ตลอดเวลาที่เขาคนคนนั้นบรรยายสายตาของเขาก็มองมาที่เธอบ่อยจนเพื่อนร่วมชั้นต้องหันมามองตาม ทำเอาพราวฟ้าทำตัวไม่ถูก
“ทำไมอาจารย์เอาแต่มองแกอ่ะพราว มีอะไรหรือเปล่า”
“นั่นสิ” เธอก้มหน้าลงหลีกหนีสายตาของเขาหลายครั้ง ยิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งไม่เหมาะสม พลอยจะทำให้คนในชั้นเรียนนินทาได้ สำหรับเธอคงไม่เสียหายแต่เขาเป็นถึงอาจารย์
“วันนี้ผมไม่ได้มาสอนอะไรมากครับ กะจะมาแนะนำคอร์สเอ้าท์ไลน์ตลอดเทอมและก็การตัดเกรด รวมถึงแนะนำตัวเองกับนักศึกษาที่สนใจเลือกผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาทำโปรเจกต์จบครับ”
“อุ้ย! ฉันนี่แหละคนแรกที่จะเลือกอาจารย์คนนี้”
“เขาน่ากลัวนะ” พราวฟ้าพึมพำออกมาเบา ๆ ไม่คิดว่าคนเป็นเพื่อนจะได้ยิน
“น่ากลัว? หึ หน้าหล่อต่างหาก” ไข่มุกว่าเสียร่าเริง ซึ่งพราวฟ้าก็ไม่ได้ตอบอะไร เพื่อนของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ
“แกมีแฟนแล้ว ไม่ควรพูดแบบนี้นะ”
“หึ พีทไม่รู้หรอก” สาวร่าเริงอย่างไข่มุกแค่แซวคนนั้นคนนี้ว่าหล่อเฉย ๆ ไม่ได้คิดมาก แต่ถ้าคิดขึ้นมาจริง ๆ สาวเจ้าก็อยากเตือนว่าอาจารย์คนนี้น่ากลัวจริง ๆ ไม่มีคนดีที่ไหนข่มขืนคนอื่นหรอก
วันนี้มีเรียนแค่คลาสเช้าสามชั่วโมง พอจบคลาสพราวฟ้าก็เดินเลี่ยงผู้คนหาที่สงบ ๆ เพื่อใช้สมาธิในการจัดตารางเรียนของตัวเองสำหรับเทอมแรกของปีสี่ เพราะช่วงเย็นเธอต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ทำให้ไม่มีเวลาเหมือนกับคนอื่น ๆ เวลาอันน้อยนิดของเธอมีค่าทุกวินาที ทว่าเงาตะคุ่ม ๆ ทางด้านหลังนั้นทำให้เธอรีบหันหลังไปมองด้วยความรวดเร็ว
“คุณ! ไม่สิ...อาจารย์”
“ครับ ผมเอง” เขาฉีกยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกเพื่อให้บทสนทนานั้นไม่เสียงดังมากเกินไป
“ชื่ออะไรครับ”
“_”
“ถามในฐานะอาจารย์ก็ได้ครับ” เขาว่าอย่างมีชั้นเชิง ซึ่งมันไม่ดีแน่ แต่เธอก็จำยอมบอก
“พราวฟ้าค่ะ” เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา หญิงสาวขยับตัวถอยหลัง “อาจารย์ไม่ควรคุยกับฉันที่นี่นะคะ”
“ผมรู้ ผมเลยอยากชวนคุณไปที่อื่น”
“อึก อย่าคุกคามฉัน” ร่างบางถอยหนี เธอกลัวเขาไปแล้ว ทำเอาคนตัวโตรู้สึกผิด
“ผมไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นกับคุณอีก” เขายกมือขึ้นเหนือศีรษะทั้งสองข้างเหมือนกับกำลังมอบตัวกับตำรวจ “ผมรู้ว่ามันไม่เหมาะสมที่เราสองคนจะยืนคุยกันในสถานศึกษาผมเลยจะชวนคุณไปคุยที่อื่น คุยเรื่องของเรา”
“เรื่องของเรา?”
“ครับ ผมจะรับผิดชอบคุณทุกอย่าง คบกับคุณ แต่งงานกับคุณ มีลูกกับคุณ”
“ห้ะ!...บะ บ้าอะไรของคุณ” พราวฟ้าหันซ้ายแลขวาเกรงว่าจะมีคนได้ยิน
“ไม่เอาแบบนี้เหรอครับ งั้น...ไปสถานีตำรวจกับผมนะครับ”
“คะ?”
“ผมว่าเราไปที่อื่นดีกว่า คุณคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าคุณกับผมทำอะไรกันมา” พราวฟ้าอ้าปากพะงาบ ๆ พูดไม่ออก เธอกลัวเขาขณะเดียวกันก็กลัวว่าคนจะนินทาจนถึงหูพี่สาวต่างแม่
“อึก กะ ก็ได้ แต่คุณห้ามทำอะไรฉัน”
“ครับ ผมไม่ทำเลว ๆ แบบนั้นอีกแน่” เขาว่าน้ำเสียงแน่วแน่ ก่อนจะผายมือให้เธอเดินไปขึ้นรถของเขา พราวฟ้าลังเลแต่ก็กลัวว่าจะมีคนนินทาเลยรีบเปิดประตูขึ้นรถยี่ห้อหรูนี้ไป
“จะไปไหนคะ” พอเขาขึ้นรถฝั่งคนขับมา พราวฟ้าก็รีบยิงถามทันที ซึ่งชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับถือวิสาสะโน้มตัวลงมาดึงเข็มขัดนิรภัยให้กับเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารินรดต้นคอของเธอจนทำให้ขนลุกซู่ เช่นเดียวกับกลิ่นกายของเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาคิดถึงมาหลายวัน
ไม่เคยมีความรู้สึกคิดถึง โหยหาแบบนี้มาก่อน หนำซ้ำวันไหนหากเมามากจนไร้สติแค่ไหนเขาก็ไม่เคยไปข่มขืนใคร แต่พอเป็นเธอที่ตนอยากเข้าไปทำความรู้จักตั้งแต่แรก...มันกลับยับยั้งชั่งใจไม่ได้
“ทำไมไม่ตอบคะ! คุณคิดจะทำอะไรฉัน!!” พราวฟ้าตื่นกลัวมาก เธอเลื่อนมือไปเปิดประตูรถแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ และเขาก็ขับรถออกจากมหา’ ลัยด้วยความรวดเร็ว
“ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องครับ ไม่ต้องกังวลผมไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ เว้นแต่ว่า...”
“_”
“คุณต้องการ” พราวฟ้าตาโต เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน วันนั้นมันเจ็บมาก และเขาก็ได้สร้างตราบาปไว้ในใจของเธอจนรู้สึกขยาดและไม่อยากทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
รถยนต์คันหรูแล่นมาถึงสถานีตำรวจใจกลางกรุง พราวฟ้าไม่เข้าใจว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไม ซึ่งกฤตยนัยก็ไม่ให้คำตอบเธอเสียที เขาลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมตัวรถไปเปิดประตูให้เธอ
แกร็ก~
“เชิญครับ”
“มาที่นี่ทำไมคะ คุณมาสถานีตำรวจทำไม” เธอหวาดระแวงไปเสียหมด ซึ่งท่าทีของเธอก็ยิ่งทำให้เขาเอ็นดู
“มาแจ้งความครับ คุณต้องแจ้งความจับผมข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา”
“ห๊า...”
“ผมไม่ต่างจากอาชญากรที่ทำร้ายคุณ ทั้งร่างกาย จิตใจ” เขาว่าด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มไม่กลัวเลยว่าจะต้องติดคุกจนหมดอนาคต เพราะสิ่งที่ทำมันผิด...เขาต้องก้มหน้ายอมรับสิ่งที่ตนทำไปอย่างไร้ข้อกังขา