ตอนที่ 2

1164 Words
ท้องทะเลสีครามกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา ยาวจรดกับขอบโค้งของแผ่นฟ้าที่ไม่อาจหาที่สิ้นสุด ได้ หาดทรายสีขาวที่นุ่มนวลยามสัมผัสด้วยฝ่าเท้า สายลมเย็นฉ่ำยามพัดพลิ้วมาชโลมกาย ช่างเป็นบรรยากาศชวนฝันยิ่งนักสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน แต่มันไม่ใช่สำหรับเขาเลยให้ตายสิ “พี่บรูซ... หนีซันนี่มาอยู่ตรงนี้นี่เอง” เสียงหวานๆ ของทานตะวันเด็กสาวที่เขาพยายามจะหนีให้พ้น แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งเหมือนถูกไล่ล่าไม่มีผิด “ใครว่าพี่หนีเธอ พี่แค่มาเดินเล่นต่างหาก” “นั่นแหละค่ะ ไม่ยอมชวนซันนี่มาด้วยแบบนี้ ก็เรียกว่าหนีนั่นแหละค่ะ” ทานตะวันตัดพ้อไม่จริงจังนัก ก่อนจะสอดแขนเข้าไปคล้องลำแขนกำยำของบรูซเอาไว้ แสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า บรูซหันมาจ้องหน้าหล่อน และหรี่ตามอง แต่ทานตะวันไม่สนใจ หล่อนเชิดหน้าอมยิ้ม และเปลี่ยนเรื่องคุย “พี่บรูซยังจำเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ไหมคะ” “จำไม่ได้” เด็กสาวมีสีหน้าเศร้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบยิ้มกลบเกลื่อน “ไม่เป็นไรค่ะ เพราะซันนี่รู้ดีว่าพี่บรูซงานยุ่ง” ว่าแล้วเด็กสาวก็แนบหน้ากับท่อนแขนสีแทนของผู้ชายในฝันของตัวเอง ผู้ชายที่ตัวเองตกหลุมรักมาตั้งแต่จำความได้ บรูซ คาร์ตันคือเทพบุตรในหัวใจของหล่อน ถึงแม้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทพบุตรอย่างบรูซจะค่อนไปทางเทพบุตรใจร้ายบ้างก็ตาม แต่ถึงยังไงหล่อนก็ยังรักผู้ชายเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินคนนี้อยู่ดี “แต่อีกหน่อยเมื่อซันนี่เรียนจบ ซันนี่จะไปช่วยพี่บรูซเอง” “ช่วยพี่?” บรูซเกือบจะหลุดขำออกมา “ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ หรือพี่บรูซคิดว่าซันนี่ไม่มีความสามารถ” ชายหนุ่มแกะมือขาวสะอาดของเด็กสาวออกไปจากแขน และถอยหลังออกห่าง มือหนายกขึ้นกุมสองบ่าบอบบางเอาไว้ และจ้องหน้าด้วยรอยยิ้มขบขัน “ถ้าเรียนๆ โดดๆ แบบนี้ พี่ว่าอีกสิบปีก็ไม่จบ” “พี่บรูซน่ะ ทำไมว่าซันนี่แบบนี้คะ” “พี่พูดเรื่องจริงครับ” บรูซปล่อยมือจากบ่าบอบบางของทานตะวัน จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป เด็กสาวรีบวิ่งตามหลังไปติดๆ ก่อนจะกระชากแขนล่ำสันเอาไว้ได้ “ก็ที่ซันนี่ทำแบบนั้นก็เพราะ... ซันนี่คิดถึงพี่บรูซ” ความขบขันบนใบหน้าของบรูซ คาร์ตันสลายจางหายไป เหลือไว้แต่ความเย็นชา ไร้ความรู้สึกเท่านั้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา “ซันนี่... เลิกตามติดคิดว่าพี่เป็นของตัวเองสักทีได้ไหม” “ไม่ได้ค่ะ ก็พี่บรูซเป็นของซันนี่นี่คะ” เด็กสาวส่ายหน้าพรืด และยืนยันเสียงแข็งกร้าว บรูซถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “รอให้โตเป็นสาวก่อนได้ไหม หรือว่ารอให้เรียนจบก่อนก็ได้ ค่อยมาตามตื้อพี่ใหม่ หรือบางทีตอนนั้นพี่อาจจะเป็นฝ่ายตามตื้อซันนี่ก็ได้นะ” “กว่าซันนี่จะโตในสายตาของพี่บรูซ ก็คงต้องรอจบปริญญาเอกก่อนล่ะมั้งคะ” แทนที่เขาจะปฏิเสธคำประชดประชันของหล่อน เปล่าเลย ตรงกันข้ามสิ้นดี เขากลับพยักหน้ารับอย่างน่าหมั่นไส้ซะงั้น “ใช่ครับ” “พี่บรูซ...” เด็กสาวเต็มไปด้วยความขัดใจ คว้าแขนของบรูซไปกอดเอาไว้อีก พลางแนบดวงหน้าสวยหวานลงมาหาอย่างประจบประแจง “ถ้ารอถึงวันนั้น พี่บรูซก็คงถูกผู้หญิงลากเข้ากรงวิวาห์ไปแล้วล่ะค่ะ” “ใครจะมาลากพี่ได้ ถ้าพี่ไม่เต็มใจ” “ก็...” ทานตะวันหันไปมองรอบๆ ตัว นักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิงทุกคน ย้ำเลยว่าทุกคนต่างพากันจับจ้องมาที่บรูซ คาร์ตัน แล้วแบบนี้จะให้หล่อนไว้วางใจได้ยังไงกันล่ะ “ก็อะไรซันนี่” เด็กสาวหันมาสบตากับคนถาม ก่อนจะพูดเสียงขึ้นจมูกที่เต็มไปด้วยความแง่งอนออกมา “ก็มารยาผู้หญิงมีตั้งเป็นร้อยๆ เล่มเกวียน ผู้ชายที่วันๆ ทำแต่งานอย่างพี่บรูซตามไม่ทันหรอกค่ะ ถ้าซันนี่ไม่คอยอยู่ข้างๆ ป่านนี้พี่ บรูซเสร็จนังชะนีแถวนี้ไปแล้ว” “ดูพูดเข้า พี่เป็นคนนะซันนี่ ถ้าพี่ไม่รัก ไม่ชอบ พี่ไม่เอามาทำเมียหรอก” “ถ้าพี่บรูซพูดแบบนี้ นั่นก็แสดงว่าพี่บรูซรักผู้หญิงทุกคนที่พี่นอนด้วยใช่ไหมคะ” “ไปกันใหญ่แล้ว ซันนี่น่ารำคาญน่ะ” เมื่อยิ่งพูดทานตะวันก็ยิ่งหาเรื่อง บรูซซึ่งไม่ชอบความวุ่นวายจึงสลัดแขนเล็กๆ นั้นออกจากตัว และเดินหนี ทานตะวันร้องเรียกตามหลัง “พี่บรูซ” “ไม่ต้องตามมานะซันนี่ พี่อยากอยู่คนเดียว” ทานตะวันถูกดุเข้าก็น้ำตาคลอ ไม่กล้าขยับเท้าแม้แต่ก้าวเดียวเมื่อถูกประกาศิตของคนตัวโตห้ามเอาไว้ ทำได้แค่เพียงยืนมองเขา... มองเขาที่เดินห่างไกลออกไปจนลับสายตา จากนั้นจึงทรุดกายลงนั่งกับพื้นทรายด้วยความเศร้าหมอง บรูซเดินถอนใจจากร่างเล็กของทานตะวันมาโดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปมองอีก นับวันเด็กสาวก็ยิ่งสร้างความวุ่นวายหัวใจให้กับเขามากขึ้น... และมากขึ้น ความจริงเขาควรที่จะปฏิเสธคำชวนของคุณอาทั้งสองตั้งแต่แรก แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะอะไรน่ะหรือ... ชายหนุ่มหยุดเรื่องในสมองเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะย่ำเท้าเดินไปตามหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวไปข้างหน้าช้าๆ พยายามที่จะปลดปล่อยอารมณ์กับบรรยากาศผ่อนคลายรอบตัว แต่สมองกลับยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวของเด็กสาวคนนั้น ทานตะวัน... แม่ดอกไม้แสนร้อนแรง... “ถ้าเธอโตกว่านี้ พี่จะไม่เดินหนีเธอแบบนี้เลย ซันนี่” ชายหนุ่มถอนใจออกมาอีก กำลังจะเดินไปทรุดกายนั่งลงใต้ต้นมะพร้าวริมชายหาด แต่สายตามองไปเห็นการยื้อยุดฉุดกระชากของหนุ่มสาวคู่หนึ่งเสียก่อน เขาหรี่ตาจ้องมอง ก่อนจะละสายตาจากมาเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย... ผู้ชายคนนี้ทำร้ายฉัน... ช่วยด้วยค่ะ” จากที่เคยคิดจะไม่สนใจ ตอนนี้บรูซถึงกับดีดตัวลุกขึ้นยืน เขามองไปรอบตัวก็เห็นคนมุงดู แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้นจากมือและเท้าของผู้ชายตัวใหญ่สักคน เขารู้สึกไม่พอใจกับตรรกะของคนพวกนี้นัก แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะคิดมากไปกว่านี้ เขาวิ่งเข้าไปกระชากร่างของผู้หญิงคนนั้นมาไว้ข้างหลัง พร้อมๆ กับชกหน้าไอ้ผู้ชายจนคว่ำ “เฮ้ย... มึงมายุ่งอะไรด้วย เรื่องของผัวเมีย” “ถึงเป็นผัวคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายผู้หญิง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD