ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของแรงแค้น

2260 Words
‘หากผู้ใดทำผิดกฎแห่งมนตราของประตูกั้นระหว่างสองโลก ผู้นั้นจะต้องได้รับโทษทัณฑ์พบเจอแต่ความเจ็บปวดไปตลอดกาล’* หากข้ารู้กฎข้อนี้ตั้งแต่แรกข้าจะไม่มีวันผ่านประตูนั่นมาเด็ดขาดเพราะในตอนนี้นางอันเป็นที่รักของข้ากำลังทำให้ข้าเจ็บปวดปานจะจะขาดใจ...ด้วยการทรยศต่อความรักที่ข้ามีให้นาง “เจ้านี่มันช่างโง่เสียจริงๆ เป็นถึงยักษ์ที่มากด้วยฤทธานุภาพ แต่กลับต้องมาตายเพียงเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว” ท้าวตรีภพ กษัตริย์ที่ถูกขนานนามว่ามีนางสนมรายล้อมรอบกายมากมายนับร้อยคน ซึ่งเป็นชายคนรักใหม่ของ ปันคนาส หญิงสาวที่ข้าเคยรักถึงขั้นยอมถูกเสด็จพ่อเนรเทศออกมาจากเมืองยักษ์เพื่อมาใช้ชีวิตร่วมกับนาง “...” ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากข้าแม้แต่คำเดียว มีแต่สายตาแห่งความเคียดแค้นและแสนเจ็บปวดส่งไปให้นาง ซึ่งได้แต่ยืนตัวสั่นก้มหน้านิ่งอยู่ข้างกายของท้าวตรีภพ นางคงจะละอายแก่ใจจนไม่กล้าที่จะมองหน้าข้า หากข้าย้อนเวลากลับไปได้ข้าคงเลือกที่จะเชื่อฟังเสด็จพ่อตั้งแต่แรกจะดีเสียกว่าที่ต้องมาจบชีวิตให้กับผู้หญิงแพศยาคนนี้! ร่างสูงลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องสี่เหลี่ยมของคอนโดสุดหรูใจกลางกรุงเทพที่เขาลงทุนซื้อมันมาทั้งตึกด้วยทรัพย์สินที่เก็บมานานนับพันปี...! “เมื่อไหร่ที่ข้าเจอนาง ข้าจะได้หลับตาลงโดยที่ไม่ฝันร้ายแบบนี้เสียที” ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างพยายามกัดฟันไว้แน่นเพื่อสะกดอารมณ์เอาไว้ เพราะยามใดที่เขาโกรธหรือไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตัวตนที่แท้จริงของเขาจะต้องปรากฏออกมาพร้อมกับเขี้ยวสีขาววาววับเหมือนเช่นตอนนี้! “คุณฟ้า ทำงานหนักน่าดูเลยนะครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักทายในขณะที่หญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับการจัดเอกสารแฟ้มคนไข้ให้เข้าที่ “ผอ. สวัสดีค่ะ” หญิงสาวรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มเบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้อายุอานามจะไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่แต่ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานเธอจำเป็นต้องให้ความเคารพกับเขา ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าวีรภัทรจะเข้ามาเอ่ยทักทายเธอก่อนแบบนี้ “วันนี้ผมซื้อขนมมาฝากด้วย ลองทานดูนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” ปรายฟ้ารับถุงขนมมาอย่างกล้าๆกลัวๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมงานในวอร์ดเดียวกันต่างหันมาแซวกันยกใหญ่ “ว้า ผอ.คนใหม่เสร็จปรายฟ้าเสียแล้วพวกเรากินแห้วกันถ้วนหน้าสินะ” “บ้าสิยัยเกด ผอ.