กชอรส่งข้อความไปทางโทรศัพท์มือถือเพื่อลางาน เธอนอนจนถึงหัวค่ำจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้น ฝันร้ายอันยาวนานค่อยๆ หวนกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวสะบัดหน้าลุกขึ้นไปเปิดฝักบัว ปล่อยน้ำเย็นให้ราดรด มือเรียวยกขึ้นยีแชมพูกับเข้าผมอย่างแรง แชมพูสูตรเมนทอลเย็นลึกเข้าไปในหนังศีรษะ
หยาดน้ำตาค่อยๆ ไหลรวมไปกับสายน้ำและฟองแชมพู เธอปลุกปลอบตัวเองว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมานั่งเศร้าโศกกับสิ่งที่สูญเสีย แต่เธอควรจะออกจากความหดหู่ผิดหวัง
‘ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมานั่งเสียใจ หากไม่ได้แก้แค้น ฉันก็คงเดินหน้าต่อไปได้’
พอเป่าผมจนแห้งเธอจึงลงไปซื้ออาหารกล่องสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยหอพักหิ้วขึ้นไปบนดาดฟ้าอย่างซังกะตาย แต่ตักใส่ปากได้ไม่กี่คำ ใบหน้าของผู้ชายเมื่อคืนก่อนวนเวียนกลับมาอีกครั้ง
“อ๊าย....!” เธอเผลอร้องออกมาเสียงดัง
ลมกรรโชกมาพอดี พัดพาเอาเสียงร้องของเธอลอยไปในอากาศพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าอยู่อีกฟากเมือง จู่ๆ ฝนก็ปรอยสาย กชอรเงยหน้าขึ้น
“บ้าเอ๊ย! เหมือนมิวสิควิดีโอเกินไปแล้ว”
เธอเพิ่งอาบน้ำสระผมจึงต้องรีบวิ่งลงมาจากดาดฟ้ากลับไปยังห้องพัก ยัดกล่องอาหารที่กินเหลือใส่เข้าไปในตู้เย็น เดินไปนั่งที่โต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
‘ผู้ชายคนนั้น รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี อาจจะเป็นพวกไฮโซหรือลูกหลานเศรษฐี’
กชอรรู้สึกว่าความคลุมเครือทำให้เธอต้องจมอยู่ในกองทุกข์ เธอจึงคิดจะหาตัวตนของผู้ชายคนนั้นให้พบ หากว่าเขาร่วมมือกับผู้จัดการทวีล่ะก็ เธอก็จะหาทางทำให้ชีวิตของเขาพังพินาศไปด้วย
ผ่านไปร่วมสองชั่วโมงเธอจึงหารูปผู้ชายคนนั้นเจอ
‘ธนา ศราวุฒิกุล ประธานบริษัทวินเนอร์เบฟเวอเรจ จำกัด เตรียมตัวเปิดโปรเจคใหญ่ต้นปีหน้า ขณะเดียวกันก็มีข่าวซุบซิบว่าเตรียมเป็นทองแผ่นเดียวกับกับบริษัทน้ำดื่มยักษ์ใหญ่ฉลากสีฟ้าเร็วๆ นี้’
เมื่อเลื่อนต่ำลงไป เธอก็เห็นภาพคู่ของเขากับผู้หญิงสวยเฉี่ยวคนหนึ่งในชุดแซกสั้นหรูหรา หัวใจของกชอรเจ็บแปลบ เธอหาอ่านข่าวสังคมซุบซิบที่เกี่ยวกับเขาในอินเตอร์เน็ตก็ไม่พบว่ามีข่าวเสียหาย แต่ในนั้นปรากฎภาพคู่ของเขากับลูกสาวเจ้าของบริษัทน้ำดื่มหลายภาพ
ในหัวของกชอรเต็มไปด้วยคำถาม เมื่อเทียบฐานะของผู้ชายคนนั้นแล้วเขาไม่น่าจะรู้จักกับนายทวีผู้จัดการลามกที่บริษัทของเธอได้
“ช่างเถอะ! หากคิดจะพึ่งกฎหมายคงไม่ได้ผล ในเมื่อมันสองคนกล้าทำร้ายฉัน ฉันก็จะตอบแทนมันอย่างสาสม”
เช้าวันต่อมา เมื่อกชอรเข้าไปที่บริษัท ผ่องพรรณที่กำลังมองหาเธออยู่ก็กรากเข้ามาดึงแขนแล้วพาไปที่หน้าห้องน้ำ
“คืนนั้นที่งาน เธอหายไปไหนมาผักกาด?”
กชอรยิ้มน้อยๆ ดึงแขนของตนเองออกจากการกุมยึดของฝ่ายอย่างสุภาพ
“อ้อ พอดีผักกาดตื่นขึ้นมาไม่เห็นใครสักคนก็เลยกลับหอน่ะค่ะ”
ผ่องพรรณขมวดคิ้ว “ตื่น เธอตื่นงั้นเหรอ?”
กชอรพยายามข่มใจไม่ให้ตวาดผู้หญิงตรงหน้าออกมา เธอกัดฟันแน่น ดวงตาฉายแววโกรธอยู่วาบหนึ่ง “ค่ะ รู้สึกตัวขึ้นมาก็เลยลุกไปล้างหน้าแล้วกลับเลย คุณผ่องมีปัญหาอะไรเหรอคะ?”
ผ่องพรรณหน้าเสีย “ไม่มีอะไรหรอก ฉันกลับไปดูที่ห้องพัก พอเห็นเธอหายไปก็เลยเป็นห่วงน่ะ”
กชอรจำได้แม่นว่าในงานเลี้ยง ผ่องพรรณเป็นคนคะยั้นคะยอให้เธอดื่มไวน์สองสามแก้ว จากนั้นสติก็เธอก็คล้ายจะเลือนๆ ลางๆ ผู้หญิงสารเลวคนนี้จึงบอกเธอว่าจะพาไปนอนพักที่ห้องชั้นบน เธอไม่ได้ไร้เดียงสาจนเดาไม่ได้
...ผ่องพรรณที่ปากหวานก้นเปรี้ยวคนนี้คือคนที่วางยาเธอ...
“ผักกาด คุณทวีเรียกให้ไปหาแน่ะ”
กชอรเบือนหน้าไปอีกทาง แอบแสยะยิ้ม เดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“ผักกาด ผมเป็นห่วงแทบแย่ คุณผ่องตามหาคุณตั้งนานแน่ะเมื่อคืนก่อน ผมก็พลอยกังวลไปด้วย เมื่อวานคุณยังส่งอีเมล์มาลางานอีก ไม่สบายเหรอ?”
หญิงสาวรีบตีหน้าเศร้าทันที ยกมือขึ้นกุมศีรษะข้างหนึ่ง “ค่ะ ตั้งแต่กลับมาจากงานนั้น ดิฉันก็ปวดหัวไม่หาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร?”
ทวีรีบลุกจากเก้าอี้ทำท่าคล้ายจะเข้ามาประคอง กชอรรู้สึกสะอิดสะเอียนแต่ก็พยายามไม่บ่ายเบี่ยงจนดูน่าเกลียด
“ไม่เป็นไรนะ อีกแค่ไม่กี่วันก็จะฝึกงานเสร็จแล้ว คุณลาพักนอนอยู่หออีกสักวันก็ได้ หรือว่าจะให้ผมไปส่งที่หอดีไหม?”
กชอรก้มมองปลายเท้า เธอนึกอยากจะยกเท้าขึ้นใช้ส้นสูงกระทืบลงบนเท้าของผู้ชายหัวงูคนนี้แต่ต้องระงับใจเอาไว้ อีกไม่กี่วันเธอก็จะได้ใบผ่านการฝึกงานแล้ว
“ไม่ต้องหรอกค่ะผู้การ ตอนนี้ดิฉันสบายดีแล้ว” กชอรรีบทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แอบเหลือบมองนาฬิกาดิจิทัลบนข้อมือ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
สามนาทีตามนัดหมาย นักศึกษาฝึกงานอีกคนก็เคาะประตูแล้วผลักเข้ามา สีหน้าของทวีเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่พอเห็นหญิงสาวหน้าแฉล้มมาพร้อมกับถ้วยกาแฟก็ยิ้มรับ
“นีน่านี่เอง มาๆ เอากาแฟมาเสิร์ฟตรงเวลาเชียว”
นีน่ายิ้มน้อยๆ เธอวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ กชอรจึงถือโอกาสขอตัวออกไปพร้อมกับเพื่อนนักศึกษา ทวีทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้แล้วพยักหน้าเบาๆ เขามองตามกชอรด้วยความเสียดาย
นักศึกษาสาวคนงาม ผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้าจิ้มลิ้ม รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนอย่างกชอรไม่น่าจะรอดมือเขาไปได้ ผ่องพรรณเดินเข้ามาข้างในพร้อมแฟ้มในมือ
“มองตามจนตาค้างแล้วนะคะ” น้ำเสียงเธอกระแทกกระทั้น
“ผมบอกแล้วใช่ไหม? ให้คุณรอบคอบ ปล่อยปลาลงน้ำไปแบบนั้น คงหมดโอกาสจะจับได้แล้ว”
“ผ่องก็ทำตามแผนคุณแล้วนะคะ แต่คุณเองนั่นล่ะ ปล่อยให้ผักกาดหายตัวไปเฉยๆ ผ่องส่งให้ถึงห้องแล้วแท้ๆ” หญิงสาววางแฟ้มลงบนโต๊ะอย่างเคืองๆ พร้อมกระแทกหลังไปยังพนักพิงของเก้าอี้ตรงข้ามทวี
“คุณถามเธอรึยัง? เธอหายตัวไปได้ไง?”
“เธอว่าเธอตื่นขึ้นมาค่ะ แต่ผ่องคิดว่าไม่มีทาง ยานั่น ผ่องเคยใช้มาแล้ว เธอโดนไปขนาดนั้นไม่มีทางจะตื่นมาทันทีได้แน่ ไม่รู้ว่าใครแอบมาช่วย?”
“คุณดูละครมากไปหรือเปล่า? คืนนั้นวุ่นวายจะตาย คุณก็พาผักกาดไปจนถึงห้องแล้ว ใครมันจะเข้าไปช่วยมาได้?”
“นั่นน่ะสิคะ นี่ผ่องยังนึกไม่ออกเลยว่าผ่องพลาดที่ตรงไหน?”
ผ่องพรรณนึกเสียดาย ทวีจ้องจะงาบกชอรมาตั้งแต่เริ่มเข้าฝึกงานเมื่อหลายเดือนก่อน เขากระซิบว่าจะให้เธอห้าหมื่นถ้าทำให้กชอรตกเป็นของเขาได้
“นักศึกษาหญิงสมัยนี้เขาไม่ถือสาเรื่องเสียตัวกันแล้ว อย่างกชอรผมยินดีจ่ายให้เธอหลักแสนเลยล่ะ”
“นี่คุณจะจ่ายผักกาดขนาดนั้นเลยเหรอคะ? แล้วทีผ่องล่ะ ขอแค่สามสี่หมื่นคุณก็บ่นแล้ว” ผ่องพรรณกอดอกทำหน้าบึ้งใส่ทวี
“ผ่อง คุณกับผมอยู่กันแบบนี้มานานแล้วนะ คุณก็เห็น พวกสาวๆ ก็แค่มาหาเงินใช้ซื้อกระเป๋าหรูๆ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ แป๊บๆ ก็หนีไปเกาะผู้ชายคนอื่นต่อแล้ว”
“อีกไม่กี่วันเด็กรุ่นนี้ก็ฝึกงานจบแล้ว น่าเสียดายจริงๆ คุณหาวิธีติดต่อกับกชอรไว้ก็แล้วกัน ไม่แน่นะว่าหลังฝึกงานจบหากคุณเสนอเงินให้เธอตรงๆ เธออาจจะยอมรับก็ได้ ได้ยินว่าเช่าหอพักหญิงล้วนที่พวกเด็กมัธยมแถวนี้เขาอยู่กันไม่ใช่เหรอ?” ทวีน้ำเสียงเย้ยหยัน “เห็นทีครอบครัวคงจะฐานะไม่เท่าไหร่ถึงได้เช่าที่ประหยัดแบบนั้น นักศึกษาส่วนใหญ่เขาเช่าคอนโดอยู่กันหมดแล้ว”
ผ่องพรรณสีหน้าสดชื่นขึ้น เธอยังหวังจะได้เงินห้าหมื่นมาซื้อกระเป๋าใบใหม่ยี่ห้อดังที่กำลังออกคอลเลคชั่นฤดูหนาวในเดือนหน้า
“ได้ค่ะ เดี๋ยวผ่องจัดการเรื่องผักกาดให้คุณเอง”
*********************