เด็กส่งผัก ผลไม้ปลอดสาร

2621 Words
ปรายลดา กดออดหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ หลังนี้แน่นอน ตามที่แม่ให้ที่อยู่มา ก่อนเข้ามาเธอก็โทรมาแล้ว บ้านอย่างกับวัง คงรวยน่าดู หญิงสาวขนสัมภาระมาเต็มรถ มีแต่ของฝากทั้งนั้น พ่อให้รถกะบะมาสด้าคันเล็กมาให้เธอใช้ เธอขอคันนี้มาเพราะคันเล็กดี ขับในเมืองใหญ่สะดวกหลายอย่าง ขับง่าย หาที่จอดง่าย พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ใช้มอเตอร์ไซค์ ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ใส่สินค้าที่เธอขายไปส่งไปรษณีย์ หรือติดรถไปเผื่อมีลูกค้าใกล้ๆ ถึงแม่ว่าบ้านเธอจะค่อนข้างมีเงิน แต่หญิงสาวชอบที่ขายของ เธอขายโน้น นี่ นั่น หลายอย่าง ทำให้เธอมีเงินเก็บส่วนตัวพอสมควร เงินเดือนที่พ่อกับแม่ให้ก็อีกส่วน ใช้เงินที่หามาได้เองโคตรภูมิใจ บางทีเธอคิดว่า เรียนจบถ้ายังไม่มีงานทำ เธอก็จะยึดอาชีพนี้ไปเรื่อย ๆ "สวัสดีค่ะลุง หนูปรายลดาค่ะ ที่โทรถามทางเมื่อกี้ค่ะ" หญิงสาวยกมือไหว้ชายสูงวัย ลุงน่าจะเป็นพ่อบ้าน แต่เอาจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะเจอใครก็ตามก็ยกมือไหว้ตลอด ไหว้สวยด้วย "สวัสดีครับคุณปรายลดา เชิญครับ ๆ คุณผู้หญิงรออยู่ข้างในครับ โอ้โห...ผลไม้เต็มรถเลย" ขอบคุณมากค่ะลุง ปรายขับเข้าไปเลยนะคะ" หญิงสาวขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ยิ่งเข้ามาใกล้ยิ่งใหญ่โต ไม่น่าเชื่อว่าอาศัยอยู่กันแค่ 3 คน วันนี้วันเสาร์ น่าจะอยู่กันครบ ผู้หญิงสูงอายุ รูปร่างสมส่วน หน้าตาสวยเหมือนคนในเมือง ท่าทางใจดี น่าจะเป็นป้าดุจเดือน และผู้หญิงสาวอีกคนที่เดินมาพร้อมกัน น่าจะเป็นกานดาราลูกสาวคนเล็กของบ้านหลังนี้ กานดาราน่าจะอายุใกล้ๆ กันกับเธอหน้าตายิ้มแย้ม ดูเธอตื่นเต้นที่เห็นหญิงสาวขับรถคันนี้มา "สวัสดีค่ะคุณป้าดุจเดือน "หญิงสาวยกมือไหว้ผู้สูงอายุ และเลยไปยิ้มให้กานดารา "สวัสดีจ๊ะหนูปรายลดา แหมชื่อก็เพราะหน้าตาก็สวยงามเหมือนแม่เลย ยินดีต้อนรับนะลูก นี่กานดาราลูกสาวคนเล็กของป้าจ๊ะ น่าจะรุ่นเดียวกันนะ ขนอะไรมาเยอะแยกเลยลูก แล้วนี้มาคนเดียวหรือ ผัก ผลไม้เต็มรถเลย แล้วเสื้อผ้าของใช้ล่ะจ๊ะ ป้าไม่เห็นเลย "นางดุจเดือนสงสัย "คือปรายเพิ่งมาจากไร่ค่ะ ยังไม่ได้แวะหอพัก ตรงมาที่นี่เลย ปรายจะเอาผัก กับผลไม้มาให้คุณป้าก่อนค่ะ ทางผ่านที่จะไปห่อเก่าปรายพอดี" หญิงสาวบอกกับนางดุจเดือน "โห....นี่ปรายขับรถมาเองเลยเหรอ เห็นแม่บอกว่าปรายอยู่นครนายกใช่ไหม" กานดาราถาม เธอรู้สึกทึ่งกับปรายลดามาก ๆ เธอยังไม่เคยได้ขับรถออกนอกบ้านเลย เพราะพี่ชายเธอไม่เคยอนุญาตเลยสักครั้ง เธอขอจนเลิกขอแล้ว "ใช่ๆ ปรายขอรถพ่อมาใช้ เพราะพี่ปรานต้องเอารถไปใช้ที่ใต้ คันนี้เล็กสะดวกดี" หญิงสาวตอบกานดารา เห็นท่าทางตื่นเต้นของคนตรงหน้าแล้ว ก็รู้สึกถึงสภาวะบางอย่างในบ้านหลังนี้ เด็กสาวคนนี้เก่ง และคล่องแคล่วมาก ดูไม่กลัวใครแต่ไม่ก้าวร้าว ลักษณะดีฉลาดทีเดียว คนแบบนี้ไม่ยอมใครง่าย ๆ แน่ ถ้าไม่มีเหตุผลพอ ดูเป็นคนไม่เรื่องมาก นางคิดว่ามองคนไม่ผิด เพราะเพื่อนของนางก็นิสัยแบบนี้ น่าจะถอดแบบแม่ กับพ่อมาเลยทีเดียว "เอาล่ะ ไปคุยกันในบ้านดีกว่า ลุงสรรกับนวล ช่วยขนของเข้าบ้านทีนะ" "เดี๋ยวปรายช่วยค่ะ แป๊ปเดียว ปรายจะได้ขยับรถด้วย มาค่ะลุงเดี๋ยวปรายส่งให้นะคะ" หญิงสาวก็ปีนขึ้นไปบนรถ พันแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอก หยิบจับส่งผักผลไม้ต่อให้ลุงสรร และป้านวล ด้วยความคล่องแคล่วจนหมด "เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปค่ะปรายช่วยขนเข้าข้างใน คุณป้ากับกานดาราไปก่อนเลยนะคะ แป๊ปเดียวค่ะ" หญิงสาวหันไปบอกนางดุจเดือนและกานดารา "แม่คะ ดูปรายเขาแข็งแรงดีจังเลยนะคะ ไม่เกี่ยงงานด้วย ลุยดีจังค่ะ กานว่ากานได้เพื่อนที่ต้องคุยกันถูกคอมากแน่ๆ เลยค่ะแม่ กานรู้สึกถูกชะตากับปรายจัง" กานดาราพูดและยิ้มให้มารดาอย่างอารมณ์ดี ภาพตั้งแต่หญิงสาวมากดออดที่หน้าประตูบ้าน ไม่รอดพ้นสายตาของตะวันลูกชายคนโตของบ้านหลังนี้ เขายืนมองผ่านกล้องบนห้องของเขา เด็กสาวท่าทางคล่องแคล่ว ขับรถกระบะมาสด้าคันเล็ก หรือที่เขาเรียกกันว่ารุ่นตีนช้างหรือตีนโตเข้ามาในบ้านเขา ช่วยลำเลียงผักผลไม้บนรถ ส่งให้พ่อบ้านแม่บ้านของเขา ผู้หญิงคนนี้รูปร่างดีทีเดียว ใส่เสื้อยีนต์แขนยาว กางเกงยีนต์ขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ผมยาวนั่นหยิกหยักศก ปล่อยตามธรรมชาติ จมูกโด่ง ตาโต หน้าตาไม่ได้ขี้เหร่เลย ช่างเถอะ ทำไมเขาจะต้องไปพิจารณาเด็กนั่นด้วย ยังไงก็ต้องระวังเอาไว้ก่อน เขาไม่อยากจะเสวนาด้วยสักหน่อย แค่ให้มาพักที่บ้านก็ดีแล้ว สำหรับคนแปลกหน้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแบบนี้ ก็ถือว่าเสี่ยงมากๆ เขาไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆ หรอก เห็นแค่หน้าตา ยังวัดอะไรไม่ได้ "มาๆ หนูปราย มานั่งก่อนลูกพักให้หายเหนื่อย ดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อน" นางดุจเดือนเรียกหญิงสาวให้มานั่ง เพราะเธอเห็นว่าเด็กสาวช่วย ลุงสรรกับป้านวลขนของ ไปไว้ในครัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว "หนูกานลูก ไปตามพี่ตะวันมาที บอกว่าแม่เรียก" "ได้ค่ะแม่ รอสักครู่นะคะ" กานดารารีบขึ้นไปตามพี่ชายบนชั้นสองของบ้าน "ขอบคุณนะคะคุณป้า