หลังจากคืนนั้น มันเหมือนกับมีกลิ่นของเธอติดกายตามเขามา
โหยหา คิดถึง
ถึงขั้น
คลุ้มคลั่ง
บทที่ 1
แรกพบ
ความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบกับผิวกาย ไรขนอ่อนลุกซู่จนผิวขาวของพราวฟ้าขึ้นตุ่มเล็ก ๆ เธอยกมือขึ้นลูบเบา ๆ หวังให้คลายหนาวขึ้นบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยมากนักด้วยชุดเกาะอกสีแดงเจ้ากรรมตัวนี้
ร่างบางในชุดเดรสยาวเกาะอกสีแดง บนต้นคอระหงประดับด้วยเครื่องประดับเพชรหรู พราวฟ้าสวยโดดเด่นสะดุดตาภายในงานเลี้ยงเกษียณอายุของอาจารย์มหา’ ลัยท่านหนึ่งที่เธอก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว งานเลี้ยงนี้ไม่ใช่งานเชิดหน้าชูคอของเธอ แต่เป็นงานประจานตัวเธอเสียมากกว่า
เสียบซุบซิบดังอย่างเนือง ๆ เกี่ยวกับเธอ พราวฟ้าเป็นลูกเมียน้อยตามที่เขาซุบซิบกันไม่ผิดเพี้ยน มารดาของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้บิดาอย่างนายแพทย์เดชาธร วรโชติธนันรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับภรรยาหลวงอย่างคุณพิมลดา วรโชติธนัน วันนั้นจึงเหมือนกับวันที่เธอได้ก้าวเข้าสู่ขุมนรกในวัยสิบสองขวบ เธอมีพี่สาวต่างแม่อย่างพิชญา วรโชติธนัน
นามสกุลของพ่อ เธอก็ไม่ได้ใช้
ร่างบางยืนหลบเสาโรมันภายในโถงประชุมขนาดใหญ่ เธอรับหน้าที่ออกงานสังคมแทนสองแม่ลูกเพราะอีกฝ่ายต้องการประจานเธอ ให้ใครต่างนินทาว่ากล่าวว่าเธอไม่เจียมตัวอยากชูหน้าชูตาในสังคมทั้ง ๆ ที่เป็นลูกเมียน้อย
ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาพราวฟ้าก็มองแค่ปลายเท้าของตัวเองไม่ได้สบตากับใครเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวอับอายจนอยากจะหนีไปจากโลกใบนี้ แต่ถ้าทำอย่างนั้น...ความเจ็บปวดจากการถูกตบตีคงมาเยือนอีกเป็นแน่
ซึ่งท่าทีหลบหลีกผู้คนและความสวยโดดเด่นของเธอก็ไม่พ้นสายตาของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กฤตยนัย (กิด-ตะ-นัย) วิโรจนพิมุกข์ สายตาคมนั้นมองเธอไม่ละสายตาเลยสักวินาทีเดียว จนคนเป็นเพื่อนที่กำลังสาธยายสัพเพเหระอยู่นั้นจำเป็นต้องมองตาม
“มองไรวะจารย์กฤตย” (อ่านว่ากิต) ร่างหนาสะดุ้งเล็กน้อย เขาส่ายหน้าเบา ๆ ราวจะบอกกับคนเป็นเพื่อนว่าไม่ได้มอง ทว่าก็ไม่ได้ละสายตาหนี
“หึ ปฏิเสธหน้าด้าน ๆ เลยนะครับจารย์ เข้าไปทำความรู้จักดิวะ” พชร (พะ-ชะ-ระ) ผลักไหล่คนเป็นเพื่อนให้เข้าไปทำความรู้จักกับสาวสวยคนนั้น
“มึงรู้จักเหรอวะ”
“ไม่อ่ะ” พชรส่ายหน้าเบา ๆ เขาเพิ่งยอมออกงานสังคมแทนพ่อแม่ก็วันนี้ ขณะที่จารย์กฤตยที่เพื่อนเรียกนั้นไม่ใช่คำพูดหยอกล้อแบบชายแท้ แต่กฤตยนัยเป็นอาจารย์มหา’ลัยจริง ๆ
“อ้าว! มึงไม่รู้เหรอ ถ้าไม่รู้จักกูก็ไม่กล้าไปหรอก” เขาว่าพร้อมกับส่ายหน้า ทำเอาพชรเอือมระอากับความขี้อายของคนเป็นเพื่อน
“มึงจะไรนักหนาวะ จะให้แต่ผู้หญิงเข้าหาอย่างเดียว ถ้ารออย่างนี้เมื่อไรจะได้เจอคนถูกใจ ตอนนี้เจอคนถูกใจแล้วมึงก็รุกเลยดิ”
“ไม่ละ กูไม่กล้าหรอก เธอดูยังเด็กอยู่ด้วย” เขายอมละสายตาในที่สุด กฤตยนัยหันกลับมาสบตากับเพื่อนก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มให้เขา
“เอานี่ มึงดื่มหน่อย ปลุกใจว่ะ”
“ไม่เอา มึงก็รู้ว่ากูเมาแล้วเป็นยังไง” เขาส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็ถูกคนเป็นเพื่อนยัดแก้วไวน์ใส่มือ
“ดื่ม ๆ ไปเดี๋ยวกูไปส่ง ไม่มีสอนไม่ใช่เหรอพรุ่งนี้” กฤตยนัยเอือมระอาความเซ้าซี้ของคนเป็นเพื่อน เขายอมยกแก้วดื่มในที่สุด
“แล้วเป็นไงวะ ลมไรหอบมึงมาออกงานสังคมแบบนี้”
“อยากเจอมึงไงเพื่อน หึ กูรู้ว่ามึงมันขี้อายไม่อยากมางานเกษียณอาจารย์ตัวเองคนเดียว เห็นมึงมากูเลยยอมมาแทนพ่อแม่แค่นั้น”
“พูดจริงหรือเอาใจกูวะ”
“พูดจริงดิ กูมาขนาดนี้แล้วมึงยังยกไวน์ดื่มแค่อึกเดียวเหรอกวะ ดื่มอีก ๆ” กฤตยนัยส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มหลายอึกโดยไม่รู้ว่าเพื่อนพยายามมอมเหล้าตนมากแค่ไหน
“อึก กูว่ากู...อึก เมาแล้วว่ะ ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะร่วนออกมาเมื่อยืนดื่มไวน์จนใบหน้าแดงก่ำ
“เมาแล้วก็...อ้าว! ไปไหนซะแล้ว” พชรมองไม่เห็นสาวน้อยคนก่อนหน้านี้เสียแล้ว เขาคิดอยากให้คนเป็นเพื่อนเข้าไปทักทายสักหน่อย แต่ก็ไม่ทันเสียเธอเดินหายไปแล้ว
“เฮ้อ...พลาดแล้วว่ะ มึงแก่จะขึ้นคานแล้ว เหลือแค่มึงนี่แหละที่ยังไม่มีเมีย” พชรบ่นอุบอิบราวกับเป็นผู้หญิงขี้บ่น ก่อนจะเข้าไปพยุงแขนของคนเป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเซเหมือนจะล้มอยู่รอมร่อ
“อึก มึงงง~ เอากูไปนอนที อึก กูเวียนหัว”
“หมดกันอาจารย์ที่ใคร ๆ ก็ยกมือไหว้” พชรหิ้วแขนเพื่อนหวังจะไปส่งที่บ้าน ทว่ากลับถูกสายตาของภรรยาสาวที่ตวัดหันมามอง
“ไปไหนคะพี่พัช”
“เอ่อ ไปส่งไอ้กฤตยน่ะ”
“หืม ไกลจะตายชัก ให้อาจารย์นอนที่โรงแรมด้านบนก็ได้นี่ กว่าพี่จะไปถึงบ้านอาจารย์กว่าจะกลับมาที่นี่อีก ฉันรอเฉาตายพอดี” โรสรินบ่นสามีหนุ่ม ทำเอาคนกลัวเมียเถียงไม่ออกสักคำ ซึ่งกฤตยนัยก็ได้ยินทุกคำเช่นกัน
“อึก เดี๋ยวกูนอนโรงแรมก็ได้” เขาว่าน้ำเสียงงัวเงีย ซึ่งพชรไม่อยากมีปากเสียงกับภรรยาสาวจึงยอมหิ้วปีกของคนเป็นเพื่อนขึ้นไปนอนที่โรงแรม ซึ่งสถานที่จัดงานเลี้ยงก็เป็นโรงแรมที่มีห้องโถงสำหรับให้เช่าจัดงานเลี้ยง
...พชรพยุงคนเป็นเพื่อนขึ้นมาชั้นบนสำหรับห้องพัก ชายหนุ่มชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปหาพนักงานทำความสะอาดที่กำลังเดินมาทางนี้
“เอ่อ มางานเลี้ยงชั้นล่างพักห้องไหนได้บ้างครับ”
“งานเลี้ยงเกษียณใช่ไหมคะ พักได้ทุกห้องเลยค่ะ ชั้นนี้เท่านั้นนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการขอบคุณ ก่อนจะพยุงร่างของคนเป็นเพื่อนเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่ไม่ได้ล็อกประตู
พรึ่บ!
“นอนนี่นะโว้ย! มีอะไรก็โทรมาก็แล้วกัน ไม่อยากจะเชื่อว่าอาจารย์อย่างมึงจะเมาง่ายขนาดนี้ พระเจ้าไม่ได้เข้าข้างมึงทุกอย่างอย่างที่คิดเลยว่ะ” พชรยืนค้ำเอวบ่นรำพึงคนเดียว พระเจ้าไม่ได้เข้าข้างเพื่อนของเขาไปเสียหมดทุกอย่าง ใบหน้าหล่อเหลา สมองอันชาญฉลาดของเพื่อนนั้นไม่ได้ดีเสมอไป เจ้านี่ยังเมาง่ายและยังขี้อายมากอีกด้วย ไม่เชิงว่าอายมากจนทำอะไรไม่ได้ แต่ว่ากฤตยนัยเพียงแค่มีความสุภาพบุรุษจนไม่กล้าจีบสาว แฟนสาวหลายคนที่ผ่านก็มีแต่ฝ่ายหญิงเข้าหา ซึ่งไม่นานก็เลิกรากันไปคนแล้วคนเล่า
...พชรบ่นเสร็จก็เดินออกจากห้องพร้อมกับล็อกประตู โดยไม่รู้ว่าภายในห้องนี้มีแขกอยู่แล้ว