หลิ่งหลินลืมตาพรึบ มองซ้ายมองขวาเร็วๆ อีกครา
ยามนี้นังเจียเย่คงยึดร่างของนางเอาไว้สินะ!
ช่างบัดซบสิ้นดี!
แน่นอนนางต้องการกลับไปยังสถานที่แห่งตน ที่นั่นมีสำนักไพรีพิฆาตที่ยิ่งใหญ่ มีสมุนมารนับหมื่นใต้อาณัติ มีอาณาจักรต้องปกครอง มีอำนาจให้ครอบครอง
ฝ่ามือน้อยๆ กำเป็นหมัดแน่น ดวงตาหลิ่งหลินหรี่ลง คงต้องยอมเป็นสวีหลิงเยี่ยนไปก่อน แค่ย้ายร่างไม่นับว่าตาย เมื่อไม่ตาย ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ค่อยหาวิธีกลับไปแก้แค้น...
หลิ่งหลินคิดเรื่อยเปื่อยขณะพาร่างเปียกชื้นกลับเข้าจวนสกุลสวีแล้วถือโอกาสสำรวจรอบๆ ก่อนเข้าเรือนพักของร่างใหม่
หญิงสาวลอบมองซ้ายมองขวา มองประตูทุกบาน ทางทุกเส้นในจวนสกุลสวี กระทั่งเข้ามาถึงเรือนด้านใน แน่นอนว่าทุกทิศล้วนติดตรึงในความทรงจำของร่างนี้ แต่ยังต้องสังเกตให้ละเอียดรอบคอบอีกทีอยู่ดี
นางตั้งใจทำตัวเสมือนงูพิษในทะเลทราย ฝังกายใต้ผืนผสุธา กลืนกินไปกับฝุ่นดินและเม็ดทรายเสมือนมายา รอวันชูคอผงาดกล้าขึ้นมา เมื่อวันนั้นมาถึงจะฉกกัดศัตรูให้ตายอย่างทรมานสาสมเลยคอยดู!
ในห้องมีสาวใช้อยู่หนึ่งคน กำลังนั่งหลับสัปหงก คล้ายรอเจ้านายด้วยท่าทางเกียจคร้าน
หลิ่งหลินยืนมอง เห็นแล้วก็ว่าไม่แปลกที่ก่อนนี้สาวใช้ไม่ได้ติดตามสวีหลิงเยี่ยน กระทั่งสวีหลิงเยี่ยนตกน้ำ ดูท่านอนขี้เซานั่นปะไร เหมือนไม่เคยคิดจะลุกขึ้นมาทำงาน เจ้านายเป็นแค่สาวน้อยที่อ่อนแอขี้ขลาดขนาดนี้ แต่สาวใช้กลับไม่ปรนนิบัติอย่างจริงใจ ไม่คอยดูแล ตามปกป้องใดๆ
จะมีไว้ทำไม?
หลิ่งหลินเสียเวลาไม่ปลุกใครให้ตื่นขึ้นมาแล้วพร่ำบ่นเพื่อสั่งสอน นางจับกระชากหนังหัวผ่านเส้นผมของสาวใช้แล้วลากออกมาหน้าประตูห้อง
สาวใช้ตกใจจนลืมตาตื่น นางกรีดร้องอย่างงุนงง “กรี๊ด! คุณหนู! เกิดอันใดขึ้น เหตุใด?”
หลิ่งหลินไม่ตอบคำ นางถีบประตูห้องดังปัง เรียกบ่าวกวาดลานเสียงดัง “ใครอยู่ตรงนั้น ไปเรียกพ่อบ้านมา”
บ่าวคนนั้นย่อมทิ้งไม้กวาด วิ่งออกไปทำตามคำสั่ง
“คุณหนู ท่านกำลังทำสิ่งใดเจ้าคะ?” สาวใช้สับสน นางกุมศีรษะตนที่เจ็บแสบเพราะถูกดึงผมจนร่วงเป็นกระจุก
“โอ๊ย! บ่าวเจ็บ ปล่อยนะ คุณหนูบ้าไปแล้วหรือไร?”