เย็นชื่นใจจังเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าปรายจะเหนื่อยนะคะ อยู่ที่สวนปรายทำประจำเกือบทุกอาทิตย์ที่กลับบ้านเลยล่ะค่ะ" หญิงสาวรวบผมที่ปล่อยยาวสยายขึ้นแล้วใช้ปากกาเหน็บไว้ไม่ให้หลุด เพราะเหงื่อเธอออกมากตอนที่ขนของเข้าบ้าน "ผักและผลไม้นี่ เป็นของที่สวนทั้งหมดเลยนะคะคุณป้า จริงๆแม่พยายามให้พ่อใส่มาอีกค่ะ แต่รถมันคันเล็กไป ที่ไร่ทำเกษตรอินทรีย์ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีสารเคมีเลย ทานได้แบบปลอดภัย สบายใจเลยค่ะ" "ดีจังเลยแบบนี้ปลอดภัยสำหรับคนกิน แล้วพ่อกับแม่สบายดีไหมลูก หลายปีแล้วที่ป้าไม่ได้เจอทั้งสองคน นางดุจเดือนถามข่าวคราวเพื่อนเก่า เห็นว่าแม่เข้ามาอยู่ในเมืองใช่ไหมลูก" "พ่อกับแม่สบายดีค่ะคุณป้า พ่อก็ออกสวนทุกวัน ส่วนแม่อยู่ประจำที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างในเมืองค่ะ นี่เห็นว่าจะทำร้านกาแฟอีก แม่กับพ่ออยู่นิ่งไม่เป็นเลย แต่ปรายว่าดีค่ะ ท่านทั้งสองแข็งแรงดี และก็ไม่ค่อยมีเวลามาดูปรายด้วย ปรายชอบค่ะ" หญิงสาวพูดเพลินไม่รู้ว่าลูกชายเจ้าของบ้านมายืนอยู่ข้างหลัง จนเขากระแอมเสียงดัง "อ้าวนั่นตะวันมาแล้ว หนูปรายนี่พี่ตะวัน ลูกชายคนโตของป้า พี่ชายยายกานจ๊ะน่าจะเป็นพี่หลายปี ตะวันเขา 30 ปีนี้ หนูปรายก็น่าจะรุ่นเดียวกับยายกาน" "ตะวันนี่หนูปรายลดา ที่แม่เล่าให้ฟังไงลูก" ปรายลดายกลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้เขา ทำไมหน้านิ่งได้ขนาดนั้น รับไหว้ก็เหมือนไม่เต็มใจ หญิงสาวรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ป้าดุจเดือนก็ดูเกรงๆลูกชาย ยิ่งกานดารายิ่งไปกันใหญ่ พอพี่ชายมา ก็นั่งเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงเลย เมื่อกี้ยังพูดคุยหัวเราะกับเธอดีๆ อยู่เลย บรรยากาศไม่ดีเลย เขาเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ ตัวเขาสูงมาก แต่ก็ไม่น่าสูงกว่าเธอมากนัก หน้าตาก็งั้นๆ หน้าไม่ยิ้ม และคงไม่เคยมีรอยยิ้มให้ใครแน่ๆ สัญชาตญาณบอกเธอว่า เขาไม่อยากต้อนรับเธอเท่าไรนัก ทำไมปรายลดาจะไม่รู้ คนแบบนี้ดูง่ายจะตาย เขามองเธอผิดไปแล้ว ท่าที่นั่งก็น่าหมั่นไส้นัก เอาล่ะเธอตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไงกับตัวเอง ขอขัดคำสั่งพ่อกับแม่หน่อยเถอะ เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับผู้ชายตรงหน้านี้เลย พอไม่ถูกชะตาก็ไม่อยากเสวนาด้วย "คุณป้าคะ วันนี้ปรายมาส่งผักและผลไม้ให้แม่ ส่วนเรื่องที่จะมาพักที่นี่ ปรายขอเคลียร์ที่หอพักก่อนค่ะ ยังไม่ได้บอกเจ้าของหอเลย ไว้ปรายเคลียร์หอเสร็จแล้ว ปรายจะแจ้งมานะคะคุณป้า" หญิงสาวบอกกับคุณป้าดุจเดือน "วันนี้ปรายขอตัวกลับก่อนนะคะ บ่ายมากแล้ว ปรายจะไปส่งสินค้าที่ไปรษณีย์ด้วยค่ะ" ปรายลดายกมือไหว้คุณดุจเดือน ไหว้ชายหนุ่ม ยิ้มให้กานดารา เธอรีบบอกว่ารีบกลับ และขยับตัวลุกขึ้นยืน โดยที่ไม่มองหน้าชายหนุ่มอีกเลย ผู้หญิงคนนี้ยิ่งมองใกล้ๆ น่ามอง ไม่สวยมาก แต่มองไม่เบื่อ ถึงแม้จะแต่งตัวแบบนี้ เขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้รูปร่างดีทีเดียว แต่ท่าทางคงดื้อน่าดู น่าจะเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ ดูเอาเถอะพูดๆ แล้วก็ไม่สนใจเขาเลย ทั้งๆ ที่เธอก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็นใคร และสำคัญยังไงในบ้านหลังนี้ หางตาก็แทบไม่มองเขาเลย ไม่มีมารยาท ลักษณะท่าทางคล่องแคล่ว ไม่เหมือนกับน้องสาวเขาเลย กานดาราเหมือนลูกแหง่ เหมือนเด็กทั้ง ๆที่อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับปรายลดา "อ้าว....เหรอจ๊ะ ป้าคิดว่าหนูปรายจะเข้ามาอยู่เลย ไม่เป็นไรลูกสะดวกวันไหนก็มาได้เลยนะ บ้านเรายินดีต้อนรับจ๊ะ ยายกานจะได้มีเพื่อน แหม...น่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนน"ะ นางดุจเดือน และกานดาราลุกขึ้นตามหญิงสาว เดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน ดูท่าว่าเด็กสาวจะไม่อยากอยู่ที่นี่นาน "ปราย..กานขอเบอร์โทรหน่อยได้ไหม เผื่อปรายจะมาวันไหน โทรบอกกานก็ได้นะ นี่เบอร์กานจ๊ะ" การดารารู้สึกถูกชะตากับปรายลดามาก เธอมีลางสังหรณ์ว่าหญิงสาวคงไม่มาอยู่บ้านเธอแน่ๆ หลังจากที่เจอหน้าพี่ชายหน้านิ่งของเธอ เอาเถอะถึงไม่มาอยู่ อย่างน้อยได้โทรคุยกันก็ยังดี "ได้เลยจ๊ะ...นี่เลยเบอร์ปราย หญิงสาวยื่นโทรศัพท์ขึ้นเบอร์ตัวเองให้กับกานดารา มีอะไรก็โทรได้เลยนะ บางวันปรายไม่มีเรียน คุยได้จ๊ะ" "ปรายลานะคะคุณป้า หญิงสาวยกมือไหว้นางดุจเดือน และยิ้มให้กานดารา ไปนะกานมีโอกาสเจอกันใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไปแล้วนะคะ " หญิงสาวเดินไปขึ้นรถขับออกไป โดยมีลุงสรรคอยเปิดประตูให้ ฝันไปเถอะฉันไม่มาอยู่หรอก ผู้ชายอะไร เห็นหน้าฉันทำหน้าอย่างกับฉันเป็นขโมย ขอขัดใจพ่อกับแม่หน่อยเถอะ อาทิตย์นี้เธอจะไม่กลับบ้าน ช่วงนี้พ่อกับแม่ยุ่งๆ คงไม่ทันได้ซักถามอะไรเกี่ยวกับหอพักหรอกน่า อันที่จริงหอเดิมเธอก็ปลอดภัย เพราะเป็นหอหญิง เสียแต่ว่าค่าเช่าแพงแค่นั้นแหละ แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัย ก็ถือว่าดีมาก ๆ สรุปฉันอยู่ที่เดิมสบายใจ ไม่ต้องไปเพิ่งพาใครให้เสียเวลา อีกปีเดียวเธอก็เรียนจบแล้ว ถึงเวลานั้นเธออาจหางานทำในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็กลับบ้านช่วยพ่อกับแม่ "แม่คะเสียดายจังเลยนะคะ ปรายน่าจะย้ายมาวันนี้พรุ่งนี้เลย แม่ว่าไหมคะ ปรายมาดูก่อนแน่เลย ว่าบ้านเราจะเป็นยังไง กานว่าปรายเป็นคนฉลาดมาก ไม่ง้อใคร และดูท่าไม่ยอมใครง่ายๆ แม่ว่าไหมคะ ปรายไม่มาอยู่บ้านเราแน่เลย แต่ปรายสวยมากเลยนะคะ เป็นตัวของตัวเองดี นี่ขนาดไม่แต่งตัวนะ ยังดูสวย คุณน้าแม่ของปรายคงสวยมากใช่ไหมคะแม่" "ใช่ลูก คุณน้าแม่ของหนูปรายสวยมาก พ่อเขาก็หน้าตาดี นิสัยดีมีน้ำใจกันทั้งคู่" นางเองก็เสียดาย เห็นลูกสาวนางมีความสุข นางก็ดีใจ กานดารา เหมือนกับถูกกักบริเวณ ลูกสาวนางไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท เช้าไปเรียน เย็นกลับบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวเหมือนเด็กสาวทั่วไป ดูแล้วปรายลดาสดใสมาก ถ้าเด็กสาวได้เข้ามาอยู่บ้านนาง ลูกสาวนางคงมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง สองแม่ลูกเดินกลับเข้าไปที่ห้องรับแขก ลูกชายคนโตของนางยังคงนั่งอยู่ที่เดิม "เด็กนั่นกลับไปแล้วเหรอครับแม่ แล้วเขาจะย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ครับ ไงยายกานเห็นคุยกันสนิทสนม เขาบอกไหมว่าจะย้ายเข้ามาเมื่อไร แม่คิดว่ายังไงครับ ดูท่าทางว่าเขาน่าจะมาอยู่บ้านเราไหม" "หนูปรายกลับไปแล้วลูก อย่างที่น้องบอกนั่นแหละ ขอไปเคลียร์หอพักก่อน เดี๋ยวจะบอกมาผ่านหนูกาน เขาให้เบอร์โทรกันไว้แล้ว" นางดุจเดีอนบอกกับลูกชาย ตามที่ปรายลดาบอกไว้ "เอาตามจริงนะ แม่ว่าน้องคงไม่มา คงอยู่ที่หอพักเดิมดูตาก็รู้ คนแบบนี้ดูไม่ยาก ก็ดีแล้วนี่ลูก ตะวันก็ไม่ได้อยากให้เขามาอยู่บ้านเราอยู่แล้ว เราก็สบายใจ น้องเขาก็สบายใจ เขาคงมีวิธีพูดกับพ่อกับแม่เขา แม่เชื่อว่าคุณน้าทั้งสองก็คงไม่ได้เข้มงวดอะไรกับลูกสาวหรอก เพราะอีกไม่นานหนูปรายก็จะจบแล้ว อีกอย่าง หนูปรายอยู่บ้านมากกว่าอยู่หอด้วยซ้ำนะ แม่ว่า ฟังที่น้องพูด เย็นวันศุกร์ก็ขับรถกลับบ้าน เช้าวันจันทร์ขับรถกลับมาเรียน แม่ว่าสะดวกดีออก" เขารู้ว่าปรายลดาเห็นท่าทางเขาแล้ว ทำให้เธอตัดสินใจได้ว่าจะมา หรือไม่มาเขาเพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลย ถึงจะอายุยังน้อย แต่เขารับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ สงสัยพ่อกับแม่เธอคงตามใจกันน่าดู ต่างกับน้องสาวเขามาก กานดารากลายเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง แม่เขาก็เกรงใจเขามาก เรื่องนี้เขาก็รู้ตัว แต่จะทำไงได้ เขามีน้องสาวคนเดียว เขารัก และเป็นห่วงน้องสารพัด ดูแล้วปรายลดา มีชีวิตที่แตกต่างกับน้องสาวเขามาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD