(โทษฐานของคนรู้มาก)
มะเฟืองเดินเล่นมาเรื่อยเปื่อย...ไม่คิดว่าตาจะสะดุดเข้ากับร่างสูงที่คุ้นเคย...เธอรีบสั่งห้ามตัวเองว่าอย่าไปมองเขา...จะต้องไปสนใจเขาทำไมให้เปลืองน้ำตา หลายวันมานี้เธอก็อยู่ได้โดยไม่ต้องไปคอยตามตื๊อ ขาเตรียมจะก้าวผ่านทว่าขาอีกข้างมันกลับไม่รักดี
ไม่มองก็ไม่มองสิ แต่...ก็อยากเห็นหน้าให้หายคิดถึงสักหน่อย
สุดท้ายแล้ว...มะเฟืองก็หักห้ามใจตัวเองไม่ให้มองชายในดวงใจไม่ไหว เธอจึงสาวเท้าเดินมาหลบใต้ต้นมะม่วงลูกดก...แถวริมทางเดินเป็นสวนผลไม้ของนายบ้านทัพทอง...กินเนื้อที่กว้างขวางอยู่มากโข แผ่นหลังกว้างที่เห็นรำไรเดินเคียงข้างมากับนังฉกา!
หัวใจมะเฟืองราวกับถูกฟาดด้วยไม้แข็งๆ เกิดความรู้สึกอิจฉาตาร้อน...อีกแล้วนะ...สองคนนี้แอบมาพลอดรักกันลับหลังนายบ้านอีกแล้ว
ดี...เห็นทีคราวนี้จะปล่อยให้ลอยนวลอีกคงไม่ได้การ เธอจะเอาเรื่องงามหน้านี้ไปฟ้องนายบ้านให้รับรู้...
อีนังผู้หญิงท่าทางสนิมสร้อยตัวดี...แท้จริงมันมีสันดานร่านผัวจะตาย...
มะเฟืองโกรธจนเลือดขึ้นหน้า...ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์จะไปหึงหวงอะไรในตัวของดง ถึงจะเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน...แต่นั่นก็เพียงแค่หนเดียว แถมเป็นความสัมพันธ์ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อ หาใช่เป็นความต้องการของไอ้ดงสักหน่อย...มะเฟืองกำลังอิจฉาแล้วก็ริษยาตามประสาของรักของหวงมาถูกแย่งชิงไปต่อหน้าต่อตา...เธอจะไม่รู้สึกรู้สาถึงขั้นนี้หรอกถ้าไม่มาเห็นตำตา ตำใจ
ดูท่าทางพี่ดงทำเข้าสิ โธ่!แทบจะอุ้มนังฉกาเสียด้วยซ้ำ
แต่ก่อนจะฟ้อง ขอจับผิดให้ได้คาหนังคาเขาสักทีเถอะ...
หนุ่มสาวที่กำลังถูกจับผิดไม่รู้เรื่องรู้ราว ยังคงเดินขนาบข้างกันมาเรื่อยๆ ดงชวนคุย ฉกาก็ตอบเท่าที่สมองจะรับรู้ เธอมีใบหน้าเศร้าสร้อย หัวใจเจ็บปวดแต่พูดกับใครไม่ได้...หลังจากถูกนายบ้านขับไล่ให้กลับเรือนเพียงลำพังตอนเดินกลับมาจากหาปลาในบึงบัว บังเอิญเจอเข้ากับส้มแป้นกลางทาง เธอไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้นายบ้านถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วพริบตาเดียว...จู่ๆก็ไล่เธอกลับเสียดื้อๆ ไม่ต่างกับผู้ชายกำลังอยู่ในวัยทอง
ทั้งสองเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงบันไดขึ้นเรือน...
มะเฟืองที่สะกดรอยตามมาหลบฉากเข้าตรงพุ่มไม้สูงระดับเอว เจ้าตัวพยายามเพ่งสายตาจับจ้องไปยังคนทั้งคู่ คอยลุ้นระทึกว่าทั้งสองจะพากันเดินขึ้นเรือนไปทำเรื่องระยำตำบอนหรือไม่
พี่ดงไม่ได้ขึ้นเรือน...เพียงแค่ส่งข้าวของบนบ่ากลับคืน...คนแอบดูทำท่าโล่งใจ สีหน้าค่อยดูแช่มชื่นขึ้นมาได้หน่อย...ถึงเธอจะมาจับผิดแต่ใจลึกๆมะเฟืองก็ไม่ปรารถนาอยากจะเห็นชายในดวงใจขึ้นไปมีสัมพันธ์สวาทกับหญิงสาวคนอื่นหรอกหนา...
ถ้าลับหลังก็อีกเรื่อง...
โล่งใจได้ไม่ทันไรไอ้พี่ดงกลับคว้าเอามือเล็กของนังฉกามากุมไว้แนบอก ขนาดว่ามองเห็นตั้งไกล มะเฟืองยังเห็นแววตารักใคร่ลึกซึ้งอ่อนโยน...
ทีนี้อารมณ์หึงหวงจึงเข้าตา มะเฟืองเจ็บใจเลยคิดจะเอาเรื่องนี้ไปต่อรองเงื่อนไขบางอย่างกับพี่ดง...
รักกันมากนักหรือไง? คอยดูนะ...เธอจะไม่ให้ใครสมหวังทั้งนั้นแหละ
----------------------------------
ครั้นพอส่งข้าวของคืนกลับให้สาวน้อยในดวงใจ...ดงเอ่ยความในใจไม่กี่คำเขาจึงหมุนตัวเดินจากมาทางท้ายเรือน...ซึ่งเป็นสวนมะม่วงกับสวนลูกมะเฟือง
ระหว่างทางเดินกลับกระท่อมท้ายหมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอตอเข้าอย่างจัง ดงรีบหรี่ตามองขาอวบทันทีที่เจอหน้ามะเฟือง...
เขาไม่เห็นร่องรอยแผลเป็น จึงรู้สึกโล่งใจไม่น้อย ขามันไม่เป็นอะไรก็ดีเขาจะได้ไม่รู้สึกผิด ร่างหนาทำท่าจะเดินผ่าน มะเฟืองจึงกางแขนกันไว้
“เดี๋ยวก่อนสิพี่ดง...ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วยสักหน่อย”
“แต่ข้าไม่อยากคุย ถอยไป ข้าจะกลับกระท่อม...”
ไอ้ดงดันร่างอวบอัดล้นมือถอยห่าง อาการเบื่อหน่ายเริ่มขยับทำงาน
“แต่ฉันอยาก...”
“แต่ข้าไม่มีอารมณ์...” ดงแปลเจตนามะเฟืองผิด...ดันหลงคิดว่าสาวเจ้าคงคันมากเลยอยากมาขอให้เขาช่วยเกาเหมือนอย่างส้มแป้นเคยทำประจำ
มะเฟืองนิ่วหน้าฉงน เธอแค่อยากคุยเรื่องที่เขาแอบไปตีท้ายครัวนายบ้าน...มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องอารมณ์ หรือว่าจะเกี่ยวหวา...แต่ก็ช่างเถอะ เธอมีเรื่องสำคัญมากกว่าจะมาค้นหาคำตอบ...ว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว
“ฉันเชื่อจ้ะว่าพี่คงไม่มีอารมณ์กับฉัน...เพราะเมื่อตะกี้คงจะเอาอารมณ์ทั้งหมดไปมอบให้กับอีนังฉกาหมดแล้วสินะ ดูสิท่าทางถึงได้อิดโรยซะขนาดนี้...”
ทิฐิทำให้มะเฟืองพูดไม่คิด ใส่สีตีไข่ไปเรื่อยเปื่อย เจ้าตัวหรี่ตาแคบมองหน้าดงด้วยแววตาหยามหยัน...น้ำคำเยาะเย้ยมาพร้อมปลายคางเชิดรั้น
มะเฟืองถือว่าตัวเองนั้นกำไพ่เหนือกว่า...อย่างน้อยๆตอนนี้เธอกำลังกุมความลับ...ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูนายบ้านทัพทองขึ้นมาละก็...เห็นทีคนเดือดร้อนที่สุดก็หนีไม่พ้นนังฉกา
ไอ้ดงชักสีหน้าฉุนเฉียว ตวัดสายตาเคืองขุ่นกลับมาสนใจทันควัน สำหรับตัวเขาเองไม่เคยนึกห่วงหรอก...คนที่ดงนึกเป็นห่วงที่สุดก็คือสาวน้อยฉกา มือหยาบกระชากหัวไหลจนร่างมะเฟืองแทบปลิว
“เอ็งหมายความว่าอย่างไรนังมะเฟือง!”
“กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องแท้ๆ ไยพี่จะต้องมาถามฉันด้วยเล่า...”
หัวไหล่มนถูกบีบจนเจ็บแปลบ...ทว่ามะเฟืองหาได้สนใจ ยังเชิดหน้ามองตาไอ้ดงอย่างไม่กลัวเกรง
“ข้ากับน้องฉกาไม่เคยมีเรื่องชู้สาวต่อกัน เราสองคนคบหากันอย่างบริสุทธิ์ใจต่อกัน เอ็งอย่าเที่ยวมาหาเรื่องใส่ความให้น้องฉกาของข้าต้องมัวหมองเป็นเด็ดขาด ถ้าขืนเอ็งยังปากเสีย เอาเรื่องเท็จไปโพนทะนากล่าวหาข้าทั้งสองคนแล้วละก็...อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
“เอ๊ะ!ถ้าเรื่องไม่จริง...แล้วพี่ดงจะต้องมากินปูนร้อนท้องไปไย ฉันพูดออกมาสักคำหรือยังว่าพี่กับนังฉกาแอบไปเอากันตอนนายบ้านทัพทองไม่อยู่เรือน...” มะเฟืองลอยหน้าพูดไม่คิด
“อีปากเสีย!...”
ไอ้ดงเงื้อมือขึ้นสูง...หมายจะฟาดปากเสียๆของอีสาวปากมาก แต่เขาขึ้นชื่อเป็นชายอกสามศอก...ต่อให้อดีตจะเคยเป็นคนชั่วรับจ้างฆ่าคนราวกับผักปลา ทว่ากับผู้หญิงไร้หนทางสู้ ไอ้ดงไม่เคยคิดทำร้ายร่างกาย มือจึงถูกดึงกลับมากำไว้แน่นข้างลำตัว ส่วนมือที่จับกุมหัวไหล่มนออกแรงผลักจนร่างอวบอ้วนล้มเซถลาลงบนพื้นดิน
มะเฟืองกัดฟันกรอดๆ ด้วยอารมณ์เคืองแค้น
ทีกับอีเด็กฉกา...พี่ดงดูทะนุถนอมมันราวกับไข่ในหิน
ทีกับตัวเธอ...ทั้งผลักทั้งดันอย่างไร้ความปรานี มันน่าโมโหชะมัด
ไอ้ดงทรุดนั่งบนส้นเท้า แววตาดุกร้าวสาดซัดใส่มะเฟืองจนสาวเจ้าสะดุ้งโหยง ไอ้ดงออกแรงบีบปลายคางมนดึงให้เชิดใบหน้ามองสบตากับตนเอง
“จงจำคำกูเอาไว้ให้จงดี...ถ้าเอ็งยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป จงสงบปากสงบคำให้ดีๆ แล้วอย่าริอ่านนำความวันนี้ไปสร้างเรื่องใส่ร้ายให้น้องฉกาของกูต้องเสียหายโดยเด็ดขาด...” ดงข่มขู่ แววตาดุร้ายราวกับเป็นคนละคน
“จ้ะ..จ้ะ..ฉันจะไม่พูดมาก “ มะเฟืองรับคำย้ำๆ รีบพยักหน้าพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ต่อให้เจ็บแค้นจนร้อนระอุในโพรงอกสักแค่ไหน มะเฟืองก็กลัวตายเหมือนกัน...
“ดี! ว่ากันง่ายๆกูจะได้ให้รางวัล” ไหนๆก็ไหนๆไอ้ดงเหลือบเห็นเต้าล้นทะลักผ่านทางร่องเสื้อวับแวม อารมณ์ปรารถนาจึงผุดพรายขึ้นมาโดยกะทันหัน
ไอ้ดงยืดตัวขึ้นยืน มือกร้านจัดการดึงร่างท้วมติดขึ้นมือของตัวเองขึ้นมาด้วย มะเฟืองยังหวั่นกลัวแววตาไร้ปรานี...ร่างอวบของเธอจึงไหวระริก
“พี่...พี่ดงจะทำอะไรฉัน...” ร่างอ้วนสั่นผวาพยายามดึงตัวเองออกจากอุ้งมือแข็งราวกับเหล็กกล้า ฝืนเท้าไม่ยอมก้าวตามแรงลาก
“ก็จะให้รางวัลเด็ดกับเอ็งไง...มะเฟืองจ๋า”
-------------------------------------------------
มะเฟืองถูกดงลากมายังโพรงหญ้าในสวนมะม่วง ความมืดเริ่มโรยตัวเพราะดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า รอบข้างได้ยินเพียงเสียงแมลง บรรยากาศวังเวงจนน่าใจหาย
หรือเราจะต้องมาตายอยู่ในสวนตรงนี้ มะเฟืองคิดฟุ้งซ่านไปสารพัด
“พี่ดงจะทำอะไรฉัน?...” มะเฟืองกวาดสายตามองทั่วบริเวณ แววตาแสดงออกถึงความรู้สึกหวาดหวั่น เธอกลัวเขาจะลากมาฆ่าปาดคอทิ้งไว้ในสวน...โดยไม่คิดว่าดงจะลากมาทำอย่างอื่น
“ฉันสาบานก็ได้ ฉันจะหุบปาก ไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดหรือบอกใครต่อทั้งนั้น แต่พี่ดงอย่าฆ่าฉันเลยนะจ๊ะ....”
คนกลัวตายยกมือขึ้นไหว้ปลกๆ น้ำตาท่วมเอ่อ
ดงนิ่วหน้ากับท่าทางสะดีดสะดิ้งกลัวตาย...หรือนังมะเฟืองมันคิดว่าเขาจะพามันฆ่าปาดคอ ก็ดีถ้ามันจะคิดแบบนั้น
เขาจะจัดหนักจัดให้เต็มคราบเลยคอยดู
มะเฟืองเริ่มดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง ดึงรั้งมือหยาบให้ปล่อยมือเธอ ทั้งข่วนทั้งจิกตีสารพัด ดงรำคาญหนักเข้า เขาจึงออกแรงกระชากร่างอวบเข้ามากอดรัด...จัดการลากสาวเจ้าให้เดินห่างมาจากเรือนนายบ้านทัพทอง ไกลพอจะไม่มีใครเดินผ่านมาเห็น ดงเคยเดินมาสำรวจแถวนี้ตอนมีข่าวเรื่องไอ้กลุ่มโจรนิรนามใหม่ๆ จึงรู้สถานที่ไหนเหมาะเจาะจะทำเรื่องอย่างว่าโดยไม่มีสายตาสอดรู้สอดเห็นมาเจอ
แรงเสียดสีระหว่างเรือนร่างระหว่างกันพาทำให้เกิดกำหนัดที่ทำให้มะเฟืองชักเริ่มอ่อนแรงต่อต้าน กลีบกลางสาวเธอเริ่มฉ่ำแฉะ กลัวตายก็กลัว อารมณ์โหยหาดันจะมาโจมตีเธอซ้ำอีกหรือนี่
มะเฟืองร้องไห้สะอึกสะอื้น ในที่สุดเธอจึงยอมแพ้ให้แก่โชคชะตา
ดงเองก็ชักเริ่มไม่ไหว...ต่อให้ทีแรกเขาไม่เคยนึกพิศวาสคนไม่สวยก็ตาม พอเนื้อตัวได้สัมผัสใกล้ชิด อารมณ์กำหนัดที่ก่อตัวก็ยิ่งเตลิดเปิดเปิงไปกันยกใหญ่ มือใหญ่รวบลำคอของสาวเจ้าเอาไว้ มะเฟืองถึงกับตาเหลือกโปน
เงาแห่งมัจจุราชทาบทัพผ่าน หญิงสาวนึกถึงแต่หน้าพ่อหน้าแม่ในใจ
พ่อจ๋า แม่จ๋า ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอมะเฟืองเกิดมาเป็นลูกของทั้งสองคนอีกนะจ๊ะ...
ปลายคางมนถูกบีบจนเจ็บแปลบ มะเฟืองไม่ทันได้ร้องสักแอะเดียว กลีบปากอิ่มราวกับถูกของแข็งกระแทกเข้าใส่จนเธอได้กลิ่นคาวสนิม ดงกดจูบลงมาอย่างเร่าร้อนรุนแรง บดเบียดเข้าหาปากนุ่มแนบแน่น มือว่างอีกข้างจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งเขาและหญิงสาวจนกระทั่งทั้งคู่เหลือเพียงกายเปลือยเปล่า มะเฟืองหูตาพร่ามัว...เปลี่ยนจากดิ้นหนีมารัดร่างกำยำไว้ด้วยแรงเสน่หา
โธ่!นี่เขาไม่ได้คิดจะฆ่าเธอสักหน่อย...
เพียงแต่พี่ดงจะให้รางวัลเธอเป็น...
มะเฟืองหยุดร้องไห้ในทันที สีหน้าหวาดหวั่นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ บดกายเปลือยเปล่าอวบอ้วนแนบกระชับไปตามเรือนร่างแข็งแรงกำยำ...รับรู้ได้ถึงดุ้นเนื้อขนาดใหญ่ทิ่มตำเนิบช้าอยู่ตรงหน้าท้องมีชั้นของไขมัน
ปลายเท้าใหญ่ของดงย้ำลงบนพื้นหญ้าราบจนเป็นวงกว้าง...พอให้มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมยามค่ำคืนได้สะดวก ไม่นานสองร่างจึงพากันล้มตัวลงมานอนก่ายกอดกันบนพื้น แผ่นหลังนุ่มของมะเฟืองแสบร้อนเพราะครูดติดกับตอหญ้าแพรก ริมฝีปากทั้งคู่ยังประกบกันเอาไว้เหนียวแน่น มะเฟืองเปล่งเสียงคราง ทอดเรือนกายสั่นระริกลื่นไหลไปตามแรงปรารถนาลุกโชน
หน้าอกใหญ่เธอถูกมือเขาฟอนเฟ้นเล่นหัวจะงอย เสียวกระสันจนไม่รู้จะหาทางกำจัดมันออกได้ทางไหน มือนุ่มจึงจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้าง เรียวขาถูกหัวเข่าดันกว้าง ไม่นานเนินสวาทก็ถูกล่วงล้ำด้วยลำอวบขนาดไม่ธรรมดา
“อรึ๊ย...อร๊าย...ซีด....” ความที่มะเฟืองเคยผ่านการถูกล่วงล้ำมาเพียงหนเดียว กลีบสาวเธอจึงยังใหม่มากกับขนาดใหญ่เท่าข้อมือ แผ่นหลังปวดแสบหยัดสูง มือหยาบบี้หัวนมดึงแล้วก็ปล่อย นัยน์ตาสาวเบิกกว้างมองเหม่อลอยดูกิ่งก้านของต้นมะม่วง รู้สึกวูบไหวไปทั่วทั้งตัว
ถึงจะสุขสมหากก็เจ็บหน่วงราวกับร่างกายกำลังโดนฉีกออกเป็นส่วนๆ
ดงกระทุ้งสะโพกตอกอัดเข้าออกในโพรงฉ่ำนุ่ม ลาวาสีขาวขุ่นไหลทะลัก ปากหนาเลื่อนลงมาครอบดูดหัวจุกนมเสียงดัง จ๊วบ จ๊วบ ฝ่ามือร้อนนวดคลึงไปทั่วร่างอวบอ้วน มันให้ความรู้สึกร้อนรุ่ม ลำอวบเขายังผลุบโผล่ในรูสวาท ถูกบีบรัดรุนแรงจนดงส่งเสียงคำรามผ่านลำคอ
อารมณ์กระสันฟาดฟันดุเดือด...รางวัลนี้ดงตั้งใจจะมอบให้แม่คนรู้มากอย่างไร้ความปรานี ข่มขู่เขาหรือ...เขาไม่เคยนึกกลัว ถ้าหากว่าสิ่งนั้นจะไม่ส่งผลต่อนางในดวงใจ
มะเฟืองเหมือนถูกชายหนุ่มพาขึ้นในที่สูงแล้วกระโดดลงมาเบื้องล่างพลิกตลบไปมาอยู่หลายรอบ ความสุขอิ่มเอมค่อยๆเลือนหายกลายเป็นความเจ็บปวดทรมาน...กว่าเขาจะยอมปล่อยให้เธอคลานออกมาจากสวนนายบ้าน ขาทั้งสองข้างของเธอก็แทบจะเดินไม่ตรงทาง...
------------------------------------