บทนำ

1386 Words
บทนำ " วันนี้หนูสวยมากเลยรู้มั้ย" เสียงแหบห้าวของสามีฟ้าประทานในคืนเข้าหอวันแต่งงานปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเสี่ยใหญ่ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนครอบครัวฉันมานานถึงสองปี ดึงตนเองให้ตื่นจากความหลังที่กลายเป็นปมปัญหาฝังรากลึกลงในจิตใต้สำนึก ผลักดันให้ฉันจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความหวาดกลัว อดีตก็คืออดีต ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันเป็นเพียงอุบัติเหตุและความบังเอิญ เหตุการณ์นั้นจะไม่มีวันหวนกลับมาเกิดกับฉันอีก ฉันเชื่อเช่นนั้น ฉันยังคงก้มหน้าลงนิ่งๆ สะกดอารมณ์อ่อนไหวที่เกาะกินอยู่ภายในใจ ความรู้สึกสับสนในชีวิตนำพาฉันก้าวเดินตามเส้นทางที่ผู้ให้กำเนิดเป็นผู้กำหนดเส้นทางชีวิตให้ฉันเดิน เสี่ยใหญ่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมืออันอวบอ้วนเข้ามาเชยคางมนของฉัน จนฉันสัมผัสได้ถึงสายตาของเขาที่กำลังโลมเลีย กวาดสายตามองใบหน้าหวานล้ำ ก่อนจะมองต่ำลงเรื่อยๆ พาดผ่านลำคอ ไหล่มน ก่อนจะหยุดที่เนินเนื้ออวบอิ่มที่โผล่พ้นชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ มือสากลูบไล้พวงแก้มสีแดงระเรื่อของฉัน ก่อนจะเคลื่อนต่ำแปรผันตรงลงระเรื่อยไปตามครรลองสายตา จนกระทั่งลงไปหยุดรอบเอวบางแล้วรั้งฉันเข้าไปกอดแนบชิด " เสี่ยคะ" ฉันตกใจจนตัวเกร็งทั้งๆ ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนหน้านี้ว่าชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายแก่คราพ่อจะต้องเจอกับอะไรบ้าง " เสี่ยรอหนูมานานแล้ว..หนูต้องทำหน้าที่ของหนูให้ดีที่สุดนะรู้มั้ย" เสียงกระซิบข้างหูที่เต็มไปด้วยไฟอารมณ์แรงพิศวาส และยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว เสี่ยยงยุทธก้มลงมาประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของฉันอย่างรวดเร็ว ฉันตะลึงไปชั่วคราวก่อนที่จะหลับตาลงยอมรับสภาพความจริงของตนเอง ปล่อยให้เขาเคลื่อนริมฝีปากเคล้นคลึงอย่างตะกละตะกลามไปทั่วแก้ม ปลายคาง และต่ำลงไปยังซอกคอ สัมผัสอันชวนวาบหวามฉุดดึงให้หัวใจของฉันดำดิ่งลงสู่อดีต วันสุดท้ายที่ฉันมีความสุขอยู่ภายในอ้อมกอดของนภัทรชายผู้เป็นรักแรกนั้นดำเนินไปอย่างเร่าร้อนด้วยเพลิงราคะที่ถูกปลุกฮือขึ้นมาจากกายหนุ่ม " ภัทรอยากนอนกับหวาน" "ภัทรจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอหวานให้เร็วที่สุด ภัทรอยากอยู่กับหวาน อยากใช้ชีวิตคู่กับหวาน" ประโยคของเขาบอกฉันเสียงแผ่วลงทุกที และก่อนที่ร่างสองร่างจะผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น ร่างสูงใหญ่ของชายผู้เป็นที่รักก็ฟุบลงกลางทรวงอกสร้างของฉันหมดสติแน่นิ่งอยู่นานเป็นนาที...ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันตั้งตัวไม่ติด จนกระทั่ง...บทสรุปสุดท้ายของเหตุการณ์ในวันนั้นคือ นภัทรหัวใจวายเฉียบพลัน เสียชีวิตในขณะที่เขากับฉันกำลัง...... เสียงกระซิบกระซาบของเสี่ยยงยุทธพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ นั้น เตือนฉันให้ได้สติอีกหน เขาเชยคางฉันขึ้นจุมพิตอย่างดูดดื่มอีกครั้ง หัวใจของฉันเต้นแรง เลือดในกายสูบฉีดร้อนระอุ เสี่ยเฒ่าพยายามสอดลิ้นเข้ามานัวเนียกับลิ้นของฉันจนฉันรู้สึกเกร็งไปทั่วร่าง สมองสั่งการให้ร่างกายฉันพยายามดิ้นรนโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งเสี่ยใหญ่ยอมถอนริมฝีปากออก " หวานยังไม่พร้อมค่ะ..เสี่ยบอกว่าจะให้เวลาหวานก่อนนี่คะ" เอ่ยประท้วงเสียงสั่น " เสี่ยให้เวลาหนูมาเป็นเดือนแล้ว.. เสี่ยยอมทุ่มทุนจัดงานแต่งงานตามที่แม่หนูร้องขอก็เพราะว่าเสี่ยรักหนูมากนะ เสี่ยต้องการหนู มา..มา..