!! หากโชคดีคู่ของตัวเองมีความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกัน...ด้ายเส้นนั้นก็มั่นคงขึ้น และถูกดึงจนพ้นปากเหว แต่...หากคนที่ตัวเองปักใจรัก มีแค่คำลวง สักวันด้ายก็จะเปื่อยและขาด ตัวเองก็ตกลงสู่ก้นเหวที่ดำมืด จมดิ่งอยู่กับความทุกข์ระทม
มือเล็กๆ กำชายกระโปรงแน่น เรียวปากอิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง เธอหลุบเปลือกตาลง...และใคร่ครวญอย่างหนัก
“อืม...ฉันจะทำ!!”
ทิพยอาภาลืมตาขึ้น...ดวงตาเธอลุกโชนไปด้วยแสงแห่งความหวัง
หญิงสาวไม่ได้ต้องการกลับไปใกล้ชิดแมทธิว...สิ่งที่เธอต้องการคือการได้โอบอุ้ม ‘นางฟ้า’ ตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่ในฐานะ ‘แม่’ ก็ตาม
“ดี!! ฉันจะเนรมิตให้แกเอง...”
ไทรีสยิ้ม เขาหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมากดโทร. ออก
ตืดดดดดดดดดดดดดดด...
เสียงสัญญาณดังยาวนาน กว่าจะมีคนรับสาย...
“สวัสดีค่ะ บ้านดีแลน ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรคะ?”
ปลายสายกดรับและกรอกเสียงถามกลับมาแบบคนมืออาชีพ
“สวัสดีฮ้า...” ชายหนุ่มดัดเสียงนิดหน่อย...จากเสียงห้าวๆ เป็นเสียงแหลมที่ออกจะดีดดิ้นเกินจริง “ฮั้นเห็นประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก...และฮั้นมีคนงานที่ต้องการทำงานนี้อยู่ ไม่ทราบว่าเราจะพอคุยกันได้ไหมฮ้า” เขายิงตรงเป้า แจ้งความต้องการแบบไม่รอช้า
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่...ก่อนจะมีเสียงนุ่ม ๆ ตอบกลับมา
“ไม่ทราบว่าดิฉันคุยกับใครอยู่คะ แล้วคนที่ว่า...มีความชำนาญแค่ไหนที่จะดูแลเด็กเล็กๆ สักคน”
มาดามแพชี่ขอคุยเอง เธอต้องการมืออาชีพสำหรับดูแลใกล้ชิด ‘แองเจิ้ล’
“ของอย่างนี้ต้องพิสูจน์เองฮ่ะ คนของฮั้นฝึกมาดี สามารถเอาอยู่ตั้งแต่นาทีแรก ไม่ว่าเด็กจะดื้อหรือโยเยแค่ไหน?” ไทรีสฟุ้ง!! ทิพยอาภาเลี้ยงเด็กไม่เป็นหรอก เธอเองก็เพิ่งมีลูกคนแรก แต่สัญชาตญาณของแม่กับลูก จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
“มีคนติดต่อมาหลายเจ้าค่ะ...แต่เราจะเลือกคนที่เหมาะที่สุด สำหรับ ‘หลาน’ ดิฉัน”
มาดามแพชี่ตอบแบบไว้ท่า ใครก็ตามที่ผ่านด่านนี้มาได้ ต้องดีจริงๆ เมื่อแต่ละคนที่ส่งใบสมัครมา นางไม่เชื่อว่า ‘หล่อน’ จะอยากมาดูแลเด็ก พวกหล่อนคงใช้เป็นข้ออ้างที่จะแฝงกายเข้ามาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์ดีแลน เมื่อเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่โฟกัส...คือ แมทธิว...ลูกเลี้ยงของนาง
“ฮ้า...”
“พรุ่งนี้10:00 นาฬิกาสะดวกไหมคะ?”
ยิ่งเร็วยิ่งดี เมื่อนางเองก็ไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก อีกอย่าง...แองเจิ้ลเริ่มซึมๆ ไม่ร่าเริงเหมือนตอนแรกที่ได้พบ บ่อยครั้งที่เด็กน้อยนิ่งเงียบจนนางใจหาย
“สะดวกฮ้า...แล้วเจอกัน”
ไทรีสจบบทสนทนา เขาเงยหน้ามองเพื่อนรักที่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆ มีน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลปริ่มเงียบๆ
“เอาล่ะ มาแปลงโฉมกัน แกจะไปทั้งแบบนี้ไม่ได้หรอก”
ชายหนุ่มกวาดตามองทิพยอาภาทั้งตัว...การปลอมตัวเพื่อพรางตาแมทธิว จะทำให้หญิงสาวมีโอกาสได้อยู่กับลูกนานขึ้นอีกนิด
“ผมแกยาวไปทิพ แต่หากตัดก็เสียดายแย่!!” ไทรีสยกมือเกาคาง...เขาเปรยเมื่อสะดุดตากับผมดำยาวของเพื่อน
ทิพยอาภายกมือจับปอยผม เธอทำหน้าแหย เพราะผมเป็นอีกอย่างที่เธอรัก
“วิก!! ฉันมีวิกเยอะ แกต้องทนหน่อยแล้วกัน” ชายหนุ่มดีดนิ้ว เขาลุกไปรื้อค้นตู้ข้างตัว ก้นตู้มีวิกผมหลายแบบ ที่ทิพยอาภาเห็นยังต้องอ้าปากค้าง
“มันก็มีบ้าง...ลุคแบบนี้ฉันจะจิกผู้ชายที่ไหนมากินล่ะยะ” หนุ่มหล่อหัวใจสีชมพูไหวไหล่ หล่อลำกล้ามใหญ่แบบตนเอง คงไม่มีผู้ชายคนไหนเสี่ยงลอง เขาเลยต้องปลอมตัวออกไปหาเหยื่อยามราตรี เป็น One night stand มีความสุขแบบวินๆ เช้ามาก็แยกย้ายไม่ผูกพัน
รอยยิ้มเล็ก ๆ แต้มมุมปาก...เป็นครั้งแรกหลังจากปีกหักออกมาจากคฤหาสน์ดีแลน ที่ทิพยอาภาพอจะยิ้มออกมาได้
“เสื้อผ้า หน้า ผมเปลี่ยนใหม่หมด...แกจะเข้าไปแบบอึ๋ม ๆ งี้ไม่ได้”
ไทรีสไม่ได้พูดเกินจริง ถึงทิพยอาภาจะโทรมเพราะวุ่นวายกับการเลี้ยงบุตร แต่เมื่อมองรวมๆ แล้ว ผู้หญิงหลังคลอดมีน้ำมีนวล โดยเฉพาะเนินอก
กระบวนการแปลงโฉมกว่าจะลงตัวและเป็นที่พอใจของชายหนุ่มได้
ทิพยอาภาต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก...กว่าสองชั่วโมง ไทรีสจึงยอมหยุด
หญิงสาวมองตัวเองผ่านกระจกเงา วิกผมสั้นกระเซอะกระเซิงกับแว่นตาหนาเตอะบนใบหน้า เสื้อผ้าหลวมๆ กระดุมเสื้อติดทุกเม็ดถึงลำคอ กระโปรงยาวกรอมเท้ากับรองเท้าคัดชูสีดำ
“แบบนี้...ใครมองแกแล้วไม่ Sex เสื่อม ฉันให้เตะ”
สภาพนางฟ้า เปลี่ยนไปเป็นคนธรรมดา...ชายหนุ่มเปรยยิ้มๆ เขาส่ายหน้าแรงๆ เมื่อมองเพื่อนทั้งซ้าย ทั้งขวา เขามั่นใจ ไม่มีใครจำทิพยอาภาได้...แม้แต่ แมทธิว!!
“เอาล่ะ แบบนี้แกพร้อมแล้วที่จะเข้าไปที่นั่นแล้ว”
หลังจากมองจนแน่ใจ...ทิพยอาภาสามารถผ่านด่านได้แน่ จากนี้ไปคือลิขิตสวรรค์แล้วล่ะ หากได้งานนี้ เพื่อนของเขาก็สามารถอยู่ใกล้ ‘ลูก’ ได้นานอีกหน่อย...
ไทรีสพาเพื่อนรักออกเดินทางแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าจากแคลิฟอร์เนียไปยังวอชิงตันดี.ซี.
เพื่อภารกิจสำคัญ!!
ระหว่างที่รถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า คนขับชำเลืองมองคนข้างตัวบ่อยๆ เขาปล่อยมือจากการจับพวงมาลัยรถยนต์ ยื่นมือไปกุมมือของทิพยอาภาเอาไว้หลวมๆ เมื่อเขารู้ เพื่อนกำลังตื่นเต้นและหวาดกลัว...กับการเผชิญหน้ากับคนในตระกูลนั้น...
“ไม่มีอะไรต้องกลัวนี่ทิพ แกกำลังจะไปหาลูก หากพลาดงานนี้... ยังไงเสีย...แกก็ได้เจอแองเจิ้ลอีกครั้ง”
ชายหนุ่มปลอบขวัญ...ทิพยอาภามีเขาทั้งคน เขาไม่ปล่อยให้เพื่อนเดียวดายเพียงคนเดียวแน่
ทิพยอาภาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ภายใต้กรอบแว่นหนา ๆ ดวงตาของเธอคลอขังไปด้วยน้ำร้อนๆ ที่ไหลเออขึ้นมาที่ขอบตา
“ฉันรู้ แต่ฉันก็อดกลัวไม่ได้”
“แกกลัวอะไร กลัวไอ้เวรนั่นเหรอ...เมื่อไรแกจะลืมมันได้สักทีหะ!!” ไทรีสกระแทกเสียงขุ่นขวาง ผู้ชายอย่าง แมทธิวไม่มีค่าควรจำ เขาเป็นอมนุษย์ หาใช่คนเหมือนคนอื่นๆ ใจเขาดำผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก ใครๆ ก็ชื่นชม ยกย่องเชิดชูแมทธิวว่าเป็นเทพบุตร แต่ไทรีสขอสาปส่ง แมทธิวมันก็แค่จอมวายร้ายที่พร่าผลาญพรหมจรรย์เพื่อนของเขา เพราะความสนุก กับความใคร่ที่ฝังแน่นอยู่ในกมลสันดานของตัวเขาเอง
หญิงสาวเม้มปากกลั้นสะอื้น...เธอเห็นด้วยกับไทรีส แต่จะให้ลืม ‘รักแรก’ คงทำได้ยาก แมทธิวหยั่งรากลึก เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของเธอ เขาครอบครองหัวใจของเธอหมดทั้งสี่ห้อง นับตั้งแต่วันที่เขาอุปถัมภ์เธอ จวบจนทุกวันนี้
“ฉันจะไม่บีบคั้นแกหรอกนะทิพ แต่ขอให้คิดตาม ผู้ชายใจดำอย่างแมทธิว มีค่าควรจำหรือไง?”
เสียงทุ้มนุ่มกล่าวลอยๆ ทิพยอาภารู้ดีอยู่แก่ใจ ไทรีสมีแต่ความหวังดีให้...
“อืม...ฉันพยายามอยู่ สักวันฉันจะลืม...”
สักวันของทิพยอาภา จะเป็นวันไหนเธอไม่อาจกล่าวไว้ได้ เธอรู้แค่ว่า...มันคงอีกนานแสนนาน กว่าที่เธอจะลืมผู้ชายที่ชื่อ...แมทธิว!!
“เช็ดน้ำตาเถอะ ถึง ‘ดีแลน’ แล้ว”
กระดาษทิชชูหนึ่งแผ่น ไทรีสยื่นส่งให้เมื่อรถยนต์ขนาดกะทัดรัดวิ่งมาหยุดหน้ารั้วเหล็กสูงตระหง่าน ของ คฤหาสน์ดีแลน...บ้านที่เธอเคยเข้าไปเหยียบมาแล้วหนึ่งครั้ง...
ถนนสีขาวทอดยาวจากรั้ว จนถึงตัวคฤหาสน์หลังใหญ่เป็นระยะทางไม่ต่ำว่า400 เมตร ความกว้างขวางของพื้นที่ บ่งบอกถึงสถานะการเงินของ ‘ดีแลน’ เป็นอย่างดี ตระกูลเก่าแก่ที่ดำรงอยู่ในยุคปัจจุบันโดยไม่ต้องตัดที่ดินส่วนหนึ่งออกขาย ก็คงมีแต่ดีแลนเท่านั้น เมื่อฐานการเงินของตระกูลนี้ไม่เคยสั่นคลอน ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะผันผวนขนาดไหน...ก็ไม่เคยทำให้ดีแลนสะเทือนได้สักครั้ง...
พุ่มไม้เตี้ยๆ สีเขียวสดถูกปลูกไว้ริมถนนเพื่อกำหนดแนวถนนไว้อย่างชัดเจน หญิงสาวทอดสายตามองไปรอบตัวๆ ครั้งแรกที่เธอเหยียบย่างเข้ามาภายในนี้ มีแต่ความหวาดหวั่นเต็มหัวใจ จนไม่กล้าที่เงยหน้ามองอะไรเลย ครั้งนี้ทิพยอาภามาพร้อมกับสติ!! กับความมุ่งมั่น เธอจึงมีสายตาไว้มองอย่างอื่น ไม่ได้หวั่นกลัวเฉกเช่นครั้งแรก
“บ้าน ‘ผัว’ แกนี่รวยหูดับ เฉพาะที่ดินฉันก็ไม่อยากจะคำนวณราคา ฉันกลัวเป็นลมก่อนจะนับเลขศูนย์ได้หมด”
ไทรีสพูดลอยๆ เขามองหาที่จอดรถยนต์ มีสาวใช้วิ่งออกมาดูก่อนจะผลุบกลับไป
“เขาไม่กลัวโจรกันหรือไงนะ...” เสียงบ่นยังมีมาอีกเรื่อยๆ เมื่อชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยกำลังตื่นเต้นไม่ต่างอะไรกับทิพยอาภาเลย
“แก ‘กลัว’ เหรอไท?” หญิงสาวกระเซ้า เธอคลี่ยิ้มอ่อนๆ มองประตูคฤหาสน์ด้วยสายตาแน่วแน่ หลังประตูบานนั้นเธอจะได้พบลูกอีกครั้ง...
“เหอะ!! ทำอย่างกับแกไม่กลัวนี่” ชายหนุ่มหัวใจสีชมพูสะบัดค้อนให้เพื่อนสาวคอแทบเคล็ด