ตอนที่ 1 ทวงสัญญา

1251 Words
รถหรูยี่ห้อยุโรปมาหยุดลงตรงที่จอดรถสำหรับผู้บริหาร ทุกครั้งเขาจะมองไปทางด้านขวามือเป็นประจำว่าหลานชายตัวเองมาถึงหรือยัง บางวันเขามาถึงก่อน บางครั้งหลานก็มาถึงก่อน แต่เวลาไม่ห่างจากกันมากนัก ทว่าพักหลังมานี้คนที่แต่งงานไปแล้วกลับมาช้ากว่า แถมยังมาบอกว่ากินข้าวจากที่บ้านมาแล้วด้วยเพราะทำกับข้าวให้เมียทาน ส่วนคนไม่มีเมียก็ต้องเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียวสินะ ธรรศภาคย์กระตุกยิ้มมุมปาก แว่นตากันแดดถูกเก็บลงในกล่อง ขายาวก้าวลงจากรถ ผอ.หนุ่มคุมโทนสีดำเหมือนเดิมเกือบทุกวัน ด้วยความที่มันไม่ต้องจับมามิกซ์แอนด์แมตช์อะไรให้ยุ่งยากเขาจึงชอบแต่งโทนนี้ประจำ ดำบ้าง เทาบ้าง กลมบ้างสลับสับเปลี่ยนกันไป พาส่วนสูงที่มีกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรเดินอ้อมไปทางด้านหน้าเพื่อขึ้นลิฟต์ เขาให้ช่างมาทำลิฟต์เอาไว้ทั้งหมดสองตัว บุคลากรของเราก็เริ่มอายุมากกันแล้ว เขาเห็นใจหากแต่ละคนต้องเทียวเดินขึ้นลงจากตึกที่ใช้นั่งทำงานเพื่อไปสอนนักศึกษาอีกตึกบ่อยๆ หนึ่งตัวสำหรับคณะอาจารย์ และอีกหนึ่งตัวสำหรับนักศึกษาที่ต้องเอางานมาส่งเป็นประจำ 'ธรรศภาคย์' หรือ 'ภาคย์' อายุสี่สิบห้าปี เป็นผู้บริหารของวิทยาลัยในตัวอำเภอคันคายแห่งนี้ ทว่ามีพ่อเป็นเจ้าของอีกที อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัยด้วย พอลูกชายเรียนจบและสั่งสมประสบการณ์มากพอจึงส่งไม้ต่อ ส่วนตัวเองเกษียณออกไปอยู่ที่บ้านเฉยๆ กระนั้นยังเทียวให้คำปรึกษาลูกชายด้วยประสบการณ์ที่มีมาก่อนอยู่ดี สถานศึกษาของเรามีการเรียนการสอนระดับชั้น ปวช.และปวส. สำหรับชั้น ปวช.จะเรียนสามปี และชั้นปวส.เรียนสองปี มีหลากหลายสาขาให้เลือกเรียนตามความพอใจของผู้เข้ามาสมัคร ติ้ง! ลิฟต์เปิดออก ผอ.หนุ่มก้าวเข้าไปยืนด้านใน กดหมายเลขไปที่ชั้นสี่ เช้าขนาดนี้คณะอาจารย์ยังมาไม่ถึงกันจึงทำให้ยังไม่มีคนมารอใช้ลิฟต์มาก ส่วนเขามาเช้าเป็นประจำ ด้วยความที่ติดเป็นนิสัยมาตั้งแต่ตอนเป็นรองผอ.แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป รวมถึงตัวเขาด้วย ผ่านมานานหลายปีโสดยังไงก็ยังโสดอยู่แบบนั้น "รอด้วยค่ะ!" คนตัวเล็กวิ่งสี่คูณร้อยเมตรบนรองเท้าส้นสูง ทำตัวลีบที่สุดเพื่อให้ทันเข้าลิฟต์ก่อนประตูจะปิดเข้าหากัน เขยิบมายืนอยู่ด้านข้าง เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้คนตัวโต ธรรศภาคย์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเป็นใบหน้าของใครบางคน ทว่าทำตัวนิ่งมองเมินไปทางอื่น ก็คงจะขึ้นไปส่งงานอาจารย์ท่านอื่นๆ ละมั้ง แต่ลิฟต์มีตั้งสองตัว ทำไมต้องมาขึ้นตัวเดียวกันกับเขา นี่เขาเป็นถึงผู้อำนวยการเลยนะ และลิฟต์ตัวนี้ก็มีไว้สำหรับบุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น "นักศึกษาครับ" "ขาผอ." ยิ้มกว้างเมื่อเขาเรียกชื่อของเธอ และแอบขานตอบรับคำว่า 'ผัว' อยู่ในใจไปแล้ว 'ทับทิม' นักศึกษาชั้นปวส.ปีหนึ่ง เรียนการตลาด ที่เลือกสาขานี้ไม่มีอะไรมากเพราะตึกเรียนอยู่ใกล้ตึกทำงานของผอ.ภาคย์ ตกหลุมรักตั้งแต่มีคณะอาจารย์ที่นี่ไปแนะแนวที่โรงเรียนของเธอ เธอเห็นรูปของผอ.ภาคย์อยู่ในกระดาษแผ่นพับ บอกเลยว่าสะดุดมาก ไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นไปถามอาจารย์ที่มาแนะแนวว่าเรียนสาขาอะไรถึงจะได้เห็นหน้าผอ.ท่านนี้บ่อยๆ พอท่านเอ่ยคำว่า 'การตลาด' มาเท่านั้นแหละ อีทับทิมไม่ลังเลลงเรียนทันที! ไม่รู้ว่าเขามีการเรียนการสอนแบบไหน สอนยังไงอีทับทิมไม่สนใจ ขอแค่ให้ได้เจอหน้าผอ.ภาคย์ทุกวันเป็นพอ จบมอสามเรียนต่อปวช.ทันที! พอได้เข้ามาเรียนปวช.ปีหนึ่ง สิ่งที่เธอคิดไว้ว่าจะได้มีโอกาสเห็นหน้าผอ.ภาคย์บ่อยๆ ได้สบตา ได้เดินผ่านใกล้ที่สุด แต่มันกลับไม่ใช่ เห็นหน้าทีก็ตอนที่เราทั้งคู่อยู่ไกลกัน พอถึงปวช.ปีสามเพิ่งมีโอกาสได้ยืนประจันหน้ากับเขาสองต่อสองชัดๆ ในระยะไม่ถึงสามเมตร ก็วันที่เขาเดินมาทักเรื่องกระโปรงแสนสั้นกับรองเท้าส้นเข็มของเธอนั่นแหละ หล่อวัวตายควายล้มโว้ย! ว่าที่ผัวอีทับทิมโคตรหล่อ เจอจังๆ ตัวเป็นๆ หล่อกว่าในโบรชัวร์ตั้งเยอะ! "ทำไมไม่ใช้ลิฟต์อีกตัวครับ นี่ลิฟต์ของคณะอาจารย์นะครับ" ทับทิมค่อยๆ หุบยิ้มลง โธ่! ก็นึกว่าจะถามเธอเรื่องนั้น นึกว่าจะถามเธอว่า 'คุณอยากได้อะไรจากผมครับ' อีทับทิมจะรีบตอบทันทีเลยว่า 'อยากได้ผอ.เป็นผัวค่าาา' "เพราะหนูอยากคุยกับผอ.ไงคะ" ส่งสายตาปริบๆ อ้อนๆ ขอให้ผอ.ภาคย์รักอีทับทิม หลงอีทับทิม เพราะตอนนี้อีทับทิมมันหลงผอ.ภาคย์จนโงหัวไม่ขึ้น ก็ดูเขาสิ เลขสี่แล้วนะแต่ยังโคตรแน่น! แม่อยากจับเขาแก้ผ้าซะจริงๆ คงจะขาวและแน่นไปทั่วทั้งตัว! โอ๊ย! อีทับทิมจะวูบ ทั้งหล่อ ทั้งตัวหอม นี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าหรรมจะขาวและหอมขนาดไหน! "เรื่องอะไรครับ" สงสัยนักศึกษาในวิทยาลัยของเขาจะเล่นมือถือกันเยอะไป เจอหน้าใครๆ ต่างก็ทำตาขยิบมดมาให้ มันอยากควักตังค์ให้ไปรักษากันจริงๆ แต่ติดตรงที่ว่า หากต้องให้เอาไปรักษาก็คงต้องรักษากันทั้งวิทยาลัย "ผอ.ลืมเรื่องที่รับปากกับหนูไปแล้วเหรอคะว่าหากผอ.แพ้ดวลเหล้าจะให้หนูขออะไรก็ได้ แล้วผอ.ก็จะทำตามด้วยค่ะ" ".." ธรรศภาคย์นิ่ง คิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในงานแต่งของหลานชายอย่างธนา เด็กคนนี้เดินกอดขวดเหล้าสองแปดห้าแนบอกมากลมนึง ส่วนมืออีกข้างถือถังน้ำแข็งใส่กระป๋องอะลูมิเนียมพร้อมที่คีบอันเล็ก ในถุงหูหิ้วมีโซดาหลายขวด มายืนท้าเขาให้ดื่มเหล้าแข่งกันต่อหน้าคนที่บ้าน และวันนั้นเขาก็... แพ้ดวลเหล้ากับเด็กมัน! เขายังมานั่งคิดย้อนหลังจนหัวแทบระเบิดว่าเขาน่ะเหรอจะแพ้เด็กคนที่เคยเห็นกินเหล้าแล้วเมาเร็วในร้านอาหารเวียดนาม เป็นไปไม่ได้! แต่มันก็เป็นไปแล้วไง เขากลับถึงบ้านยังไงก็ไม่รู้ รู้แต่ตื่นมาพ่อกับแม่พากันแซวหนักมาก ว่าผู้บ่าว 'บ้านคันคาย' แพ้ดวลเหล้าผู้สาว 'บ้านเนินสามเหลี่ยม' เสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลมาก! "แล้วอยากได้อะไรครับ" เป็นจังหวะที่ลิฟต์เปิดออกธรรศภาคย์เดินออกไปก่อน ทับทิมจึงเดินตามหลัง "หนูอยากเป็นเด็กของผอ.ค่ะ" ประโยคนั้นทำให้ธรรศภาคย์หันขวับกลับไปก็เจอกับใบหน้ายิ้มๆ แกมท้าทายที่ส่งมาให้ เอามือกอดตัวเองแล้วยักคิ้วใส่เขารัวๆ แต่..ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนอีหนูว่าจะได้เป็นเด็กของเขา ส่ายหัวแล้วเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD