“พี่บรูซน่ะทุกทีเลย ทำไมคะ ความคิดถึงของซันนี่มันไม่หวานหรือไง ถึงไม่ชอบ”
คนฟังหลุดหัวเราะออกมา พลางเงยหน้ามองคนตัดพ้อด้วยความขบขัน ในขณะที่เจ้าหล่อนทำหน้างอใส่
“เธอยังเด็ก ความคิดถึงของเด็กสาว มันไม่หอม ไม่หวานเหมือนสาวเต็มตัวหรอกรู้ไหม”
ทานตะวันหรี่ตาจ้องมองเขา ขณะเดินเข้าใกล้เรื่อยๆ จนสามารถเข้ามาหยุดในระหว่างต้นขาทั้งสองข้างของบรูซได้ หล่อนอยากให้เขายกสองมือหนาที่วางอยู่บนที่นอนข้างกายขึ้นมากุมที่เนินสะโพกนัก แต่เขาก็ไม่ยอมทำ
“แล้วสาวเต็มตัว... ต้องเป็นยังไงเหรอคะ”
“ไม่รู้สิ ความรู้สึกของพี่จะบอกเอง”
“พี่บรูซขี้โกงน่ะ แบบนี้แสดงว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับซันนี่ใช่ไหมคะ คนไม่รักษาสัญญา ไหนบอกว่าจะไม่ทิ้งซันนี่ไง”
คนโวยวายเริ่มเป่าปี่เป่าโป่ง บรูซส่ายหน้าอมยิ้ม “พี่ทิ้งเธอเมื่อไหร่กัน พี่ก็ยังอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าของเธอนี่ไง”
“แต่พี่บรูซ ไม่ได้รักซันนี่แบบที่ผู้ชายรักผู้หญิงนี่ พี่บรูซใจร้าย”
สองมือของบรูซที่เคยวางนิ่งอยู่ข้างกายยกขึ้นและดึงสะโพกกลมกลึงให้เข้าไปแนบชิดแผงอกของตนเอง ทานตะวันตกใจ แต่ก็ไม่ขัดขืน เพราะฝันให้เขาทำแบบนี้มาตลอด
“เด็กแบบเธอรู้หรือไงว่าความรักแบบหนุ่มสาวเป็นยังไง”
คนถูกถามไม่ตอบ เพราะคิดไม่ทัน นั่นทำให้บรูซแค่นยิ้มออกมา และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มกระด้าง
“เห็นไหมว่าเธอไม่รู้...”
“ทำไมซันนี่จะไม่รู้คะ ก็แบบ... แบบ...”
บรูซช้อนตาขึ้นมองคนพูด จ้องเขม็งรอฟังคำตอบ
“แบบไหน”
“แบบ... แบบที่ซันนี่รักพี่บรูซยังไงล่ะคะ”
เขาไม่ยิ้ม ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาเลย แถมสายตาคมกริบก็ยังดูเหี้ยมเกรียมขึ้นมาอย่างน่าตกใจ
“นั่นไง เธอไม่รู้... เธอไม่รู้อะไรเลย ซันนี่”
“ว๊าย...”
เด็กสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างของตัวเองก็ถูกหมุนและจับกดให้แนบนาบไปกับเตียงนอนใหญ่ โดยมีเขา... บรูซ คาร์ตันผู้ชายที่ตัวใหญ่โตทาบทับลงมาหา สัมผัสอันตรายแบบนี้หล่อนไม่เคยได้จากบรูซมาก่อน และเมื่อเกิดขึ้นจึงกลัวจนตัวสั่น หน้าซีดเผือด
“พี่บรูซ... จะทำอะไรคะ”
“ก็จะทำแบบที่หนุ่มสาวเขาทำกันยังไงล่ะ”
“พี่บรูซ...”
ดวงหน้างามขาวซีดสลับแดงก่ำเมื่อความแนบชิดชนิดที่เรียกได้ว่าแนบสนิทไปซะทุกส่วนเกิดขึ้น หล่อนไม่ได้รังเกียจบรูซ คาร์ตัน ตรงกันข้ามกลับดีใจเป็นที่สุด แต่กระนั้นก็อดที่จะตื่นตระหนกกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉียบพลันของคนตัวโตไม่ได้
“อยากเป็นของพี่ใช่ไหม”
คนถูกถามเบิกตากว้าง ความขัดเขินอัดแน่นเต็มอก แม้จะหวาดกลัว แต่ถ้าเป็นบรูซ หล่อนเต็มใจ เพราะหล่อนรักเขา
“เอ่อ... ค่ะ...”
“แล้วถ้าท้องขึ้นมาล่ะ”
“ท้อง?”
“ใช่ ถ้าท้องขึ้นมา เธอแน่ใจนะว่าสามารถเป็นแม่ที่ดีของลูกได้”
หล่อนยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ยังไม่เคยคิด แต่... ไม่มีอะไรมาขวางความรักที่หล่อนมีต่อบรูซ คาร์ตันได้หรอก หล่อนรักเขา
“ซันนี่รักพี่บรูซค่ะ ซันนี่ทำได้ทุกอย่าง...”
เขาแค่นยิ้ม มองหล่อนด้วยสายตามืดลึก
“แล้วถ้าพี่... นอนกับเธอแล้วไม่รับผิดชอบล่ะ”
พวงแก้มสีแดงก่ำซีดขาวในทันทีกับคำถามที่ได้ยิน แต่หล่อนเชื่อใจบรูซ หล่อนรู้ดีว่าบรูซ คาร์ตันเป็นผู้ชายที่ดี
“ซันนี่... เชื่อใจพี่บรูซค่ะ”
“แต่พี่ไม่เชื่อใจตัวเอง”
“พี่บรูซ...”
“พี่จะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอยังไม่เปลี่ยนใจ พี่จะทำแบบผู้ชายที่กระทำกับผู้หญิงที่โตแล้ว”
คนฟังหลับตาลง และไม่ยอมเปลี่ยนใจ แม้ว่าจะหวาดกลัวเพียงใดก็ตาม
“หนึ่ง...”
ทานตะวันก็ยังหลับตาปี๋ไม่ปริปากปฏิเสธเช่นเดิม
“สอง...”
ผลก็ยังคงเหมือนเดิม เด็กสาวยังคงนอนนิ่ง
“สาม...”
บรูซนิ่งไปสักพักก็พูดออกมา “แล้วอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งก็แล้วกัน” เขาเตือนเสียงแหบพร่า ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าต่ำลงไปหา ก้มลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สองมือก็ยังคงกดข้อมือเล็กเอาไว้เหนือศีรษะเหมือนเดิม
“พี่จะจูบเธอ... จากนั้นก็จะถอดเสื้อผ้าของเธอ”
ชายหนุ่มก้มหน้าต่ำลงไปหาเรื่อยๆ ดวงหน้างดงามอยู่ใกล้จนได้กลิ่นของลมหายใจของกันและกัน ร่างกายของเขาตื่นตัวขึ้นมาอย่างสุดจะควบคุม ความรู้สึกที่พยายามกักเก็บไว้ค่อยๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะซ่อนมันเอาไว้
ท่องเอาไว้บรูซ... นายแค่จะทำให้ซันนี่กลัวเท่านั้น แค่นั้นจริงๆ
ชายหนุ่มบอกตัวเอง แต่ร่างกายงดงาม กลิ่นสาวที่หอมระรินทำให้เขาเริ่มหลุดหลง ปากของเขาเข้าใกล้กลีบปากอิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปากอิ่มสีกุหลาบที่เม้มเข้าหากันอย่างหวาดกลัว หล่อนกลัว... ทานตะวันหวาดกลัวเขารู้ดี และเขาก็ควรจะหยุดได้แล้ว
หยุดสิ!
คำสั่งจากสมองดูจะไร้ความหมายเหลือเกินในยามนี้เมื่อในที่สุด ปากร้อนจัดของเขาก็ควานหาจนพบกลีบปากอิ่มที่เย็นชืดของทานตะวัน เขาดูดซับเคล้าคลึงกลีบปากสั่นเทานั้นด้วยความพรึงเพริดกับรสชาติที่หวานล้ำเกินกว่าจินตนาการ
ริมฝีปากของเด็กสาวที่ยังไม่โตเต็มตัว ทำไมถึงได้หวานฉ่ำนักนะ ชายหนุ่มคิดอย่างลุ่มหลง ลืมตัวและไม่อาจจะต้านทานความต้องการจากก้นบึ้งของหัวใจได้อีก จากจูบเดียวแผ่วเบา อ่อนโยน กลายเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความหิวกระหาย ดุดัน และแสดงความเป็นเจ้าของ มือใหญ่ที่เคยแค่กุมข้อมือเล็ก ยามนี้ลดต่ำลงมาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังโค้งละมุน ดันมันขึ้นจนทรวงอกของสาวน้อยผงาดแนบชิดกับร่างหนาจนสองร่างแนบสนิท
เขาหยุดไม่ได้... หยุดไม่ได้แล้ว...
บรูซคำรามกับตัวเอง และพยายามที่จะหยุดทุกอย่างลง แต่ยิ่งพยายามความต้องการก็ยิ่งมากขึ้น และแน่นอนว่าความอวบอิ่มหอมหวานของทานตะวันเร่งเร้าให้เขาเดินหน้าต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาจูบ... จูบจนปากอิ่มบวมช้ำ จูบจนเจ้าหล่อนหอบกระเส่าเพราะหายใจหายคอไม่ทัน จากนั้นก็แทะเล็มลงมายังซอกคอระหง และด้วยความปรารถนาที่อัดแน่นเต็มอก เขาจึงดูดเม้มเนื้อนุ่มขาวเนียนนั้นแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์ใคร่ มันแดงช้ำขึ้นมาทันตา
“พี่บรูซ...”
หล่อนเรียกเขา... ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาไม่เข้าใจความหมายหรอกว่าหล่อนต้องการให้เขาหยุดหรือเดินหน้าต่อไป แต่เขาน่ะสิ... ได้สติขึ้นมาทันทีกับเสียงเรียกเบาๆ นั้น
เขาต้องหยุด!
บรูซผละออกห่างจากกายสาวราวกับเจ้าหล่อนคือกองไฟ จากนั้นก็ถอยหลังออกห่างด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด มือหนายกขึ้นเสยเส้นผมของตัวเองแรงๆ พลางปรายตามองร่างของทานตะวันที่ยังคงนอนราบกับเตียงนิ่ง
“เข้าใจความต้องการของผู้ชายหรือยัง”
ทานตะวันขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองหน้าเขา และยกมือขึ้นแตะกลีบปากที่บวมช้ำของตัวเองอย่างลืมตัว บรูซเห็นท่าทางของเด็กสาวแล้วก็สบถออกมาพร้อมกับหันหลังหนี ให้ตายเถอะ ทำไมเวลานี้ทานตะวันถึงได้น่า... ขย้ำนักนะ
“พี่บรูซ...”
“ออกไปจากห้องของพี่ซะ และก็ไปทำความเข้าใจเสียใหม่”
เด็กสาวลุกขึ้นยืน และจะเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่ยืนหันหลังให้ แต่เขาเค้นเสียงเข้มหยุดหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“อย่าเข้าใกล้พี่อีก ถ้าไม่อยากถูกพี่ทำแบบเมื่อกี้”
“แต่... ซันนี่ชอบ”
“ไม่ต้องพูด!”
บรูซหันกลับมา และตวาดลั่น เขาไม่อยากได้ยิน เพราะถ้าหล่อนพูดออกมา... พูดออกมาว่าชอบให้เขาทำแบบเมื่อกี้ เขา... เขาคงห้ามตัวเองไม่ได้อีก คงจะกระโจนเข้าใส่ร่างเล็กแสนหวานของหล่อนและไม่อาจจะถอนถอยออกมาได้อีกเลย และแน่นอนว่าเรื่องยุ่งยากทุกอย่างจะดาหน้าตามมาเป็นทิวแถว
“อย่าพูดว่าชอบเชียวนะ”
“แต่ว่าซันนี่...”
“กลับออกไปก่อน พี่จะพักผ่อน”
“พี่บรูซคะ ซันนี่...”
หล่อนมองเขาตาละห้อย ไม่เข้าใจอารมณ์ของเขาสักนิด
“พี่จะพักผ่อน พรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน โอเคนะ”
“แต่พี่บรูซคะ”
แม้หล่อนจะไม่ตกลง แต่ก็ถูกเขาดันออกมาจากห้องพักอยู่ดี ซันนี่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้อง มองผ่านประตูเข้าไปราวกับต้องการจะมองให้เห็นเขาคนนั้น จากนั้นก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกถึงจุมพิตแรกในชีวิตสาวกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจ
“พี่บรูซจูบเรา...” มือเล็กยกขึ้นแตะปากของตัวเองอีกครั้ง
“แสดงว่าพี่บรูซก็ต้องรักเรา... เหมือนกับที่เรารักพี่บรูซ...”
ทานตะวันยิ้มจนตาโตๆ หยีลงเลยทีเดียว จากนั้นก็เดินยิ้มเกลื่อนดวงหน้ากลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยหัวใจที่พองฟูคับอก
ในขณะที่บรูซกำลังทรุดกายลงนั่งกับเตียงนอนอย่างอ่อนล้า ก่นด่าตัวเองในใจอย่างเดือดดาลเป็นที่สุด
เขาไม่น่าทำแบบนี้เลย... ทั้งๆ ที่คิดว่าจะควบคุมมันได้ แต่พอเผชิญหน้ากับความหอมหวานของทานตะวันเข้าจริงๆ เขากลับหยุดอะไรไม่ได้เลย เดินหน้า... เดินหน้าอย่างเดียว นี่ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ของหล่อน ป่านนี้... เขากับหล่อนก็คงจะ...
ศีรษะทุยสวยสะบัดแรงๆ เพื่อที่จะสลัดภาพที่ละเอาไว้ในใจออกไปจากหัว แต่ให้ตายเถอะ ยิ่งพยายาม ภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยงระหว่างเขากับทานตะวันกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งท่าทางทั้งเสียงร้องครางดังก้องอยู่ในหู
“บ้าชิบ นี่เราคิดบ้าอะไรเนี่ย”
บรูซผุดลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ก็จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อสงครามที่ตรงกลางระหว่างขากำลังปะทุขึ้นอย่างหนักหน่วงนี่