บทที่1.ปะทะคารม
นับหมื่นนับพันสายตา มองตามท้ายรถยนต์ความเร็วสูง ที่วิ่งแข่งขันกันอยู่กลางสนาม ด้วยความเร็วจนน่าเสียวไส้ หัวใจของพวกเขาเต้นระทึก ทุกคนเฝ้าเชียร์นักขับที่ตนเองชื่นชอบ ความเร็วที่พุ่งไปข้างหน้า ปานลูกศรของธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันศร เสียงเฮดังสนั่น!! เมื่อรถยนต์สีแดงเพลิงพุ่งเข้าสู่เส้นชัยตามความคาดหมาย
ตัวเกร็งของสนามแข่งขันนี้ คือเจรามี่ โดนาแวน หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ และนี่เป็นการแข่งขันครั้งสุดท้าย...ก่อนชายหนุ่มอำลงวงการอย่างถาวร ไปรับตำแหน่งสำคัญในธุรกิจของครอบครัวเป็นการประกาศศักดาครั้งสุดท้ายได้งดงามตามความตั้งใจ
โดนาแวนมีธุรกิจหลักคือโรงแรมหรูระดับห้าดาว ‘Grand Hotels’ กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก เป็นที่กล่าวขานถึงการบริการอันยอดเยี่ยม ใส่ใจลูกค้าไม่ว่าจะร่ำรวยมหาศาลหรือพอมีพอกิน ทุกคนจะได้รับการบริการแบบเท่าเทียมกัน เมื่อคำขวัญหลักของ ‘Grand Hotels’ คือ ลูกค้าคือพระเจ้า เจรามี่ถอดหมวกและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองออกจากตัว เบี่ยงปลายเท้าก้าวออกจากรถยนต์ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มมุมปาก แจกรอยยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับแฟนคลับที่มายืนรอแสดงความยินดี อยู่ที่ข้างสนามแข่ง ชายหนุ่มทรงตัวยืนเต็มความสูง เจรามี่เป็นคนตัวใหญ่ เขาเป็นผู้ชายหุ่นดี มีสิกแพค แถมยังหล่อหาตัวจับยาก เขาไม่ได้เป็นนายแบบ แต่ขอโทษเถอะ รูปร่างของเขาเป็นที่อิจฉาของคนเพศเดียวกัน
“เจยินดีด้วย คุณวางเกมได้ดีจนนาทีสุดท้ายเลยนะ”
“ขอบคุณครับ ผมคงวางพวงมาลัยได้อย่างสบายใจ เมื่อไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในใจ”
“น่าเสียดายนะเจ อนาคตคุณกำลังรุ่งโรจน์ ไม่น่ารีบถอนตัวเลย นักแข่งใจกล้าและฝีมือดีๆ แบบคุณ หายากกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก เปลี่ยนใจตอนไหน...ติดต่อผมได้ตลอดนะเจ”
“คุณก็รู้โดนาแวนมีสาขามากเพียงใดในโลก ผมคงไม่มีโอกาสหวนคืนวงการอีกครั้งหรอกครับ เมื่อภารกิจที่รอผมอยู่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน”
“อืม น่าเสียดายนะ”
เจรามี่ทอดสายตามองฝูงชนที่กำลังโบกมือส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มอยู่นอกรั้วกั้น เสียงตะโกนแสดงความยินดีกับเขา และมองด้วยสายตาชื่นชอบ ความชอบส่วนตัวของเขาคือเกมแข่งขันที่ท้าทายความสามารถ บวกกับพื้นฐานครอบครัวแน่นปึก จนเจรามี่ไม่ต้องกระเสือกกระสนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนคนอื่น ชายหนุ่มจึงใช้ชีวิตได้เต็มที่ ไม่เสียดายเงินที่ควักจ่าย เพื่อความสนุกส่วนตัว คำสั่งเป็นเอกฉันท์ของครอบครัว ทำให้เจรามี่ต้องจบชีวิตนักแข่ง
ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ เมื่อนึกถึงภาระที่จำต้องแบกไว้ การเป็นหัวหอกตัวเอ้ กุมชะตาชีวิตของใครหลายๆ คนเอาไว้ เขายังไม่มีความสามารถเพียงพอ เมื่อตนเองอยู่แต่ในสนามแข่ง มันจึงทำให้เจรามี่หนักใจ หน้าที่ใหญ่โต และภาระอันหนักอึ้งถึงแม้จะมีพี่ชาย คอยช่วยอยู่ก็เถอะ
“เห้อ! ซวยชะมัด พี่โดมลาออกทำไมนะ? ผมยังไม่พร้อมเลย” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลของพี่ชาย เขาถอนตัวแบบกะทันหันจนไม่มีใครตั้งตัวทัน
เจรามี่รับรู้เหตุการณ์คร่าวๆ เขาจึงยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของโดมินิคดีพอ ความรักเป็นสิ่งสวยงามก็จริง แต่เจรามี่ยังไม่เคยได้สำผัสมันซักครั้ง ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นหนุ่มฉกรรจ์เขายังไม่เคยถูกใจผู้หญิงคนไหนจนคิดจะจริงจังซักคน ชายหนุ่มโบกมืออำลากลุ่มแฟนคลับ คว้ากระเป๋าสะพายที่ทีมงานนำมายื่นส่งให้ เดินตรงไปยังห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว จัดการถอดชุดป้องกันอันตรายออกจากร่างกาย เมื่อมันแน่นจนอึดอัดไปทั้งตัว
แสงแฟลชสว่างวูบวาบ!! พร้อมทั้งเสียงซักถามสาเหตุการวางมือ เมื่อมันเป็นการสูญเสียนักแข่งฝีมือฉกาจ ที่สำคัญเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ เสียด้วย
“ผมต้องไปทำงานของครอบครัวน่ะครับ ไม่ได้มีสาเหตุอื่นเลย” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยิ้ม
“คุณเจๆ” สาวๆ ตะโกนเรียกเขาดังลั่น และพยายามแหวกวงล้อมการ์ดเข้ามาหานักแข่งขวัญใจ จนการ์ดต้องทำงานอย่างหนัก เมื่อพลังงานเอวอ่อนพร้อมใจกันทั้งผลักทั้งดัน จนผู้ชายแมนๆ ตั้งรับแทบไม่ไหว จึงมีบางคนหลุดรอดจากการกักกั้น วิ่งเข้าหาเจรามี่ได้ในที่สุด เจ้าหล่อนผวากอดเขาไว้และคร่ำครวญอย่างเสียใจอกเสียใจ ที่หนุ่มจอมพลังขวัญใจอำลาสนามแข่งขัน
“คุณเจ วีวี่ยินดีกับชัยชนะด้วยนะคะ แต่คุณไม่น่าเลิกขับรถเลย พวกเราๆ จะเชียร์ใครล่ะคะ” เขาถอนใจแรงๆ ด้วยความเหนื่อยหน่าย แต่เพราะมารยาทอันดี จึงพยายามยิ้มตอบ
“นักขับรถแข่งเก่งๆ มีอีกหลายคนครับ เราคงพบกันอีกในสนามแข่ง แต่คราวหน้าผมไม่ได้อยู่ในฐานะนักแข่ง เปลี่ยนมาเป็นผู้ชมแทน”
“อื้อๆ” เสียงครวญดังกระหึ่ม เมื่อเสียนักแข่งฝีมือฉกาจไป แถมหล่อปานนายแบบชื่อดัง ถ้าเขาจะเอาดีทางด้านขายหน้าตา เพราะเจรามี่หน้าตาจัดว่าเบอร์หนึ่ง ประหนึ่งเทพบุตรหลงมาจากชั้นฟ้า หน้าคมๆสายเลือดผู้ชายอิตาลี ผมหยิกหยักศกสีดำ สนิทจมูกโด่งแหลม คางบึกบึน มีไรหนวดสีเขียวครึมตามแนวคาง ดวงตาสีคาราเมลหวานฉ่ำ ริมฝีปากหนาหยัก ไรฟันเป็นระเบียบ พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติติดตัว ภายใต้นามสกุลดัง ‘โดนาแวน’ ที่ไม่มีใครบนโลกไม่รู้จักบ้างล่ะ
ห้างสรรพสินค้ากลางเมือง...
“อุ่ย! ขอโทษค่ะ” นิสารีบขอโทษคู่กรณี หลังจากเกิดอุบัติเหตุกลางห้างสรรพสินค้า เพราะมัวแต่เหม่อจนกระทั่งชนใครก็ไม่รู้ เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ คู่กรณีด้วยความสนใจ ชายต่างชาติหล่อสะดุดตา โครงหน้าเข้ารูปดูดีจนหาตัวจับยาก เธออาจจะเคยเห็นเขาตามหน้าหนังสือเม็กกาซีนนายแบบชื่อดัง เขาสวมชุดสีดำแนบเนื้อ ทำให้เห็นลอนกล้ามที่หน้าท้องได้อย่างชัดเจน เขาสวมแว่นดำตาสีดำสนิทปกปิดดวงตาและใบหน้าจนมิด เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแววตาที่มองตรงมาเป็นแบบใดกันแน่
“เดินซุ่มซ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะเธอ หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ท่าทางจะเป็นแค่...บ้านนอกหลงกรุง” เสียงต่อว่าฉอดๆ นิสาถอนใจแรงๆ เธอมองสบตากับคู่กรณี ก่อนจะเบ้ปาก เมื่อคนตรงหน้า แต่งตัวหมิ่นเหม่ หน้าอกอวบใหญ่จนล้นออกมาจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ หล่อนดุกร้านๆ จนน่าสังเวช
“เธอว่าใคร?!” นิสาถามกลับ น้ำเสียงขุ่นขวางอย่างไม่ยอมแพ้ เธอรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด ขอโทษก็ทำแล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่น่าแสดงกริยาดูแคลนเธอเช่นนี้
“จะว่าใครได้ล่ะ ตรงนี้มีแค่ฉันกับหล่อนนี่ยะ” นิสาเกือบปรี๊ดแตก คู่กรณีกวาดตามองเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กริยาหมิ่นแคลนที่ทำให้เธอใกล้น็อตหลุด
“นิสา…วราว่าเรากลับกันดีกว่านะ เดี๋ยวน้องบาสตื่น สำเรียงคนเดียวจะรับมือไม่ไหวหรอก” วราพิชชาดึงมือเพื่อน เธอรีบชวนเพื่อนรักกลับ ป่วยการต่อปากต่อคำ กับคนที่ไม่มีมารยาท
“ชิ!” นิสาสะบัดใบหน้าใส่คู่กรณี ยอมเดินตามวราพิชชามาอย่างจำใจ หากไม่เกรงใจเพื่อน มีหรือที่นิสาจะยอม เธออดหมั่นไส้ผู้ชายขี้เก๊กตรงหน้าไม่ได้ เขายืนนิ่งเป็นหุ่นยนต์ ไม่คิดจะห้ามปรามคนของตัวเอง สองสาวยอมถอยให้ เพราะตัวเองผิดที่มัวแต่คุยจ้อจนไม่ได้ดูทางเดินให้ดีๆ
“วราไปรอนิสาที่รถก่อนนะเดี๋ยวนิสาขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” นิสาบอกเพื่อนรัก เธอหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว วราพิชชาส่ายศรีษะกับการตัดสินใจปุบปับของเพื่อน แม่ลูกสองพยักหน้ารับ แล้วจึงเดินไปรอยังรถยนต์ที่จอดอยู่ยังชั้นใต้ดิน
นิสาเดินห่างวราพิชชามา เธอก็เดินพลางมองหาคู่กรณีไปด้วย วราพิชชาเป็นคนใจดี เพื่อนเธอยอมจบ แต่เธอไม่คิดจะยอม แม่สาวทรงโตคนนั้นไม่มีสิทธิมาว่าเธอแบบสาดเสียเทเสีย แค่อุบัติเหตุชนกันกลางทาง ขอโทษก็แล้ว ยังจะมากล่าวประณาม อย่างนี้คงต้องเจอกันซักตั้งล่ะ
หญิงสาวรีบเดินตามหาทั้งคนทั้งคู่อย่างอาฆาต เมื่อเจอคู่กรณีที่หมายตาไว้ เธอจึงรีบเดินแซงไปดักรออยู่ข้างหน้า และรอจังหวะเวลาอย่างอดทน เธอแสร้งทำเป็นเดินสนใจสินค้าตามตู้โชว์ พลางถอยหลังไปใกล้ๆ คู่กรณีทั้งคู่ แอบแบะปากหมั่นไส้ผู้หญิงคนนั้น หล่อนไม่มีความเป็นกุลสัตรีทั้งที่หน้าตาอ่อนไว้ แต่จริตจะก้านมาเต็ม หล่อนกล้าควงผู้ชายแบบเปิดเผย แสดงความสนิทสนมจนน่าเกลียด ชุดที่ใส่ก็ทั้งสั้น ทั้งแคบจนปิดสัดส่วนอวบอิ่มแทบไม่มิด แถมยังออดอ้อนออเซาะแบบไม่อายสายตาคนมองเลย เมื่อมองเห็นโอกาสอันดี นิสาจึงแกล้งเดินตัดหน้าพวกเขาไปอย่างกระชั้นชิด