เขาก็เอาขนมมาให้พวกเราทุกคนนั่นแหละ อ่ะๆ เอาไปแบ่งกัน” ร่างบางวางถุงขนมลงบนโต๊ะแล้วหันไปสนใจกับงานตรงหน้าต่อไปเพราะบ่ายนี้เธอจะต้องขึ้นไปเตรียมยาและวัดไข้ให้คนไข้ในวอร์ดอีกหลายสิบเตียง “นี่ ยัยฟ้าฉันขอคุยด้วยหน่อย” สายธารซึ่งกำลังมองเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ห่างๆเข้ามากระซิบเสียงแผ่วเบาก่อนที่ทั้งสองจะพากันเข้าไปคุยตามลำพังในห้องแต่งตัว “แกก็รู้ว่าฉันชอบ ผอ. อ่ะ แต่ทำไมแกถึงไปยุ่งกับเขาด้วย” สายธารเปิดประเด็นการสนทนาทันทีที่ทั้งสองมาถึงเขตลับตาคน “เห้ยแก เขาแค่เอาขนมมาให้ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย แกนี่คิดมากไปได้” “แต่ฉันไม่ชอบที่เขายิ้มให้แก” “อ่ะๆๆ ต่อไปนี้ฉันจะไม่เข้าใกล้ ผอ.ของแกอีกนอกจากเรื่องงาน พอใจไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วไม่คิดว่าสายธารจะจริงจังกับเรื่องแบบนี้ถึงขั้นต้องมาคุยเปิดอกเปิดใจกับตน “ขอบใจ แกสัญญาแล้วนะ” “อื้อ สัญญา” สองสาวชูนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวกันเพื่อเป็นคำมั่นสัญญาเหมือนที่เคยทำทุกครั้งตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ร่างงามสะโอดสะองของสายธารกำลังก้มหน้าก้มตาใช้มาสคาร่าราคาแพงปัดขนตาให้งามงอนยิ่งขึ้นกว่าเดิมอยู่ตรงห้องพักพนักงานเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับบ้านเช่นเดียวกับเพื่อนสาวอีกคนที่กำลังสะพายกระเป๋าใบเก่าคู่ใจไว้แนบกายโดยไม่ได้สนใจที่จะแต่งเติมใบหน้าเหมือนสายธารเลยแม้แต่น้อย “มัวแต่แต่งหน้าอยู่นั่นแหละ ฉันกลับก่อนแล้วนะ” หญิงสาวหันไปบอกเพื่อนสนิทที่เปลี่ยนไปใช้ลิปสติกสีหวานบรรจงวาดลงบนริมฝีปากอย่างเบามือ *นี่เธอจะแต่งไปทำไมกันในเมื่อจะกลับบ้านอยู่แล้วนี่* ปรายฟ้าคิดก่อนจะเดินออกไปเพียงลำพังโดยไม่สนใจเสียงเรียกของสายธารเลยแม้แต่น้อย วันนี้มีผู้ป่วยภายนอกมาใช้บริการมากกว่าปกติไหนจะต้องมาช่วยตรวจคนไข้ภายในตึกใหญ่อีกทำให้พยาบาลสาวเจ้าของใบหน้าหวานอยากจะพักผ่อนเต็มที “อ้าว คุณฟ้าจะกลับแล้วเหรอครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียกในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนรอลิฟต์โดยสาร “สวัสดีค่ะ ผอ. ฟ้าจะกลับแล้วค่ะ” ร่างบางตอบเสียงราบเรียบก่อนจะหันไปจดจ่อกับตัวเลขบนลิฟต์ต่อ “เอ่อ ให้ผมไปส่งไหมครับ จะได้แวะทานข้าวด้วยกันอีก” “คือ...วันนี้ฟ้าไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ รู้สึกปวดหัวอยากนอนพักมากกว่า” หญิงสาวบ่ายเบี่ยง เพราะตั้งแต่ วีรภัทรเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.คนใหม่ของโรงพยาบาล ชายหนุ่มมักใช้เวลาส่วนใหญ่มาป้วนเปี้ยนอยู่กับเธอบ่อยครั้งจนเพื่อนร่วมงานเริ่มแซวกันเป็นว่าเล่น ยกเว้นเสียแต่เพื่อนสาวคนสนิทอย่างสายธารที่ดูไม่ค่อยชอบอกชอบใจเสียเท่าไหร่ เพราะเธอเองก็ตกหลุมรักชายหนุ่มตรงหน้านี้เช่นเดียวกัน หญิงสาวจะไม่หนักใจเลยหากสายธารไม่เป็นฝ่ายร้องขอให้เธอเปิดทางให้ ดังนั้นคนที่รักเพื่อนอย่างเธอมีหรือจะใจจืดใจดำ “ฟ้า รอฉันด้วย” เสียงตะโกนดังขึ้นไล่หลังมาติดๆพร้อมๆกับร่างบางของหญิงสาวอีกคนที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างเต็มที่ ชายหนุ่มตรงหน้านี้กระมังที่เป็นเหตุผลให้เจ้าหล่อนลงทุนแต่งหน้าเสียเต็มยศ “ผอ. สวัสดีค่ะ จะกลับแล้วเหมือนกันเหรอคะ” สายธารก้มลงไหว้ทักทายชายหนุ่มตรงหน้าอย่างอ้อยอิ่งทันทีที่เดินมาถึง “ใช่ครับ แต่แวะมาชวนคุณฟ้าไปทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนน่ะครับ แต่คุณฟ้าเธอไม่สะดวก” วีรภัทรตอบพลางส่งสายตาที่ยากจะอธิบายไปยังหญิงสาวอีกคนที่ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อยอ่ะ” ปรายฟ้าเอ่ยเสียงราบเรียบ “จริงเหรอ แล้วแบบนี้กลับบ้านไหวหรือเปล่า” สายธารแสร้งทำเป็นเอียงคอถาม “งั้นเดี๋ยวไปผมไปส่งนะครับ ทั้งสองคนเลย” “ขอบคุณมากนะคะ ผอ.” ไม่ทันที่ปรายฟ้าจะปฏิเสธหรือพูดอะไรต่อเพื่อนสาวตัวดีก็แสดงตัวดีอกดีใจจนออกนอกหน้าเสียยกใหญ่ นี่คงเป็นอีกแผนที่เธอจะได้ใกล้ชิดกับวีรภัทรสินะ รถหรูค่อยๆแล่นออกจากโรงพยาบาลก่อนจะทะยานสู่ถนนใหญ่โดยมีสายธารนั่งอยู่ตรงเบาะหน้าหลังจากที่เจ้าตัวจัดแจงที่นั่งสำหรับตัวเองเรียบร้อย ส่วนหญิงสาวอีกคนได้แต่นั่งเงียบอยู่ตรงเบาะหลังภาวนาขอให้ถึงบ้านเร็วๆเสียที ซึ่งคงจะผิดคาดเพราะรถหรูที่โดยสารมากำลังเลี้ยวเข้าห้างสรรสินค้าขนาดใหญ่ *คงเป็นฝีมือของยัยสายธารอีกแน่ๆ* ปรายฟ้าถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะก้าวลงจากรถช้าๆด้วยความจำใจ “จริงๆให้ฟ้ากลับรถเมล์ก็ได้นะคะ เกรงใจ ผอ.” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแผ่วเบา “ไหนๆก็มาแล้วแวะทานข้าวกันก่อนสิครับ” ร่างสูงยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ในขณะที่อีกคนได้แต่ยืนฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ อุตส่าห์วางแผนให้ส่งเพื่อนที่ป้ายรถเมล์ใกล้ห้างแต่พ่อหนุ่มแสนดีตรงหน้ากลับหิ้วเธอมาเป็นก้างคอเสียนี่ “เธอนี่มารยาเก่งจริงๆเลยนะยัยฟ้า” สายธารหันไปกระซิบแผ่วเบากับร่างบางอีกคน เมื่อวีรภัทรเดินนำเข้าไปในร้านอาหาร “ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วไงว่าฉันอยากกลับบ้าน” “งั้นเธอ ก็กลับไปตอนนี้เลยสิไม่เห็นจะยาก ไหนบอกว่าจะเปิดทางให้ฉันไง” “ก็ได้ ฉันจะกลับ” หญิงสาวจำเป็นต้องยอมเพื่อนแต่โดยดีไม่ใช่เพราะเธออยากเป็นนางเอกแสนดีแต่การที่จะมาทะเลาะกับเพื่อนเรื่องผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องที่สตรีพึงกระทำ ผู้เป็นยายสอนไว้เสมอ “เอ่อ ผอ.คะ คือวันนี้ฟ้าไม่ไหวจริงๆค่ะ ขอตัวกลับก่อนะคะ” ร่างบางรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนรออยู่หน้าร้านอาหาร “เอ้าเหรอครับ เสียดายจัง ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปส่ง แล้วเราค่อยมาทานวันอื่นก็ได้ครับ” วีรภัทรเสนอ “ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้ากลับเองได้ เชิญ ผอ. ทานกับสายธารก็ได้ค่ะ ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ” ไม่รอให้วีรภัทรเอ่ยคำพูดใดๆหญิงสาวรีบกล่าวลาก่อนจะเดินจากมาทันที เธอเองก็เหนื่อยเต็มทีแล้วเหมือนกัน การเดินจากมาแบบนี้เป็นการเลี่ยงปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับเธอเพราะเธอไม่อาจผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนสนิทอย่างสายธารได้ลงจริงๆ เสียงเรียกของวีรภัทรดังไล่หลังมาก่อนจะค่อยๆเงียบลง เพราะถูกหญิงสาวอีกคนปรามไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปทานอาหารในร้านอาหารต่อตามแผนที่วางไว้ ร่างบางในชุดยูนิฟอร์มสีขาวดังเดิมกำลังเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าเลียบกับถนนทางเข้าห้างเพื่อจะออกมาโดยสารรถประจำทางเหมือนที่เคยทำ เป็นเพราะเวลาหกโมงเย็นทำให้ผู้คนที่เพิ่งเลิกงานต่างทยอยเดินทางกลับบ้าน บ้างก็แวะเวียนเดินเล่นในห้างจับจ่ายซื้อของกันก่อนกลับบ้าน จึงไม่แปลกที่การจราจรบนถนนจะเนื่องแน่นติดขัดมากมายถึงขนาดนี้ หญิงสาวพยายามอาศัยช่วงเวลาที่รถสัญจรน้อยที่สุดเพื่อจะข้ามถนนเล็กของห้างไปยังอีกฟากซึ่งเป็นถนนใหญ่เพื่อจะรอขึ้นรถเมล์ ปี๊น!!!!!!!! “กรี๊ด!!!!!!!!!!” รถตู้สีดำสุดหรูกำลังเลี้ยวเข้ามาจากถนนใหญ่เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าด้วยความรวดเร็ว จึงทำให้อีกคนที่กำลังจะข้ามถนนไม่ทันระวัง สองเท้าที่กำลังย่างลงบนถนนกลับต้องถอยหลังหนีอัตโนมัติจนสะดุดเข้ากับขอบฟุตบาทล้มลงก้นกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง จนชุดสีขาวที่ใส่อยู่ขาดร่นลงจนถึงน่อง “คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บมากไหม” เสียงหญิงวัยกลางคนหนึ่งในพลเมืองดีรีบเข้ามาประคองหญิงสาวให้ยืนขึ้นก่อนจะก้มลงปัดเศษดินบนเสื้อผ้าให้อย่างเบามือ “ขอบคุณนะคะป้า หนูไม่เป็นไรค่ะ” เรียวปากเล็กกล่าวขอบคุณในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่รถตู้เจ้าปัญหาคันนั้น *หึ คิดว่ารอยแล้วจะขับรถชนใครก็ได้เหรอ* เร็วกว่าความคิดหญิงสาวรีบถลาไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ตรงประตูใหญ่ทางเข้าห้างพอดีก่อนที่คนขับรถจะลงมาแล้วรีบเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารทันทีด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงในชุดสูทสีดำเข้มก้าวขาลงจากรถช้าๆ ใบหน้าคมเข้มของเขาดูเย็นชาอย่างแปลกประหลาด ดวงตาคมเข้มถูกปกปิดไว้ภายใต้กรอบแว่นสีดำนั่นมันยิ่งทำให้เขายิ่งดูลึกลับน่าค้นหา จมูกที่โด่งเป็นสันมันช่างรับกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อนั่นเสียจริง ผมสีดำสนิทก็ถูกจัดแต่งทรงไว้อย่างดูดี ดูตั้งแต่เท้าจรดศีรษะเขาไม่มีข้อติเลยแม้แต่น้อย หากแต่ตอนนี้ หญิงสาวจะต้องได้รับคำขอโทษจากปากเขาให้ได้ “โอ้ย!!!!” ไม่ทันที่ร่างบางจะถลาเข้าถึงตัวเขา จู่ๆอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้ายก็กำเริบขึ้นมาเสียดื้อๆ ก่อนที่ชายหนุ่มลึกลับคนนั้นจะเดินหายเข้าไปในห้างพร้อมกับลูกน้องอีกสี่คน โดยไม่ได้หันมาสนใจหญิงสาวที่กำลังจ้องมองเขาอยู่แม้แต่น้อย หญิงสาวได้แต่มองตามไปตาละห้อยที่ไม่สามารถจัดการอะไรกับพวกคนรวยมีอิทธิพลแบบนั้นได้ มือเล็กๆยังคงกำหน้าอกน้าอกข้างซ้ายไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด มันแปลกเสียจริงเพราะหลายวันมานี้เธอมักจะเจ็บทุกครั้งหลังจากที่ตื่นจากฝันร้าย แต่คราวนี้อาการเจ็บปวดกับเล่นงานเธอในขณะที่เธอยังตื่นเต็มตา *หรือว่ามันจะเป็นเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง...........*
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD