ตอนที่ 9 จุดจบสายเปย์

2287 Words
ณิชายืนตัวแข็งค้าง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาเรียกให้เธอไปขึ้นเตียง แล้วเขาก็เดินขึ้นไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนนั้น ใช้มือข้างหนึ่งตบลงบนที่นอนด้านข้างตัว และใช้สายตากดดันให้เธอขึ้นไปหาเขาซะดีๆ ตอนนี้ เธอไม่มีข้ออ้างอะไรแล้วที่จะไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง สาวน้อยที่ทั้งหวาดกลัวและประหม่า สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ พยายามทำใจกล้าเดินนวยนาดขึ้นไปหาเขาบนเตียงกว้าง ทั้งๆที่แต่ละย่างก้าวที่เดินไปนั้น ขาเธอสั่นจนแทบจะล้ม “นอนลงตรงนี้สิ ณิชา” เธอทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี และทันทีที่เธอนอนลงบนที่นอนฝั่งของตัวเอง คนตัวโตก็ตามขึ้นมาทาบทับบนกายที่สั่นน้อยๆของเธอในทันทีเช่นกัน เขาใช้มือลูบไล้ตั้งแต่แก้มเนียนแล้วลากไล้ไปจนทั่วกายงาม มือใหญ่ยุ่มย่ามถอดชุดนอนของเธอออกทิ้งกองกับพื้น ตามด้วยเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีหวานของเธอ “ต่อไปนี้ ไม่ต้องใส่เสื้อในนะ ฉันขี้เกียจถอด” “ขะ ค่ะ” มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ ก่อนค่อยๆรูดกางเกงชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วออกไปทิ้งกองลงข้างเตียง ดวงตาคมกริบกวาดมองร่างงามขาวโพลนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วอมยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ เรือนร่างสวยงามของวัยสาวทำเอาเขาใจเต้นกระหน่ำรัวราวกลองสะบัดชัย “สวย..” คนตัวโตพึมพำเสียงเบา ก่อนก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอ หญิงสาวหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสที่แสนวาบหวามของเขา แล้วเอียงใบหน้าเปิดเปลือยลำคอให้เขากระทำได้ตามต้องการ “อื้ออออ” “ชอบไหม ณิชา หื้มมม” “ชะ ชอบค่ะ อื้อ” “เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอชอบกว่านี้อีก” พูดจบก็ถอดเสื้อยืดสีขาวของตัวเองออกทิ้งลงกองกับพื้น เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อและซิกแพคแน่นทั้งตัว ไหนจะรอยสักที่ต้นแขนนั่นอีก เขาดูดีมีเสน่ห์มากจริงๆจนใจสาวสั่นไหวรุนแรง เขาจับมือน้อยของเธอมาลูบคลำซิกแพคของเขา เพราะเห็นแววตาอยากรู้อยากเห็นนั่นของเธอ มันมองที่ร่างกายหนั่นแน่นของเขาไม่หยุด พร้อมกันนั้น ก็ใช้มือร้อนผ่าวของเขาลูบไล้เคล้นคลึงหน้าอกอวบใหญ่ของเธออย่างแผ่วเบาเร้าอารมณ์ “อื้มมมม เด็กดี” แววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาจ้องมองสบตากับเธอเนิ่นนาน จนคนตัวบางสะเทิ้นอาย หลบสายตาเขาเป็นพัลวัน “มองตาฉัน ณิชา” เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขา แววตาสั่นระริกสับสนและตื่นกลัวราวลูกกวางน้อยกำลังจะถูกสิงโตตะครุบนั่น ยิ่งทำให้สัญชาตญาณนักล่าของเขาตื่นตัวอย่างเต็มที่ “คราวนี้ ฉันทำได้แล้วใช่ไหม” “ค่ะ” ทันทีที่เสียงหวานตอบรับ คนตัวโตก็โน้มใบหน้าลงไปประกบปากบดจูบด้วยความหิวกระหาย เธอเผยอปากตอบรับแล้วขยับปากตามเขาอย่างเก้ๆกังๆ แต่มันช่างร้อนแรงแบบไร้เดียงสาเหลือเกินสำหรับเขา เท่านี้อารมณ์หนุ่มก็ตื่นเพริดทุกอณูรูขุมขนแล้ว “แลบลิ้นออกมา” ลิ้นน้อยค่อยๆแลบออกมา เขาจึงใช้ลิ้นสากของเขาไล้เลียเรียวลิ้นนุ่มนิ่มสีชมพูของเธอ จากนั้นก็ดูดดึงไล้เลียลิ้นของเธออย่างเร่าร้อน ก่อนสอดแทรกลิ้นร้ายนั้นเข้าไปกวาดต้อนความหวานจากโพรงปากของเธอจนหมดสิ้น “อื้อ อื้มมม” เสียงครางหวานหูดังแว่วออกมาจากคนตัวบางใต้ร่าง เธอหลับตาพริ้ม ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปกับสัมผัสรัญจวนที่แสนช่ำชองของเขา มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบๆคลำๆอยู่ที่เนินเนื้ออวบอูมไร้เส้นขน ก่อนออกคำสั่งด้วยเสียงแหบพร่าปร่าแปร่ง “อ้าขาออกให้ฉันเห็นตัวตนของเธอชัดๆได้ไหม” สาวน้อยทำตามอย่างว่าง่าย เธอค่อยๆขยับขาที่สั่นระริกนั่นออกจากกันอย่างช้าๆ เขาใช้นิ้วใหญ่กรีดไร้ไปตามรอยแยกที่ปิดสนิทแน่น ก็ต้องยกยิ้มพึงพอใจ เมื่อกลีบกุหลาบของเธอมันขับน้ำหวานออกมาหลอกล่อภมรหนุ่มเสียจนหยาดเยิ้มไปหมด “โคตรเยิ้ม อื้มมมม ฉันชอบจัง” “อ๊ะ คุณปราณต์ อื้อ” สัมผัสแปลกใหม่ครั้งแรกในชีวิตสาว ทำเอาคนตัวบางเกร็งสะท้าน เสียวซ่านเสียจนขนอ่อนในกายลุกตั้งชูชัน ในขณะที่คนตัวโตกำลังจะถอดกางเกงของตนเองออก ก็รู้สึกมวนท้องแปลกๆ “ฉันว่าอาหารทะเลของเธอ ทำพิษฉันแล้วล่ะ” พูดจบก็ลุกพรวดพราดเข้าห้องน้ำไป ท่ามกลางความมึนงงของเธอ เขาหายเข้าห้องน้ำไปนานจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปเคาะประตูห้องน้ำเพื่อเช็คว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า “คุณปราณต์ เป็นอะไรไหมคะ” เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง เธอจึงรีบไปชงเกลือแร่มาให้เขาไว้จิบขวดหนึ่ง “ดื่มเกลือแร่ก่อนนะคะ” เขาผงกหัวขึ้นมาดื่มเกลือแร่ที่เธอชงมาให้อย่างว่าง่าย แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนหลับตาพริ้มอีกครั้ง ไม่นานก็ลุกพรวดพราดวิ่งเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง เป็นแบบนี้ไปทั้งคืนจนค่อนเช้าจึงยอมแพ้แก่สังขารยอมให้เธอและลูกน้องหิ้วปีกพาไปหาหมอได้ ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง มีร่างใหญ่นอนหลับด้วยใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดอยู่บนเตียงพยาบาลเตียงใหญ่ เมื่อตอนเช้ามืดที่มาถึงโรงพยาบาล หมอก็ซักอาการแล้วรีบให้น้ำเกลือเป็นการด่วนเพราะกลัวว่าเขาจะช็อกไปเสียก่อน จากนั้นไม่นาน อาการเขาก็ค่อยๆดีขึ้น ไม่ได้ถ่ายท้องอย่างรุนแรงเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงสาย คนเฝ้าไข้จึงเบาใจและยอมนอนหลับเอาแรงที่โซฟาข้างเตียงผู้ป่วย ร่างใหญ่ที่ได้น้ำเกลือและได้นอนหลับสนิทมาหลายชั่วโมง ค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น เขามองไปรอบๆห้องก็พบว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมานอนแน่นิ่งอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้ กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาก็อมยิ้มละมุน เมื่อคืนที่เขาอาการหนัก เธอคอยดูแลเขาตลอด ทั้งหายาให้กิน ทั้งคอยเช็ดตัวให้เขา และไม่ยอมนอนหลับเลยแม้แต่นาทีเดียว เป็นเขาเสียอีกที่เพลียจนหลับไปหลายรอบ เมื่อสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ ก็จะเจอเธอนั่งเฝ้าไข้เขาอยู่ทุกครั้ง จนเมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วก็ยังเหมือนเดิม เธอคอยเช็ดตัวลดอุณหภูมิให้เขาและนั่งเฝ้าเขาตลอดทั้งวัน บอกให้นอนก็ไม่ยอม และตอนนี้ก็คงจะไม่ไหวแล้วสินะ แม่คนดื้อ ถึงนอนหลับหมดสภาพขนาดนี้ เขายื่นมือหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียง แต่ด้วยความที่เขาไม่เหลือเรี่ยวแรง โทรศัพท์จึงหลุดมือร่วงลงกับพื้นเสียงดัง คนที่เพิ่งได้นอนหลับไปก็สะดุ้งสุดตัว รีบกุลีกุจอมาหาเขา “ตื่นแล้วหรอคะ คุณเป็นยังไงบ้าง” “เป็นห่วงฉันหรอ” “ห่วงสิคะ ฉันขอโทษนะคะ ทั้งๆที่รู้ว่าคนมีเงินอย่างคุณคงไม่เคยกินร้านข้างทางแบบนั้น แต่ฉันก็ยังดื้อจะพาคุณไปกิน คุณเลยท้องเสียรุนแรงขนาดนี้” “ถ้ารู้สึกผิดก็ดูแลฉันดีๆ และต่อไปก็อย่าดื้อกับฉันอีก ทำได้ไหม” “ได้ค่ะ” “อืม งั้นเธอไปนอนพักเถอะ หรือจะกลับคอนโดก่อนไหม จะให้โชคไปส่ง” “ไม่ค่ะ ฉันจะเฝ้าไข้คุณ” “ให้เฝ้าก็ได้ แต่ตอนนี้เธอต้องไปนอนพักที่โซฟาก่อน ดูสิ ใต้ตาดำคล้ำหมดแล้ว” “คุณจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่าคะ ฉันพาไปเอาไหม” “ปวดฉี่ พาฉันไปหน่อยแล้วกัน” “ค่ะ” เธอพยุงเขาเดินโดยให้เขาเอาแขนมาพาดบ่าเธอ ส่วนอีกมือหนึ่งของเขาก็ให้ลากราวน้ำเกลือตามไปด้วย เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำ เธอก็ยืนงงไม่รู้จะทำอะไรต่อดี เขาหันมามองเธอที่ไม่ยอมออกจากห้องน้ำไปไหน จึงจงใจแกล้งด้วยการถกกางเกงลงมาแล้วทำท่าจะควักเจ้าลูกชายตาเดียวออกมาต่อหน้าต่อตาเธอ เท่านั้นแหละ เธอจึงรีบวิ่งออกจากห้องน้ำมาอย่างรวดเร็ว “หึหึ เด็กน้อย” วันนั้นทั้งวันคนเฝ้าไข้ที่ยังรู้สึกผิดไม่หาย จึงดูแลคนป่วยอย่างดี เพราะคนตัวโตแสดงความสำออยเสียจนน่าหมั่นไส้ แต่จะให้ทำยังไงได้ ตัวต้นเหตุอย่างเธอที่ทำเขาแทบช็อกคาห้องน้ำจะไปกล้ามีปากมีเสียงอะไร ใจหนึ่งรู้สึกผิด แต่อีกใจหนึ่งก็แอบดีใจเหมือนกัน เพราะถ้าเมื่อคืนอาหารทะเลของเธอไม่ทำพิษกับร่างกายของเขาก่อน เจ้าลูกชายตาเดียวของเขาต้องเข้ามาพ่นพิษใส่น้องสาวของเธอแน่ เอาเข้าจริงๆเธอก็ยังทำใจไม่ค่อยได้อยู่ดี ขอยืดเวลาไปอีกนิดหน่อยก็ยังดี “วันนี้แม่บ้านมาทำความสะอาด ผมให้แม่บ้านจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นมาให้คุณณิชาแล้วครับ” โชคชัยยื่นกระเป๋าเดินทางแบรนด์หรูใบเล็กส่งให้พยาบาลจำเป็น ที่คืนนี้ยังต้องอยู่โยงเฝ้าไข้คนป่วยตัวโตที่แสนจะใจเสาะ “ขอบคุณมากค่ะ” “ไปอาบน้ำเถอะณิชา” “ค่ะ” เมื่อเธอหายเข้าห้องน้ำไป เจ้านายที่เห็นท่าทางอึกอักของลูกน้องมานานแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น “มีอะไรก็ว่ามาโชค อึกๆอักๆ” “ไม่กล้าพูดต่อหน้าคุณณิชาครับ” “เออ ทีหลังก็พูดๆไปเถอะ ต้องอยู่กับฉันอีกเป็นปี ให้รู้ๆอะไรไว้บ้างก็ดี” “ครับนาย คือกาสิโนของเราโดนไอ้พวกสวะป่วนอีกแล้วครับ” “คราวนี้พวกไหน ไอ้อนุชิตหรือเปล่า” “ใช่ครับ มันส่งคนมาเล่น แล้วโวยวายว่ากาสิโนเราโกง วันนี้มีแต่แขกผู้ใหญ่ระดับประเทศและนักท่องเที่ยววีไอพีทั้งนั้น ระส่ำระสายหมดเลยครับ” “แล้วเราแก้ไขสถานการณ์ยังไง” “ทำตามที่นายเคยสั่งเอาไว้ครับ อัญเชิญมันออกไปอย่างดีต่อหน้าแขก แล้วกระทืบมันหลังไมค์ แล้วก็ให้เครดิตและชิปปลอบขวัญแขกผู้ใหญ่ทุกท่านครับ” “อืม ดีมาก ท่าทางไอ้อนุชิตมันคงจะอยู่ร่วมโลกกับเราลำบากแล้วล่ะ” “นับวันมันเริ่มหนักข้อขึ้น และเปิดเผยตัวตนของมันเองมากขึ้นนะครับนาย แปลว่ามันไม่ได้กลัวเกรงเราเลย” “เพราะมันรู้ ว่าเราเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่มาเฟีย มันเลยพยายามจะบีบกาสิโนของเรา เพราะถ้าไม่มีเรา กาสิโนของมันก็จะเป็นอันดับหนึ่ง” “อีกเรื่องหนึ่งครับ คนของเรารายงานว่า ไอ้ภัทรมันเข้าไปป้วนเปี้ยนในกาสิโนของไอ้อนุชิตที่ประเทศเพื่อนบ้านครับ” “นี่มันยังไม่เลิกเล่นอีกหรอ” “ยังครับนาย “ “มันรอดตายไปครั้งหนึ่งแล้ว จะหาเรื่องตายอีกทำไม ไอ้อนุชิตมันฆ่าจริงตายจริง ไม่ได้แค่ขู่เหมือนเรา” “นั่นสิครับนาย เอาไงดีครับ ให้คุณณิชาโทรไปเตือนมันดีไหมครับ” “ณิชายังติดต่อพี่ตัวเองไม่ได้เลย งั้นพวกนายไปทำไงก็ได้ ให้มันรู้ว่าณิชาอยู่กับฉัน เป็นผู้หญิงของฉัน และมันกับฉันไม่มีหนี้ติดค้างกันแล้ว มันจะได้กลับมาทำมาหากิน แต่ถ้ามันยังหลงมัวเมา เล่นไม่ลืมหูลืมตา ก่อหนี้ขึ้นมาอีก ฉันจะไม่ให้ณิชาช่วยเหลือมันสักบาท” “ครับนาย” “อ้อ แล้วเรื่องที่ฉันเข้าโรงพยาบาล ไม่ได้บอกให้ที่บ้านรู้ใช่ไหม” “ไม่ได้บอกครับ ผมกลัวคุณญาดามาเจอคุณณิชา เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่” “อืม ดีแล้ว เรื่องนี้จะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้เด็ดขาด พวกนายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ ทางนี้แค่ณิชาคนเดียวก็พอแล้ว ” “จะดีหรอครับ เมื่อคืนเธอไม่ได้นอน วันนี้ก็งีบไปเดี๋ยวเดียวเอง จะไหวหรอครับ อีกอย่างพวกผมต้องเฝ้าเธอไว้ด้วย ถ้าเธอหนีขึ้นมาล่ะครับนาย” “เอาน่า ฉันไม่ได้ให้เธอเฝ้าไข้อะไรขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวก็จะเอามานอนบนเตียงด้วยกันนี่แหละ แล้วเรื่องเฝ้าหน้าประตู ไม่ต้องแล้วล่ะ ณิชาไม่มีวันหนีฉันหรอก แต่ต่อให้หนี ยังไงก็ไม่มีทางหนีฉันพ้น” “ครับนาย ยังไงก็พักผ่อนบ้างนะครับ นายยังไม่หายดี อย่าเพิ่งหักโหมเลยครับ” “ไอ้เวร ฉันแค่ให้เธอขึ้นมานอนบนเตียงสบายๆ ไม่ได้จะหน้ามืดปล้ำเธอที่โรงพยาบาลซะหน่อย ไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นโว้ย” “ครับๆ งั้นพวกผมไปนะครับ” “อืม พรุ่งนี้ค่อยมารับ สายๆก็ได้ หมอคงให้ออกแล้วล่ะ เพราะวันจันทร์ณิชาต้องไปเรียนแล้ว” “ครับ นาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD