บทที่ 1
กรองแก้วพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากเพราะว่าเธอติดต่อแฟนหนุ่มที่คบหากันมานานกว่าสี่ปีไม่ได้ เธอคิดไปต่างๆนาๆว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่าจะเจ็บปวดหรือประสบอุบัติเหตุอะไรไหม เธอได้แต่คิดฟุ้งซ่าน สุดท้ายหญิงสาวเลยตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาน้องชายของเจนภพซึ่งน้องชายของเขาก็ตอบกลับมาว่าคนเป็นพี่ไม่ได้กลับมาค้างที่บ้านในคืนนี้ แล้วอย่างนี้ชายหนุ่มหายตัวไปไหนซะล่ะ
“พี่แก้วทำไมไม่ลองตามจีพีเอสจากเครื่องพี่ภพล่ะครับ ผมว่าคงไปนั่งดื่มอยู่ที่ไหนสักที่ก็ได้นะครับ”
“จริงด้วยทำไมพี่ถึงคิดเรื่องนี้ไม่ออกนะขอบใจมากนะจ๊ะน้องเจตต์”
“ครับพี่ขอให้ตามตัวพี่ภพเจอนะครับผมขอไปนอนก่อน”
“โอเคจ๊ะๆพี่ไม่รบกวนเจตต์แล้วดีกว่า”
“ครับ” หลังจากที่ได้วิธีอันชาญฉลาดจากเจตต์เธอก็รีบตามดูเลยว่าเวลานี้แฟนหนุ่มอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งระบบจีพีเอสนั้นสามารถบอกตำแหน่งพิกัด ความเร็วและเวลาโดยสัญญาณจีพีเอสมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกส่งสัญญาณกลับมายังจุดรับสัญญาณต่างๆที่อยู่รอบโลกอาทิเช่น โทรศัพท์มือถือ
กรองแก้วพบว่าการใช้ง่ายจีพีเอสนั้นใช้งานได้ง่ายดายไม่นานเธอก็รู้แล้วว่าแฟนหนุ่มของเออยู่ที่ใด แต่ที่น่าแปลกใจคือตอนนี้พิกัดขึ้นแจ้งเตือนว่าเจนภพอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานของชายหนุ่ม เธอร้อนใจอย่างไรไม่รู้ทำไมคืนนี้เขาถึงต้องไปนอนที่โรงแรมทั้งๆที่ก็สามารถกลับไปค้างที่บ้านของตนได้
หญิงสาวไม่รอช้ารีบขับรถยนต์ส่วนตัวของตนเองตรงไปยังจุดหมายที่แสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเครื่องบาง ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีเธอก็มาถึงที่หมาย หญิงสาวสอบถามกับพนักงานว่ามีคนชื่อเจนภพมาเปิดห้องพักหรือเปล่าแต่พนักงานก็ไม่ยอมบอกจนเธอต้องใช้วิธีสกปรกยัดเงินให้พนักงานคนนั้นสุดท้ายก็ได้คำตอบว่าเจนภพมาเข้าพักจริงๆและพักอยู่ห้องหมายเลขใด เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่หยุดจนคนในห้องรู้สึกรำคาญจึงมาเปิดประตูดูว่าเป็นใครทำไมถึงได้มารบกวนเวลาของแขกที่มาเข้าพักแบบนี้ได้
“มาหาใครคะมาเคาะประตูดึกๆดื่นๆแบบนี้ไม่มีมารยาทเอาซะเลยนะ” หญิงสาวมองสำรวจผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายอย่างหมิ่นเหม่ มันเหมือนจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่
“พี่เจนภพอยู่ข้างในใช่ไหม”
“ใครคะฉันไม่รู้จัก” เธอตอบกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อนะหลบไปซะ” กรองแก้วทนไม่ไหวผลักผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปภายในห้องเพื่อพิสูจน์ความจริงบางอย่างและเธอเองก็หวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอใจสลายเพราะเจนภพนอนเปลือยกายหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงอย่างหน้าไม่อาย
“พี่ภพ!”
