บทที่6สถานะ
เช้านี้แม่แก้วตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้า แล้วให้ลูกชายเอากับข้าวปินโตไปให้ลูกสะใภ้และพี่ชายเขา “แม่ครับ เมื่อไรพี่ปราบจะกลับมานอนบ้าน” ชายหนุ่มคิดว่าพี่ชายจะแกล้งน้องปลายฟ้าไปถึงไหน
“แม่จะไปรู้เหรอ ไปถามพี่ลูกชายโน้น” แม่แก้วและสามีตามใจลูกๆ ปล่อยให้พวกเขาคิดเองทำเอง แก้ปัญหาเอง สองสามีภรรยาค่อยดูอยู่ห่างๆ
แล้วพวกเขาแต่ละคนขยันทำงาน ช่วยงานบ้านทุกอย่าง เมื่อก่อนมีหลายคนบอกว่าน่าจะให้ลูกสาวอยู่บ้าน เรียนไปทำไม ผู้หญิงควรอยู่บ้านช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน แต่งงานเลี้ยงลูกเท่านั้น
ลูกชาย 2 คนช่วยเขาทำงานบ้านได้ทุกอย่าง พวกเขายังซื้อเครื่องซักผ้าเข้ามาในบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาในบ้าน เพื่อไม่ให้แม่เหนื่อยมาก ทางด้านปินเขาปั่นจักรยานไปที่เถียงนา เมื่อไปถึงเห็นพี่ชายออกมาจากห้องน้ำที่ไม่มีหลังคาใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียว
“พี่ปราบ แล้วน้องปลายอยู่ไหนครับ แม่ให้เอากับข้าวมาให้” เขายื่นปินโตให้ชาย แต่สายตาสอดส่องมองไปทั่วบริเวณนั้น
“ขอบใจ น้องอยู่ข้างบน นายกลับไปเถอะ” เขามองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า บนตัวพี่ชายมีรอยแดงเหมือนโดนเล็บข่วนแบบนั้น แล้ววันนี้สีหน้าพี่ชายอิ่มเอม หรือว่าพวกเขาสองคน ปินยิ้มให้พี่ชาย ที่ผ้าปูถูกซักเรียบร้อยนั่นเป็นฝีมือพี่ชายแน่นอน
“ยิ้มอะไรของนาย ฉันขนลุกไปหมดแล้ว ไปสิ” “พี่ปราบ พี่รีบๆหน่อยนะ พี่แผ่นดินและพี่ต้นพวกเขามีลูก 2 คนแล้ว ไปแล้วครับบบ” เขาวิ่งกลับไปทางเดิมที่
“อีกไม่นานเราจะมีหลานแล้วไชโย” ปินตะโกนบอกให้ต้นข้าวที่เหลืองอร่าม แล้วกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่วนปราบยืนยิ้มคนเดียว ก้มลงมองเรือนร่างของตัวเอง
แล้วภาพเมื่อคืนที่พวกเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ผุดขึ้นมา ใบหน้าคมเข้มยกยิ้มมุมปาก จากนั้นยกข้าวต้มชามใหญ่ขึ้นไปบนกระท่อม พร้อมกับข้าวที่แม่ส่งมาให้มีหมูแดดเดียว ปลาสลิดทอดและผักกูดที่ผัดกับไข่ เป็นกับข้าวที่เขาตั้งใจทำสุดฝีมือ
เธอยังคงหลับอยู่ แต่ทำไมแก้มแดงนะ ชายหนุ่มเอามือแตะที่แก้มเมียแล้วก็ต้องตกใจ จากนั้นรีบเอาผ้าขนหนูมาชุบน้ำแล้วเช็ดตัวให้ หญิงสาวไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ามีถอดเสื้อเช็ดตัวให้
บนเรือนร่างของคนน้องเต็มไปรอยกุหลาบที่เขาทำไว้ แล้วถามตัวเอง “นี่เรากักขฬะเพียงนี้เลยหรือ” หลังจากที่เช็ดตัวด้านหน้าเสร็จแล้ว เขาพลิกตัวเธอเพื่อจะเช็ดตัวด้านหลัง อีกอย่างอยากดูว่าเมื่อคืนนั้น เห็นแผ่นหลังเธอไม่ชัด แต่รู้ว่ามีรอยนูนออกมา ตอนนี้มือสากสัมผัสตรงแผ่นหลังที่มีรอยนูนออกมา แม้จะดูน่าเกลียดน่ากลัว แต่ในสายตาเขากลับทำให้เขารู้สึกผิดและไม่ได้รังเกียจแผลเป็นนี้
ใช่แล้ว แผลเป็นนี้เขาจำได้ ปีนั้นเขากลับมาบ้านแล้วเธอชวนน้องปันปันไปเก็บลูกฝรั่งให้เขา แล้วต้นมันสูงเธอตกลงมา กิ่งไม้แห้งตกใส่หลัง เขาต่อว่าเธอและโยนถุงผลไม้ทิ้งตรงหน้า ปราบยิ่งรู้สึกผิด มือใหญ่ยังคงลูบแผ่นหลังนูนยาวเกือบถึงเอว
“พี่ขอโทษครับน้องปลาย ตื่นมากินข้าวกินยาเถอะครับ” ความรู้สึกผิดท้วมท้นอยู่ในหัว
หลังจากที่เช็ดตัวให้เธอแล้ว ปราบใส่เสื้อผ้าให้คนน้อง เขาใช้นิ้วโป้งคลายหัวคิ้วที่ชนกันของหญิงสาว
“ไม่ตื่นพี่ป้อนยานะครับ” ดูเหมือนเธอจะสลึมสลือเขาไม่รอเช้า เอายาแก้ไข้เข้าปากตัวเอง แล้วประคองใบหน้าเมียขึ้นมาจับท้ายทอยเธอไว้ แล้วประกบปาก ลิ้นสากดันยาเข้าไป ด้านเกวลิน เธอหลับตาพริ้ม กำลังควานหาน้ำหวาน ลิ้นอุ่นๆเข้ามาในปากเย็นของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
เวลานี้เหมือนเธอจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเขาหรือนี้ ปราบ พยายามเตือนสติตัวเองว่านี่เป็นการป้อนยา แต่เหมือนส่วนล่างจะสวนทางกับความคิดเขา
เกวลินนั้น เธอกำลังฝันว่าอยู่กลางทุ่งนา เธอเกี่ยวข้าวคนเดียวแดดร้อนเปรี้ยงๆ ด้วยความหิวน้ำจึงรีบขึ้นมาที่กระท่อมเห็นรวงผึ้งวางบนแคร่จึงหยิบขึ้นชิม แต่ชิมเท่าไรก็ไม่อิ่มสักที จึงใช้ลิ้นควานหาน้ำหวานแสนอร่อยและชุ่มชื้น แต่เธอเจ็บริมฝีปาก แล้วเหมือนถูกขบใส่
“เอ๊ะ” หญิงสาวลืมตา เวลานี้ปากชนปาก จมูกชนจมูก ลมหายใจรดใส่กัน เรือนร่างอบอุ่นแนบชิดกัน
“ชอบให้ผัวปลุกแบบนี้ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก หึ หึ หึ” อ่า เธอทำอะไรลงไป ไม่ใช่ว่าเธอนั่งชิมน้ำผึ้งหรอกหรือ จากนั้นเขาหยิบแก้วน้ำมาให้เธอ
“ดื่มน้ำก่อน เมื่อกี้พี่ป้อนยาให้ ปกติน้องอาบน้ำอุ่นไม่ใช่เหรอ” อ่า เขาป้อนยาให้เธอด้วยปากเขาหรือ แล้วทำไมไม่ปลุกเธอนะ แต่ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น แก้วน้ำเย็นๆมาแตะริมฝีปากเธอ
“ขอบคุณค่ะ…พี่ปราบ” หญิงสาวเกือบจะหลุดปากว่าคุณแล้ว “ด้วยความยินดีครับ” ฉันทันเห็นสายตาวูบไหวของเขา เลยเก็บความสงสัยไว้
“กินข้าวต้มร้อนๆก่อนนะ” ฉันเหลือบมองไปทางขวามือ เห็นอ่างน้ำและผ้าขนหนูอยู่ในนั้น อย่าบอกนะว่า โอ้ยย… ไม่ใช่ว่าเขาเช็ดตัวให้ฉัน
“ใช่แล้วครับ ก่อนหน้านั้นพี่เช็ดตัวให้ แต่ไข้ไม่ลด เลยให้กินยาถ้าไม่ดีขึ้น พี่ว่าจะพาเราไปที่อนามัยกัน” ใบหน้าเนียนใสแดงระรื่น เพราะไข้หวัดหรือเพราะความเขินอายมน่าจะทั้งสองอย่าง
“ไม่เห็นต้องอายเลย เมื่อคืนพี่สำรวจหมดแล้ว หึ หึ หึ” เกวลินพยายามที่จะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สามีภรรยาจะทำแบบนี้ แต่เธอยังไม่ชิน ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่เขินอายสักนิด
ฉันดื่มน้ำแล้วมองถ้วยข้าวต้ม “แล้วทำไมข้าวต้มมีถ้วยเดียวคะ” ฉันแก้อาการขัดเขินด้วยการถามเขากลับ
“เพื่อความประหยัดครับ มากินข้าวเถอะ เอ้า” เขายกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาคนไปมา แล้วตักขึ้นมาเป่าจะป้อนให้เธอ
“เอ่อ ฉัะ น้องกินเองค่ะ” เขายิ้มมุมปาก “ได้ครับ” แล้วเขาเอาช้อนให้เมีย แต่ถือถ้วยข้าวต้มไว้ หญิงสายหิวข้าวทันที เมื่อได้กลิ่นข้าวต้มใกล้ ๆ พอตักเข้าปาก คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็จ้องมองเธอ “ป้อนพี่สิครับ พี่ก็ยังไม่ได้กิน” เธอมองค้อนเขา “แล้วทำไมพี่ไม่กินคะ” เช้านี้เขายิ้มบ่อยเกินไปแล้ว หัวใจเธอเริ่มอ่อนไหวไปกับรอยยิ้มเขา
“พี่อยากกินกับเมียพี่ครับ” ฉันจะป้อนให้ก็ได้ ตอบแทนที่เขาทำข้าวต้มอร่อย ๆ แต่ฉันไม่ได้พูดออกไป กลายเป็นว่าข้าวต้มกับหมูแดดเดียว ผัดผักกูดและปลาสลิดทอดเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดสำหรับพวกเขาสองคน
หลังจากนั้นเขาให้ฉันพักผ่อนช่วงบ่ายจะพากลับบ้าน ไม่นานหญิงสาวหลับไปอีกรอบเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะเพลียจากกิจกรรมเมื่อคืนกันแน่
ผมรู้ใจตัวเองแล้ว ความสุขอยู่ตรงหน้าผมมาตลอด แต่ผมมองข้ามไปและไม่สนใจ
“ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่ครับ” ปราบพูดกับต้นข้าวที่พลิ้วไหวไปตามสายลม ชายหนุ่มเดินลงไปที่นาขั้นบันไดไปยังลำธาร เพื่อไปวางกับดักไว้ ความจริงที่บ้านสุขสบายกว่านี้หลายร้อยเท่า แต่ชายหนุ่มเป็นลูกชายคนแรก จึงมีโอกาสอยู่กระท่อมนี้กับพ่อแม่ตั้งแต่เกิด เลยได้สัมผัส ซึมซับชีวิตการเป็นชาวนาจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก
แล้วตั้งใจว่าจะเรียนด้านนี้เพื่อมาพัฒนาผืนนาของพ่อแม่ คิดไว้ว่า ถ้ามีครอบครัวจะมาอยู่แบบนี้เหมือนตอนที่ยังไม่มีบ้านใหญ่ พ่อกับแม่ท่านเข้าใจที่ผมมาอยู่ที่นี่ มีแต่น้องชายที่ไม่เข้าใจ เพราะตอนที่น้องชายเกิดมา พ่อแม่เริ่มมีฐานะและมีบ้านและที่ดินกว้างขวาง
“ทำไมพี่ปราบยังไม่โอนเงินมาให้เรานะ” ยาหยี วันนี้สอนเด็กๆไปด้วย ยกโทรศัพท์มาดูว่าเมื่อไรเสียงแจ้งเตือนจากธนาคารจะเข้ามาสักที หญิงสาวทำงานเป็นครูอัตราจ้างมา 4 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บรรจุสักที
พอรู้ว่าจะมีการสอบบรรจุและรู้ด้วยว่าถ้ามีเงิน แค่ไปสอบเป็นพิธีก็จะได้บรรจุแล้ว เวลานี้คนที่หญิงสาวจะขอความช่วยเหลือด้านเงินทองมีแค่พี่ปราบคนเดียวเท่านั้น
ความฝันของยาหยีที่จะได้เลื่อนขั้น ตำแหน่งงานที่ดีก็จะคู่ความกับการเป็นภรรยาท่านปลัดก้องภพ เป็นความฝันที่หญิงสายไม่เคยบอกใครมาก่อน เนื่องจากเธอคบซ้อน
ทั้งคู่คุยกันมานานแล้ว เวลาลงไปประชุมหรือไปทำธุระให้โรงเรียนพวกเขาจะนัดเจอกันเสมอ แล้วการสอบบรรจุครูครั้งนี้เขาเป็นคนที่จะยื่นมือมาช่วยเหลือเธอ แต่ต้องใช้เงินค้ำประกันสองแสนบาท แล้วเขาจะออกให้เธออีก 1 แสนที่เหลือให้เธอหาเพิ่ม
“พี่ปราบ เมื่อไรพี่จะโอนเงินเข้ามาคะ” เสียงข้อความที่ปราบเปิดระบบสั่นไว้เด้งเข้ามา เกวลินรู้สึกตัวสักพักใหญ่แล้ว หญิงสาวลังเลว่าจะดูลองแอบดูข้อความทึ่เข้ามาหรือไม่ แต่ความอยากรู้มีมากกว่า จะว่าเธอเสือกก็ได้ แล้วเขาไม่ได้ล็อกหน้าจอไว้ มือเล็ก ๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เข้าไปอ่านข้อความ คนที่ส่งมาชื่อหยี “อ่อ” เกวลินรู้ทันทีว่าเป็นใคร
“เมื่อไรพี่ปราบจะโอนเงินเข้ามาคะ,น้องต้องใช้วันนี้,ถ้าช้าน้องอาจไม่ได้บรรจุครู” เกวลินเพิ่งรู้ว่าคนที่เพิ่งได้เป็นสามีเธอ เป็นคนสายเปย์
“ฮึก ได้” เวลานี้ใบหน้าหญิงสาวไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ทุกคนเห็น ถ้าใครเจอต้องคิดว่าน้องปลายฟ้าผีเข้าสิงแน่ๆ
“ขอโทษครับ พี่คงช่วยน้องหยีไม่ได้แล้ว” เมื่อพิมพ์แล้วกดส่งไปเมื่อเห็นว่าปลายทางอ่านแล้วก็ลบข้อความออก แล้ววางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิม ไม่นานเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอคนนั้นโทรเข้ามาแล้วสินะ
ชายหนุ่มวางกับดับเสร็จก็ขึ้นมา ระหว่างนั้นได้ยินเสียงโทรศัพท์รีบขึ้นมารับ กลัวจะรบกวนการนอนของเมีย
ทางด้านเกวลินแกล้งหลับ อยากรู้ว่าเขาจะคุยอะไร “สวัสดีครับ”เขาเห็นว่าปลายสายเป็นหญิงสาวที่เขาบอกว่าจะช่วยเหลือเธอเป็นครั้งสุดท้าย จึงลงจากกระท่อมเพราะไม่อยากรบกวนการนอนของเมีย
“พี่ปราบ พี่ให้ความหวังฉันแล้ว พี่เปลี่ยนใจ พี่ไม่รักฉันแล้วหรือ” เธอเห็นว่าอยู่ในช่วงพักเที่ยง จึงโทรหาชายหนุ่มทันที
“ยาหยีที่ผ่านมาสำหรับเราสองคน พี่เริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นความรักหรือเปล่า แต่พี่มาคิดดูแล้ว ถ้าคนเรารักกันจะให้เกียรติกัน ในส่วนของพี่ ที่ผ่านมาคิดว่าได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ในส่วนของยาหยีละ ลองถามใจตัวเองดูว่าเคยรักพี่บ้างไหม
หรือเห็นพี่เป็นแค่ทางผ่านและเป็นมือเป็นเท้าให้ ขอโทษที่พี่ช่วยไม่ได้ แล้วพี่เชื่อว่ามีคนพร้อมที่จะช่วยยาหยี แค่นี้นะ”
ตอนแรกผมตัดสินใจจะช่วย แต่พอมาเห็นแผลเป็นของเมียแล้ว ทำไมผมไม่ทำเพื่อคนที่พยายามทำเพื่อผมมาตลอดนะ
จากนั้น ผมเข้าไป Messenger กดบล็อกทั้งเฟส ไลน์ แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า เดินขึ้นไปหาคนน้อง
“ตื่นแล้วเหรอครับ” ผมเดินเข้ามานั่งข้างๆแล้วเอามือทาบลงบนหน้าผากเธอ พร้อมจับเส้นผมเธอให้เรียบร้อย “ตัวไม่ร้อนแล้ว หิวข้าวหรือยังครับ” เธอส่ายหน้า เมื่อเช้ากินข้าวเยอะมาก ตอนนี้ยังไม่ได้เผาผลาญพลังงานเลย
“งั้นกลับไปที่บ้าน พี่จะกลับไปชาร์จแบตโทรศัพท์ด้วย” หญิงสาวเองก็ต้องการที่จะชาร์จแบต แต่ในใจก็อยากรู้ว่าเมื่อกี้พวกเขาคุยอะไรกัน แล้วคนตรงหน้าได้โอนเงินไปให้แฟนเขาหรือเปล่า เกวลินเลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้
ภายในใจกลับอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะทำยังไงต่อไป จากนั้นพวกเราทั้งสองเก็บกับข้าวที่แม่แก้วฝากมากลับไปด้วย เพราะกินไม่หมด เมื่อล็อกประตูแล้ว ทั้งคู่ก็เดินไปที่รถจักรยานยนต์
“มีอะไรจะถามพี่หรือเปล่าครับ” ผมรู้สึกว่าคนน้องมีเรื่องในใจ แต่ทำเป็นเก็บไว้ “ไม่มีค่ะ” เธอพูดไปไม่ได้มองหน้า ผมเชื่อในความรู้สึกตัวเอง ว่าคนน้องมีเรื่องในใจ
“น้องปลายเป็นเมียพี่แล้ว ต่อไปนี้มีอะไรข้องใจถามพี่ได้นะครับ ถึงแม้เราทั้งคู่จะเริ่มต้นด้วยกันไม่ดีเท่าไร แต่พี่สัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี พี่อยากให้เราเปิดใจคุยกันมากว่าที่จะต้องมานั่งเดาใจกันแบบนี้”
คนตรงหน้าพูดจริงจังขึ้นมา ฉันหยุดเดินมองแผ่นหลังกว้าง ตอนนี้สถานะฉันคือภรรยาเขา ในเมื่อเขาให้สิทธิ์ ควรจะรับไว้ใช่ไหมเกวลิน
“ขอบคุณค่ะพี่ปราบ งั้นตอนนี้พี่กับพี่ยาหยีอยู่ในสถานะอะไรคะ” หญิงสาวสบตาคนที่บอกว่าเป็นสามี ทั้งคู่สบตากัน “คนเคยรู้จักครับ” เขายิ้ม
“ค่ะ น้องจะเชื่อพี่” ฉันยิ้มให้เขา ทำเอาคนตรงหน้าหัวใจสั่นไหว ที่ผ่านมาทำไมผมไม่เคยมองรอยยิ้มนี้
“ขอบคุณครับ” บางครั้งความเชื่อใจอาจสร้างไม่ง่าย แต่เกวลินเลือกที่จะลองสร้างมันดู เพราะสายตาที่ส่งมาให้นั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและจริงใจเหมือนที่ขอโอกาสเมื่อคืนนี้……
เมื่อกลับมาถึงบ้านเห็นแม่กับยายหอมนั่งใต้ถุนบ้าน ฉนสังเกตรอบๆบ้าน เมื่อวานมีรถ 2 คันวันนี้มีคันเดียว
“สวัสดีจ้ะ ยายสวัสดีจ้ะแม่แก้ว” ฉันลงจากรถมอเตอร์ไซค์ถือปิ่นโตมาด้วย
“ไหว้พระเถอะลูก เมื่อเช้ากินข้าวได้เยอะหรือเปล่า” ยายหอมยิ้มแย้มใบหน้าอิ่มเอมมีความสุข เช้านี้แม่แก้วมาหาที่บ้านแต่เช้า
เล่าเรื่องที่ลูกชายคนที่สองกลับมาเล่าให้ฟัง แล้วดูเหมือนเรื่องที่พ่อปินเล่าจะเป็นความจริง วันนี้พวกเขาสองคนหน้าตาสดใส ยายหอมหวังว่าจะทันได้อุ้มเหลน
“สวัสดีลูก กับข้าวที่แม่ส่งไป กินหมดหรือเปล่า” แม่แก้วมองหน้าลูกชายและลูกสะใภ้ พวกเขาเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก “ยังเหลือจ้ะแม่ ปลายเอากลับมาด้วย”
“สวัสดีครับยายหอม สวัสดีครับแม่ แล้วพ่อกับปินไปไหนครับ”
“เมื่อเช้าแก้มใสมาตามปิ่นให้พาพ่อเขาไปส่งโรงพยาบาล เห็นว่าท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” จากนั้นฉันบอกทุกคนว่าจะไปชาร์จแบตโทรศัพท์เพื่อจะได้โทรหาแก้มใส แต่เขาจับมือฉันแล้วล้วนกระเป๋ากางเกง “เดี๋ยวครับ พี่ฝากชาร์จแบตให้ด้วย” เขายื่นโทรศัพท์ให้ ฉันรับโทรศัพท์มาจากมือคนพี่แล้ว เข้าไปในบ้าน
“แม่ครับผมขอขึ้นไปเก็บของที่ห้องนะครับ” ตอนนี้ต่างคนต่างเข้าห้องของตัวเอง “เห็นไหมยายหอม ที่ฉันเล่ามันไม่เกินจริง” ยายหอมและแม่แก้วมองหน้ากัน “คงจะจริงอย่างที่พ่อปินเล่า”