สาวใช้ผู้หนึ่งไม่ทำหน้าที่ให้ดียังบังอาจด่าทอเจ้านาย หลิ่งหลินยิ้มเย็น “ข้าบ้าแน่” จบคำพลันเหวี่ยงร่างสาวใช้ออกไปนอกห้อง ร่างนั้นกระแทกพื้นดินดังปึก จุกจนตัวงอ
ไม่นาน พ่อบ้านก็มาพบตามหน้าที่ “คุณหนูใหญ่ เรียกข้ามามีเรื่องอันใดหรือขอรับ?”
หลิ่งหลินหันไปสั่ง “ขายสาวใช้คนนี้ออกไปซะ”
“หา!?”
สาวใช้เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
พ่อบ้านนิ่งอึ้งไป ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ คุณหนูจะลุกขึ้นมาทำอะไรเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาทำได้เพียงสงสัย รีบสั่งคนให้ลากตัวสาวใช้ออกไป ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะดิ้นพล่านอย่างไร
“ไม่นะ ข้าไม่ไป”
สาวใช้ปฏิเสธอย่างบ้าคลั่ง งานที่นี่ดีจะตาย มีเจ้านายบื้อๆ โง่ๆ บอกให้ทำอะไรก็เชื่อ แทบไม่ต้องทำงานรับใช้ ไม่ต้องคอยเชื่อฟังคำสั่ง
“คุณหนู! ท่านไร้เหตุผลเกินไปหรือไม่? จู่ๆ ก็สั่งขาย ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ท่านจะขายข้าไม่ได้ ข้าไม่ยอม!”
ยัง ยังไม่รู้ตัว
หลิ่งหลินหรี่ตา แววตาเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็น “ไม่อยากออกไปดีๆ ใช่หรือไม่?” ว่าพลางเดินย่างสามขุม กระชากหนังหัวสาวใช้ให้เงยหน้าสบตา วาจาเลือดเย็น “คงอยากตายอยู่ที่นี่กระมัง? ได้หลับสบายยาวๆเลยเป็นไร”
อีกคราที่ดวงตาสาวใช้เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม
มีบางสิ่งบอกแก่นางว่าคุณหนูใหญ่สวีผู้โง่เขลาอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าสามารถฆ่านางให้ตายได้จริงๆ สายตาน่าขนลุกนั่นคืออันใด
ใบหน้าสาวใช้ถูกสะบัดออกจากเรียวนิ้วพร้อมคำสั่ง “ลากตัวออกไป! อย่าให้ข้าเห็นหน้าอีก”
สาวใช้คนนั้นจำยอมถูกขาย มิกล้าอ้าปากโวยวายอีก
หลังจากกลับเข้าห้องและได้อยู่เพียงลำพัง หลิ่งหลินจึงอาบน้ำชำระกาย เลือกชุดใหม่บนชั้นไม้ในตู้มาสวมใส่ ทว่าเลือกอยู่นานกลับเลือกไม่ได้สักที ทั้งตู้มีแต่สีขาว บางตัวเป็นสีฟ้าอ่อน เหลืองอ่อน สดใสหน่อยก็เป็นสีชมพูอ่อนจาง
ไฉนไม่มีสีดำ สีม่วง สีแดงที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและพลังอำนาจบ้างเล่า ช่างเถอะ! นางหยิบชุดสีชมพูมาใส่ แต่ใจจริงอยากได้ชุดสีแดงโลหิตมากกว่า
ครั้นหันมองคันฉ่องเห็นใบหน้าตัวเองก็ถอนหายใจ
เฮ้อ...เดิมทีนางไม่ชอบแต่งหน้าทาชาดหรอกนะ แต่สวีหลิงเยี่ยนผู้นี้หน้าซีดจืดชืดแลดูไร้บารมีมากเกินไป เหมือนศพเดินได้กระนั้น
หลิ่งหลินจึงนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สำรวจครู่หนึ่ง ค่อยประทินโฉมเล็กน้อย เอาล่ะ เสร็จแล้ว
หญิงสาวลุกขึ้นยืน เท้าสะเอว เชิดหน้าซ้ายทีขวาที หน้าขาวปากแดงเหมือนกินเลือดใครมา
ต้องแบบนี้สิ! หึหึ...