“แก้วมาที่นี่ได้ยังไง” ชายหนุ่มหน้าตาตื่นไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาปรากฎตัวที่นี่ได้
“มาได้ยังไงไม่สำคัญหรอกค่ะแต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือพี่กำลังนอกกายแก้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ” เธอรู้สึกผิดหวังและเสียความรู้สึกที่ไว้ใจเขา
“อะ เอ่อ...”
“เพราะเธอไม่แซ่บไงล่ะผู้ชายเขาถึงได้มาซื้อกินน่ะ” หญิงสาวบริการพูดดูถูกเธอทันที
“นี่เธอพูดอะไรของเธอ นี่พี่ภพถึงขนาดต้องซื้อกินเลยหรอคะ เรื่องนังเด็กนักศึกษานั่นก็ทีหนึ่งแล้วนะคะ ทำไมพี่ภพถึงยังทำแบบนี้กับแก้วได้ลงคอ” เมื่อช่วงต้นปีเธอจับได้ว่าเจนภพนอกใจเธอโดยการแอบคุยกับนักศึกษาสาวเอวบางร่างเล็กและนัดไปมีความสัมพันธ์กัน พอเธอจับได้น้องผู้หญิงคนนั้นก็รีบขอโทษขอโพยและเลิกยุ่งกับแฟนของเธอ เรื่องดูจะจบไปแต่วันนี้ก็มาเกิดเรื่องทำนองนี้อีกแล้วอย่างนี้หัวใจของเธอจะทนได้อย่างไร ใครๆก็เตือนเธอเรื่องของเจนภพแต่เธอเองที่ดื้อรั้นไม่ฟัง
“เพราะพี่ไม่ได้รักแก้วแล้วไง พี่เคยบอกแล้วไปแล้วนี่” เขาตอบกลับอย่างคนเห็นแก่ตัว แน่สิเมื่อหลายเดือนก่อนเขาบอกกับเธอว่าเขาไม่ได้รักเธอเหมือนเดิมแล้วแต่มันก็ยังไม่ถึงกับหมดรักเหมือนอย่างเช่นตอนนี้
“พี่ใจร้ายเกินไปแล้วค่ะ แก้วทนไม่ไหวแล้วเราเลิกกันเถอะค่ะ”
“อืม เลิกก็เลิก” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบอย่างคนที่ไม่ต้องการแสดงความรู้สึกใดๆออกมา ยิ่งเห็นอาการของชายหนุ่มเอก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นเป็นเท่าตัว หญิงสาวหมุนตัวเดินออกมาจากห้องด้วยแรงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด พอปิดประตูห้องแล้วเธอก็ทรุดตัวนั่งลงร้องไห้อย่างคนหมดอะไรตายอยาก เธอไม่รู้จะรู้สึกสงสารหรือสมเพชตัวเองดีแต่ที่แน่ๆคือเธอยังทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็ส่งข้อความกลับไปหาเจนภพอีกครั้งให้เขามาเก็บของๆเขาออกจากคอนโดของเธอในวันพรุ่งนี้ คอนโดของเธอเจนภพจะมาค้างบ้างในวันที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน หญิงสาวและชายหนุ่มยังไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันและนี่ก็คงจะเป็นเหตุผลที่เขาต้องออกไปซื้อกินล่ะมั้ง
วันรุ่งขึ้นชายหนุ่มก็มาเก็บข้าวของของเขาออกจากคอนโดของเธอด้วยท่าทีสบายๆเธอเห็นแล้วยิ่งช้ำใจมากๆ วันนี้ความเป็นจริงเธอไม่ควรเจอเขาด้วยซ้ำเพราะเธอต้องออกไปทำงานแต่ที่ต้องเจอเป็นเพราะว่าเธอไม่สบายรู้สึกมึนหัวมากๆแต่เขาก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอไม่สบาย นั้นอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจเธอเลยสักนิดตั้งแต่แรก
“พี่เก็บของทุกอย่างหมดแล้วพี่ไปก่อนนะ”
“ค่ะ” กรองแก้วตอบรับน้ำเสียงแผ่วเบา พอเขาจากไปน้ำตาที่เหือดแห้งก็กลับมาอีกครั้ง เธอต้องการที่ระบายจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธออย่างโยสิตา โยสิตาเป็นเพื่อนสนิทที่เธอรักมากเวลาเธอมีปัญหาอะไรก็สามารถปรึกษากับโยสิตาได้อย่างสบายอกสบายใจ ถือสายรอไม่นานเพื่อนสาวก็รับโทรศัพท์
“ยัยสิฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก”
“เรื่องอะไรล่ะแกทะเลาะกับที่บ้านอีกแล้วหรอ”
“เปล่าหรอกไม่ใช่เรื่องนั้น”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นแล้วเรื่องอะไรล่ะ ชีวิตรักแกก็ดูจะราบรื่นดี”
“...”
“ยัยแก้วแกยังอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงของเพื่อนขาดหายเธอเลยต้องถามซ้ำ
“ยะ อยู่ ฮึกๆ ฉันยังอยู่”
“แกร้องไห้หรอ ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรแกบอกฉันมานะ” การได้ยินเพื่อนสาวร้องไห้ทำให้โยสิตารู้สึกตกใจและเป็นกังวลไม่น้อยเลย
“ฉันเลิกกับพี่ภพแล้วนะสิ”
“เลิกกับพี่ภพ? ทำไมถึงเลิกกันล่ะมีปัญหาอะไรแก ทำไมปุ๊บปั๊บอย่างนั้นล่ะ”
“พี่ภพเขามีคนอื่น”
“อะไรนะทำไมพี่ภพทำแบบนี้ล่ะ ให้ฉันจัดการให้ไหม”
“ไม่ต้องหรอกแกฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ”
“แกแน่ใจหรอ อย่าให้ฉันรู้ว่าแกกลับไปคืนดีกับพี่ภพนะไม่งั้นฉันต้องกลายเป็นหมาแน่” มีหลายครั้งที่เพื่อนสนิทเป็นที่ปรึกษาให้แต่แล้วไม่นานก็กลับไปคืนดีกันเหมือนเดิม
“ไม่แล้วล่ะ ความจริงความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ภพมันไม่โอเคมาสักพักหนึ่งแล้วแต่ฉันไม่กล้าบอกแกฉันกลัวจะโดนแกด่าน่ะ”
“แกคิดผิดแล้วล่ะ แกฉันบอกตอนไหนฉันก็ด่าแกได้เหมือนกันนั้นแหละ แกนี่มันจริงๆเลยมีความลับอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าบอกมาให้หมดเลยนะถ้ายังเห็นว่าเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“พี่ภพบอกกับฉันว่าเขาไม่ได้รักฉันเหมือนเดิมแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีแต่เป็นฉันเองนี่แหละที่พยายามยื้อมาจนถึงตอนนี้ ตอนนั้นฉันจับได้ว่าพี่ภพนอกใจแอบคุยกับเด็กนักศึกษาแล้วก็แอบนัดมามีอะไรกันพอฉันจับได้น้องคนนั้นก็เลิกยุ่งกับพี่ภพไป ฉันคิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว ฉันคิดว่าพี่เขาคงไม่กล้าทำซ้ำฉันเลยให้อภัยพี่เขาแต่ว่ามันไม่ใช่เลย เมื่อคืนก่อนพี่ภพออกไปซื้อกินอ่ะแก ทำไมเขาต้องทำเหมือนว่าฉันเป็นคนโง่แบบนี้นะฉันไม่เข้าใจจริงๆ” ตอนนี้กรองแก้วทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
“ทำไมพี่ภพถึงได้เลวขนาดนี้นะฉันอยากจะหยุ่มหัวพี่แกเลย ดีแล้วล่ะที่แกตัดสินใจเลิกกับคนแบบนี้น่ะ ถ้าคบต่อไปหางก็คงยิ่งออก”
“ตะ แต่ว่า…ฉันยังทำใจไม่ได้” กรองแก้วบอกสิ่งที่อยู่ในใจออกมาไม่อาย
“แน่ล่ะสิแผลยังสดใหม่ขนาดนี้ ฉันเข้าใจแกนะแก้ว ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากมันต้องใช้เวลาแต่ฉันเชื่อว่าแกทำได้นะแก้ว” โยสิตายังเชื่อเสมอว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งได้แน่นอน
“แกรู้ไหมว่าฉันคุยกับแกแล้วทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลยนะ ฉันขอบคุณที่แกรับฟังฉันนะสิ”