มาเป็นของเสี่ยดีกว่าหนูหวาน คืนนี้เสี่ยจะทำให้หนูมีความสุขทั้งคืนเลยคนสวย" สายตาหื่นกระหายของเสี่ยหนุ่มที่จ้องฉันราวกับเสือร้ายผู้หิวโหย ปลุกระดมขนทั่วกายของฉันลุกชันขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ฉันรู้ดีว่าการใช้แรงปะทะกับเสี่ยในตอนนี้มีแต่จะเสียเปรียบ แต่ขอให้ผ่านคืนนี้ไปเสียก่อนเถอะ คืนต่อไปค่อยคิดหาทางหนีทีไล่อีกทีว่าฉันจะโน้มน้าวเสี่ยยังไง ไม่ให้จับฉันกินในขณะที่สภาพจิตใจฉันยังไม่พร้อมเช่นนี้ " ถ้าอย่างงั้นหวานขออนุญาตเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมคะ" เสี่ยยงยุทธชักสีหน้าเสียอารมณ์เล็กน้อย แต่เขาก็พยักหน้าปล่อยให้ฉันลุกเดินออกไป ฉันยื่นนิ่งปรับอารมณ์ตนเองอยู่หน้ากระจก ความรู้สึกสะอิดสะเอียนต่อการแสดงความรักใคร่ของเสี่ยมีมากมายท่วมท้นจนเกินกว่าที่ฉันจะรับไหว ทั้งที่พยายามทำใจให้ยอมรับเมื่อก่อนหน้าแต่พอต้องมาเผชิญกับสถานการณ์จริงแล้วฉันกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนใจรับมันไม่ได้ " เสี่ยคอยหนูนานเกินไปแล้วนะ" เสียงตะโกนจากภายนอกห้องน้ำทะลุผ่านประตูเข้ามาย้ำเตือนให้เธอยอมรับสภาพ " หวานปวดท้องหนัก รออีกสักพักนะคะ" ตะโกนบอกกลับไป ' ใช่ตอนนี้หนักเอาการสำหรับฉัน' โต้เขาในใจ เวลาล่วงเลยผ่านไปเป็นครึ่งชั่วโมง แต่ทว่าเสียงเรียกขานเร่งเร้าฉันเงียบหายไปจนฉันนึกฉงน " เอาวะ..ยัยหวาน สู้ สู้ " พึมพำกับตนเอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เปิดประตูห้องน้ำออกไป และภาพที่เห็นในตอนนี้คือภาพของเสี่ยพุงพุ้ยที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่าง นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ทำไมดูเขานิ่งไป คือคำถามแรกที่ฉันสงสัย เขาไม่ทักทายเสวนากับฉัน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ฉันกระโจนขึ้นเตียงไปคุกเข่าลงข้างๆ ร่างเปลือยท่อนบนของเสี่ยยงยุทธ ลมหายใจเริ่มสะดุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ยิ่งเมื่อเห็นดวงตาที่ปิดไม่สนิท พร้อมกับใบหน้าอวบอ้วนที่เริ่มเขียวคล้ำ ทรวงอกของฉันกระเพื่อมขึ้นลงด้วยแรงหอบหายใจจากอาการตื่นตระหนกตกใจ พยายามตั้งสติให้มั่น มืออันสั่นเทาของฉันค่อยๆ ยื่นไปอังที่ปลายจมูกของเสี่ยร่างท้วม และจึงได้รู้ว่า .. " เขาไม่หายใจแล้ว!.." ร่างกายฉันสะดุ้งเฮือก ความปวดร้าวทิ่มแทงฉันอีกหนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วย้อนกลับมาเกิดกับฉันอีกครั้ง จนฉันเองก็อดคิดไม่ได้ว่า 'มันเป็นความบังเอิญหรือเป็นเพราะดวงชะตาของฉันเหมือนดั่งที่ใครๆ เขาว่ากัน' หลังจากสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันซ้ำๆ ผู้คนรอบกายต่างบูลลี่ฉันต่างๆ นาๆ ว่า " เป็นเพราะเธอ พ่อฉันถึงหัวใจวายตาย นังผู้หญิงกินผัว" คำต่อว่าต่อขานของบุตรสาวเสี่ยยงยุทธ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ว่า อาการหัวใจวายตายของเสี่ยเกิดจากการเสพยาไวอากร้าเกินขนาด " ผัวคนแรกก็ตายคาอก ผัวคนที่สองก็มาตายตั้งแต่คืนเข้าหอวันแรกอีก แบบนี้เขาเรียกว่าดวงกินผัวชัดๆ" คำสนทนากันสนุกปากในคืนวันณาปนกิจศพของเสี่ยยงยุทธ เอ่ยต่อหน้าต่อตาฉันโดยที่ไม่ได้สนใจความรู้สึกของฉันและครอบครัวเลยสักนิด " ป้าว่าหนูต้องให้แม่หนูพาไปทำพิธีถอนกรรมเรื่องดวงบริโภคภัสดาเสียก่อนนะ หนูคอยคิดจะมีผัวคนที่สามได้" ข้อความหวังดีจากเพื่อนบ้าน ที่ต่างให้ความสนใจเรื่องของฉัน เท่าที่ต้องมาตายคาอก กับตายเพราะเสพยาเกินขนาด ก็สยองขวัญสั่นประสาทฉันไปได้อีกนานไม่รู้ลืม ฉะนั้นสำหรับฉันแล้วคงไม่ต้องไปทำพิธี ไม่ต้องแก้กรรมอะไรทั้งสิ้น เพราะยัยหวานคนนี้ สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้แล้วว่า ชาตินี้ทั้งชาติฉันจะไม่ยอมมีสามีคนที่สามอีกเป็นแน่ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับฉัน ในนามของผู้หญิงที่ถูกชาวบ้านชาวช่องเขาตราหน้าว่า " ผู้หญิงบริโภคภัสดา" หรือจะเรียกภาษาชาวบ้านเราว่า " ผู้หญิงดวงกินผัว" ## จบบทนำ#
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD