แทบเท้าเหนือนภา | 3

1888 Words
“ฉันจองตัวนายไว้ เอาไว้ฉันจะทำเอกสารให้เพราะคนอย่างนายฉันอยากมีไว้ในบริษัท” เหนือนภาพูดขึ้นไปตามตรงเพราะคนอย่างพระเพลิงปล่อยไปไม่ได้จริงๆ “เพลิงยินดีมากๆครับคุณเหนือนภา จากนี้เพลิงจะตั้งใจทำงานไม่ให้คุณเหนือนภาผิดหวัง” เหนือนภาที่เห็นก็ได้แต่ยกยิ้มอยู่ในใจ เด็กหนุ่มคนนี้น่ารักกว่าที่คิด ขนาดดีใจก็เก็บสิ่งที่ตัวเองรู้สึกไว้ไม่มิดแสดงออกมาทางสีหน้าจนเหนือนภารับรู้ได้ “นภา” เหนือนภาพูดขึ้นทันทีเพราะคำว่าคุณเหนือนภาที่พระเพลิงเรียกมันเหมือนจะยาวไป “...” แน่นอนว่าพระเพลิงไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเพราะงุนงงกับคำพูดของคุณเหนือนภาเพราะอยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “เรียกฉันว่าคุณนภา” ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร ตัวของเธอถึงบอกให้พระเพลิงเรียกเธอว่านภาเพราะกับคนอื่นเหนือนภาไม่ได้อนุญาตให้เรียกแบบนี้ อาจจะเป็นข้อยกเว้นหรืออะไรก็ไม่รู้เพียงแต่เหนือนภาอยากให้พระเพลิงเรียกชื่อเธอสั่นๆเพราะแค่จินตนาการตอนที่พระเพลิงเรียกชื่อเธอว่าคุณนภาและแทนตัวเองว่าเพลิงมันคงจะน่าฟังและดีไม่น้อยเลย “จะดีหรอครับ เพลิงว่ามันไม่เหมาะ” เพราะเท่าที่เห็นในวันนี้ไม่มีพนักงานคนไหนเรียกคุณเหนือนภาว่านภาเลย “ฉันให้เรียกนายก็ควรเรียกเพราะยังไงแล้วนายกับฉันก็ต้องทำงานด้วยกันนะพระเพลิง” เหนือนภาพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินตรงมาหาพระเพลิง มือเรียวยกขึ้นขยับเนกไทของพระเพลิงให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ “เอาเป็นว่าตอนนี้ไปเก็บของ เก็บเสร็จแล้วก็กดลิฟต์ขึ้นมาชั้นผู้บริหาร ฉันจะรอนายอยู่ด้านบน” เหนือนภาพูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นี้ก่อนจะเดินออกมาจากห้องประชุม พระเพลิงได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกกับความใกล้ชิดของเธอกับคุณเหนือนภา กลิ่นความหอมที่ลอยมาจากตัวของคุณเหนือนภายังตลบอบอวลลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ “ให้ตายเถอะ ! คุณนภาตัวหอมชะมัด” พระเพลิงพูดขึ้นก่อนจะเรียกสติของตัวเองและเดินออกมาจากห้องประชุม “มีอะไรหรือเปล่าน้องเพลิง ทำไมคุยกับคุณเหนือนภานานจัง” กระแตที่รออยู่หน้าห้องประชุมก็ได้แต่ถามขึ้นเพราะเธอเองก็กลัวว่าพระเพลิงจะมีปัญหาอะไร “จะมีอะไรได้อีกนอกจากเรียกไปด่า” เสียงของกันเด็กฝึกงานที่มาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันพูดขึ้น “กูเห็นด้วยว่ะไอ้กัน คนอย่างไอ้เพลิงน่ะหรอจะเป็นคนคิดไอเดียดีๆแบบนี้ กูว่าก็คงโกหกเอาดีเข้าตัว” แมนเพื่อนสนิทของกันที่ฝึกงานแผนกเดียวกันพูดขึ้นเสริมทัพว่าร้ายให้กับพระเพลิง แน่นอนว่ามันเป็นแบบนี้มานานแล้ว นานตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่ปีที่หนึ่งจนตอนนี้ฝึกงานใกล้จะจบปีที่สี่แล้ว ทั้งกันและแมนก็ไม่เคยหยุดพูดจาว่าร้ายพระเพลิงเลย พระเพลิงมั่นใจในตัวเองดีว่าตัวเขาไม่เคยไปทำอะไรให้เพื่อนสองคนนี้แต่เพราะอะไรกันเขามักจะโดนเพื่อนสองคนนี้กลั่นแกล้งอยู่บ่อยๆจะสู้ก็ไม่ได้เพราะพระเพลิงเองไม่มีอะไรไปสู้เลย อีกทั้งครอบครัวของกันกับแมนก็มีอิทธิพลทำเอาพระเพลิงได้แต่ก้มหน้ายอมถูกกลั่นแกล้ง “ไม่มีครับพี่กระแต คุณเหนือนภาให้เพลิงเก็บของขึ้นไปทำงานด้านบน” พระเพลิงเลิกสนใจและหันมาตอบกระแตรุ่นพี่ที่ดูแลตัวเอง “งั้นไปเก็บของกันน้องเพลิง อย่าให้คุณเหนือนภารอนาน ส่วนคนพวกนี้ไม่ต้องสนใจหรอกก็แค่พวกขี้อิจฉาเห็นใครได้ดีกว่าไม่ได้” กระแตพูดจบก็จับมือพระเพลิงตรงมายังแผนกของตัวเอง “ตั้งใจทำงานนะน้องเพลิง” อดไม่ได้ที่กระแตจะอวยพรเพราะหลังจากนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าพระเพลิงจะกลับมาทำงานกับเธออีกหรือเปล่า “ครับพี่กระแต เพลิงขึ้นไปก่อนนะครับพอดีต้องรีบแล้ว” เพราะตอนนี้ระยะเวลามันทิ้งห่างมานานเกือบชั่วโมง พระเพลิงเองก็กลัวว่าคุณเหนือนภาจะรอนาน แต่ทว่าเมื่อมาถึงลิฟต์พระเพลิงกลับไม่ได้ขึ้นลิฟต์ไปอย่างที่คิดเพราะกันกับแมนกำลังยืนขวางทางพระเพลิง “หลบหน่อย เราจะขึ้นลิฟต์” พระเพลิงที่ถือกล่องกระดาษด้านในมีข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองก็ได้แต่พูดขึ้น หากเลือกได้พระเพลิงไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนสองคนนี้แต่ไม่รู้ทำไมเพื่อนสองคนของเขาถึงเอาแต่จะทำร้ายและกลั่นแกล้งพระเพลิงอยู่ตลอดเวลา “มึงจะรีบไปไหนไอ้เพลิง ห้องทำงานคุณเหนือนภาไม่หายไปไหนหรอก” กันพูดขึ้นทันที ในใจรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเพราะไม่ว่าจะตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่กำลังฝึกงาน หากทำอะไรพระเพลิงก็เป็นคนได้หน้าตลอด “เราจะรีบไปหาคุณเหนือนภา พวกนายสองคนหลบหน่อย” พระเพลิงตอบกลับไป ใบหน้าหล่อได้แต่ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาเพื่อนทั้งสอง “มึงรู้ตัวไหมไอ้เพลิง กูหมั่นไส้มึงฉิบหาย ทำอะไรได้หน้าตลอดเลยนะมึง” แมนพูดขึ้นพร้อมกับผลักพระเพลิงจนตอนนี้แผ่นหลังหนาได้แต่ชนกับประตูลิฟต์ที่ปิดอยู่ “เราเจ็บ” พระเพลิงพูดขึ้นเพราะแรงกระแทกมันแรงจนใบหน้าหล่อถึงกับนิ่วหน้า “กูก็ทำให้มึงเจ็บ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากกว่านี้ก็อย่าทำตัวเด่นทำตัวดีให้มันมาก” แมนพูดขึ้นพร้อมชี้หน้าพระเพลิงอย่างคาดโทษ ความจริงแล้วพระเพลิงไม่ได้ทำอะไรแบบที่แมนพูดเลย ทุกอย่างเป็นเพราะความเข้าใจผิด ตัวพระเพลิงทำเพราะหน้าที่ที่ได้รับ ไม่ได้อยากได้หน้าหรือชิงดีชิงเด่นอะไร “แล้วก็อย่าประจบประแจงให้มันมาก” กันพูดขึ้นอีกครั้งเพราะพระเพลิงมันเป็นอย่างที่เขาพูด ชอบทำตัวออเซาะ ทำตัวน่าสงสาร “เราไม่เคยทำแบบนั้น” “มึงทำ !” “ไม่เคย เราไม่เคยทำ” แน่นอนเมื่อมันไม่ใช่เรื่องจริง พระเพลิงก็ได้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง อั่ก ! “มึงทำ” กันพูดขึ้นพร้อมผลักพระเพลิงให้ล้มลงกับพื้น จนข้าวของในมือล่วงลงสู่พื้นกระจัดกระจายเต็มหน้าลิฟต์ “อึก...อย่าๆ อย่าทำเรา” พระเพลิงพูดขึ้นก่อนจะคลานหนีเพราะหากโดนทำร้ายอะไรในตอนนี้คงไม่ดีแน่ “จำไว้ไอ้เพลิงอย่าเอาหน้าชิงดีชิงเด่นให้มันมาก” กันพูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นี้ก่อนจะเดินออกไป พระเพลิงที่เห็นแบบนั้นก็รีบเก็บของของตัวเองและรีบกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้นบนที่เป็นชั้นผู้บริหารห้องทำงานของคุณเหนือนภา “น้องพระเพลิงเข้าไปได้เลยค่ะ วันนี้ทำงานในห้องคุณเหนือนภาก่อนนะ ส่วนโต๊ะทำงานจะมาพรุ่งนี้” “ครับ” พระเพลิงได้แต่ตอบรับก่อนจะเคาะประตูและเดินเข้ามาในห้องทำงาน แน่นอนว่าความใหญ่และความหรูหราโชว์ให้เห็นเป็นอันดับแรก บอกเลยว่าหากไม่ได้ทำงานที่นี่วาสนาของพระเพลิงคงไม่ได้เห็นและสัมผัสอะไรหรูๆแบบนี้ “เป็นอะไรหรือเปล่าพระเพลิง หน้าตานายดูเหมือนคนมีเรื่องอะไรนะ” เสียงของเหนือนภาดังขึ้นเพราะพระเพลิงในตอนนี้มันต่างกับพระเพลิงที่อยู่ในห้องประชุม ใบหน้าหล่อน่ารักจิ้มลิ้มดูเหมือนมีความกังวลและคิดมากในเรื่องอะไร อีกทั้งเสื้อผ้าร่างกายไม่ได้เรียบร้อยเหมือนเดิม ออกจะหลุดลุ่ยเหมือนเกิดอะไรขึ้น ข้าวของที่อยู่ในกล่องก็เหมือนจะถูกจับยัดมา ไม่สมกับเวลาเก็บของที่พระเพลิงใช้ไปเกือบๆหนึ่งชั่วโมง “มะ...ไม่มีอะไรครับ” พระเพลิงเลือกที่จะโกหกออกไปเพราะเรื่องแบบนี้พระเพลิงบอกใครไม่ได้อยู่แล้วเพราะพระเพลิงไม่อยากมีปัญหา “ฉันว่านายมีนะพระเพลิง” เหนือนภาเป็นคนที่ดูคนออก เธอสามารถรับรู้ได้ผ่านทางท่าทางและสายตา “เพลิงไม่มีจริงๆครับคุณนภา” “ก็ได้ๆในเมื่อนายบอกว่าไม่มี ฉันก็จะเชื่อ” เหนือนภาเองก็ไม่อยากคาดคั้น ตัวเธอเองพึ่งจะเคยเจอพระเพลิงเป็นครั้งแรกก็คงไม่มีความสนิทมากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายไว้วางใจจนเล่าอะไรให้ฟัง “วันนี้นายนั่งทำงานตรงนี้ก่อน” เหนือนภาพูดขึ้นพร้อมชี้มายังเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของตัวเองเพราะมันคงเป็นที่ว่างเดียวที่พอจะทำงานได้เพราะหากเป็นโซฟากลางห้อง โต๊ะก็คงจะต่ำไปไม่เหมาะแน่ๆ “คุณนภาจะให้เพลิงเริ่มที่อะไรก่อนครับ” คำพูดของพระเพลิงทำเหนือนภายกยิ้มออกมา จากที่เคยจินตนาการการพูดของพระเพลิงไว้ เมื่อมาได้ยินจริงๆมันดีกว่าที่คิดมากหรืออาจจะเป็นเพราะคนพูดด้วยถึงทำให้เหนือนภารู้สึกดีแบบนี้ ให้ตายเถอะ ! เหนือนภาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันเพราะปกติแล้วคนที่จะเรียกเธอว่านภามีแค่คนในครอบครัวเพื่อนสนิทเท่านั้น “เริ่มแรกนายกับฉันควรทำความคุ้นชินกันก่อน” เหนือนภาพูดขึ้นทันทีเพราะเธอเองก็สนใจเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น้อย สนใจในที่นี้ไม่ได้คิดอย่างอื่นนอกจากคำว่าเจ้านายกับเด็กฝึกงาน ที่บอกว่าสนใจเพราะพระเพลิงเก่ง มีความสามารถ อีกทั้งหน้าตายังน่าเอ็นดูมากๆเสียด้วย “ยังไงหรอครับคุณนภา” พระเพลิงถามขึ้นพร้อมมองเหนือนภาตาแป๋วเพราะคำว่าทำความคุ้นชิน พระเพลิงไม่เข้าใจเลยจริงๆ “เราสองคนต้องทำงานด้วยกันอีกสักพักเพราะฉะนั้นแล้วฉันเองก็ไม่อยากให้นายมีท่าทีอึดอัดกับฉัน” “ขอโทษครับ เพลิงเห็นว่าคุณนภาเป็นเจ้าของบริษัทเลยไม่กล้าทำอะไรหรือพูดอะไรเยอะ” พระเพลิงตอบกลับไปตามตรงเพราะไม่ว่าจะทำอะไรพระเพลิงก็ต้องวางตัวให้เหมาะสมเพราะกลัวว่ามันจะไม่ดีจนไม่ถูกใจคุณเหนือนภา “อยู่กับฉัน นายสามารถแสดงออกได้เต็มที่ เป็นตัวเองได้ตลอดและสามารถพูดเยอะๆได้” “เพลิงว่ามันคงไม่ดี” “ฉันชอบเด็กดีนะพระเพลิงเพราะฉะนั้นแล้วหากฉันบอกอะไรนายก็ควรจะทำตามนะ” ❤️ เด็กดี ~~
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD