บทที่ 2 ข้าจะรับผิดชอบเอง

1169 Words
บทที่ 2 ข้าจะรับผิดชอบเอง กลางป่าเขามีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บ้านแต่ละหลังทำจากไม้ และสร้างห่างๆ กันเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตร แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่มองปราดเดียวหรงหรานก็รู้แล้วว่าที่นี่คือหมู่บ้านเล็กๆ ใต้หุบเขาเล่อฉาง มิหนำซ้ำยังธรรมดากว่าที่คิด หลังจากชายขนดกพาหรงหรานเข้ามาในบ้านไม้หลังเล็ก เขาวางนางลงบนเตียงไม้ไผ่ที่ปูด้วยหนังสัตว์ จากนั้นก็ก้าวพรวดพราดออกไปข้างนอกโดยไม่พูดไม่จา สักครู่หนึ่ง ชายชราเคราขาวก็เข้ามา ชายชราเมื่อมาถึงก็รีบจับชีพจรหรงหรานทันที สักพักก็หันไปพูดกับชายร่างหมีหนวดครึ้ม “นอกจากบาดแผลภายนอก นางก็ไม่มีอาการคลั่งเลือดหรือช้ำใน แต่ก็เป็นความโชคดีของนาง ที่เจ้าเอะใจเลยไปดูใต้หน้าผาแถวนั้นกระทั่งเจอนางเข้า หากพ้นคืนนี้แล้วยังไม่มีใครพบเจอนางละก็ เกรงว่านางเองก็คงไม่รอดเหมือนกัน” “อืม” “อีกอย่าง ในปากของนางมีแผล ตอนตกหน้าผานางคงกัดปากตัวเองจนเป็นแผลใหญ่ เพราะฉะนั้นนางคงยังพูดไม่ได้ไปสักระยะหนึ่ง” หมอชราวิเคราะห์ออกมาอย่างชัดเจนและละเอียดยิบ ต่อให้หรงหรานไม่รู้วิชาการแพทย์ แต่พอได้ยินอย่างนี้ก็รู้สึกโล่งใจ ชีวิตของนางรอดพ้นจากเงื้อมือมัจจุราชแล้ว “อืม” เช่นเคย ชายหนวดดกร่างหมีตอบเพียงแค่ ‘อืม’ เท่านั้นเอง ทั้งที่หมอชราอุตส่าห์อธิบายยืดยาวอย่างตั้งใจ นางเหลือบตามองเขา จากนั้นก็กรอกตามองบน จากการสื่อสารของชายคนนี้คงอยู่ระดับต่ำ พื้นฐานคงเป็นคนพูดน้อย แต่เอาเถอะ อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนใบ้ ตอนนี้หรงหรานพอจะรู้นิสัยของชายหนวดดกขึ้นมานิดหน่อยแล้ว นอกจากชายคนนี้จะพูดน้อย ทั้งท่าทางยังชวนให้เข้าใจผิดว่านางอาจถูกคนป่าอย่างเขาจับกลับมาต้มยำทำแกง มิคาด ชายป่าเถื่อนคนนี้กลับพานางมาบ้านเพื่อรักษา ถือว่ามีพระคุณกับนางแล้ว ทว่าเรื่องที่เขามีพระคุณก็ส่วนเรื่องมีพระคุณ ส่วนเรื่องที่ทำรุนแรงกับนางก็เป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้เช่นกัน ทันใดนั้น สายตานึกอยากขอบคุณแปรเปลี่ยนเป็นอาฆาตรอย่างฉับพลัน ตั้งแต่ต้นเขาไม่เคยอ่อนโยนกับนางเลย แล้วจะให้นางซาบซึ้งในบุญคุณของเขาสุดหัวใจได้อีกหรือ! เขาออกไปข้างนอกกับหมอชรา ตอนกลับมาก็ยื่นถ้วยยามาตรงหน้านาง นางมองยาสีเขียวเข้ม กลิ่นแรงและคาดว่าน่าขมไม่น้อย ชั่งใจชั่วครู่ นางเงยหน้ามองชายร่างหมี อย่าว่าแต่ยานี้น่าจะขมปี๋ อาการเจ็บทำให้นางขยับแขนขาไม่ได้ แล้วจะดื่มยาอย่างไร เพิ่งคิดเช่นนั้น เขาก็ย่อตัวนั่งลงข้างเตียงไม้ไผ่ จากนั้นยื่นมือมาบีบจมูกนาง นางเลี่ยงไม่ได้ต้องอ้าปากพะงาบๆ พริบตาสั้นๆ ยารสขมก็ถูกกรอกยาเข้ามาในลำคออึกแล้วอึกเล่า “อึก...อั่ก...” เป็นการดื่มยาที่ทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิต และเชื่อหรือไม่ ถ้านางไม่ตายเพราะตกหน้าผา ก็คงต้องตายเพราะถูกจับกรอกยานี่แหละ! ท้ายที่สุด หรงหรานต้องดื่มยาในสภาพที่ถูกบังคับด้วยประการเช่นนี้ “เสื้อผ้า” เพียงไม่นานหลังจากหรงหรานดื่มยาจนหมด ชายหนวดดกกล่าวสั้นๆ กับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากบ้าน หรงหรานเบิกตาโต ลางสังหรณ์ที่ผุดขึ้นกะทันหันบอกนางว่าการกระทำต่อไปของเขากำลังทำให้นางอยู่มิสู้ตาย! ตอนที่ชายหนวดดกร่างหมีกลับมาที่เตียงอีกครั้ง คราวนี้เขาถือผ้าที่ใหญ่เทอะทะและถังน้ำมาด้วย อย่าบอกนะ อย่าบอกนะว่า... เขาไม่พูดพล่าม จับนางลอกคราบทันที และเป็นอีกครั้งที่นางทำได้แค่นอนนิ่งเป็นผักในสภาพจำยอม โดยมีเขาเช็ดตัวให้ หรงหรานนอนขยุ้มหนังสัตว์ด้วยความอดสู เมื่อชายหนวดดกเช็ดเลือดที่แห้งกรังตามเนื้อตัวนางจนมาถึงเรียวขา นางก็ได้โยนความอายทิ้งไปนานแล้ว ทำได้เพียงจ้องหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย หากสายตาของนางคือใบมีด ป่านนี้เขาได้ตายไปหลายครั้งแล้ว คืนนั้น เป็นครั้งแรกที่นางนอนคิดแบบโง่ๆ วันพรุ่งนี้นางไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกแล้ว น่าอายสิ้นดี! แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ หมอชรามีฝีมือเก่งกาจราวกับหมอเทวดา เช้าวันรุ่งขึ้นนางยังคงตื่นขึ้นมา ยืนยันข้อเท็จจริงว่านางยังมีชีวิตอยู่ และต่อให้หรงหรานจะนอนนิ่งเป็นผักเช่นเดิม ถูกชายหนวดดกดูแลนางเหมือนเดิม หากทว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป สองสามวันให้หลัง อาการห่อเลือดในปากของหรงหรานเริ่มดีขึ้น ในตอนนี้หรงหรานขยับปากพูดได้แล้ว ซ้ำนางยังด่าชายหนวดดกได้คล่องปรือเลยด้วย! “เจ้าคนสารเลว เอามือหยาบๆ ของเจ้าออกไปจากตัวข้านะ อ๊ะ...ไม่! อย่านะ ตรงนั้น ไม่นะ...@#€%€**” ทุกครั้งที่เจ้าเคราดกเช็ดตัวให้นาง บ้านน้อยหลังนี้จะมีเสียงด่าไม่หยุด ทว่าสิ่งที่ชายหนวดดกตอบกลับมาคือน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยและสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ข้าชื่อเหล่ยเซิน ไม่ได้ชื่อคนสารเลว” หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว เหล่ยเซินก็ยังเช็ดตัวให้หรงหรานต่อไป ผ้าที่ถูกชุบน้ำหมาดๆ ถูบนหน้าอกนุ่มนิ่ม ลากยาวลงมาตามหน้าท้องแบนราบ จากนั้นก็วนเวียนอยู่บริเวณบุปผางามและเรียวขาขาว ถึงตอนนี้ทั้งตาทั้งปากของนางแทบจะพ่นไฟออกมาได้อยู่แล้ว หลังจากเช็ดตัวเสร็จ เหล่ยเซินแต่งตัวให้หรงหรานอย่างละเอียดลออไม่เหมือนกับมือที่หยาบกระด้างของเขา เมื่อดูแลนางเรียบร้อยเขาก็เดินออกจากบ้านหน้าตาเฉย ตอนกลับมาอีกครั้ง ในมือใหญ่มีถ้วยโจ๊กมาด้วย โจ๊กนี้เป็นฝีมือของเหล่ยเซิน เป็นโจ๊กใส่เกลือง่ายๆ เขาป้อนโจ๊กให้นางทีละคำ จากนั้นก็เป็นยารสขม ในแต่ละวันดำเนินไปเช่นนี้ ดูเอาเถิด ขนาดด่าแล้วก็ยังทำนิ่ง ไม่สนใจระยะห่างระหว่างชายหญิง “คนป่าเถื่อน คอยดูเถอะ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้” “ได้” คำพูดสั้นๆ ที่เป็นเหมือนการท้าทายทำเอาหรงหรานโมโหแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง “ข้าบอกจะฆ่าเจ้า” “เช่นนั้นข้าก็จะรับผิดชอบเจ้า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD