เพราะต้องการถ่วงเวลาให้ใครบางคนไปบอกข่าวแก่องค์ชายสี่ หลิ่งหลินจึงแสร้งเจ็บท้องบ้าง เจ็บขาบ้าง ระหว่างทางเกิดสะดุดเท้าพาว่านลูกชิงหกล้มด้วยกันบ้าง เรียกได้ว่าทุลักทุเลยิ่ง ว่านลู่ชิงถึงขั้นเหนื่อยหอบ “หลิงเยี่ยน เจ้าช่วยอ่อนแอปวกเปียกให้น้อยหน่อยได้หรือไม่ มีเพียงอยู่ต่อหน้าข้ากระมังถึงดูแข็งแรงนัก ต่อปากต่อคำไม่ลดลาวาศอก” หลิ่งหลินร้องฮึ “ผู้อื่นมิได้แย่งชิงคนรักของข้านี่” “เจ้า!” ว่านลู่ชิงชี้หน้านางอย่างโมโห “ควรรู้ไว้นะว่าสิ่งที่ข้าทำลงไปนั่นคือหวังดี หากข้าชั่วร้ายกว่านี้อีกหน่อยย่อมลักลอบคบหาไม่ให้เจ้ารู้ แอบมองดูสตรีหน้าโง่เช่นเจ้าด้วยความขบขันทุกวัน ตัวข้านี้เถรตรงผ่าเผยเป็นที่สุด” ตรรกะอันใด? หลิ่งหลินหมั่นไส้จึงจับกระชากมือของว่านลู่ชิง กระทั่งล้มกลิ้งไปอีกรอบ “อุ๊ย! สะดุด” “โอ๊ย!หลิงเยี่ยน! เหตุใดเจ้าสะดุดแต่ข้าล้มคนเดียว” “เจ้าเดินดีๆ หน่อย” “โอ๊ย!” กว่าจะถึงที่หมา