“ฉันยินดีเป็นที่ระบายให้แกเสมอนะแก้วแก่ก็รู้ว่าฉันรักและหวังดีกับแกเสมอ” เพื่อนเป็นทุกข์ใจมีหรือที่เธอจะไม่ทุกข์ใจไปด้วย โยสิตาสงสารกรองแก้วที่โชคร้ายได้มารู้จักกับผู้ชายเลวคนนี้
“อืมฉันรู้สิรู้มาตลอดนั่นแหละ”
“ฉันต้องไปทำงานแล้วเอาไว้ว่างๆเราไปดื่มกันนะ”
“ได้สิได้เลยฉันจะดื่มให้ลืมพี่ภพ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิดื่มมันก็ลืมได้แค่ชั่วขณะแกอย่าลืมสิ”
“ก็จริงแกไปทำงานเถอะฉันไม่กวนแล้ว”
“อืม บาย”
“บ๊ายบายจ๊ะ” การได้คุยกับโยสิตาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย เธอตัดสินใจจะบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อเรื่องของเจนภพแล้ว พอโทรไปหาท่านท่านก็นิ่งไป ในใจเธอไม่รู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“กลับมาอยู่บ้านเราเถอะนะลูกแล้วลูกก็ลาออกจากบริษัทที่ลูกทำได้แล้ว”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่แล้วล่ะลูกเพราะพ่อยอมให้ลูกใช้ชีวิตตามใจของตัวเองหลายปีแล้ว ลูกควรกลับมาช่วยงานที่บริษัทของเราได้แล้วนะลูก”
“ก็ได้ค่ะ แก้วจะกลับไปทำงานกับคุณพ่อ”
“ดีมากลูกพ่อไม่อยากให้ลุกจมอยู่กับอะไรเดิมๆที่มันมีแต่จะทำให้ลูกเศร้าใจ”
“ค่ะพ่อแก้วจะไม่ดื้อกับพ่ออีกแล้ว”
“ไปลาออกซะนะลูกพ่อรอหนูกลับมาอยู่”
“ค่ะคุณพ่อ” อีกหนึ่งเรื่องที่เจนภพไม่รู้คือเธอเป็นทายาทของบริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของไทย เขารู้เพียงแค่ว่าเธอเป็นพนักงานบริษัทตัวเล็กๆที่กินเงินเดือนพอประทังชีวิตไปในแต่ละเดือน
ณ บริษัทเอกชนของกรองแก้ว
เธอตื่นแต่เช้าอาบน้ำแปรงฟันและเดินทางไปทำงานตามปกติแต่ที่แตกต่างออกไปคือเธอมาพร้อมกับใบลาออก ทุกคนตกใจมากที่รู้ว่าเธอจะลาออกจากงานทั้งๆที่เธอทำมันได้ดีมาโดยตลอด
“ตัดสินใจดีแล้วหรอครับน้องแก้ว” พุฒิพงษ์รู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ต้องเสียลูกน้องที่ทำงานดีมากคนหนึ่งไป
“ค่ะพี่พงษ์แก้วตัดสินใจมาดีแล้วอีกอย่างแก้วต้องกลับไปช่วยงานธุรกิจของคุณพ่อค่ะ”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นพี่คงขัดใจแก้วไม่ได้เพราะว่าพี่ก็เห็นใจคุณลุงท่านเหมือนกัน”
“ขอบคุณพี่พงษ์ที่เข้าใจแก้วนะคะ”
“ครับพี่ขอให้แก้วสนุกกับงานที่บริษัทของคุณลุงนะครับ”
“ค่ะ แก้วขอตัวไปทำงานก่อนค่ะ” เธอสามารถลาออกไปทันทีโดยที่ไม่มีกฎว่าจะต้องยื่นเรื่องลาออกก่อน 30 วัน เธอเลือกที่จะทำต่ออีกประมาณหนึ่งอาทิตย์พอครบกำหนดเธอก็ย้ายไปทำงานกับคนเป็นพ่อ
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอเข้ามาทำงานในบริษัทของตนเองในฐานะรองกรรมการการบริหาร การมาถึงปุ๊บก็ได้เป็นหัวหน้าเลยแน่นอนว่าต้องมีคนไม่พอใจอย่างแรงที่เธอมาแย่งตำแหน่งไปหน้าตาเฉย นั่นทำให้เอต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักจนทำให้ทุกคนเชื่อถือในตัวเธอ
“วันนี้คุณพ่อจะไปไหนคะเนี่ยแต่งตัวซะหล่อเลย”
“พ่อจะไปทานข้าวกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยน่ะลูก พ่อจะน้อยหน้าไม่ได้” คนเป็นพ่อตอบกลับยิ้มๆ
“พ่อของแก้วหล่อที่สุดเลยค่ะไม่มีใครสู้ได้แน่นอน”
“ปากหวานจริงๆลูกสาวคนนี้ พ่อไปก่อนนะลูก”
“ค่ะ วันนี้เดี๋ยวแก้วเฝ้าบ้านให้เองค่ะ”
ณ ร้านอาหาร
กฤษณะบิดาของกรองแก้วเดินทางมาที่ร้านอาหารตามนัดที่ให้ไว้กับคนเป็นเพื่อน แม้รถจะติดแค่ไหนแต่เขาก็มาถึงตามเวลาที่ได้นัดหมายเพราะวางแผนเรื่องการเดินทางมาเป็นอย่างดี
“กิตทางนี้”
“สวัสดีค่ะคุณกฤษณะวันนี้แต่งหล่อมาเลยนะคะ”
“คุณวิภาก็ชมเกินไปครับ”
“ที่รักจะไปชมมันทำไมครับ” อลงกรณ์หน้างอที่คนเป็นภรรยาอย่างวิภาเอ่ยชมเพื่อนของตนเอง
“แกยังขี้อิจฉาไม่เปลี่ยนเลยนะกร”
“หึ มาคุยเรื่องสำคัญดีกว่า”
“จริงด้วยค่ะเสียดายนะคะที่วันนี้เราไม่ได้นัดลูกสาวลูกชายของพวกเรามาด้วย”
“ปล่อยให้ลูกสาวผมพักไปก่อนเถอะครับแกเพิ่งจะอกหักมา”
“ตายจริงใครกล้าหักอกหนูแก้วคะ”
“แฟนที่คบหากันสามสี่ปีเห็นจะได้ครับ ผู้ชายนอกใจไปมีคนอื่นครับ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะที่หนูแก้วเลิก”
“ครับผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
“นายต้องรีบทำให้หนูแก้วลืมผู้ชายคนนั้นให้เร็วที่สุด”
“แล้วจะทำอย่างไงล่ะ” กฤษณะถามกลับอย่างต้องการรู้คำตอบ
“ลูกชายของฉันไงล่ะ”
“ตาอาทิตย์กลับมาจากอังกฤษแล้วหรอ”
“กลับมาได้สักปีสองปีแล้วล่ะ ตอนนี้ก็ทำงานในโรงพยาบาลเต็มตัวแล้ว”
“ตาอาทิตย์นี่เก่งจริงๆ ฉันดีใจที่นายมีลูกชายเก่งๆแบบนี้นะ”
“ต้องยกความดีความชอบให้คุณวิภาเขาแหละที่อบรมสั่งสอนลูกมาเป็นอย่างดีตั้งแต่เล็กๆ”
“สองคนนี้เคยเจอกันตอนเด็กๆใช่ไหม”
“ใช่แล้วค่ะ”
“ถ้าเจอกันอีกครั้งก็ไม่รู้จะจำกันได้หรือเปล่านะ”
“นั่นสิคะคงต้องหาโอกาสให้เด็กๆเจอกันแล้ว”
“นั่นสิคุณวิภานัดวันเวลามาเลยนะครับ”
“ค่ะเดี๋ยววิภาจะหาวันเหมาะๆให้”
กรองแก้วรู้สึกไม่สบายเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นที่ที่เธอมาใช้บริการเป็นประจำเพราะประทับใจในการบริการ
“เชิญคุณกรองแก้วเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินตามคุณพยาบาลเข้าไปด้านใน คุณหมอกำลังรอตรวจคนไข้อยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับเชิญนั่งก่อนครับ คนไข้ชื่อ..กรองแก้ว กานติเวช”
“ใช่ค่ะคุณหมอ”
“วันนี้มีอาการยังไงบ้างครับ”
“รู้สึกมึนหัวไม่สบายตัวเลยค่ะ มันเหนื่อยๆ”
“หมอขอตรวจหน่อยนะครับ คนไข้เชิญด้านนี้ดีกว่าครับ” หญิงสาวขยับไปนั่งบนเตียง คุณหมอสวมเครื่องฟังการเต้นของหัวใจจากนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้ๆคนไข้สาว เธอรู้สึกแปลกๆแต่ก็พยายามไม่สนใจ ชายหนุ่มได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาว มันทำให้เขารู้สึกดีเป็นบ้าเลย
“อะ เอ่อ ยังไม่เสร็จอีกหรอคะ”
“เสร็จแล้วครับ” เขาขยับออกห่างอย่างเสียดาย จากนั้นก้วินิจฉัยให้หญิงสาวทราบว่าเธอเป็นอะไรจากนั้นก็จัดยาให้หญิงสาวรับประทาน
“อย่าลืมทำตามที่หมอบอกนะครับ เชิญรับยาด้านนอกนะครับ”
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมยินดี” หญิงสาวเดินออกไปแล้วแต่คุณหมอสุดหล่อยังนั่งยิ้มอย่างมีความสุข อาทิตย์ต่อสายหามารดาทันทีที่ได้พบคนคุ้นเคย
“ว่าไงจ๊ะลูกชายสุดหล่อของแม่”
“แม่ครับผมเจอน้องแก้วใกล้ๆแล้วครับ”
“จริงหรอลูก แม่ไม่ได้เจอน้องแก้วมาหลายปีแล้วแต่เพิ่งเจอคุณกฤษณะไปไม่กี่วันนี้เอง ที่สำคัญคุณกฤษณะเขาบอกว่าน้องแก้วเขาโสดด้วยนะลูก”
“จริงหรือเปล่าครับ”
“จริงสิจ๊ะ ถ้าเป็นน้องแก้วคนนี้แม่สนับสนุนเต็มที่”
“ฮ่าๆอยากได้ลูกสะใภ้ขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“แน่นอนสิลูก หนูแก้วน่ะน่ารักจะตาย จะมีก็แต่แฟนเก่าตาถั่วของหนูแก้วน่ะที่มองความน่ารัก”
“ถ้าคุณแม่ปลื้มขนาดนี้ผมก็พร้อมเดินหน้าเต็มที่ครับ” อาทิตย์ตอบกลับคนเป็นแม่ยิ้มๆ
“จริงหรอลูก”
“ครับแม่”
“คิกๆแม่ต้องรีบไปบอกคุณพ่อแล้วล่ะ” คุณวิภาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“ตามใจเลยครับคุณแม่” คนเป็นแม่มีความสุขตัวเขาเองก็มีความสุขตามไปด้วย น้องน้อยในอดีตคนนี้คือคนที่อยู่ในหัวใจของเขาตลอดมาและจะอยู่ตลอดไป หลังจากวางสายจากลูกชายแล้วคุณวิภารีบเดินไปหาคนเป็นสามีทันที
“คุณพี่ขาตาอาทิตย์บอกว่าเจอหนูแก้วแล้ว”
“หนูแก้วจำลูกชายของเราได้ไหมล่ะที่รัก”
“น่าจะจำไม่ได้นะคะไม่เจอกันมาตั้งหลายปี”
“ตอนนั้นหนูแก้วน่าจะสักสิบสามสิบสี่ยังเด็กมากจริงๆ”
“ค่ะ วิดีใจมากที่ลูกชายของเรายังชอบหนุแก้วอยู่ วิเอาใจช่วยตาอาทิตย์ค่ะ”
“ผมมีวิธีที่ดีกว่านั้นครับ”
“วิธีอะไรคะ” วิภารีบถามกลับด้วยความสงสัย