Secret to be
:: 8 ::
ไม่ใช่เพราะเมา แต่คิดว่าเมา
รู้ว่าตอนนี้เขากำลังตกใจสุดขีดที่ฉันทำในสิ่งที่เขาเองก็ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน การที่ฉันโน้มใบหน้าจูบปิดปากเขาก็เพราะอยากสัมผัสมันมานานแค่ไหนเขาจะรู้หรือเปล่าล่ะ? ไม่หรอก ซันไม่มีทางรู้ได้เลย ฉันถึงได้กดจูบแน่นแม้แต่ว่าซันพยายามเอามือดันไหล่ฉันให้ออกห่าง สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายเลื่อนฝ่ามือมากดท้ายทอยฉันที่กำลังหลับตาลงบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม เขาอาจจะคิดว่าที่ฉันทำแบบนี้เป็นเพราะเมาใช่หรือเปล่า คำตอบคือไม่ ฉันเมาก็จริงแต่มีสติครบถ้วนที่จะทำมันต่างหาก
เล็บจิกลงบนเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาจนยับยู่ยี่ ขณะที่ริมฝีปากยังคงนัวเนียดูดดึงให้ซันเปิดปากกระทั่งเขาเป็นฝ่ายที่สอดแทรกเรียวลิ้นสากเข้ามาในโพรงปากของฉัน ดูดซับความหวานจนฉันครางออกมาผ่านลำคอด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม หัวใจเต้นถี่รัวขณะที่ขยับริมฝีปากออกมาสบตากับซัน
พลั่ก
“!”
ผลักร่างสูงจนเซล้มลงไปนอนกองบนพื้นพรมขนสีขาวสะอาดตา ฉันไม่รีรอที่จะขึ้นคร่อมซันที่ใช้ข้อศอกทั้งสองพยุงตัวไม่ให้นอนราบ ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ เวลานี้ฉันจิกนิ้วลงบนเส้นผมตรงท้ายทอยเขาเพื่อให้ใบหน้าหล่อเหลาแหงนขึ้นรับจูบของฉันอย่างเต็มใจและครั้งนี้ฉันตวัดดูดดึงลิ้นสากที่รับรู้ถึงรสขมของบุหรี่และเหล้าปะปนกันไปมา เสียงจูบของเราสองคนดังเข้ามาในโสตประสาท ตะโบมจูบเขาอย่างโหยหาและรุนแรง แลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม พอใกล้จะสิ้นลมฉันก็ถอนจูบออกสบตากับซันที่แลดูเคลิ้มไปกับการกระทำของฉัน ยิ่งทำให้ความต้องการมากขึ้นทวีคูณ ฉันพรมจูบลำคอแกร่งและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างใจเย็น ซุกไซ้และแลบลิ้นเลียจนได้ยินเสียงครางของซันเบาๆ ที่ข้างใบหู
“แป้ง...”
เรียกชื่อฉันอีกซัน เรียกจนกว่าฉันจะไม่สามารถควบคุมมันได้ ฉันอยากได้ยินเขาเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ริมฝีปากของฉันไล่จูบมาถึงปลายคางของเขาและจูบแก้มสากขณะที่แยกสาบเสื้อของซันออก นิ้วชี้สะกิดบนหัวนมของซันจนเขาแหงนหน้าขึ้นครางกระหึ่มในลำคอ
“ซัน” ฉันค่อยๆ ไล่จูบมาถึงแผงอกแกร่ง จากนั้นก็ไม่รีรอที่จะครอบครองยอดอกเม็ดจิ๋วของซัน หยอกเย้าด้วยปลายลิ้นที่ตวัดระรัวเอวพร้อมน้ำลายที่ไหลออกทางปลายลิ้นจนชุ่มฉ่ำบนยอดอกเขา ใบหน้าหล่อเหลากำลังกัดฟันเพื่อระงับความรู้สึกของตัวเอง
“พอ”
“แน่ใจว่าอยากให้ฉันพอ อื้ม” ขยับมาทำอีกข้างให้เท่าเทียมกันจนซันกลืนคำพูดนั้นลงคอ “เคยบอกใช่ไหมว่าฉันสั่งอะไร นายก็จะทำตามทุกอย่าง”
“...”
“งั้นอยู่เฉยๆ ให้ฉันทำให้นาย”
ฉันเสยเส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลขึ้นและปัดให้มันมาอยู่อีกข้างเพื่อเปิดลำคอระหง ขณะโน้มใบหน้าจรดจูบลงบนกลีบปากของซัน ไม่ไหวแล้วสิ ยิ่งทำแบบนี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังกู่ไม่กลับของแท้เลย ยามที่ปลายนิ้วกรีดลงบนแผงอกแกร่ง ทำให้ซันลอบกลืนน้ำลายสบตากับฉันที่ขยับลงไปกดจูบลงบนเปลือกตาของเขา ขณะที่มือไปหยุดตรงหัวเข็มขัดและปลดมันออกอย่างชำนาญ ก็นะบนตัวของซันมีตรงไหนบ้างที่ฉันไม่รู้ตำแหน่งของมันล่ะ
“อย่าเลยเถิด ฉันรู้ว่าเธอเมา เธอหยุดมันซะแป้งก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินไป”
“อะไรที่ว่า มันคืออะไร?” ฉันถามซันด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
“ฉันเป็นเพื่อนเธอ และฉันเป็นผู้ชาย”
“รู้” ย้ำตลอดจนบางทีก็ชักจะไม่สบอารมณ์
“รู้ก็หยุดมันซะ” ซันจ้องหน้าฉันตาเขม็ง ราวกับกำลังสะกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ “ฉันไม่อยากอารมณ์ขึ้น”
“ตอนนี้ไม่ขึ้นเหรอ?” ยกยิ้มมุมปากขณะที่ซันไม่รู้ตัวเลยว่าฉันกำลังรูดซิปกางเกงของเขาลง มือขวาแตะลงบนท่อนเอ็นขนาดยาวใหญ่จนฉันเบิกตากว้างกับความใหญ่โตมโหฬารของมัน “ไม่อยากเสียบฉันเหรอซัน”
“แป้ง เธอเมาไม่มีสติ”
“ไม่เสียบเหรอ งั้นถ้าเป็นข้างนอก ฉันทำได้ใช่ไหม?” คำถามของฉันทำให้ซันงุนงง เขาไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกฉันปิดปากด้วยกลีบปากที่ร้อนระอุ ขณะที่ถลกชุดเดรสขึ้นมากองไว้ตรงเอว รูดแพนตี้ลายลูกไม้สีดำออกไปกองตรงข้อเท้าและฉันก็ผละจูบออกมองลงไปที่ขอบกางเกงยีนส์ของซันซึ่งจับขอบบ็อกเซอร์รัดรูปเอาไว้ด้วย รูดมันลงไปกองตรงหัวเข่ากระทั่งท่อนเอ็นขนาดยาวใหญ่ชูชันผงาดราวกับกำลังพร้อมรบ “นายโด่ขนาดนี้เลยเหรอซัน”
“แม่งเอ๋ย!”
“ดูนี่สิ” ฉันยืนด้วยเข่าขณะที่คร่อมเขาอยู่ ให้ซันมองมายังกลีบงามที่มีขนปิดรำไร น้ำหวานใสไหลเยิ้มหยดลงบนท่อนเอ็นของเขา ซันลอบกลืนน้ำลายขณะมองมาที่มันแน่นอนว่ามันปิดสนิทไม่เคยมีชายใดผ่านมันเข้ามาและสำหรับฉัน คนแรกก็อยากให้เป็นคนที่ตัวเองชอบ “เรามาปล่อยไปพร้อมกันนะซัน”
คว้าท่อนเอ็นของซันเอาไว้นิ้วโป้งบดคลึงนวดตรงหัวปลายบานหยัก เป็นจุดที่ทำให้ซันเสียวจนกัดสันกรามจนขึ้นสันนูน ใบหน้าหล่อเหลากำลังอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุที่เรียกว่าฉันอยู่ ไม่รีรอที่จะค่อยๆ กดกายสาวลงบนท่อนเอ็นของซัน ทันทีที่เราสองคนแตะกันและกัน มันเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระตุ้นให้ตัวของฉันรู้สึกเสียวแปลบตรงจุดนั้น รับรู้ถึงน้ำหวานใสและตัวที่เกร็งกระตุกเป็นระยะ ความรู้สึกนี้ฉันเคยรับรู้สิ เพราะฉันเองก็เคยช่วยตัวเองมาบ้าง
หากแต่ว่าการได้สัมผัสกับท่อนเอ็นของซันมาต่างกันออกไป ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ทำเพียงด้านนอกไม่ได้เสียบเข้ามาในตัวฉันอย่างที่ต้องการก็ไม่เป็นไร ฉันขอแค่ได้สัมผัสซันสักครั้งก็ยังดี ไม่มีแล้วความเขินอาย ไม่มีแล้วยางอายใดๆ ที่อยู่บนหน้าฉัน ตอนนี้ฉันหวังแค่ว่าอยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำก็เท่านั้น และฉันรู้ว่าซันอาจจะไม่ได้อยากทำมัน แต่เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธอาจจะโดนกระตุ้นจนปฏิเสธมันไม่ลง หรือบางทีมันเป็นสิ่งที่ฉันต้องการเขาถึงไม่ทำมัน
เพราะซันเคยบอกเสมอไม่ว่าฉันจะสั่งให้เขาทำอะไร เขาก็จะทำตามทุกอย่าง... หากแต่ว่าไม่ใช่กับเรื่องนี้สิ ฉันไม่ได้ต้องการสั่งให้เขามามีเซ็กซ์ด้วยกัน ถ้าหากมันจะเกิดขึ้นก็ขอให้มันเป็นความต้องการของซันแทนการสั่งให้เขาทำมัน
“อื้อ ฉันจะขยับแล้วนะ”
“เธอทำมากกว่านี้ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะแป้ง”
“ไม่ไหวก็ไม่ไหว”
ฉันมองใบหน้าหล่อเหลาที่นอนราบจากนั้นก็จับมือของซันที่ขืนเล็กน้อยให้มาทาบทับบนหน้าอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซันควรทำยังไงกับมันเพื่อให้ฉันได้เร่งจังหวะเอวบางที่เคลื่อนไหวเดินหน้าถอยหลังอย่างเก้ๆ กังๆ ด้วยความไม่ทำมาก่อน ถึงจะช่วยตัวเองก็ใช่ว่าการทำแบบนี้มันจะทำให้ฉันชำนาญนะ ดังนั้นพอซันลากไล้ฝ่ามือที่หน้าอกฉันมาถึงเอวคอดกิ่ว เขาก็ออกแรงเป็นฝ่ายช่วยฉันขยับเอวเร็วขึ้น จนฉันจิกนิ้วลงบนหลังมือเขา เชิดหน้าขึ้นครางเสียงหวานกระเส่า
“อ๊ะ! ซะ ซันฉันจะไม่ไหว” สิ้นเสียงครางตัวฉันก็กระตุกเกร็งปลดปล่อยธารน้ำใสรดรินเคลือบบนท่อนเอ็นยาวใหญ่ ลมหายใจของฉันหอบถี่ ขณะโน้มตัวลงไปบดขยี้จูบบนริมฝีปากแดงคล้ำของซัน รู้ว่าเขากำลังพยายามระงับสติของตัวเองไม่ให้เลยเถิด แต่ซันก็คงไม่ยอมค้างอยู่บนต้นไม้แน่นอน เวลานี้เขาเลื่อนฝ่ามือบีบก้นของฉันเพื่อให้ขยับเอวเร็วขึ้น รับรู้ถึงท่อนเอ็นที่ร้อนระอุราวกับไฟยามที่เสียดสีกันไปมา ขนที่ปกปิดจุดสงวนกับของซันเองก็เสียดสีรู้สึกเหมือนมันกำลังจะเผาไหม้ในไม่ช้านี้ หากว่าซันยิ่งเร่งเร้ามันถี่กระชั้นมากยิ่งขึ้น “แฮ่ก ชะ ช้าหน่อย”
“จะแตกแล้ว อ๊า ฉันจะแตกแล้วแป้ง!”
ฉันกดใบหน้าลงตำแหน่งลำคอแกร่งที่กัดสันกรามจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน หลับตาลงปล่อยให้ซันได้เป็นฝ่ายนำทาง ในไม่ช้าเราสองคนก็อ้าปากครวญครางออกมาลั่นห้อง ส่งผลให้ตัวของฉันและซันกระตุกพร้อมกัน ฉันรับรู้ถึงความเปียกแฉะตรงหน้าท้องไม่ต้องเดาให้มากก็พอจะเข้าใจว่ามันคือน้ำอะไรถ้าไม่ใช่น้ำแห่งความสุขจากตัวของซัน
ด้วยความที่ดื่มเหล้าไปหลายและแพ้เหล้าแรงๆ ฉันรู้สึกมึนหัวมากจนดวงตาใกล้จะปิดอยู่แล้ว รู้ว่าพูดออกไปซันก็คงคิดว่าได้ยินผิดหรือไม่ก็คิดไปเป็นแบบอื่น อย่างน้อยก็ขอให้ได้พูดแม้สักครั้งก็ยังดี แค่คิดว่าจะมีโอกาสได้พูดอีกหรือเปล่า ฉันเองก็ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้เลย
“ฉันชอบนาย”
[30%]
*-------------------------------------------------*