแก้วไวน์แก้เขิน "ภาขวัญหมายถึง?" "กับภาขวัญไง อยากจะขอภาขวัญคบบ้างไหม" หมอวัยกลางคนข้างๆหันมาทันที เขาดูตกใจเล็กน้อยที่ฉันถามแบบนี้ "พี่... พี่ไม่ได้คิดกับภาขวัญแบบนั้น" ฉันชะงัก กะพริบตาปริบๆมองหน้าเขา หมายความว่าไง ที่ผ่านมาฉันคิดไปเองคนเดียวเหรอเนี่ย "พี่เอ็นดูเราเหมือนน้องที่น่ารักคนนึง พี่ไม่กล้าคิดอะไรกับภาขวัญมากไปกว่านี้ อายุเราห่างกันเกินไป" ยิ่งพี่หมอภูมิอธิบาย ฉันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองหน้าแตกหมอไม่รับรัก อายจังที่คิดเข้าข้างตัวเองมาหลายปี และแอบจุกชะมัดที่โดนปฏิเสธ ฉันมันก็แค่เด็กแก่แดดที่หวังลมๆแล้งๆสินะ ไม่ได้เตรียมใจกับคำตอบเลย คิดว่าการเป็นภาขวัญ เป็นลูกสาวมาเฟียสองตระกูลจะชี้นิ้วสั่ง และอยากได้อะไรก็ได้ แต่กับความรักมันคงยากเกินไป "ค่ะ ไม่เป็นไร" มือหนาวางลงบนไหล่ฉัน "ภาขวัญใช้ชีวิตให้สนุกดีกว่านะ มีคนที่คู่ควรกับเราเยอะแยะ" ฉันก้มหน้าลงแล้วยิ้มกับตัวเอง ก่อนที่พี่หมอภูมิจะลูบหัวปลอบ ใช้ชีวิตให้สนุก... มีคนที่คู่ควรเยอะแยะ ใครล่ะจะคู่ควรและเข้าใจฉันได้เท่าเขา ••• พอฉันแยกกับครอบครัวและพี่หมอภูมิก็เดินมุ่งไปหาเพื่อนๆทันที ไม่ไหวแล้วฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ "ไปผับกันเถอะ" "เดี๋ยวดิเฮ้ย ยังไม่สองทุ่มเลย" พอลชี้นาฬิกาที่ข้อมือให้ดู "อยากเมาทิ้งตัว อยากเต้น" "เป็นอะไรวะแก" ซานิถาม "ไปเถอะน่า! ถ้าขืนอยู่ที่นี่ฉันต้องร้องไห้แน่ๆ" ทุกคนวางแก้วในมือลงแล้วลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นบอดี้การ์ดก็ไปรายงานครอบครัวฉันว่าเราจะไปไหนกัน ใช่ค่ะ บอดี้การ์ดที่มีมันน้อยไป... พี่พายุเพิ่มบอดี้การ์ดของตัวเองมาดูแลฉันด้วย แถมยังบอกอีกว่าดึกๆจะไปรับ ห้ามไปต่อที่ไหนอีกเด็ดขาด ฉันขี้เกียจเถียงจึงยอมขึ้นรถ เราไปเปลี่ยนชุดที่บ้านฉันและตรงไปผับย่านทองหล่อพร้อมกัน โดยก่อนเข้าไปบอดี้การ์ดต้องเข้าไปเช็คความเรียบร้อยก่อน ฉันนั่งห่อเหี่ยวใจในรถกับพอลซานิและใยไหม จนสุดท้ายซานิได้ยินเสียงฉันถอนหายใจรอบที่ล้านแปด จึงตัดสินใจถามขึ้น "เป็นอะไรวะแก อยู่ๆก็ดิ่ง" "พี่หมอภูมิบอกไม่ได้คิดอะไรกับฉัน" "ห๊ะ?!" ซานิ "ไหงงั้นอ่ะ?" ใยไหม "เออ อะไรวะ" พอล "ไม่รู้ เขาบอกว่าเห็นฉันเป็นน้องที่น่ารัก และบอกให้ฉันใช้ชีวิตให้สนุกมีคนที่เหมาะสมกับฉันอีกเยอะ ปฏิเสธไม่พอยังไล่ฉันไปหาคนใหม่" มือเรียวของใยไหมตบไหล่ฉันเบาๆ "ไม่เป็นไรนะ สวยๆอย่างภาขวัญต้องเจอผู้ชายดีๆอยู่แล้ว" ฉันเบ้ปาก "ขึ้นคานสิไม่ว่า ดูสภาพฉันหน่อยใยไหมผู้ชายที่ไหนจะกล้าเข้ามา" "เดี๋ยวพ่อแกก็หาให้เองน่า อาจจะพันธมิตรธุรกิจหรือลูกชายเพื่อน แบบนี้ก็ดีออกนะพ่อแกคัดให้ เอาเป็นว่าอย่าคิดมากเลยเพื่อนรัก วันนี้สนุกสุดเหวี่ยงกันดีกว่า เรียนจบแล้วแรดได้~~" "เฮ้อ แรดก็แรด" เมื่อในผับปลอดภัย บอดี้การ์ดก็มาเปิดประตูรถและคุ้มกันเราเข้าไปด้านใน ผับนี้อยู่ในการดูแลของไลออนอะไรจึงง่าย แม้แต่การแยกพื้นที่ควบคุมความปลอดภัยของฉัน ใครก็ไม่กล้าขัด เราถูกเชิญขึ้นไปอยู่โซนวีวีไอพียกระดับมองเห็นทั้งผับมีรั้วรอบขอบชิด คนนอกไม่สามารถขึ้นมาได้ เพราะบอดี้การ์ดควบคุมการเข้าออกไม่พอ ยังเป็นคนรับเครื่องดื่มจากพนักงานมาแบ่งชิม เมื่อปลอดภัยไม่หลับไม่ตายถึงนำมาเสิร์ฟให้ฉัน "พอผิดหวังแบบนี้... ฉันควรปลงกับการมีความรักดีไหมวะ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ทำงาน นอนดูหนังโป๊ช่วยตัวเองไปเรื่อยๆ" ซานิกับพอลมองหน้าฉันทันที "สรุปอกหักหรือขาดของ" "อกหักสิ ฉันชอบพี่หมอภูมิจริงๆนะแก" "แกเมาแล้วใช่ไหม?" "ไม่เมา แต่ผิดหวังมากไปหน่อย เออใยไหม... พี่ชายแกหล่อไหม? จะพามาแนะนำให้รู้จักไม่ใช่เหรอ พามาสิ" ฉันเบนไปหาใยไหมทันทีเมื่อนึกได้ จนใยไหมยิ้มกว้างจนตาหยีราวกับดีใจที่ฉันถามถึงพี่ชายของเธอยังไงอย่างงั้น "รอเดี๋ยวนะ น่าจะใกล้มาถึงแล้ว" ใยไหมหยิบมือถือออกมากดโทรหาใครบางคนและขอตัวไปหน้าผับ แต่ก่อนออกไปเธอยืนคุยกับบอดี้การ์ดที่คุ้มกันฉัน เพื่อขออนุญาตพาพี่ชายมาดื่มด้วย "พี่ชายคุณชื่ออะไรครับคุณใยไหม?" บอดี้การ์ดถามตรวจสอบประวัติ แบบนี้ล่ะค่ะ... กว่าใครจะเข้ามาในชีวิตหรืออยู่ใกล้ฉันได้ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าคนคนนั้นมีตัวตนจริงไหม พำนักที่ไหน สัญชาติอะไร "พี่หมอกค่ะ ม่านหมอก ดำรงค์รักษ์" หลังจากนั้นบอดี้การ์ดก็กดที่หลังหูฟังของตัวเองบอกชื่อให้ปลายสายเช็คประวัติ ใยไหมยิ้มรอคำตอบ ส่วนฉัน พอล ซานิยกไวน์ขึ้นดื่ม แล้วนั่งมองเงียบๆ "มีตัวตน พามาพบคุณภาขวัญได้ครับ" "ขอบคุณค่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD