“ถ้าพี่ดลไม่อยากแต่งงานกับภาก็ไม่เป็นไรค่ะ”
“จะไม่เป็นไรได้ยังไง ก็ในเมื่อคุณยายจะยกสมบัติให้การกุศลแบบนี้”
“ก็ไม่มีทายาทสืบสกุลนี่คะ ทำไงได้”
“ก็พี่นี่ไงไม่ใช่ทายาทหรือยังไง มีแต่เรานั่นแหละที่เป็นคนนอกเป็นส่วนเกินของโศภิตอำไพ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดลธีพูดแบบนี้กับนิภา ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามทำใจเย็น คิดเสียว่าเขากำลังโมโหเรื่องแต่งงานอยู่
“ภามีงานต้องทำค่ะ เรื่องอื่นพี่ดลก็ไปตกลงกับคุณยายเอาเองก็แล้วกันนะคะ ภามันก็แค่คนนอก”
“ยัยภา ! นี่กล้าย้อนพี่เหรอ ยัยภากลับมานี่ !”
นิภาเดินลงบันไดไปด้านล่าง เพื่อเตรียมกับข้าวมื้อเย็นให้ยายเฉลาลักษณ์ ไม่คิดสนใจคนที่ตะโกนไล่ตามหลังมาแบบเสีย ๆ หาย ๆ สิ่งเดียวที่หญิงสาวคิดในตอนนี้คือ ทำอย่างไรให้คนที่นอนอยู่บนบ้าน มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต อนาคตต่อจากนั้นค่อยคิดวางแผนใหม่
ยายเฉลาลักษณ์มีรายได้หลัก จากการให้เช่าอาคารพาณิชย์หลายหลังในอำเภอ และนิภาก็คือคนดูแลรายได้ในส่วนนี้ โดยแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกฝากธนาคาร ส่วนที่สองเข้าบัญชีให้ดลธี และส่วนสุดท้ายเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน รวมถึงเงินเดือนของนิภาเองด้วย หญิงสาวจึงไม่ได้เดือดร้อนมากนักในช่วงที่ยังไม่ได้มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เพราะถือว่าการเก็บค่าเช่าให้ยายเฉลาลักษณ์ ก็เป็นงานอย่างหนึ่งของเธอ
ดลธีพกความหงุดหงิดกลับไปหาคนรักที่คอนโดมิเนียม แฟนหนุ่มของดลธีกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้าย อารักษ์ย้ายเข้ามาอยู่กับดลธี ที่ห้องคอนโดมิเนียมแห่งนี้ได้สองปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด ดลธีเป็นคนดูแลให้ ดลธีคิดว่าอารักษ์คือรักแท้ของเขา ขณะที่อารักษ์นั้นก็แค่อยากหาคนช่วยเลี้ยงดู ระหว่างเรียนเท่านั้นเอง
“อะไรนะครับพี่ดล ! ถ้าไม่แต่งงานก็จะชวดสมบัติทั้งหมดของคุณยาย” อารักษ์รีบวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ แล้วหันมาจ้องหน้า คนที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
“ก็ใช่น่ะสิ ยัยภาก็เหลือเกินเออออห่อหมกตามคุณยายไปได้ ไม่มีสมองคิดเลยจริง ๆ ยัยคนนี้”
“เอ่อ แล้วอย่างนี้พี่ดลจะทำยังไงต่อล่ะครับ”
“ใครจะไปบ้าแต่งกับยัยภาได้ลงล่ะรักษ์ พี่มีรักษ์อยู่ทั้งคนแล้วนะ”
“ผมรู้ครับพี่ดล แต่ถ้าพี่ดลไม่แต่งงานกับพี่ภาคุณยายจะยกสมบัติให้การกุศลนะครับ”
“คุณยายคงไม่กล้าหรอกพี่ว่า”
“ก็ไม่แน่นะครับ คุณยายของพี่ดลท่านห่วงเรื่องวงศ์ตระกูลจะตาย เกิดพี่ดลทำให้ท่านผิดหวังมาก ๆ เข้า ท่านอาจทำจริงก็ได้นะพี่ดล” คำพูดของอารักษ์ทำให้ดลธีฉุกคิดขึ้นมาได้
“นั่นสิ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่จะทำไงดี นี่พี่กะว่ารอคุณยายตายก่อน พี่ถึงจะขายบ้านเรือนไทยหลังนั้นทิ้ง เคยมีคนมาขอซื้อคุณยายตั้งร้อยล้านคุณยายไม่ยอมขาย ถ้าเป็นพี่นะจะขายแล้วเอาเงินมาซื้อบ้านสมัยใหม่หรู ๆ ในตัวจังหวัดหรือในกรุงเทพฯ ไปเลย คุณยายน่ะหัวโบราณ ชอบอยู่นอกเมืองแบบนั้น”
“คนเฒ่าคนแก่ก็งี้แหละพี่ดล” คำว่าร้อยล้านทำให้อารักษ์กลืนน้ำลายอย่างเสียดาย ก่อนจะเสไปยกกระป๋องเบียร์ขึ้นจิบ พลางคิดไปด้วย ว่าจะหาทางออกให้กับดลธีในเรื่องนี้อย่างไร ดวงตาประกายจ้าขึ้นเล็กน้อย ค่อย ๆ วางกระป๋องเบียร์ลงแล้วขยับไปนั่งติดกับดลธี
“พี่ดลครับ”
“ว่าไงจ๊ะ”
“คิดถึงพี่ดลจังครับไม่อยู่ตั้งหลายชั่วโมง” อารักษ์หอมแก้มคนรักเบา ๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มแก้มปริในทันที
“จะอ้อนขออะไรอีกเรา ถึงได้ทำตัวน่ารักแบบนี้”
“โห เห็นรักษ์เป็นคนยังไงกันนี่ รักษ์แค่อยากจะช่วยพี่ดลหาทางออกเรื่องนี้ พอมาคิด ๆ แล้วรักษ์ว่าพี่ดลแต่งงานหลอกคุณยายไปก่อนก็ได้นี่ครับ”
“หืม แต่งงานหลอกคุณยาย ?”
“ก็ใช่ไงครับ พี่ดลไปเสนอคุณยาย ให้ท่านยกสมบัติให้พี่ดลก่อนครึ่งหนึ่ง เพื่อแลกกับการแต่งงานกับพี่ภา เมื่อไหร่พี่ภาท้องก็ค่อยยกที่เหลือให้ตาม”
“นี่ไม่หึงไม่หวงพี่เลยเหรอรักษ์ ถึงได้อยากให้พี่แต่งงานกับยัยภาขนาดนี้” ดลธีทำหน้าสงสัยความเห็นของคนรัก
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ รักษ์แค่ไม่อยากให้พี่ดลต้องลำบาก ในอนาคตก็เท่านั้นเอง อย่าลืมนะครับว่าทุกวันนี้ พี่ดลอยู่สุขสบายได้เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่สมบัติของคุณยาย”
“มันก็จริงอย่างที่รักษ์พูดนั่นแหละ แล้วพี่จะหลอกคุณยายยังไงดี คุณยายไม่โง่นะรักษ์ ยัยภาก็อีกคนไม่มาร่วมมือกับพี่หรอก ยัยนั่นรักคุณยายเชื่อคุณยายจะตายไป”
“งั้นเราก็หลอกทั้งคู่เลยเป็นไงครับ พอแต่งงานเสร็จแล้วพี่ดลก็ทำเนียน ๆ ไม่อยู่บ้านก็ได้ อย่างน้อยพี่ดลก็ได้สมบัติมาแล้วครึ่งหนึ่งใช้ไปทั้งชาติก็ไม่หมด ดึงยื้อเวลาไว้ก่อน คุณยายแกแก่แล้วคงอยู่ได้อีกไม่นาน”
“แช่งคุณยายพี่เหรอรักษ์”
“คิดไปไหนของพี่นี่ ผมก็พูดไปตามความจริงเท่านั้น พี่ดลก็รู้ว่าพี่ไม่สามารถนอนกับพี่ภาได้แน่ แล้วพี่ภาจะท้องได้ไหมล่ะ ถ้าไม่อยากชวดสมบัติ ก็ต้องยอมแลกเอามาครึ่งหนึ่งก่อน เข้าหอหลอก ๆ ในคืนแต่งงานก็พอ”
คำแนะนำของอารักษ์ ทำให้ดลธีเกิดสนใจขึ้นมา เป็นอย่างที่อารักษ์พูดจริง ๆ เขาไม่มีทางนอนกับนิภาได้แน่ และไม่ช้ายายเฉลาลักษณ์ก็ต้องรู้ความจริงจากปากของนิภาเอง สู้ยอมเอาสมบัติครึ่งหนึ่ง แลกกับการแต่งงานหลอก ๆ ยังดีกว่า
“ว่าไงพี่ดลโอเคไหมกับวิธีของผม กำขี้ดีกว่ากำตดนะพี่”
“มันก็โอเคนะ ว่าแต่คุณยายจะยอมไหมล่ะ”
“ก็ยื่นคำขาดไปเลยสิครับ บอกว่าพี่ดลไม่รับประกันว่าน้ำเชื้อจะแรงพอทำให้พี่ภาท้องไหม เลยต้องขอหลักประกันก่อนเผื่อว่าไม่ท้องจริง ๆ คุณยายจะได้ไม่หาข้ออ้างยกสมบัติทั้งหมดให้การกุศลไงพี่”
“เรื่องแบบนี้หัวแหลมนักนะเรา”
“ผมอยากช่วยพี่ดลนี่ครับ”
“ก็ได้ ๆ พี่จะยอมแต่งงานหลอก ๆ กับยัยภาไปก่อนก็ได้”
“ต้องแบบนี้สิครับ สุดที่รักของรักษ์” อารักษ์พูดแล้วก็ดึงดลธีเข้ามากอดแนบอก ทั้งคู่มองสบสายตากันอย่างหวานเชื่อม จากนั้นก็จูงมือกันเข้าไปในห้องนอน
“คุณยายต้องยกมรดกให้ผมก่อนครึ่งหนึ่ง ผมถึงจะยอมแต่งงานกับยัยภา” ดลธียื่นคำขาดกับผู้เป็นยายในวันรุ่งขึ้น
“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะดล ยายไม่เข้าใจ”
“ก็ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยัยภาท้องได้ไหม เกิดผมแต่งงานไปแล้วยัยภาไม่ท้องสักที คุณยายไม่ยกมรดกให้การกุศลไปหมดเลยเหรอครับ ผมก็แค่อยากได้มรดกเป็นหลักประกัน ว่าคุณยายจะไม่โกรธ จนทำแบบนั้นกับผม”
“นี่ดลเห็นยายเป็นคนไม่รักษาคำพูดเหรอลูก”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าคุณยายไม่ยกให้ก่อนครึ่งหนึ่ง ผมก็ไม่กล้าแต่งงานกับยัยภาหรอก” ดลธีพูดแล้วก็กอดอกหันหน้าไปอีกทาง ราวกับว่าไม่สนใจอะไรอีกแล้ว หากผู้เป็นยายไม่ยอมรับข้อเสนอของตน
ยายเฉลาลักษณ์มองหน้าหลานชาย แบบไม่ค่อยไว้วางใจ แต่ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ตรงที่ดลธียินยอมแต่งงานกับนิภา แม้ว่าจะมีเงื่อนไขตามมาก็เถอะ ไม่แน่ว่าความสวยความสาวของนิภา อาจทำให้ดลธีเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาได้
“เอาล่ะ ก็ได้ ยายจะยกมรดกให้ดลก่อนครึ่งหนึ่งตามที่ขอ แต่ดลต้องแต่งงานกับภา เดือนหน้านี้เลยนะ” แม้จะรู้ว่าหลานชายเจ้าเล่ห์พอตัว แต่ยายเฉลาลักษณ์ก็พร้อมที่จะเสี่ยงในเรื่องนี้ ด้วยคาดหวังผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่าในภายภาคหน้า
“เดือนหน้า ! เร็วไปไหมครับ”
“ไม่เร็วหรอก ยายจะตายวันจะตายพรุ่งก็ยังไม่รู้เลย แต่งในบ้านเรา เชิญแค่ญาติพี่น้องกันก็พอ” คนรู้ว่าสุขภาพตัวเองไม่สู้ดีเท่าไรนัก รู้สึกว่าเวลาตัวเองเหลือน้อยเต็มทน
“แค่นั้นก็ดีแล้วครับ” เข้าทางดลธีพอดีเพราะเขาไม่ต้องการปั้นรอยยิ้ม ต่อหน้าแขกคนอื่นมากนัก
“ก่อนแต่งไปตรวจสุขภาพกับภาก่อนนะดล จะได้รู้ว่าร่างกายปกติกันทั้งคู่ไหม” ยายเฉลาลักษณ์ให้ความสำคัญในเรื่อง
สุขภาพของทั้งคู่
“ได้ครับคุณยาย แต่คุณยายอย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะครับ” คนเป็นหลานก็กำชับเรื่องสำคัญของตนเอง
“ยายรู้แล้ว เดี๋ยวให้คุณทนายเขาจัดการให้ เดี๋ยวยกเรือนไทยหลังนี้ให้เลยดีไหม” หญิงชราตั้งใจยกเรือนไทยหลังนี้ ให้ดลธีอยู่ก่อนหน้าแล้ว ส่วนทรัพย์สมบัติที่เหลือ ก็ต้องแบ่งสันปันส่วนให้เท่ากัน เพราะยังมีลูกสาวกับครอบครัวของเขาอยู่
“ดีครับคุณยาย” ดลธีดีใจจนออกนอกหน้า ผู้เป็นยายเลยส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ ก่อนจะโบกมือไล่ให้ออกจากห้องทำงานไป