ไม่ได้ดั่งใจ 06

1213 Words
ณ เอ็กซ์ตรีมผับ ถนนบางลา หาดป่าตอง จ. ภูเก็ต ช่วงนี้เมธาวินมีงานยุ่งทั้งกลางวันกลางคืนเพราะมีหลายจ็อบที่ปู่เทให้เขาแล้วหนีไปเที่ยวยุโรปดื้อๆ วันนี้แม้จะดึกแล้วแต่เขาก็จำเป็นต้องรับรองลูกค้าคนสำคัญของกลุ่มทุนที่ปู่ของเขาก่อตั้ง ตาแก่นั่นสร้างเรื่องให้เขาปวดหัวแถมยังเทงานให้เขาทำแทนจนไม่มีเวลาไปจัดการกับโยธกา และตอนนี้สถานการณ์มันแย่ลงจนเขานึกอยากไปบีบคอยัยแม่ค้าขนมหวานแต่ไม่มีเวลาเข้าไปในเมืองเลย! “เฮ้... มาร์ค นายมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า ทุกอย่างก็ดูไปได้ดีนี่” ไหล่เขาถูกตบป๊าบ ซิงซิงนักธุรกิจหนุ่มชาวจีนผู้พูดภาษาไทยคล่องเหมือนเป็นภาษาแม่ที่เดินมาจากบาร์เหล้า ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่บนชั้นสามของผับเอกซ์ตรีม สถานบันเทิงขนาดใหญ่ในถนนเส้นสั้นๆ แต่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของจังหวัดนี้มาก ในซอยจะเต็มไปด้วยสถานบันเทิงและยามค่ำคืนบนถนนจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาท่องราตรี ผับเอกซ์ตรีมเป็นอีกหนึ่งกิจการที่ทำให้เงินสะพัดเข้ากระเป๋าของครอบครัวเมธาวินมานานปีแล้ว แม้จะสะดุดไปในช่วงที่มีโรคระบาดแต่ตอนนี้ก็กลับมาผงาดและสง่างามสุดๆ ไม่ต่างจากยุคก่อนโควิดแล้ว “มีเรื่องส่วนตัวให้ปวดหัวนิดหน่อย เรื่องงานไม่มีอะไรให้กังวล” เขาตอบไปตามตรง ซิงซิงเป็นรุ่นหลานของเพื่อนปู่เขา หมอนี่มาเป็นตัวแทนของบริษัททางจีนที่ถูกส่งมาเซ็นสัญญาเพื่อร่วมทุนกันพัฒนาที่ดินของมิ่งขวัญให้เป็นสถานที่ดูแลคนป่วยสูงวัยที่มีฐานะ ด้วยความที่ครอบครัวสนิทและไปมาหาสู่กันมาตั้งแต่เด็กจึงคุ้นเคยพอจะพูดเรื่องส่วนตัวได้ “เรื่องหมั้นหมายละสิ” “นายเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ” เขาหันมามองซิงซิง แล้วก็ทำท่าเหมือนอยากตาย ปู่ของเขาเที่ยวไปโพนทะนาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำว่าเขาจะหมั้นกับเจ้าของร้านแววหวาน ส่วนยัยเจ้าของร้านตัวดีก็ไม่แพ้กัน ตอนที่เขาไปพบเธอที่ร้านเพื่อเจรจาเป็นครั้งที่สองและเตรียมไปลักพาเธอไปขู่ฆ่า พอบุกเข้าไปถึงในร้านเธอก็ไม่สนหน้าดุๆ ของเขาแถมยังแนะนำให้ไอ้ชาติชายและพนักงานในร้านที่ยืนอยู่กับเธอในเวลานั้นได้รู้จักในฐานะว่าที่คู่หมั้นที่มารับเธอไปส่งที่บ้านเพราะรถเธอเข้าอู่ ตอนนั้นแม้จะงงแต่เขาก็รับเธอขึ้นรถมาด้วยกัน ชายหนุ่มตั้งใจจะจับโยธกาไปขู่ว่าจะโยนลงหน้าผาที่ไหนสักแห่งแต่ก็ไม่ได้ทำเพราะไอ้ห่าชาติชายขับรถตาม เขาเลยต้องไปส่งเธอที่ทาวน์เฮาส์อย่างที่เธอโม้จริงๆ พอถึงบ้านยัยผู้หญิงหน้ามึนยังเนียนสั่งเขาว่า ให้รอจนกว่าแม่ของเธอจะเดินออกมาเปิดประตูให้ จากที่จะไปขู่ฆ่าเธอเขาก็กลายเป็นว่าที่คู่หมั้นผู้แสนดีของเธอแบบงงๆ คิดแล้วก็โมโหไม่หาย เขาเดาว่าซิงซิงก็คงรู้จากมิ่งขวัญเหมือนกัน ตาแก่นั่นเที่ยวอวดไปทั่วว่าเขากำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา... ปวดหัวโว้ย... “ใบหน้าของนายเหมือนคนกินยาขมไปสักกำมือเลยว่ะ” ซิงซิงหัวเราะ... “ครอบครัวนาย ไม่วุ่นวายเรื่องหาคู่ให้เลยเหรอ” “ไม่ เมื่อหลายปีที่แล้วฉันจัดการด้วยวิธีของฉันไป ตอนนี้ฉันเลยสบายน่ะ” “นายทำยังไง” “ฉันบอกที่บ้านว่าเป็นเกย์ รูมเมทผู้ชายที่อยู่ด้วยกันเป็นแฟนตัวจริงของฉัน ถ้าพวกเขาขัดขวาง เราสองจะไปโดดสะพานทาวเวอร์บริดจ์ให้จมไปในแม่น้ำเทมส์ไปด้วยกัน” “...” “เฮ้ย ไม่ต้องมองฉันอย่างนั้น ฉันแค่โกหกเอาตัวรอดเพราะรู้ว่ารูมเมทเป็นเกย์เว้ย ฉันแค่เอามันมาแอบอ้าง ไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ตอนนี้มันก็ยังไม่รู้ตัว” “ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ว่ะ” เมธาวินไม่ชอบโกหกคนอื่นเพื่อเอาตัวรอด เขาชอบทำอะไรตรงๆ มากกว่า อย่างเช่นไม่ได้อยากหมั้นก็บอกว่าไม่อยากหมั้น แต่ทำไปแล้วไม่มีใครเชื่อฟังเลยไม่ว่าจะเป็นปู่หรือว่าที่คู่หมั้น... เฮ้อ... “ทำไม่ได้ก็หมั้นๆ ไปเถอะ ปู่นายบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไปทำบุญที่วัด เก่งงานบ้านงานเรือน แถมยังมีหัวด้านบริหารธุรกิจ ไม่เห็นแย่ตรงไหนเลย” ซิงซิงว่าแล้วก็ผละจากเมธาวินไปยืนตรงระเบียงของชั้นลอยที่จะมองไปเห็นลานกว้างบนชั้นสองที่มีบูทดีเจอยู่มุมห้องและเหลือพื้นที่ให้นักท่องราตรีเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกเต็มที่ การกระทำเช่นนั้นบอกชัดว่าซิงซิงไม่ได้สนใจคุยเรื่องคู่หมั้นเขา แต่สนใจดูผู้คนที่กำลังสนุกสนานกับดนตรีรีมิกซ์จากฝีมือดีเจข้างล่างมากกว่า... “ผับนายนี่คนเข้าเยอะว่ะ โปรโมชั่นแจกเหล้าฟรีให้ผู้หญิงนี่มันได้ผลจริงๆ” ซิงซิงพูดขึ้นเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวยังทยอยเข้ามาในผับเรื่อยๆ ตอนเดินเข้ามาเขาเห็นป้ายโตๆ ที่บอกว่าแจกดื่มฟรีให้สุภาพสตรีนั้นจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไหม ตอนนี้เขาได้คำตอบแล้วผู้หญิงเยอะ ผู้ชายก็เยอะตาม เมธาวินทิ้งเรื่องที่กำลังกลุ้มใจไว้ข้างหลังเพราะยังจัดการอะไรไม่ได้ เขาเดินไปยืนข้างเพื่อนแล้วมองลงไปด้านล่างก่อนจะสะดุดตากับที่ผู้หญิงเสื้อสีส้มที่เต้นกินพื้นที่กว่าใคร แถมท่าเต้นยังขายขำจนบางคนหยุดเต้นแล้วมายืนเชียร์เธอแทน “โห น้องเสื้อส้มสะท้อนแสงคนนั้นน่าสนใจว่ะ” ซิงซิงชี้ไปยังคนที่เมธาวินกำลังมองอยู่ เธอเกาะขอบบู้ทเปิดเพลงของดีเจไว้แล้วเต้นเหมือนรูดเสาโดยมีหลายๆ คนแม้แต่ดีเจสุดหล่อก็ยังส่งเสียงเชียร์เพราะท่าเต้นของเธอเรียกความฮาแบบที่ว่าจะขายตลกก็ไม่ใช่จะขายสวยก็ไม่เชิง “นายชอบแบบนั้นเหรอ” “อื้อ เธอดูมีความสุขมากเลย ไม่ได้สวยจนสะดุด แต่มีเสน่ห์ดี ดูรอยยิ้มนั้นสิ” ซิงซิงพูดเหมือนละเมอ ยิ่งหญิงสาวทำท่าแอ่นตูดทเวิร์คจนคนข้างหลังต้องช่วยกันพื้นที่ให้ พอเต้นจนเหนื่อยเธอพักหายใจก็หัวเราะออกมาอย่างสดใสร่าเริงในยามที่คนรอบข้างทำท่าปรบมือให้ “หัวใจฉันเต้นเลยว่ะ” “ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้ ถ้านายชอบ ฉันจะบอกเขาให้” “จริงดิ” “คนนั้นแหละที่ปู่ทาบทามมาหมั้นกับฉัน” เมธาวินพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ว้อทเดอะฟัค!” ซิงซิงอุทานออกมาทันใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD