“อย่าฟ้องพี่เอกเลยนะอรขอร้อง ก็แค่ผู้ชายในฝัน ที่ไม่มีทางอยู่ในความเป็นจริงได้สักหน่อย แค่คิดเฉยๆ ไม่จริงจังอะไรหรอก คนอย่างคุณเจคงไม่มองผู้หญิงอย่างเราๆ เครื่องบินกับดอกหญ้ามันอยู่ห่างไกลกันนะ แค่เก็บเอาไว้ฝันเฉยๆ จ้า” อรอุมารีบแก้ตัวเพราะอรอุมากับพี่ชายของเธอกำลังคบหาดูใจกันอยู่
“ไปดีกว่า ยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ อรไปซาวน์เสียงคนแผนกอื่นก่อนนะ เราจะไปวาดลวดลายที่ไหนดี” อรอุมาพูดจบก็เดินหนีไป ทิ้งเพื่อนสาวที่หัวเราะชอบใจนั่งอยู่เพียงลำพัง
นิสาเก็บของใช้ส่วนตัวเตรียมกลับบ้าน เมื่อใกล้เวลาเลิกงานอุปกรณ์ความสวยความงามที่ขาดไม่ได้เต็มถุงผ้าใบใหญ่ เธอก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ก่อนจะลุกออกจากที่นั่ง ฉวยถุงผ้ามาถือไว้ เดินตรงไปยังลานจอดรถพนักงาน แล้วขับเคลื่อนรถยนต์กลับบ้าน
ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินติดมือเข้าไปในบ้านด้วย เนื่องจากบิดาและมารดารวมทั้งเอกภพเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อร่วมงานแต่งงานญาติสนิท แต่นิสาไปไม่ได้ เธอลางานไม่ทัน เพราะมันกะทันหันหญิงสาวถอยรถยนต์เข้าไปจอดภายในบ้าน คว้าเอากระเป๋าสะพาย และถุงของกินที่วางอยู่ข้างตัว เดินเข้าบ้านวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะ แล้วจึงเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องนอน เธอถอนใจแรงๆ รอบตัวมีแต่ความเงียบ นานๆ จะอยู่คนเดียวในบ้านจึงรู้สึกว่าบ้านมันกว้างจนเดินไม่ทั่ว หลังเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ เธอจึงเดินลงมาจากชั้นบน เดินเลยเข้าห้องครัว เพื่อหาอาหารใส่ท้องแก้ความหิว อาหารในถุงถูกถ่ายใส่จาน เธอถือจานยำรสเด็ดมานั่งหน้าโทรทัศน์จอใหญ่
กดรีโมทเปิดโทรทัศน์เพื่อดูรายการที่กำลังถ่ายทอด เป็นเพื่อนคลายเหงา มือกดรีโมทเปิดเปลี่ยนช่องๆ ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย จนเจอข่าวของท่านประธานคนใหม่เข้าพอดี ข่าวซุบซิบดังกระฉ่อน ถึงความเป็นคาสโนว่าเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า ในทุกๆ ประเทศที่ชายผู้นั้นเดินทางไปแข่งขันประชันความเร็ว มักจะมีเรื่องฉาวๆ เกี่ยวพันกับผู้หญิงเสมอ นิสานึกหมั่นไส้ในใจ เมื่อชายผู้นั้นไม่เห็นจะมีดีอะไร ทำไมสาวๆ ต่างพากันคลั่งไคล้ เธอดูข่าวฉาวของเจรามีตาไม่กะพริบ
ไม่ใช่เพราะสนใจเขา แต่เธออิจฉาเขา ชายผู้นั้นมีโอกาสเดินทางไปทั่วโลก มันเป็นความใฝ่ฝันของนิสา เธออยากเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอิตาลี นิสาอยากสัมผัสอารยธรรม และความศิวิไลซ์ของเมืองโบราณ แม้จะเหลือแค่เศษซาก และหินกองโตๆ มหาวิหารเซนปิเตอร์ น้ำพุเทรวี่ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา หอเอนปิซารวมทั้งนั่งเรือกอนโดลาล่องแม่น้ำเวนิส มันคงจะโรแมนติคมากๆ ถ้าได้ไปกับคนรู้ใจที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
ตืดดดด... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นใกล้ๆ นิสาสะดุ้งเพราะกำลังใจลอย เธอเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวและกดรับ เมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใคร
“ว่าไงอร ตกลงจะไปที่ไหนกันดี นิสาจะได้เตรียมแต่งตัว”
“นิสาสวยให้เต็มที่เลยเราจะไป...ซักสามทุ่มนะ”
“แล้วเจอกัน” นิสากดวางโทรศัพท์ หลังจากจบบทสนทนากับอรอุมา เธอยกจานสลัดที่กำลังกินค้างไว้ขึ้นกินต่อ และก็ยังคงติดตามข่าวของเจรามี่อย่างสนใจ เธอชอบดูข่าวต่างประเทศ เพราะจะได้เห็นวัฒธรรมที่แตกต่างในแต่ละประเทศ ซึ่งไม่เหมือนกันซักที่ หลังสลัดหมดเกลี้ยงจาน เธอจึงกดปิดโทรทัศน์และเตรียมตัวอาบน้ำ
รถยนต์คันเล็กจอดสนิทที่บริเวณที่จอดรถหน้าผับหรูแห่งหนึ่ง สาวสวยรปูร่างอวบอิ่มก้าวลงจากรถยนต์ช้าๆ เธอใส่ชุดกำมะยี่สีดำสนิท สีดำเป็นมันนั่นขับผิวกายขาวๆ จนนวลผ่อง คอเสื้อปาดลึก เน้นให้ทรวงอกมองดูยวนตามากขึ้น รองเท้าส้นสูงสีแดงสด ดูตัดกับชุดสีดำ และยิ่งทำให้รูปร่างของนิสาดูโปร่งบาง เธอเดินตรงไปยังประตูทางเข้าด้วยความมั่นใจ พนักงานต้อนรับเปิดประตูรอ เธอเดินผ่านพนักงานที่ค้อมตัวลงแทบจะตัวติดพื้น พร้อมทั้งกวาดตามองหากลุ่มเพื่อน บรรยากาศสลัวๆ ทำให้นิสามองเห็นไม่ชัดนัก ผสมกับเสียงดนตรีดังคลอเบาๆ และนักเที่ยวหลายคนที่กำลังเต้นรำอยู่กลางฟลอร์
อรอุมาโบกเรียก เมื่อเธอมองเห็นนิสายืนอยู่กลางประตูทางเข้า เพื่อนร่วมงานคนนี้ของเธอหน้าตาดี บวกกับเป็นคนชอบแต่งตัว รูปร่างก็เหมือนดั่งนางแบบของหนังสือปลุกใจชาย อกอูมอิ่ม เอวคอดกิ่ว แต่ สะโพกกลับผายงอน แถมขาก็เรียวยาว หุ่นทรมานใจชายจนร้องซี๊ดทีเดียว
“ทางนี้จ้ะนิสาทางนี้” นิสาอมยิ้มมุมปาก เธอรีบเดินไปหา แต่ทว่าระหว่างทางมีหนุ่มใหญ่คนหนึ่ง...ลุกขึ้นมาขวางทางเดินของเธอเอาไว้ แถมยังมีทีท่าก้อร่อก้อติกกับเธอเสียอีก
“น้องสาว... มาคนเดียวเหรอจ้ะ ถ้าไม่รังเกียจนั่งเป็นเพื่อนพี่ดื่มหน่อย ได้ไหมจ้ะ”
นิสาชะงัก เธออมงหน้าหนุ่มใหญ่ตรงหน้า พร้อมกับยิ้มให้ มันคงเป็นเพราะความเคยชิน เธอไม่เคยเขินอายหากมีใครบางคนพยายามทำท่าเจ้าชู้ใส่ เมื่อเป็นคนแรกที่ต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าของโรงแรม จนหนุ่มใหญ่ตากระหยิ่มในใจ เขาคิดว่าตนเองโชคดดี ที่เจอสาวสวยและเธอมีท่าทางไม่รังเกียจ
“นิสานัดเพื่อนไว้แล้วสิคะ น่าเสียดายจัง ขอตัวก่อนนะคะ หวังว่าเราคงได้มีโอกาสเจอกันอีกในโอกาสหน้า”
นิสาปฏิเสธเสียงหวาน เธอชี้มือผ่านหัวไหล่ของหนุ่มใหญ่คนนั้น เป็นการบอกเล่าแบบอ้อมๆ เธอมีเพื่อนมาด้วยกันกลุ่มใหญ่ ไม่ได้ฉายเดี่ยวเหมือนที่เขาคิด หนุ่มใหญ่มีท่าทางเสียดาย เขายอมเปิดทางให้ แต่ก็ไม่วายมองตามบั้นท้ายเต็มตึงของนิสาไป
“ครับ...หวังว่าเราคงมีโอกาสได้เจอกันอีก”
เสียงแผ่วๆ นั่นทำให้นิสาอารมณ์ดีขึ้น ผู้ชายทั้งโลกเหมือนกันหมด พวกเขาชอบคิดไปเอง...และชอบแสดงตัวว่าตนเองเหนือกว่า ทั้งที่ความจริง ผู้หญิงต่างหากเล่าที่เป็นคนคุมอำนาจไว้อย่างแท้จริง
เสียงกรี๊ดกร๊าดวี๊ดวิ้ว!! เมื่อนิสาเดินไปถึงกลุ่มเพื่อน เสียงชมดังจากรอบตัว ซึ่งนิสาชินแล้ว “นิสาสวยม๊ากมาก...สวยจนพวกเราอิจฉาเลยนะ”
“ก่อนที่เธอจะมา ยังพอมีคนมองพวกเราบ้าง แต่พอเธอมาถึง ไม่มีใครสนใจพวกเราซักคน”
เพื่อนร่วมโต๊ะเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
นิสาหัวเราะคิก เธออดคิดถึงเพื่อนสนิทที่แต่งงานไปแล้วอย่างวราพิชชาไม่ได้ ขานั้นสวยกว่าเธอหลายเท่า แต่เป็นคนไม่ชอบแต่งตัว และไม่ชอบเที่ยวกลางคืนด้วย
“ขอโทษจ้ะขอโทษ!!”
“จัดเต็มมาแบบนี้พวกฉันก็ไม่ได้เกิดกันพอดี”
“วันนี้นิสาเฝ้าโต๊ะเอง พวกเธอทั้งหมดจะได้สบายใจ”
“ไม่ทันแล้วมั้งจ้ะ ต่อให้นิสานั่งอยู่กับโต๊ะ ก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจพวกเราอยู่ดี”
เสียงเฮฮาดังลั่น จนไปเข้าตาใครบางคน เจรามี่หรี่ตามองท่ามกลางความสลัวๆ หลังทำงานหนักมาทั้งวัน หนุ่มโสดอย่างเขาก็อย่างปลดปล่อบ้าง นั่งดื่มเงียบ แกล้มด้วยการมองสาวสวย บางทีอาจจะเจอสาวถูกจน และจบลงบนเตียงเหมือนเคย
เขาเบิกตาโต เมื่อเจอคนหน้าคุ้น ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก จิบบรั่นดีในแก้ว แกล้มกับการจับตามองประชาสัมพันธ์คนสวย จอมหยิ่งคนนั้นนั่นเอง
หล่อนปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับโปรยเสน่ห์ไปทั่ว จนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จ้องกันจนตาแทบถลน
“ชอบอวดก็ไม่บอก”
เจรามี่รำพึง ลดสายตามองสำรวจแม่สาวสุดเอ็กซ์ทั้งตัว
นิสานั่งจิบเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จางๆ จนเริ่มมึน เธอทำตามคำพูด ทำแค่การนั่งมองเพื่อนๆ ไม่ได้ออกไปวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์เหมือนเคย
ดวงตาหวานฉ่ำกวาดมองไปรอบๆ ตัวไม่ได้เน้นที่ไหนเป็นหลัก จนไปสะดุดตากับโต๊ะในมุมมืด มีชายลักษณะดูคุ้นตานั่งอยู่ จนเธอเผลอมองแบบเป็นจริงเป็นจัง แต่โต๊ะตัวนั้นตั้งอยู่ในมุมอับ จึงมองเห็นไม่ชัด แต่เมื่อเพื่อนๆ โบกมือให้ นิสาจึงหมดความสนใจลง เธอส่งยิ้มให้เพื่อนในกลุ่มที่เต้นรำอยู่กลางฟลอร์ อรอุมาโบกมือเรียกให้นิสาตามลงไป เธอส่ายหน้าปฏิเสธ รู้สึกเบื่อเสียงอึกกระทึก จึงขอนั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ ดีกว่า